News

Backlash 2004 ศึกใหญ่ที่ "แรนดี้ ออร์ตัน" ยอมหลั่งเลือดจนชนะใจแฟนมวยปล้ำทั่วโลก

ย้อนกลับไปในศึกมวยปล้ำ WWE รายการใหญ่ Backlash เมื่อปี 2004 มีแมตช์การปล้ำคู่หนึ่งที่ได้รับความสนใจจากแฟนๆ อย่างมาก นั่นคือแมตช์ชิงแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล ระหว่าง แรนดี้ ออร์ตัน ดาวรุ่งพุ่งแรงจอมยะโส ที่ต้องป้องกันแชมป์กับ มิค โฟลีย์ ซูเปอร์สตาร์ระดับตำนาน

 


ก่อนหน้านี้ WWE ปูเนื้อเรื่องให้ ออร์ตัน เยาะเย้ยถ่มถุย โฟลีย์ สารพัดสารเพ ทั้งด่าทอ เหยียดหยาม ลามไปถึงถ่มน้ำลายใส่หน้า สร้างความโกรธเคืองให้กับแฟนมวยปล้ำอย่างมาก ก่อนปูมาสู่แมตช์ชิงเข็มขัดแชมป์อินเตอร์ฯ ที่ โฟลีย์ ขอสู้กับ ออร์ตัน ในแบบ "Hardcore Match" ไม่มีกฏกติกา ใช้อาวุธได้เต็มที่ และเขาจะปรากฏตัวในบทบาท Cactus Jack คาแร็กเตอร์สุดโหดไร้ความปราณีที่แฟนมวยปล้ำยุค 90 รู้จักกันดี

เบื้องหลังของแมตช์นี้ เกิดขึ้นจากการที่ มิค โฟลีย์ มองเห็นศักยภาพของ แรนดี้ ออร์ตัน ว่าจะกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวหลักของ WWE ในอนาคต เขาต้องการผลักดันให้ ออร์ตัน ยกระดับตัวเองขึ้นไปอีกขั้น จึงนำไอเดียแมตช์ฮาร์ดคอร์นี้ไปเสนอกับ วินซ์ แม็คแมน ผู้บริหารของ WWE และทีมงาน ซึ่งทุกคนตอบตกลง รวมถึง ออร์ตัน ที่ตอนนั้นมีบทบาทเป็น "นักฆ่าตำนาน" ก็ตอบรับปล้ำกติกาสุดโหดจากรุ่นพี่ด้วยความยินดี

ก่อนปล้ำแมตช์นี้มีการตกลงกันว่าจะมีการเอาอุปกรณ์เสริมหลักสูตรทุกรูปแบบมาใช้ โดยเฉพาะ "บาร์บี้" ไม้เบสบอลพันลวดหนาม อาวุธคู่กายของ มิค โฟลีย์ รวมถึงแผ่นไม้อัดขนาดใหญ่ที่พันลวดหนามเอาไว้ และทีเด็ดคือ "หมุดติดกระดาษ" (หรือที่เรียกว่าเป๊ก) หลายหมื่นตัวที่จะเอามาโรยบนเวที สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ มิค โฟลีย์ ชายที่ได้ชื่อว่าเป็น "ราชามวยปล้ำฮาร์ดคอร์" ที่ผ่านสังเวียนสุดโหดและหลั่งเลือดมาอย่างโชกโชน

แต่สำหรับ ออร์ตัน แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องเจอกับอะไรและพร้อมโดนเล่นงานด้วยความเต็มใจ แต่เขาก็ยอมรับว่ารู้สึกกลัวจนนอนไม่หลับเหมือนกัน เมื่อนึกภาพว่าเขาจะต้องโดนเล่นงานด้วยอุปกรณ์สุดอันตรายเหล่านี้บนเวที เขาลองซ้อมด้วยเอาเป๊กมาวางที่พื้นแล้วนอนทับดู ปรากฏว่ามันเจ็บมากจนทำให้เขารู้สึกกลัวเพิ่มขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่อาจถอยหลังกลับได้แล้ว เพราะแมตช์กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน

เมื่อถึงวันที่ 18 เมษายน 2004 ก็ถึงคิวที่ มิค โฟลีย์ ในคราบ Cactus Jack กับ แรนดี้ ออร์ตัน ต้องเผชิญหน้ากันใน Backlash ที่แคนาดา แมตช์ดำเนินไปอย่างสนุกจนกระทั่ง มิค โฟลีย์ เอาไม้เบสบอลพันลวดหนามวิ่งไปตีใส่ศรีษะของ แรนดี้ ออร์ตัน จนหัวแตกเลือดอาบโดยฉับพลัน ก่อนย้ำแผลเดิมจนเลือดกระฉูด สร้างความเสียวไส้ให้แก่คนดูในสนามและแฟนมวยปล้ำทางบ้านอย่างมาก

แต่นั่นยังไม่ใช่ทีเด็ดของค่ำคืนนี้ เพราะ แรนดี้ ออร์ตัน ยังไม่ได้เจอนรกอีกขุมที่รออยู่..

เมื่อมาถึงจุดหนึ่งที่ทั้งคู่โดนเล่นงานด้วยลวดหนามจนเสียเลือดกันถ้วนหน้า แรนดี้ ออร์ตัน ที่เริ่มตั้งสติได้ เอาถุงผ้าที่มีเป๊กกว่าหมื่นตัวมาโรยบนเวที ก่อนเตรียมจับ มิค โฟลีย์ ใส่ RKO ลงบนเป๊ก แต่ มิค โฟลีย์ ดันแก้ท่า RKO ได้แล้วโยน ออร์ตัน ลงไปบนกองเป๊กอันแหลมคมนั่น จนทำให้ ออร์ตัน โดนเป๊กตำทั่วแผ่นหลัง และที่แขนขาด้วย สร้างความตื่นตะลึงและหวาดเสียวแก่คนดูทั่วโลกเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าดาวรุ่งอย่าง ออร์ตัน จะยอมทุ่มทุนสร้างโดนเป๊กทิ่มหลังจนเลือดอาบขนาดนี้ ขณะที่ จิม รอสส์ กับ เจอร์รี่ ลอว์เลอร์ สองผู้บรรยายในตำนานเห็นช็อตนี้ยังต้องอุทานแบบเสียงหลงว่า "โอ้มายก้อด โอ้มายก้อดดดดดดดดดด"

แม้จะโดนเป๊กตำหลังแถมหัวแตกขนาดนั้นแต่ ออร์ตัน ก็ต้องฝืนลุกขึ้นมาสู้ต่อให้จบแมตช์ เขาโดน มิค โฟลีย์ เล่นงานอย่างหนักหน่วง ความเจ็บปวดวิ่งไปทั่วร่างกาย แต่ในที่สุด ออร์ตัน ก็พาตัวเองออกจากขุมนรกนี้ได้ด้วยการจับ มิค โฟลีย์ ใส่ RKO ถึงสองครั้ง โดยครั้งที่สองเขาจับรุ่นพี่ใส่ RKO กับไม้เบสบอลพันลวดหนาม ก่อนตะเกียกตะกายมาจับคู่ต่อสู้กดนับสาม ป้องกันเข็มขัดแชมป์อินเตอร์ฯ ไปได้แบบเลือดเต็มเวที ชนิดที่ ริค แฟลร์ กับ บาติสต้า สองสมาชิกกลุ่ม Evoluion ต้องออกมาช่วยกันหาม ออร์ตัน กลับไปที่หลังฉาก และช่วยกันดึงเป๊กออกจากหลัง ก่อนส่งตัวให้แพทย์รักษาต่อไป

แม้ต้องเผชิญกับนรกบนเวทีนานถึง 23 นาที แต่หลังจากนั้น แรนดี้ ออร์ตัน ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้สู้กับ มิค โฟลีย์ ในแมตช์สุดโหดนี้ ถึงขั้นเก็บเป๊กที่ตำแผ่นหลังในคืนนั้นไว้ที่บ้านด้วย ส่วน มิค โฟลีย์ ก็ชื่นชมสปิริตนักสู้ของ ออร์ตัน ที่ยอมหลั่งเลือดในแมตช์นี้ และยกให้เป็นหนึ่งในแมตช์ฮาร์ดคอร์ที่ดีที่สุดในชีวิตของเขา

ทั้งนี้ แรนดี้ ออร์ตัน ยังยอมรับว่าแมตช์ฮาร์ดคอร์ใน Backlash 2004 มีความสำคัญกับตัวเขามาก เพราะมันช่วยให้เขาได้รับการยอมรับจากคนดูมวยปล้ำทั่วโลก จากดาวรุ่งจอมโอหังที่หลายคนเกลียดขี้หน้า กลายเป็นนักมวยปล้ำรุ่นใหม่ที่ได้รับเสียงปรบมือชื่นชมจากแฟนมวยปล้ำมากมาย ก่อนที่เขาจะได้รับการผลักดันให้เป็นแชมป์โลกในอนาคต และยกสถานะตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในตำนานของ WWE ยุค Ruthless Aggression เวลาต่อมา

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ