การจุดพลุแฟร์ในสนามฟุตบอลถือเป็นเรื่องต้องห้าม โดยเฉพาะกับฟุตบอลไทยลีกที่มีระเบียบเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เพราะควันจากพลุแฟร์สร้างความอันตรายให้กับผู้คนและอาจรวมไปถึงนักฟุตบอล หากการจุดพลุแฟร์เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน
ช่วงหลังการจุดพลุแฟร์ในการแข่งขันฟุตบอลรีโว ไทยลีก เกิดขึ้นน้อยมาก เพราะหลายทีมได้ขอความร่วมมือจากแฟนบอล ซึ่งได้การตอบสนองที่ดี
อย่างไรก็ตามในการแข่งขันฟุตบอลรีโว ไทยลีก 2022-23 คู่ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ พีที ประจวบ ที่สนามธันเดอร์โดม เมื่อวันที่ 23 ต.ค.65 ภายหลังจากที่ เมืองทอง ชนะ 5-0 และทำให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ตัดสินใจคุมทีมต่อ
ระหว่างที่นักเตะและทีมงานได้เดินขอบคุณแฟนบอลรอบสนาม เมื่อมาถึงบริเวณอัฒจรรย์ฝั่งทิศใต้ ปรากฎว่ามีแฟนบอลรายหนึ่งจุดพลุแฟร์ต่อหน้าต่อตานักเตะและทีมงานรวมถึงผู้บริหารทีม ซึ่งดูจากท่าทางเหมือนเตรียมใจรับสภาพกับบทลงโทษที่จะตามมา
ล่าสุดคณะพิจารณาวินัย มารยาท มีการประชุมตั้งแต่วันอังคารที่ 25 ต.ค.65 ได้ส่งหนังสือลงโทษ เมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นที่เรียบร้อยแล้วเพื่อทำการแจ้งโทษ โดยมีมติปรับเงิน เมืองทอง ยูไนเต็ด 30,000 บาท ตามความผิดข้อ 4.3 วรรค 1 กองเชียร์กระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน ได้แก่ การจุดพลุ หรือจุดประทัด หรือจุดไฟเย็น หรือจุดวัตถุอื่นจนเกิดเป็นควัน หรือจุดพลุบริเวณที่ว่างด้านหลังของอัฒจันทร์ ทั้งก่อน หรือระหว่าง หรือหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000-60,000 บาท
โดย เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงการณ์บทลงโทษให้แฟนบอลได้รับทราบ พร้อมระบุด้วยว่าจะพิจารณาบทลงโทษแฟนบอลที่จุดพลุแฟร์ในเกมดังกล่าว เพราะสร้างความเดือดร้อนให้แฟนบอลและสโมสรได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง และถูกปรับเงิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยแจ้งเตือนแล้วว่าหากกระทำความผิด จะมีโทษห้ามเข้าชมเกมในสนามจนจบฤดูกาล
ทั้งนี้ มีข้อมูลนับเฉพาะ ไทยลีก ตั้งแต่ปี 2560 ระบุว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด ไม่ใช่ทีมที่ถูกลงโทษจากการที่แฟนบอลจุดพลุในสนามมากที่สุดแต่อย่างใด ทว่าส่วนใหญ่จะถูกลงโทษจากการเขียนป้ายข้อความที่ไม่เหมาะสมในสนามมากกว่า