News

ทำไมโลกจึงคิดว่า “เอ็มบัปเป้-ฮาลันด์” จะเป็นสองแข้งเท้าไฟ ผู้สืบทอดของ "เมสซี่-โรนัลโด้" ?

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ คือสองนักฟุตบอลดาวรุ่งที่เนื้อหอมมากที่สุดในปัจจุบัน หากถามคนรักเกมลูกหนังว่า นักเตะคนไหนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำยุคสมัยถัดไป แทนที่ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ชื่อที่คนส่วนใหญ่จะตอบ ย่อมหนีไม่พ้นสองคนนี้

ความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยของทั้งคู่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่ทั้งสองคนผ่านอะไรหลายสิ่งหลายอย่างเหมือนกันตั้งแต่วัยเด็ก จนทำให้พวกเขากลายเป็นนักฟุตบอลตัวอันตรายของวงการ ตั้งแต่อายุไม่ถึง 20

ด้วยที่ยังไม่ถึง 23 ปี ทั้งสองคนระเบิดผลงาน ทำลายสถิติมากมาย จนกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับการจับตาของคนทั่วโลก และเป็นตัวแทนของฟุตบอลยุคใหม่ในปัจจุบัน

 

แข้งพรสวรรค์จากกรุงปารีส 

นักเตะรายแรกที่เราจะพูดถึงคือ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นักฟุตบอลรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับว่า เก่งที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมติดตัวมาตั้งแต่เกิด

ความมหัศจรรย์ของนักเตะรายนี้ เกิดจากการที่เขามีพ่อเป็นชาวแคเมอรูน ส่วนคุณแม่มีเชื้อสายแอลจีเรีย ขณะที่ตัวเขาเองเกิดและเติบโตในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

เอ็มบัปเป้ได้รับความแข็งแกร่ง ความรวดเร็วทางร่างกายมาจากคุณพ่อ ตามแบบฉบับคนเชื้อสายแอฟริกัน รวมถึงเป็นผู้สอนวิชาฟุตบอลให้กับเขาในวัยเด็ก ขณะที่คุณแม่ได้ให้ความยอดเยี่ยมด้านเทคนิคให้แก่เขา ซึ่งเธอก็เป็นอดีตนักกีฬาแฮนด์บอลมาก่อน 

ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยความที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศส ทำให้เอ็มบัปเป้อยู่ในสภาพแวดลล้อมที่ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพตั้งแต่วัยเด็ก รอบตัวของเขามีแต่ผู้มีความรู้ด้านฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ หรือพี่ชายที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพ จนทำให้เขาฉายแววเก่งออกมาอย่างรวดเร็ว

"เขามีเทคนิค และการอ่านเกมที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป เขาเหมือนมีตาอยู่ด้านหลัง สามารถคาดการณ์ได้หมดเลยว่า ลูกฟุตบอลอยู่ที่จุดไหน เขาไม่เคยได้เล่นกับเด็กรุ่นเดียวกัน ต้องไปเล่นกับคนที่แก่กว่าเสมอ เพราะความสามารถของเขายอดเยี่ยมเกินกว่าจะต้องมาเล่นกับเพื่อนร่วมรุ่น" อาแมน แอร์โรช เจ้าของอคาเดมีที่ฝึกสอนเอ็มบัปเป้ในวัยเด็ก อวยถึงพรสวรรค์ทั้งทางร่างกาย และความคิดของแข้งรายนี้

ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ เอ็มบัปเป้ไม่เคยได้เล่นฟุตบอลตามรุ่นของตัวเอง เขาต้องข้ามรุ่นไปแข่งกับรุ่นพี่เสมอ ซึ่งยิ่งทำให้กระดูกฟุตบอลของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และเร่งนำพรสวรรค์ที่อยู่ในตัวออกมาแสดงผลบนสนามแข่งได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าโค้ชคนไหนที่ได้ฝึกสอนเขา ล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เด็กคนนี้เก่งที่สุดตั้งแต่ผมเคยเป็นโค้ช" ชื่อเสียงของเอ็มบัปเป้จึงโด่งดังขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีโอกาสได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค, เชลซี และ ลิเวอร์พูล

อย่างไรก็ตาม เอ็ปบัปเป้เลือกเซ็นสัญญากับ โมนาโก เพื่อโอกาสในการลงสนาม ... สิ่งหนึ่งที่เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของแข้งรายนี้ คือเขาไม่ได้แข็งแกร่งเฉพาะร่างกาย แต่รวมถึงด้านความคิด และจิตใจด้วยเช่นกัน 

เอ็มบัปเป้มีการตัดสินใจที่ชาญฉลาดอยู่เสมอ เขาจะเลือกแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ต่อให้ฝืนกับความต้องการในใจ แต่ถ้าเขารู้ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับการเป็นนักฟุตบอล เขาก็พร้อมจะรับไว้

การตัดสินใจไปอยู่กับโมนาโก เพื่อพัฒนาฝีเท้าของเอ็มบัปเป้ ถือว่าถูกยิ่งกว่าถูก เพราะเขาสามารถคว้าแชมป์ลีก เอิง ร่วมกับทีม ในฤดูกาล 2016-17 ด้วยวัยเพียง 18 ปี

นอกจากนี้ เอ็มบัปเป้ได้ระเบิดฟอร์มในเวทีใหญ่ อย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลเดียวกัน ด้วยการลงสนาม 9 นัด และทำไปได้ 6 ประตู นำ โมนาโก ไปถึงรอบรองชนะเลิศ ... เขาพิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า คุณภาพฝีเท้าของเขาไม่ใช่ระดับดาวรุ่ง แต่พร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นอนาคตผู้เล่นที่เก่งที่สุดในโลก

ความยอดเยี่ยมเกินวัย ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง มหาอำนาจลูกหนังฝรั่งเศสยุคใหม่ ยอมทุ่มทุน 180 ล้านยูโร คว้า เอ็มบัปเป้ ร่วมทีม (ย้ายมาด้วยสัญญายืมตัวในปี 2017 ก่อนจ่ายค่าตัวเพื่อซื้อขาดในปี 2018) ... ทำให้เขากลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดอันดับ 2 ของโลก เป็นรองเพียง เนย์มาร์ เพื่อนร่วมทีมเปแอสเชที่ย้ายด้วยค่าตัว 222 ล้านยูโรในปี 2017 เท่านั้น

 

เด็กระเบิดจากนอร์เวย์

2 ปีหลังจากการกำเนิดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ... อดีตนักฟุตบอลทีมชาตินอร์เวย์ อัลฟ์-อิงเก ฮาลันด์ ได้ให้กำเนิดลูกชาย ที่มีชื่อว่า เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ชายผู้ที่จะเติบโตมาเป็นนักฟุตบอลที่ยอดเยี่ยม และเป็นคู่แข่งร่วมสมัยของเอ็มบัปเป้

ฮาลันด์แตกต่างจากเอ็มบัปเป้โดยสิ้นเชิง เขาเป็นคนผิวขาว ผมสีทอง เลือดเนื้อเชื้อไขแบบชาวอารยัน หรือคนนอร์ดิก ที่มีทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกาย และความชาญฉลาดผสมผสานกันอย่างลงตัว

นอกจากนี้ ชีวิตของฮาลันด์ตั้งแต่เด็กห้อมล้อมด้วยสังคมฟุตบอลอาชีพ จากการที่พ่อของเขาเป็นนักฟุตบอลในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ (ซึ่งตัวของฮาลันด์ผู้ลูก เกิดที่เมืองลีดส์) เขาได้รับอะไรหลายอย่างจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว หนึ่งในนั้นคือความรักในการเล่นกีฬา เพราะฮาลันด์ในวัยเยาว์ไม่ได้แค่เล่นเกมลูกหนังเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึง แฮนด์บอล, กอล์ฟ และกรีฑาในรูปแบบต่าง ๆ

ไม่ต่างจากเอ็มบัปเป้ ฮาลันด์ฉายพรสวรรค์ที่จะเป็นยอดนักกีฬาตั้งแต่เด็ก เขาทำสถิติโลกเป็นเด็กอายุ 5 ขวบ ที่กระโดดได้ไกลที่สุด จากการแข่งขันกระโดดไกล ในรุ่นอายุไม่เกิน 5 ปี ด้วยระยะทาง 1 เมตร กับอีก 63 เซนติเมตร

สำหรับชีวิตในฐานะนักฟุตบอล ฮาลันด์เข้าสู่อคาเดมีลูกหนัง ตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ จากคำบอกเล่าของโค้ชในวัยเด็กเผยว่า เขายิงประตูครั้งแรกในชีวิตได้ ด้วยการจับบอลเพียง 2 ครั้งเท่านั้น แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ที่เปี่ยมล้นในตัวเขา และนั่นทำให้ฮาลันด์ผู้ลูก เลือกเส้นทางที่แตกต่างจากคุณพ่อ กับการเลือกเล่นเป็นนักเตะเกมรุก แทนที่จะเป็นนักเตะเกมรับตามรอยบิดา

ในช่วงวัยเด็ก ฮาลันด์ได้รับประสบการณ์เดียวกับเอ็มบัปเป้ นั่นคือต้องเล่นฟุตบอลข้ามรุ่นมาตลอด เพราะเก่งเกินกว่าเพื่อนร่วมอายุ เขาขึ้นสู่ทีมสำรองของสโมสร บรีเนอ ตั้งแต่อายุ 15 ปี และไม่กี่เดือนหลังจากนั้น เขาขึ้นสู่ชุดใหญ่ทันที หลังจากยิงไป 19 ประตู จากการลงสนามในทีมสำรองเพียง 14 นัด

หลายคนมองว่า ฮาลันด์มีทั้งพรสวรรค์ทั้งทางร่างกาย และทักษะฟุตบอลที่สืบทอดทางสายเลือดมาจากคุณพ่อ แต่อันที่จริงไม่ได้มีแค่เพียงเท่านั้น เขาทุ่มเทให้กับการฝึกซ้อมอย่างมาก กล้าที่จะท้าทายตัวเองอยู่เสมอ เพราะสำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ ไม่มีสิ่งใดจะทำให้เขามีความสุขได้มากกว่า การทำประตูในสนามฟุตบอล

ด้วยวัย 16 ปี ฮาลันด์ย้ายสู่ โมลด์ ทีมฟุตบอลชื่อดังของนอร์เวย์ ก่อนที่ฤดูกาล 2018-19 เขาจะย้ายสู่ เรดบูล ซัลซ์บวร์ก และสร้างชื่ออย่างเป็นทางการ ด้วยการหวด 8 ประตูในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่มของศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2019-20 ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล หรือ นาโปลี ล้วนโดนแข้งรายนี้ยิงตุงตาข่ายมาแล้ว

ขณะเดียวกัน ฮาลันด์สร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นคนที่ 2 ที่สามารถทำประตูได้ใน 3 นัดแรกที่ตนเองลงสนามในศึกยูซีแอล ก่อนจะสร้างสถิติเป็นนักเตะอายุไม่เกิน 19 ปีคนแรก ที่ยิงประตูได้ 5 นัดติดต่อกัน บนเวที ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

ความร้อนแรงในฟุตบอลถ้วยใหญ่ยุโรป ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรฟุตบอลชั้นนำมากมาย สุดท้ายเขาตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงตลาดฤดูหนาวปี 2020 เพื่อโอกาสในการลงสนาม ไม่ต่างจากที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ เลือกไปเล่นให้กับ โมนาโก เมื่อครั้งอดีต

ทันทีที่ ฮาลันด์ย้ายทีม เขาได้โอกาสดวล กับเอ็มบัปเป้ในทันที เมื่อดอร์ทมุนด์ ต้นสังกัดใหม่ของหัวหอกนอร์เวย์ โคจรมาพบกับ เปแอสเช ทีมของดาวยิงแห่งฝรั่งเศส ในรอบ 16 ทีม แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2019-20

ในเกมแรกที่พบกัน ฮาลันด์ระเบิดฟอร์มยิง 2 ประตู พาดอร์ทมุนด์ชนะเปเอสเชไป 2-1 แต่เอ็มบัปเป้สามารถทำแอสซิสต์ได้ในเกมนัดนี้เช่นกัน 

ก่อนที่เกมนัดที่สอง เอ็มบัปเป้จะช่วยให้ทีมดังจากปารีส ล้างแค้นทัพเสือเหลือง เอาชนะไป 2-0 ผ่านเข้ารอบต่อไปได้สำเร็จ

ขณะที่ฮาลันด์ ถึงจะตกรอบ เขาก็ฝากผลงานที่ยอดเยี่ยมเอาไว้ กับการเล่นแชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลแรก ด้วยการลงสนาม 8 นัด ทำไป 10 ประตู

 

อนาคตของโลกลูกหนัง 

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลแถวหน้าของโลก ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่พวกเขาผ่านมาเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น พรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด, การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการเป็นนักฟุตบอล, ทัศนคติที่ยอดเยี่ยม รวมถึงความขยัน ทุ่มเทต่อการฝึกซ้อม 

อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ไม่ใช่แค่นักเตะดาวรุ่งที่โลกฟุตบอลให้ความสนใจ แต่ได้รับการยกย่องจากคอลูกหนังทั่วโลก ว่าทั้งสองจะเป็นผู้เล่นที่จะแบกยุคสมัยต่อไปของเกมลูกหนัง ต่อจากคู่ของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่

เหตุใดนักฟุตบอลทั้งสองรายจึงถูกคาดหวังไว้แบบนั้น ก็เป็นเพราะผลงานที่ยอดเยี่ยมบนเวที ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เพราะปัจจุบันถ้วยใบใหญ่ของฟุตบอลสโมสรยุโรป คือแหล่งรวมนักเตะที่ฝีมือดีที่สุดของโลกเอาไว้ ผู้เล่นคนใดที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คือของจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับ เอ็มบัปเป้ เขาผ่านการลงสนามในยูซีแอลมาถึง 5 ฤดูกาล ลงสนามไป 42 นัด ยิงไป 25 ประตู ด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น

ความร้อนแรงนี้ของเขา ทำให้เอ็มบัปเป้กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุด ที่ทำได้ 25 ประตูในศึกยูซีแอล ด้วยวัยเพียง 22 ปี 80 วัน ทำลายสถิติของ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เคยทำไว้ด้วยวัย 22 ปี 286 วัน

นอกจากนี้ เอ็มบัปเป้ทำให้เมสซี่ต้องช้ำใจอีกหนึ่งคำรบ ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ยิง 4 ประตูใส่บาร์เซโลนา ภายในฤดูกาลเดียว หากนับเฉพาะบนเวทีแชมเปียนส์ ลีก แถม 3 ประตูในนั้น ยังเป็นการซัดแฮตทริกถึงถิ่น คัมป์ นู 

ไม่ใช่แค่เอ็มบัปเป้เพียงคนเดียว ที่ส่งสัญญาณไปหา เมสซี่ หรือ โรนัลโด้ ว่า ยุคสมัยของเขาได้มาถึงแล้ว แต่รวมถึง เออร์ลิง ฮาลันด์ ด้วย เพราะเขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูได้ถึง 20 ลูก ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เวลาเพียง 14 เกมเท่านั้น ขณะที่ เมสซี่ ต้องใช้เวลาถึง 40 เกม และ โรนัลโด้ ต้องรอถึง 56 เกมกว่าจะยิงได้ครบ 20 ลูก

ไม่เพียงเท่านี้ ฮาลันด์ยังทำลายสถิติที่เอ็มบัปเป้เคยทำไว้ ด้วยการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ครบ 20 ประตู บนเวทีถ้วยใหญ่ของยุโรปอีกด้วย

เชื่อได้เลยว่า นักเตะทั้งสองรายยังมีสถิติมากมายให้ทำลายอีกแน่นอน จึงไม่ต้องแปลกใจหากว่าทั้งฮาลันด์ และเอ็มบัปเป้ จะได้รับการคาดหวังอย่างมาก จากคนรักฟุตบอลทั่วโลก เพราะทัวร์นาเมนต์ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลายเป็นเวทีที่ทำให้พวกเขาเจิดจรัสเป็นซูเปอร์สตาร์ตั้งแต่อายุยังน้อย

คุณเองก็สามารถเป็นซูเปอร์สตาร์ เหมือนอย่าง เอ็มบัปเป้ หรือ ฮาลันด์ ได้เช่นกัน ... กับเกม FIFA Online 4 ที่เพิ่มนักเตะคลาสใหม่ 20UCL ต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เพิ่มความเร้าใจให้กับการเล่นของคุณมากกว่าเดิม

เพราะยิ่งนักเตะในทีมของคุณทำผลงานได้ดีมากเท่าไหร่ พลังของผู้เล่นก็จะเพิ่มมากเท่านั้น เช่น หาก คีลิยัน เอ็มปัปเป้ กดแฮตทริกในการแข่งขัน พลังของเอ็มปัปเป้ในคลาส 20UCL ก็จะเพิ่มขึ้นตามผลงานในสนามจริง

และแน่นอนว่า จงอย่ามองข้าม คีลิยัน เอ็มปัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ โดยเด็ดขาด เพราะทั้งสองคนคือแข้งทองของแท้ ที่กำลังฮอตไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ในขณะนี้ 

ถ้าอยากสัมผัสถึงความเป็นสตาร์ที่แท้จริง อย่าลืมเข้ามาเล่นเกม FIFA online 4 เกมที่จะทำให้คุณเป็นซูเปอร์สตาร์ ไปพร้อมกับเหล่านักเตะชื่อดัง เล่นไปด้วยกัน ชนะไปพร้อมกัน

ดาวน์โหลดเกมฟรี ! ที่นี่
fo4.garena.in.th

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bbc.com/sport/football/44669497
https://www.leparisien.fr/sports/football/psg/les-bleus-au-berceau-j-etais-persuade-que-kylian-mbappe-passerait-a-la-tele-03-01-2018-7480863.php
https://www.goal.com/en-gb/news/mbappe-reason-not-signing-real-madrid-revealed-monaco/7d3n8itim2t31oagzgubabd9l
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/erling-haaland-roots-from-bryne-to-borussia-dortmund-history-norway-solskjaer-10652
https://en.as.com/en/2019/11/27/football/1574893540_950310.html
https://www.goal.com/story/erling-haaland-unstoppable-rise/

Author

ณัฐนนท์ จันทร์ขวาง

let me fly you to the moon, my eyes have always followed you around the room 'cause you're the only.

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น