ในช่วงปี 1990 ค่ายรถซูเปอร์คาร์อย่าง Lamborghini ได้เปิดตัวรถ Lamborghini Diablo ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด V12 ออกมาทำตลาด และเมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้รถรุ่นนี้ขึ้นแท่นหนึ่งในรถคลาสสิกของค่ายกระทิงดุที่นักสะสมทั่วโลกต้องการครอบครองด้วยดีไซน์สุดอมตะ
อย่างไรก็ดีในปัจจุบันมักจะมีการนำรถคลาสสิกเหล่านี้มาพัฒนาให้มีความทันสมัยล้ำยุคผ่านวิธีการที่เรียกว่า Restomod และแน่นอนว่า Lamborghini Diablo ก็ถูกนำมาดัดแปลงและปรับปรุงด้วยวิธีเช่นนี้ตามความต้องการของ เอมานูเอล โคลอมบีนี นักสะสมและเจ้าของธุรกิจ
Lamborghini Diablo ได้รับการดีไซน์ใหม่ผ่านสำนัก Eccentrica โดยยังคงรักษาดีไซน์ของตัวรถเอาไว้เช่นเดิม เพิ่มเติมคือการพัฒนาและใส่เทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อความทันสมัย ทั้งเรือนไมล์แบบดิจิทัล ไฟหน้า LED แบบสไลด์เปิด-ปิด (แทนไฟป็อป-อัพ) เช่นเดียวกับไฟท้าย ช่องดักอากาศเครื่องที่ได้รับการออกแบบใหม่
ชุดแต่งรอบคันได้รับการออกแบบใหม่เพิ่มความสปอร์ต รวมถึงล้อขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง Pirelli P Zero Trofeo R และชุดเบรคจาก Brembo ทว่าในส่วนของเครื่องยนต์นั้นยังคงใช้เครื่อง V12 ขนาด 5.7 ลิตร แต่ได้รับการพัฒนาจนมีกำลังมากถึง 550 แรงม้า
สำหรับ Eccentrica Lamborghini Diablo มีการเปิดจำหน่ายทั้งหมด 19 คันทั่วโลก ราคา 1.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 46 ล้านบาทไม่รวมภาษีของประเทศไทย ซึ่งรถแต่ละคันจะใช้เวลาในการผลิตประมาณ 18 เดือน
นอกจากนี้กระดิงดุระดับตำนานคันนี้จะถูกนำไปวิ่งโชว์ตัวที่งาน Goodwood Festival Of Speed 2023 ในระหว่างวันที่ 13-16 กรกฎาคมนี้อีกด้วย
