แมนนี่ ปาเกียว สุดยอดนักมวยฮีโร่ของฟิลิปปินส์ มีคิวกลับขึ้นสังเวียนอีกครั้งในวัย 46 ปี เจอกับ มาริโอ บาร์ริออส เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวทของ WBC วันเสาร์ที่ 19 กรกฏาคมนี้ ที่สหรัฐอเมริกา
การชกครั้งนี้ บาร์ริออส ต้องป้องกันเข็มขัดกับ "แพ็คแมน" ที่มุ่งเป้าจะกลับมาเป็นแชมป์โลกอีกครั้ง และรอบนี้เขาก็ถูกวิจารณ์เยอะพอสมควร หลังได้รับไฟเขียวจาก WBC ให้ได้สิทธิ์ชิงแชมป์แบบลัดคิวแซงนักชกคนอื่นๆ ที่อยู่ในแรงกิ้ง และควรได้รับโอกาสมากกว่า
เช่นเดียวกับ เดฟ โคลเวลล์ เทรนเนอร์และกูรูมวยของ BBC ที่วิจารณ์ว่า ปาเกียว ควรเริ่มจากการชกไต่แรงกิ้งขึ้นมาก่อน ไม่ใช่มาลัดคิวคนอื่นแบบนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมกับทุกคนที่ฝึกซ้อม ทุ่มเทมาหลายปี พยายามไต่แรงกิ้งขึ้นมาเพื่อโอกาสชกชิงแชมป์โลก
โคลเวลล์ บอกว่า "ผมคงไม่ดูการชกของ แมนนี่ ปาเกียว วันเสาร์นี้หรอก มันเหมือนกับเป็นทางลัด มันเป็นการใช้ความคิดถึงนำหน้าความดีความชอบ มันไม่ยุติธรรมกับนักมวยที่กำลังทำงานหนักเพื่อก้าวขึ้นมา"
"ผมรู้มันอาจดูรุนแรง เพราะเขาคือหนึ่งในผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล เป็นแชมป์โลก 8 รุ่น ผมเคารพในความสำเร็จของเขาในช่วงพีค เขาเป็นไอคอนระดับโลก เป็นตำนานตัวจริง แต่เขาอายุ 46 แล้ว ครั้งล่าสุดที่ชนะคู่ต่อสู้คือ 6 ปีก่อน และแมตช์ล่าสุดที่เขาชกมันก็ไม่ได้น่าประทับใจอะไร แสดงให้เห็นว่าทักษะของเขาเสื่อมถอยขนาดไหน ผมเลยไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ชิงเข็มขัดแชมป์โลก WBC กับ มาริโอ บาร์ริออส"
"ปกตินักมวยที่กลับมาจากรีไทร์ มักเริ่มต้นด้วยการชกอุ่นเครื่องเพื่อปรับสมดุลร่างกายเสียก่อน แต่ไม่ใช่กับ ปาเกียว เขาข้ามเรื่องพวกนี้ไปหมด แล้วไปอยู่คิวหน้าสุดทันที ผมคุยกับ เมาริซิโอ สุไลมาน ประธาน WBC ทาง โซเชียล มีเดีย เกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาไม่พอใจในสิ่งที่ผมสงสัย แต่ความเห็นผม มันจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่แปลกประหลาด ทำลายกำลังใจของนักมวยที่พยายามไต่เต้าขึ้นมา และทุ่มเทให้กับการต่อสู้ที่ยากลำบาก"
"ปาเกียว ไม่ได้ชกแมตช์อย่างเป็นทางการมาหลายปีแล้ว ไฟต์อุ่นเครื่องกับ รุกิยะ อันโป นักชกชาวญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้ว การเคลื่อนไหวของเขาเชื่องช้า จังหวะการชกก็ไม่แม่นยำเหมือนเดิม นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เห็นด้วย คุณจะถอยหลังแล้วข้ามช็อต พุ่งไปชิงแชมป์โลกแบบนี้เพียงเพราะคุณเป็นตำนานไม่ได้นะ"