News

ฟิล บราวน์ ชายที่ยังรักฟุตบอล และมุ่งมั่นพานักเตะพาร์ทไทม์ ขึ้นไปเล่นลีกอาชีพให้ได้ในอนาคต

“เวลาไปสัมภาษณ์งาน ผู้คนมักอยากได้ยินคำว่า ‘ปรัชญา’ เสมอ ผมชื่อฟิล ลูกสาวผมชื่อโซฟี…มันก็เกี่ยวโยงกันอยู่นิดๆ นะ”

 

ฟิล บราวน์ พูดแบบทีเล่นทีจริง ก่อนจะหัวเราะเบาๆ แบบคนที่ผ่านโลกมาเยอะและยังไม่ทิ้งอารมณ์ขันประจำตัว

ตลอดเส้นทางนักเตะที่ยืดยาวกว่า 650 นัดในฐานะแบ็กขวา ฟิล บราวน์ได้เห็นโลกฟุตบอลในแทบทุกมุม ทั้งช่วงเวลาบนลีกสูงสุดและวันที่ต้องกัดฟันสู้ในระดับล่างสุดของระบบฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงการเดินทางไกลไปคุมทีมไฮเดอราบาดในอินเดียหนึ่งปีเต็ม ประเทศที่ให้อะไรเขามากกว่าฟุตบอล ทั้งวัฒนธรรม ชีวิตใหม่ และมุมมองที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่

และถึงแม้ปีเตอร์โบโร่จะไม่ได้มีแสงแดดจัด อากาศร้อนจัด หรือถนนคึกคักแบบอินเดีย แต่มันกลับกลายเป็นจุดหมายต่อไปของเขาในวัย 66 ปี เส้นทางที่คนอื่นอาจมองว่าเป็นการก้าวถอยหลัง แต่สำหรับบราวน์ นี่คือการเริ่มต้นอีกครั้ง

หลังเคยสร้างประวัติศาสตร์พา ฮัลล์ ซิตี้ ทะยานสู่ พรีเมียร์ ลีก ความสำเร็จที่ยังติดตาแฟนบอลเจ้าเสือเสมอมา... วันนี้เขายืนอยู่ข้างสนามลินคอล์น โร้ด สนามเหย้าความจุ 2,300 ที่ฟีลแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากโอลด์แทรฟฟอร์ด เอมิเรตส์ หรือแอนฟิลด์ที่เขาเคยคุ้นเคย แต่เขายืนยันว่าไม่ได้รู้สึกว่าตัวเอง “เล็กลง” ไปจากวันนั้นเลย

“ถ้าถามว่าผมอยากกลับมาระดับนี้ไหม? ก็คงตอบตามตรงว่า ‘ไม่’ แต่ฟุตบอลมันขับเคลื่อนชีวิตเราในแบบที่เราไม่คาดคิด…และตอนนี้ผมก็อยู่ตรงนี้ ทำงานกับหนึ่งในประธานสโมสรที่สนับสนุนผมที่สุดเท่าที่เคยเจอมา”

บราวน์รู้ดีว่างานนี้ไม่มีเวทมนตร์ ไม่มีงบก้อนโต ไม่มีซูเปอร์สตาร์ แต่มีอย่างหนึ่งที่เขามีเหนือกว่าสิ่งอื่นประสบการณ์เต็มกระเป๋าที่สั่งสมมาทุกระดับของเกม

“คนอาจจำได้ว่าผมพา ฮัลล์ ขึ้นพรีเมียร์ลีก แต่ถ้าผมทำบางสิ่งที่มีความหมายกับปีเตอร์โบโร่ สปอร์ตได้ ผมมั่นใจว่านั่นจะเป็นความสำเร็จที่มีค่ามหาศาลไม่แพ้กัน”

เป้าหมายแรกของเขาชัดเจน พาทีมอยู่รอดในเนชันแนลลีกนอร์ธ “ถ้าเราผ่านปีนี้ไปได้ ปีหน้าค่อยว่ากันมีโอกาสเลื่อนชั้นไหม? จะพาสโมสรไปต่อได้แค่ไหน? ทุกอย่างเริ่มจากการอยู่รอดก่อนทั้งนั้น”

 

ชีวิตเล็กๆ ที่สนามเล็กๆ แต่เติมเต็มหัวใจได้แบบที่พรีเมียร์ลีกให้ไม่ได้

สนามลินคอล์น โร้ดอาจเล็ก แต่สำหรับบราวน์ที่ต้องขับรถจากบ้านในคอตส์โวลด์สัปดาห์ละสองครั้งเพื่อซ้อม เขาบอกว่าตอนนี้ เขามี “ความสุขที่สุดในชีวิตฟุตบอล” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เหตุผลหนึ่งคือ เขาเพิ่งมีครอบครัวใหม่เมื่อไม่นานนี้ และนั่นทำให้เขาเห็นคุณค่าของ “สมดุลชีวิต” มากกว่าทุกช่วงเวลาในอาชีพ

“ผมไม่เคยมีสมดุลของชีวิตที่ดีเลย ตอนเป็นนักเตะก็ไม่ ตอนเป็นโค้ชก็ไม่…แต่ตอนนี้ ผมคิดว่าผมเริ่มมีมันแล้ว และมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้จัดการทีมที่ดีขึ้นด้วย”

บราวน์ ยังเล่าว่า ในระดับที่ 6 เขาต้องปรับวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพราะนี่คือทีมพาร์ทไทม์ - ผู้เล่นหลายคนทำงานทั้งวันก่อนมาซ้อม

“คุณต้องเข้าใจผู้เล่นมากกว่าที่เคยเข้าใจในระดับอาชีพ พวกเขามีงานประจำ มีภาระชีวิต ฟุตบอลคืองานที่สองของพวกเขา ผมต้องเข้าใจทั้งหมดนี้ เพื่อดูแลให้พวกเขาสามารถเล่นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้”

และในการซ้อมมื้อแรกกับทีมใหม่ของเขา จบลงที่เขาโค้ชหนักจนทำผู้เล่นเจ็บไปสามคน “ผมเร่งเครื่องมากไปหน่อย โดยไม่รู้ว่าทั้งวันพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง นั่นทำให้ผมเรียนรู้ทันทีว่า ระดับนี้ต้องใช้ความเข้าใจมากกว่าใช้พลัง”

 

ชัยชนะเล็กๆ ที่มีความหมายใหญ่

ชัยชนะนัดแรกของบราวน์กับปีเตอร์โบโร่ สปอร์ต เกิดขึ้นเหนือทีมเก่าของเขา คิดเดอร์มินสเตอร์ แฮร์ริเออร์ส ทีมที่เพิ่งไล่เขาออกแม้จะพาทีมเข้ารอบเพลย์ออฟ 

“มันเป็นความรู้สึกที่…พูดง่ายๆ ว่าพอใจมาก” เขาเล่าพร้อมยิ้มมุมปาก

ล่าสุดพวกเขาเพิ่งชนะ อ็อกซ์ฟอร์ด ซิตี้ 2-1 จากลูกโหม่งของเบน เบเรสฟอร์ด คว้าตั๋วเข้ารอบสามเอฟเอ โทรฟี รายการที่ทีมเคยไปไกลถึงรอบก่อนรองฯ เมื่อซีซั่นที่แล้ว

 

ไฟอาชีพผู้จัดการทีมยังไม่ดับ และนี่อาจไม่ใช่บทสุดท้าย

บราวน์เล่าย้อนถึงวันที่บรูซ ริออค ผู้จัดการทีมระดับตำนานของโบลตัน เป็นคนแรกที่ผลักเขาเข้าสู่งานโค้ช

“เขาบอกว่า อย่าหยุดเล่นฟุตบอลเมื่อเลิกเล่น เพราะฟุตบอลยังต้องการนาย ตอนนั้นผมไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเขาหมายถึงอะไร เขาพูดถึงตัวตนของผม”

ตั้งแต่วันนั้น เขาไปสอบใบประกาศผู้ฝึกสอนทันที และเริ่มชีวิตอีกแบบ จากนักเตะสู่คนคุมทีม

หลายสิบปีผ่านไป เขายังได้คำแนะนำดีๆ จากผู้ใหญ่ในวงการ เช่น เดวิด เพลต ที่ถามเขาว่า “รับมือกับผู้เล่นพาร์ทไทม์ยังไง?” ก่อนจะแชร์เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาเคยใช้ในยุคเริ่มต้นอาชีพ

บราวน์ บอกว่า คำแนะนำเหล่านี้มีค่าสำหรับเขามาก “ผมยังไม่อยากให้ที่นี่เป็นจุดจบ ผมอยากให้มันเป็นเวทีสำหรับกลับสู่ฟุตบอลลีกอีกครั้ง”

ในวัย 66 ปี เขาไม่ได้วิ่งเร็วเหมือนเดิม แต่ไฟ…ยังแรงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และปีเตอร์โบโร่ สปอร์ต อาจเป็นจุดเริ่มต้นของบทใหม่ ไม่ใช่บทอำลา

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย