News

ปัจจุบันทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดยู-23 ยังคงอยู่ในระหว่างการสรรหากุนซือคนใหม่ โดยปัจจุบัน นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ ได้ยืนยันการทำหน้าที่กับทีมชุดใหญ่เพียงชุดเดียว ทำให้การบริหารงานของทีมชาติไทยชุดยู-23 ตกอยู่กับสมาคมกีฬาฟุตบอลเต็มรูปแบบ

ปัจจุบัน พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ยืนยันว่าจะหากุนซือที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่โดยเร็วที่สุด 

 


หนึ่งในกุนซือที่เคยพาทีมชาติไทยชุดยู-19 เอาชนะทีมชาติเกาหลีใต้ และเสมอ ทีมชาติญี่ปุ่น ในปี 2011 อย่าง สมชาย ชวยบุญชุม ที่ในปัจจุบันยังว่างงานหลังเพิ่งแยกทางกับ ตราด เอฟซี ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า พร้อมที่จะทำหน้าที่กับทีมชาติไทยชุดยู-23 ในตำแหน่งเฮดโค้ชที่ยังว่างอยู่  พร้อมกับได้เปิดเผยถึงประเด็นนี้ว่า

“ผมพูดมาตลอดว่าอยากทำทีมชาติไทย ผมมั่นใจว่าทำได้ แต่เขาไม่มองเรา ผมว่าฝีมือของผม สามารถคุมทีมรุ่น 19 ปี และ 23 ปี ได้แน่”

“ผมมองว่าชุด ยู-19 จนถึง ยู-23 ต้องทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ผมมีวิธีสอนเด็กเหล่านี้ และรู้ว่าต้องทำยังไงให้พวกเขาเก่งขึ้น”

“เมื่อก่อนผมจำวิธีทำบอลเด็กมาจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ผมสงสัยมาตลอดทำไมพวกเขาถึงเก่ง ซึ่งผมได้ค้นพบว่า บอลเด็กต้องมีวินัยและความฟิตเป็นตัวนำ เราต้องเคี่ยวเข็ญให้เด็กมีความฟิต วิ่งไล่บอลได้ตลอดเกม มันต้องสร้างความฟิตตั้งแต่เด็ก”

“นอกจากนี้ต้องหาผู้จัดการทีมที่บ้าฟุตบอลมาทำงาน เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญของการทำฟุตบอล ตอนนี้ผมยังว่างงาน และขอเลือกทางเลือกให้ทีมชาติไทย”

สำหรับทีมชาติไทย ชุดยู-23 จะมีภารกิจสำคัญในปี 2023 คือ การแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ 2023 ในเดือน พ.ค., เอเชี่ยน เกมส์ 2023 เดือน ต.ค. และฟุตบอลยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบคัดเลือก ที่คาดว่าจะจัดการแข่งขันในเดือน พ.ย.

 

ที่มา :

https://www.khaosod.co.th/sports/news_7231111

Author

วิรวิชญ์ เจริญเชื้อ

The handsome boy like Jackson Wang and the best singer of Main Stand.

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff