วันนี้ (12 ธ.ค. 68) TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นระดับโลก ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักซีเกมส์ 2025 จัดงานแถลงข่าว “Beyond the Game: The Sport Economy on TikTok” 'เศรษฐกิจกีฬา' ยุคดิจิทัล ช้อนรับโอกาสทองซีเกมส์ 2025! ประกาศร่วมมือกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) รวมถึงพันธมิตรกีฬารายใหญ่ ทั้งในประเทศไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างคอมมูนิตี้กีฬาบนแพลตฟอร์มต้อนรับการแข่งขัน SEA Games 2025 ด้วยฐานผู้ใช้งานมากกว่า 460 ล้านคนทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง 50 ล้านคนในประเทศไทย ซึ่ง นางชนิดา คล้ายพันธุ์ Director of Public Policy, Southeast Asia, TikTok ต้อนรับ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายธัชพล ศรีชาญกิจ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์สปอร์ต กรุ๊ป จำกัด และบรรดา Top Creators ใน TikTok เช่น หัวฟูดูบอล (เจ้าของรางวัล Sports Creator of The Year 2025), ตังเมย์ที่ชอบแมว (ครีเอเตอร์ติดตะกร้าสินค้ากีฬา) และ CandidKibt (ครีเอเตอร์กีฬาสายไลฟ์) มาร่วมวงเสวนา หัวข้อ Where Sports Live and Thrive
สำหรับความร่วมมือ ระหว่าง TikTok และ กกท. ครั้งนี้ ทาง ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า "ในการแข่งขัน SEA Games กีฬาได้รวมชาติให้เป็นหนึ่ง และ TikTok ช่วยขยายความเป็นหนึ่งนั้นไปในทั่วภูมิภาค โดยตั้งข้อสังเกตว่าด้วยการแข่งขันที่จัดขึ้นทั่วกรุงเทพฯ และ ชลบุรี ประเทศไทยมีโอกาสพิเศษที่ไม่เพียงแต่จะแสดงความเป็นเลิศด้านกีฬาเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ความภาคภูมิใจของชุมชน และการท่องเที่ยวอีกด้วย
กกท. ตระหนักดีว่า TikTok ในฐานะพันธมิตร สามารถเชื่อมโมเมนต์กีฬาและวัฒนธรรมมาสู่ชีวิตแบบเรียลไทม์ ทำให้ประเทศไทยสามารถแบ่งปันความอบอุ่นในการต้อนรับ ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ไทยไปสู่ผู้คนนับล้านทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ด้านนางชนิดา คล้ายพันธุ์ Director of Public Policy, Southeast Asia, TikTok กล่าวเสริมว่า “TikTok คือพื้นที่ที่เปลี่ยนความหลงใหลให้กลายเป็นการมีส่วนร่วม และเปลี่ยนการมีส่วนร่วมให้กลายเป็นโอกาส ด้วยความร่วมมือของเรากับ กกท. เรามุ่งมั่นเสริมศักยภาพให้กับทั้งครีเอเตอร์และช่วยให้ธุรกิจไทยได้รับประโยชน์จากโมเมนต์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง SEA Games ซึ่งจะช่วยส่งเสริมระบบนิเวศดิจิทัลและอุตสาหกรรมกีฬาของประเทศไทยให้เติบโตมากยิ่งขึ้น”
นอกจากนี้ ทาง Grand Sport ในฐานะพันธมิตรผู้ผลิตชุดกีฬาให้กับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการ ได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการวางจำหน่ายคอลเลกชันเสื้อผ้า และชุดแข่งขัน SEA Games สุดเอ็กซ์คลูซีฟผ่านแพลตฟอร์ม TikTok Shop เป็นที่แรกก่อนช่องทางอื่น พร้อมทั้งจัดงานแฟชั่นโชว์ต้อนรับ SEA Games ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งกลยุทธ์นี้ไม่เพียงสร้างกระแสความสนใจ แต่ยังเป็นการเปิดประตูแห่งโอกาสใหม่ ๆ ให้กับเหล่าครีเอเตอร์พันธมิตร (Affiliates) และแบรนด์กีฬาไทยได้เติบโต นอกจากนี้ การเชื่อมโยงเส้นทางจาก “การค้นหาผ่านคอนเทนต์“ สู่ “การสั่งซื้อสินค้าได้ทันที” (Content Discovery to Instant Purchase) อย่างไร้รอยต่อนี้ ไม่เพียงช่วยให้แฟนกีฬาสามารถร่วมสนับสนุนนักกีฬาในดวงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยขับเคลื่อนมูลค่าทางธุรกิจที่จับต้องและวัดผลได้จริง ให้กับพันธมิตรทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมการกีฬาไทย
ปัจจุบัน TikTok ได้กระตุ้นการรับชมคอนเทนต์กีฬาเพิ่มขึ้น +57% วิดีโอจากผู้เผยแพร่คอนเทนต์กีฬาพุ่งขึ้น +365% และการเติบโตของแพลตฟอร์มยังสะท้อนถึงแนวโน้มที่กว้างขึ้น ไม่เพียงแต่ครีเอเตอร์ใช้เป็นเวทีแจ้งเกิดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสื่อกีฬา และนักวิเคราะห์มืออาชีพต่างก็กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบน TikTok
อย่างในขณะนี้ ประเทศไทยประเทศเดียวกับแฮชแท็ก #TikTokการกีฬา (#TikTokSport) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดมียอดรับชมรายเดือนทะลุ 2.3 หมื่นล้านครั้ง* มีการเติบโตระดับเลขสองหลักเมื่อเทียบปีต่อปี และเพื่อสานต่อโมเมนตัมที่เกิดขึ้นนี้ TikTok เปิดตัวโปรเจกต์สำคัญ ๆ ได้แก่ TikTok SEA Club House และกิจกรรมระดับภูมิภาคอย่าง TikTok Sport Fest เพื่อเป็นศูนย์กลางการสร้างสรรค์คอนเทนต์และกระตุ้นการมีส่วนร่วมให้กับแฟน ๆ ตลอดการแข่งขัน SEA Games 2025
TikTok เตรียมสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการเปิดตัว TikTok SEA Clubhouse พื้นที่พิเศษที่ถูกเนรมิตให้เป็น “ฮับ” สำหรับเหล่าครีเอเตอร์โดยเฉพาะ ภายในพรั่งพร้อมด้วย โซน Fan Challenge และพื้นที่สำหรับการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกันของครีเอเตอร์ทั่วอาเซียน ซึ่ง Clubhouse แห่งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนคอนเทนต์ การแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมแบบเรียลไทม์ ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางคอนเทนต์กีฬาแห่งอาเซียนที่เชื่อมโลกออนไลน์ และออฟไลน์ไว้ด้วยกัน
การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ 2025 ของประเทศไทย ความร่วมมือระหว่าง TikTok และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในครั้งนี้ สะท้อนถึงเจตนารมณ์ร่วมกันในการยกระดับความภาคภูมิใจของชาติ พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับ Creator Economy และ Sport Economy ตลอดจนส่งต่อเรื่องราวทางวัฒนธรรมไทยให้กึกก้องไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการผสานพลังของ Content, Commerce และ Community ผ่านระบบนิเวศที่ไร้รอยต่อทั้งแบบ On-App และ On-Grond
