News

ครั้งหนึ่งแมนนี่ ปาเกียว ยอดนักสู้ชาวฟิลิปปินส์ เคยให้เหตุผลที่ลงชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ เพราะเบื่อคำสัญญาลมๆแล้งๆของรัฐบาล ที่พร่ำบอกมาตลอดว่าจะทำให้ชาวฟิลิปปินส์ก้าวผ่านความยากจนให้ได้ในเร็ววัน

คนจนล่ะมีสิทธิ์ไหมคะ คนจนล่ะมีสิทธิ์ไหมคะ มีงานให้ทำไหมคะ ปริญญาไม่มี แต่มี*นะคะ แต่มี**นะคะ

 

 

เชื่อว่าหลายคนถูกบทเพลงนี้ตามหลอกหลอนทั้งตอนหลับและตอนตื่น เพราะมันไม่ใช่เพลงที่ถูกพูดถึงเพราะมีคำติดเรท แต่มันยังสะท้อนด้วยว่า คำว่าคนจนในสังคัมไทยเมื่อ 30 ปีที่แล้ว กับ ณ ตอนนี้แทบไม่แตกต่าง

หากพูดถึงบุคคลในวงการกีฬา ที่เคยอยู่ในทั้งในบทบาท คนโคตรจน ไม่มีแม้แต่ข้าวสักเม็ดกิน กลายมาเป็นคนโคตรรวยแล้วล่ะก็

ต้องพูดถึง แมนนี่ ปาเกียว ยอดนักชกชาวฟิลลิปปินส์ วัย 44 ปี

ปาเกียวคือบุคคลหนึ่งที่เข้าใจความยากจนอย่างถ่องแท้ เขาเติบโตมากับการต่อสู้ในสังคมที่เหลื่อมล้ำของฟิลิปปินส์ ชีวิตทุกวินาทีคือการต่อสู้เพื่อที่หลับนอน และ อาหาร

ครั้งหนึ่ง เดอะแพคแมน ที่มีคฤหาสน์หรูในมะนิลาราคา 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 298 ล้านบาท) เคยโยนคำถามใส่พิธีกรว่า ในวัยเด็กคุณเคยรอของเหลือจากใครสักคน หรือ ยืมเงินเพื่อนบ้านมาประทังชีวิตไหม ?

ชัดเจนว่าเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นนักสู้บนสังเวียนผ้าใบเท่านั้น เขาเป็นนักสู้บนสังเวียนชีวิตมาตั้งแต่เกิด

การตัดสินใจแขวนนวม เพื่อลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ปี 2565 มาจากการเบื่อหน่ายต่อคำสัญญาของนักการเมืองและรัฐบาลที่ทุจริต"เราต้องการความก้าวหน้า เราต้องเอาชนะความยากจน เราต้องการรัฐบาลที่จะให้บริการประชาชนของเราด้วยความซื่อสัตย์ ความเห็นอกเห็นใจ และความโปร่งใส"

“เราเบื่อหน่ายกับคำสัญญาของการเปลี่ยนแปลง” นี่คือสิ่งปาเกียวให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายนปี 2565

อดีตนักชกขวัญใจชาวฟิลิปปินส์ เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาตั้งแต่ยังไม่แขวนนวมเมื่อปี 2559 นับตั้งแต่นั้นมาเขาเดินหน้าปล่อยหมัดใส่ความยากจนเต็มสูบ เดินหน้าหาเสียง ชูนโยบายพาประชาชนก้าวข้ามความยากจน และห่างไกลจากการทุจริตของรัฐบาล ก่อนเลือกตั้งเขาโกยความนิยมจากประชาชนทางภาคใต้ซึ่งเป็นภาคบ้านเกิดของเขาไม่น้อย อ้างอิงจาก PulseAs0ia ที่เคยเปิดผลสำรวจไว้ว่า ปาเกียวได้รับคะแนนโหวตอยู่ในอันดับ5 ของผู้สมัครชิงตำแหน่งที่มีสิทธิ์จะชนะการเลือกตั้ง จากแคนดิเดททั้งหมด 15 คน

ทั้งนี้สื่อในฟิลิปปินส์เชื่อว่า เพราะความฝังใจกับความยากจนของปาเกียวทำให้ประชาชนเชื่อว่าปาเกียว จะพาพวกเขาก้าวข้ามความเหลื่อมล้ำนี้ได้จริง แต่ท้ายที่สุดก็ไม่เป็นไปตามที่โพลว่าไว้ เพราะ มาร์กอสจูเนียร์ ที่ชนะการเลือกตั้ง และกลับมาครองบัลลังก์ผู้นำประเทศให้กับตระกูลได้อีกครั้ง

อย่างไรก็ตามหากพูดถึงความยากจนของคนในฟิลลิปปินส์ ยิ่งหนักข้อขึ้นในช่วงหลังจากโควิด-19แพร่ระบาด รายงานตัวเลขระบุว่า มีจำนวนคนยากจนอยู่ที่ 25.2 ล้านคน จากประชากร 101,802,706 คน หรือหนึ่งในสี่ของจำนวนประชากรทั้งหมด ขณะที่แผนขจัดความยากจนของชาติ ตั้งเป้าไว้ว่าคนยากจนจะหมดไปจากฟิลิปปินส์ในปีค.ศ.2040

Author

กุลญา กระจ่างกุล

นักข่าวสาวเสียงอีสาน โปรดปรานกีฬาม่วนๆ ชอบชวนคุ้ยป่น ไม่อดทนเผด็จการ

Graphic

วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว

หนุ่มน้อยผู้คลั่งรัก "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดหัวใจ