ฟุตบอลรายการเอเอฟเอฟ อาเซียน คัพ เป็นรายการที่อยู่นอกปฏิทินฟีฟ่า เดย์ จึงทำให้นักเตะบางคนไม่สามารถมาร่วมการแข่งขันได้ ขณะเดียวกัน ในเชิงของอันดับโลกนั้น แม้จะมีการแข่งขันถึง 8 เกม หากเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศได้ แต่จำนวนคะแนนอันดับโลกที่ได้ เมื่อเทียบกับการแข่งขันแต่ละนัดนั้น มีคะแนนสะสมที่ค่อนข้างน้อย
หลักการคิดคะแนนฟีฟ่า หากจะพูดให้เห็นภาพ คือ คะแนนที่ได้แต่ละเกมจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ความสำคัญของแมตช์เป็นสำคัญ และไปคูณด้วยผลแพ้ชนะที่ได้ความแตกต่างของคะแนนทั้งสองทีม หลักการคะแนนที่ได้ในแต่ละนัดจะเป็นดังนี้
คะแนนอันดับโลกสูงกว่าคู่แข่ง // ชนะ - คะแนนเพิ่มไม่มาก, เสมอ - เสียคะแนนเล็กน้อย, แพ้-เสียคะแนนค่อนข้างมาก
คะแนนอันดับโลกต่ำกว่าคู่แข่ง // ชนะ - คะแนนเพิ่มในสัดส่วนที่มาก, เสมอ - ได้คะแนนเพิ่มเล็กน้อย, แพ้-เสียคะแนนในสัดส่วนที่ไม่มาก
สูตรการคำนวณแบบอธิบายโดยง่ายจะเป็นดังนี้
แต้มที่ได้ = แต้มก่อนหน้านี้ + [ความสำคัญแมตช์ x (ผลแพ้ชนะ - ค่าผลต่างยกกำลังของความต่างแต้มของทั้งสองทีม)]
ค่าสัมประสิทธิ์ความสำคัญของรายการต่างๆ (ที่เกี่ยวข้องกับทีมชาติไทย) มีดังนี้
5 - แมตช์อุ่นเครื่องนอกปฏิทินฟีฟ่า
10 - แมตช์อุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า
25 - ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก , เอเชี่ยน คัพ รอบคัดเลือก
35 - ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย (ก่อนรอบ 8 ทีมสุดท้าย)
40 - ฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย ตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป
50 - ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย
60 - ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นต้นไป
รายการฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เป็นรายการที่คิดคะแนนเสมือนเกมอุ่นเครื่อง แต่เมื่อจัดการแข่งขันนอกปฏิทินฟีฟ่า จึงทำให้สัมประสิทธิ์ความสำคัญของฟุตบอลรายการนี้ มีค่าเท่ากับ 5
เมื่อค่าสัมประสิทธิ์นี้ไปคูณกับคะแนนผลแพ้ชนะและตัวแปรอื่นๆ จะมีคะแนนที่น้อยกว่าคะแนนที่ได้ (หรีอเสีย) จากเกมอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า หรือฟีฟ่าเดย์ เสียอีก หรือพูดง่ายๆ คือ ชนะใน 1 เกม มีผลต่อคะแนนที่ได้ไม่มากนัก (ไม่เกิน 5 คะแนน)
คะแนนที่ได้ มีค่าน้อยกว่าคะแนนจากเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ 2 เท่า , น้อยกว่าฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 5 เท่า และน้อยกว่าฟุตบอลเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้ายถึง 7 เท่า
พูดให้เห็นภาพอีกก็คือ แต่ละเกมในอาเซียน คัพ หากชนะคู่แข่งจำนวนคะแนนที่ได้ต่อเกมก็จะไม่มากนักเพราะคู่แข่งส่วนมากจะมีคะแนนอันดับโลกต่ำกว่าไทย แต่ขณะเดียวกันหากแพ้หรือเสมอก็จะเสียคะแนนด้วย แต่หากหวังจะทำอันดับโลกจากรายการนี้ ควรแพ้ให้น้อยที่สุดและชนะคู่แข่งให้มากที่สุดเพื่อเก็บคะแนนในแต่ละนัด
แต่การคว้าแชมป์รายการนี้ ต่อให้มีผลงานชนะรวดทั้ง 8 เกม ก็จะได้คะแนนที่มากกว่าการชนะในศึกเอเชี่ยน คัพ รอบสุดท้าย 1 นัด เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปัจจุบัน ทีมไทยมีอันดับโลกอยู่ที่ 111 และจะอยู่ในอันดับเดิมต่อไปหลักจบฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2022 ค่อนข้างแน่นอน