หากพูดถึงเกม CM หรือชื่อเต็มว่า Championchip Manager ต้นกำเนิดของ Football Manager ในปัจจุบัน มักซิม ชิกัลโก (Maxim Tsigalko) น่าจะเป็นชื่ออันดับต้น ๆ ที่ทุกคนนึกถึง
เขาคือกองหน้าระดับพระกาฬของ CM ที่พังตาข่ายคู่แข่งได้เป็นว่าเล่น แถมยังมีค่าตัวสุดถูก ไม่ว่าทีมเล็กหรือทีมใหญ่ก็สามารถเอื้อมถึง และเป็นนักเตะคนแรกๆที่หลายคนซื้อตัวมาร่วมทีม
อย่างไรก็ดี ในโลกความเป็นจริงกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยได้ย้ายมาเล่นในลีกดังของยุโรปแม้แต่ครั้งเดียว แถมยังต้องอำลาวงการฟุตบอลก่อนวัยอันควรตั้งแต่อายุ 26 ปี
เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของตำนาน CM คนนี้ ติดตามไปพร้อมกับ Main Stand
โลกแฟนตาซีสร้างชื่อ
มักซิม ชิกัลโก อาจจะไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูในวงการฟุตบอลยุคปัจจุบัน แต่ย้อนกลับไปเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เขาคือหนึ่งในนักฟุตบอลที่ถูกพูดถึงมากที่สุด โดยเฉพาะในหมู่คนที่เล่นเกม Championchip Manager เกมคุมทีมฟุตบอลชื่อดัง
มันเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2001 ที่ CM 01/02 วางจำหน่าย ที่ชื่อเขาทำให้เว็บบอร์ดต่างประเทศลุกเป็นไฟ ในฐานะนักเตะที่เก่งที่สุดจนแทบเรียกว่าบั๊กของเกมก็ว่าได้
ชิกัลโก คือกองหน้าที่แทบจะสมบูรณ์แบบที่สุดในภาคนั้น เขามีทั้งความเฉียบคม ความเร็ว และการไปกับบอลในระดับยอดเยี่ยม รวมไปถึงสมดุลร่างกาย ที่อยู่ในระดับ 15+ เกือบทุกค่า (จากจำนวนเต็ม 20) เปรียบเปรยในยุคนี้เขาน่าจะอยู่ในระดับแข้งเวิลด์คลาสอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ หรือเด็กมหัศจรรย์แบบ คิลิยัน เอ็มบับเป้
อย่างไรก็ดี แม้จะมีความสามารถขนาดนั้น แต่ชิกัลโก กลับมีอายุเพียง 19 ปี แถมยังมีค่าตัวที่ถูกแสนถูก ในระดับที่จ่ายราว 900,000-1 ล้านปอนด์ ก็ดึงตัวมาร่วมทีมได้ง่าย ๆ จนทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ "ต้องซื้อ" ของทุกคนในตอนนั้น
ความเก่งกาจของ ชิกัลโก สามารถการันตีได้ว่าเขาจะยิงประตูให้คุณแทบทุกเกม บางเกมอาจจะมากกว่า 1 ประตูหรือทำแฮตทริคได้ด้วยซ้ำ และมีคนเคยใช้เขายิงจนแตะหลักหนึ่งพันประตู จนกลายเป็นข่าวโด่งดังในโลกออนไลน์มาแล้ว
นั่นจึงทำให้ ชิกัลโก สามารถสร้างปรากฎการณ์ได้ในแทบทุกเซฟ ไม่ว่าจะซื้อไปเล่นในลีกไหน ทั้งลาลีกา, กัลโช เซเรียอา หรือ บุนเดสลีกา เขาก็รัวตาข่ายได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย (อาจจะต้องเว้นไว้สำหรับพรีเมียร์ลีก เนื่องจากมักจะขอเวิร์คเพอร์มิตไม่ผ่าน)
"ตอนนั้นเว็บบอร์ดต้องลุกเป็นไฟ คุณสามารถชื้อเขาได้แม้จะมีเงินไม่มาก เขาแทบการันตีประตูให้คุณในทุกเกม" อันโตนิโอ พูทิลโล ทีมงานของเกมที่รับผิดชอบกำหนดค่าพลังของนักเตะเบลารุสในสมัยนั้น กล่าว
และสิ่งนี้ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้นในฐานะยอดนักเตะของ CM ที่ได้รับการเชิดชูทั้งที่ไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาด้วยซ้ำ และกลายเป็นที่จดจำในฐานะตำนานของเกม
อย่างไรก็ดี ชีวิตจริงของเขากลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น
ดาวรุ่งพุ่งแรงในโลกจริง
ชิกัลโก หรือนามสกุลที่ถูกต้องจริง ๆ คือ ชิฮัลกา (Tsyhalka) คือเป็นหนึ่งในนักเตะที่น่าจับตามองของวงการฟุตบอลเบลารุส หลังสร้างชื่อมาตั้งแต่เล่นให้กับ เยาวชนของ ดินาโม มินสก์
ตอนอายุ 16 ปี เขายิงให้ทีมไปถึง 17 ประตูจาก 27 นัด ก่อนจะถูกเลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในทีมสำรอง ที่เล่นอยู่ในระดับ 2 ของประเทศ ก่อนจะฝากผลงานยิงไปถึง 14 ประตูจาก 15 นัด จนทำให้ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในวัย 18 ปี เมื่อปี 2001 และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เขามีค่าพลังที่สูงลิ่วในเกม CM
"ผมยังเด็กมากในตอนนั้น ผมเชื่อว่าฟุตบอลในเบลารุสมีอนาคต และมันไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของพลังที่จะใส่ให้กับผู้เล่น" พูลิลโล ผู้รับผิดชอบกำหนดค่าพลังนักเตะเบลารุส กล่าวกับ Gazzetta
"ผมชอบชิฮัลกามาก เขาเร็ว มีสัญชาติญาณการยิงประตู โดดเด่นในระดับเยาวชน เขามีทุกอย่างที่จะกลายเป็นดาวดังในอนาคต"
"เช่นกันในระดับนานาชาติ ผมก็เลยใส่ชื่อเสียงของเขาไว้ในระดับที่สูงมาก (ที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เจอนักเตะไม่ว่าจะเลือกเล่นลีกไหน)"
อันที่จริง ในตอนแรกการคาดการณ์ของ พูทิลโล ก็ค่อนข้างตรง ชิฮัลกา อาจจะยิงประตูไม่ได้เลยในปีแรกของการเล่นอาชีพ แต่กราฟชีวิตของเขาก็เริ่มสูงขึ้นหลังจากนั้น เขาทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในปี 2002 หลังยิงไปถึง 11 ประตูจาก 18 นัดในปี 2002 รั้งอยู่ในอันดับ 4 ของตารางดาวซัลโวลีกเบรารุส
ชิฮัลกา ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลต่อมา เมื่อสามารถเบียดขึ้นมาเป็นกองหน้าตัวหลักของมินสก์ได้สำเร็จ ก่อนจะฝากผลงาน 8 ประตูจาก 19 นัด จนถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ และสามารถทำประตูได้ทันทีตั้งแต่นัดแรกที่ลงสนาม
ก่อนที่ในปี 2004 แม้จะได้ลงสนามน้อยลง แต่เขายังยิงไปถึง 5 ประตู และมีส่วนช่วยให้ มินสก์ คว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี
และนั่นก็เหมือนจะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของ ชิฮัลกา
อาการบาดเจ็บพรากอนาคต
การย้ายไปเล่นในต่างแดน คือความฝันของนักเตะในลีกเกรดรองแทบทุกคน เพราะนอกจากรายได้ที่มากขึ้น ยังเป็นโอกาสที่จะช่วยให้พวกเขาได้พัฒนาฝีเท้า และ ชิฮัลกา ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในปี 2006 เขามีโอกาสได้ย้ายไปค้าแข้งในโปรตุเกส กับ มาริติโม ความฝันของเขากำลังจะเป็นจริง โดยเหลือเพียงด่านเดียวเท่านั้นก็คือการทดสอบฝีเท้า มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาสำหรับเขาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อในระหว่างการทดสอบฝีเท้า ชิฮัลกา ดันมาได้รับบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้ที่หัวเข่าของเขาฉีกขาด และความฝันของเขาก็พังทลายไปพร้อมกับอนาคตของเขา
"ครั้งหนึ่งผมเคยไปโปรตุเกสเพื่อเล่นให้มาริติโม ผมไปที่นั่นเพื่อทดสอบฝีเท้า และสัญญาของผมก็พร้อมแล้ว" ชิฮัลกา ย้อนความหลังกับ Gazzetta
"ในการออกกำลังครั้งหนึ่ง ผมได้รับบาดเจ็บหนักที่เข่า ผมเอ็นไขว้ขาดและต้องกลับมามินสก์"
หลังจากนั้น ชิฮัลกา ก็ไม่เคยกลับมาเหมือนเดิมอีกเลย อาการบาดเจ็บทำให้ฟอร์มของเขาตกลง เขาต้องย้ายไปเล่นให้กับ นาฟทาน โนโวโพลอตส์ ทีมร่วมลีก และต้องระหกระเหินไปเล่นในลีกคาซัคสถาน รวมไปถึงอาร์เมเนีย
หลังจากไม่ประสบความสำเร็จในต่างแดน เขาก็กลับมาเล่นในบ้านเกิด ด้วยการย้ายมาร่วมทีม ซาวิต โมกิเยฟ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด แต่ชิฮัลกา ก็ยังทำผลงานห่างไกลจากในอดีต ยิงไปเพียง 2 ประตูจาก 8 นัด และไม่สามารถช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการตกชั้น
การตกชั้นไม่ใช่เรื่องเศร้าเรื่องเดียวสำหรับ ชิกัลกา เมื่ออาการบาดเจ็บที่เขาได้รับมาตอนทดสอบฝีเท้าที่โปรตุเกสมันดูจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ และมันก็ทำให้เขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 26 ปี
"ผมเป็นนักเตะที่ดี ผมมีพรสวรรค์ ทุกคนรู้ว่าผมดีแค่ไหน ผมสามารถเล่นได้จนอายุ 40 และเป็นดาวซัลโวของลีก" ชิฮัลกา ระบายความในใจกับ Gazzetta
"แต่ผมเจ็บหนักตอนอายุ 23 การบาดเจ็บครั้งนั้นมันทำลายชีวิตของผม ผมพยายามฝืนแต่ความเจ็บปวดมันรุนแรงมาก และผมก็ทนได้จนถึงอายุ 26 ปี อาชีพของผมจบลงเร็วมาก มันไม่ใช่การบาดเจ็บหลายครั้งที่ทำให้มันจบ แต่มันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว"
อย่างไรก็ดี นั่นไม่ใช่จุดตกต่ำที่สุดในชีวิตของเขา
ตำนานสำหรับคนอื่น
ชื่อ ชิฮัลกา หายไปจากสารบบของโลกลูกหนัง ก่อนที่ปี 2018 เขาจะถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อ เลฟเทอร์ริส ดาโนวาซิลิส นักข่าวของ Gazetta ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์เขาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ทำให้โลกรู้ว่าเขามีชีวิตอย่างไรหลังจากนั้น
แม้จะเป็นนักเตะโด่งดังระดับตำนานของเกม CM แต่ชีวิตจริงของเขาต่างจากในโลกจินตนาการอย่างสิ้นเชิง เมื่อหลังแขวนสตั๊ด เขาต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก จนถึงขนาดต้องไปทำงานก่อสร้างเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
"หลังจากเลิกเล่น ผมเริ่มทำงานเป็นช่างก่อสร้าง มีรายได้ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน (ราว 150 บาท) และหลังจากนั้นก็เป็น 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน (ราว 600 บาท) ผมพยายามอย่างหนักจริง ๆ" ชิฮัลกากล่าวกับ Gazzetta
"แต่หลังกับขาของผม ไม่ไหวสำหรับงานหนัก และผมก็มีปัญหาสุขภาพอย่างหนัก"
อันที่จริงเขาพยายามกลับเข้าสู่วงการฟุตบอลหลังเลิกเล่น เหมือนกับที่นักฟุตบอลหลายคนทำ ไม่ว่าจะเป็นสตาฟฟ์โค้ช หรือตำแหน่งอะไร เขาก็สนใจ แต่น่าเศร้าที่ไม่มีใครให้โอกาสเขาเลย
"ตอนผมเลิกเล่นฟุตบอล ไม่มีใครเรียกตัวผมเลย ทุกคนลืมผมไปหมดแล้ว ผมอยากทำงานในวงการฟุตบอล ผมพยายามหาทาง แต่ไม่มีสักคนที่จะช่วยผม แม้กระทั่งไม่มีใครอยากให้เจอเพื่อดูว่าเผื่อผมทำอะไรได้"
"ผมไม่เคยทำร้ายใครในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ทำไมชีวิตต้องมาทำร้ายแม้กระทั่งคนดี"
"สิ่งที่ผมต้องการก็คือผมสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง เพื่อให้ครอบครัวของผมได้รับในสิ่งที่เหมาะสม ตอนที่ผมต้องเลิกเล่นก่อนวัย ผมตระหนักได้ว่าผมไม่สามารถพึ่งใครได้ ไม่ว่าคนที่ผมเจอในวงการฟุตบอลหรือรัฐ"
นอกจากนี้เขาแทบไม่รู้เลยว่า ตัวเองโด่งดังขนาดไหนในโลกเกม ซึ่งเขาเองรู้สึกเสียดายมาก เพราะมันอาจจะเป็นหนึ่งในช่องทางหาเงิน ที่จะทำให้ชีวิตของเขาดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้
"ผมไม่เคยเล่นเกม ไม่เคยเลยสักครั้ง หลายปีที่ผ่านมาลูก ๆ บอกผมว่าผมเป็นตำนานของ Football Manager แต่ตอนที่ชื่อผมดัง ผมไม่รู้อะไรเลย" ชิฮัลกากล่าวกับ Gazetta
"ย้อนกลับไปตอนนั้น ผมกำลังยุ่งมากกับอาชีพของผม และไม่มีใครบอกผม โชคร้ายผมอยู่ในประเทศที่ไม่มีใครรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น แม้กระทั่งในเกม"
"ตอนแรกผมได้รู้ว่าผมเก่งขนาดไหนในเกมตอนที่นักข่าวชาวรัสเซียบอกผม และผมก็ตกใจมาก เขาบอกว่าผมเป็นนักฟุตบอลดังที่สุดของเกม ตอนที่ผมได้ยิน ผมส่ายหัวด้วยความไม่เชื่อ"
"ผมไม่เคยรู้ว่ามีเกมนี้มาก่อน ดังนั้นผมจึงแค่หัวเราะ หลังจากนั้นผมตระหนักว่าผมน่าจะหาเงินจากมันได้มากมาย แต่ว่ามันสายไปแล้ว"
จากคำกล่าวอ้างของ Gazetta ระบุว่าในตอนนั้นเขาอยู่ในสถานะตกงาน และถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจกับสถานะของตัวเองที่เป็นอยู่ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเหมือนฮีโร่ในจิตนาการ แต่ในความเป็นจริงเขาแทบไม่เหลืออะไรเลย
"บอกกับโลกว่าผมต้องการความช่วยเหลือ ได้โปรด" ชิฮัลกาบอกกับ ดาโนวาซิลิส
อย่างไรก็ดี หลังบทความได้ถูกเผยแพร่ออกไป ได้มีสัญญาณในแง่บวกขึ้นบ้าง เมื่อเหล่าแฟนของชิฮัลกาใน CM ที่ต่างรู้สึกเห็นใจในชีวิตของเขา และช่วยกันสร้างแคมเปญช่วยเขาหางาน และมีคนลงชื่อสนับสนุนกว่า 1,600 รายชื่อ
แม้ว่าในวันนี้ ชิฮัลกา ได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับด้วยวัยเพียง 38 ปี แต่ในทวิตเตอร์ของ ดินาโม มินสก์ กลับอบอุ่นไปด้วยข้อความไว้อาลัยจากแฟนบอล โดยเฉพาะคอเกม ที่ต่างแคปหน้าจอของ ชิฮัลกา พร้อมสถิติยิงประตูถล่มทลายที่ทำให้ทีมของพวกเขาคว้าแชมป์ในเกม CM
และทำให้ทุกคนรู้ว่า แม้ชีวิตจริงจะไม่เป็นดั่งฝัน แต่ มักซิม ชิฮัลกา ยังเป็นที่รักของแฟนลูกหนังเสมอ และตลอดไป
แหล่งอ้างอิง
https://www.sportbible.com/football/news-what-happened-to-championship-manager-maxim-tsigalko-20190514
http://www.gazzetta.gr/planetfootball/synenteuxeis/article/1237745/tsigkalko-o-thrylos-toy-football-manager-sto-gazzettagr-den-epaixa-pote-ta-ehasa-ola?cmp=no
https://fmbrotherhood.com/fm-legends/maxim-tsigalko/
https://mundialmag.com/blogs/articles/championship-managers-maxim-tsigalko-the-greatest-striker-we-never-saw
https://web.archive.org/web/20120625081113/http://www.footmanager.co.uk/articles-guides/cm-fm-legends-tsigalko-samba-1.php
https://www.thedaisycutter.co.uk/2012/03/i-was-a-champ-man-cheat/
https://www.theguardian.com/sport/blog/2008/nov/14/championship-manager-joyofsix-football
https://punditfeed.com/quick-reads/maxim-tsigalko/
https://www.eplfocus.com/championship-manager-legends/