"การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกกับ โปรตุเกส เป็นความฝันที่ยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของผม ผมโชคดีที่ผ่านการคว้าแชมป์ระดับนานาชาติมามากมาย แต่การพาประเทศของผมไปมีชื่ออยู่บนจุดสูงสุดของโลกคือความฝันที่ยิ่งใหญ่มาตลอด"
"ผมสู้เพื่อสิ่งนี้ ผมทุ่มเทอย่างหนักเพื่อความฝัน ผมทุ่มเททุกอย่างตลอดการลงเล่นฟุตบอลโลก 5 ครั้งในช่วงเวลา 16 ปี เคียงข้างเพื่อนร่วมทีมที่ยอดเยี่ยมและกำลังใจจากชาวโปรตุเกสนับล้านคน ผมเต็มที่ทุกครั้งในสนาม ผมไม่เคยหันหลังให้กับการต่อสู้ ผมไม่เคยยอมแพ้กับความฝัน แต่เป็นเรื่องโชคร้ายที่ความฝันได้จบลงแล้ว"
โรนัลโด้ ยังกล่าวถึงข่าวลือต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังถูกลดบทบาทเป็นตัวสำรองในทีมชาติ โดยเขาอ้างว่าสื่อมักเขียนข่าวเกินความจริงและเขาก็ขอปฏิเสธ
"มันไม่คุ้มที่จะตอบโต้ตอนผมกำลังอารมณ์ไม่ดี แต่ผมแค่อยากให้ทุกคนรู้ว่ามีคนพูดถึงผมมาก และมีการสร้างกระแสข่าวขึ้นมามากมาย แต่การทุ่มเทเพื่อ โปรตุเกส สำหรับผมไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป ผมต่อสู้เพื่อเป้าหมายและไม่เคยคิดหันหลังให้กับเพื่อนร่วมทีมกับประเทศบ้านเกิด"
"ผมไม่มีอะไรให้พูดมากไปกว่านี้แล้ว ผมขอขอบคุณโปรตุเกส ขอบคุณกาตาร์ ความฝันยังคงสวยงามตราบเท่าที่มันยังคงอยู่ มันถึงเวลาสำหรับการเป็นผู้ส่งต่อที่ดีและปล่อยให้ทุกคนได้ทำตามเส้นทางของตัวเอง" โรนัลโด้ กล่าวปิดท้าย
อย่างไรก็ดี ในนามทีมชาติของ โรนัลโด้ ผ่านการคว้าแชมป์ ยูโร 2016 และ เนชั่นส์ลีก 2019 โดยเขายังมีสถิติส่วนตัวเช่นยิงประตูกับทีมชาติมากที่สุด (118 ประตู) และ ลงสนามกับทีมชาติมากสุด (196 นัด)
หลังจากนี้ โรนัลโด้ เตรียมพิจารณาหาสังกัดใหม่ต่อไปในวัย 37 ปี หลังเพิ่งยกเลิกสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ตอนนี้เขาเป็นนักเตะไร้สโมสร
