ผู้ตัดสินชื่อดังชาวอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับ BBC ถึงเรื่องราวชีวิตการทำหน้าที่เป็นตุลาการตัดสินเกมลูกหนัง ที่ผ่านสังเวียนระดับโลกมาอย่างโชกโชน และถูกวิจารณ์นับครั้งไม่ถ้วน
เทย์เลอร์ วัย 46 ปี ประกอบอาชีพเป็นผู้ตัดสินเกมฟุตบอลมานาน ตั้งแต่ปี 2002 สั่งสมประสบการณ์และไต่ขึ้นมาเป็นผู้ตัดสินชั้นแนวหน้าของอังกฤษ จนได้รับหน้าที่เป่านกหวีดในเกม พรีเมียร์ ลีก, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก, ยูโรป้า ลีก รวมถึง ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
▪︎ ใครที่ดูฟุตบอลคงรู้กันดีว่า เทย์เลอร์ คือหนึ่งในผู้ตัดสินที่ถูกวิจารณ์เรื่องการทำหน้าที่อย่างหนักหน่วง ตัดสินค้านสายตาหลายจังหวะ โดยเฉพาะเกมที่ โรม่า แพ้ เซบีญ่า นัดชิง ยูโรป้า ลีก ปี 2023 ที่เขาแจกใบเหลืองถึง 13 ใบ ถูก โชเซ่ มูรินโญ่ จวกยับ แถมยังโดนแฟนบอล "หมาป่า" ตามสาปส่งถึงสนามบิน
เทย์เลอร์ ยอมรับว่าเหตุการณ์นั้นทำเอาเขาและครอบครัวต้องพยายามรับมือกับเสียงด่าทออยู่นาน และถูกแฟนบอลโยนความผิดเพื่อเป็นการระบาย "ผมไม่รู้ว่าทำไมสิ่งนี้ถึงยอมรับกันได้ ผมมั่นใจว่าคนเหล่านั้นคงไม่อยากให้ใครมาพูดแบบนี้กับตัวเองหรือลูกๆ ของพวกเขาหรอก"
▪︎ ขณะเดียวกัน เทย์เลอร์ ยังบอกว่าฟุตบอลยุคปัจจุบัน ที่หลายทีมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อชนะคู่แข่งให้ได้ รวมถึงการถูกวิจารณ์จากแฟนบอล กรรมการรุ่นเก่า และสื่อ ทำให้ผู้ตัดสินหลายคนตกอยู่ในความเครียด ต้องเข้ารับการบำบัดกับจิตแพทย์ ส่วนตัวเขาแก้ปัญหาด้วยการไม่เล่นโซเชียลฯ เพื่อจะได้มีสมาธิกับงานของตัวเอง ไม่ต้องสนสิ่งรบกวนภายนอก
"เมื่อไหร่ที่คุณถูกวิจารณ์ว่าคุณไม่เก่ง ไม่ว่าจากสื่อ นักวิจารณ์ หรืออดีตผู้ตัดสินอยู่เรื่อยๆ สุขภาพจิตของคุณย่อมได้รับผลกระทบ" เทย์เลอร์ เผย "ทุกสุดสัปดาห์ คุณสามารถไปที่สวนสาธารณะทั่วสหราชอาณาจักร คุณจะเห็นผู้ปกครองยืนตะโกนด่าผู้ตัดสินเยาวชนด้วยถ้อยคำหาบคาย นั่นไม่ใช่แวดล้อมที่จะช่วยพัฒนาผู้คนให้ดียิ่งขึ้น ผมเลยไม่เข้าใจว่าทำไมสิ่งนี้ถึงถูกยอมรับได้"
▪︎ เทย์เลอร์ บอกด้วยว่าผู้ตัดสินทุกคนสามารถถูกตรวจสอบได้ แต่สุดท้าย การตัดสินใดๆ ที่เกิดขึ้นจากพวกเขา อาจไม่ตรงใจกับสิ่งที่แฟนบอลคิด ด้วยการมองเกมกันคนละแบบ "ผมไมได้บอกว่าไม่มีใครควรถูกตรวจสอบ แต่ทุกคนที่ดูฟุตบอลมักมองเกมในมุมของทีมตัวเองเสมอ และผลการแข่งขันกับบทสรุปของฤดูกาลนั้นมีหลายแง่มุม"
"คำโต้เถียงที่บอกว่าการตัดสินใจเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลให้ใครบางคนทั้งฤดูกาล ข้อเท็จจริงมันไม่ใช่แบบนั้น เพราะมันมีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฤดูกาลนั้น ที่อาจส่งผลต่อการแข่งขันที่เกิดขึ้นทั้งหมด สิ่งที่ผมอยากบอกคือ คุณสามารถโดนตรวจสอบ ถูกวิจารณ์ได้ แต่มันไม่มีความสมดุลเลย ทุกวันนี้ไม่มีใครพูดถึงด้านดีๆ ของสิ่งที่เกิดขึ้นบ้างเลย"
▪︎ นอกจากนี้ การเข้ามาของ VAR ยังทำให้แฟนบอลเกิดความคาดหวังว่าการตัดสินเกมในสนามต้องถูกต้อง 100% สมบูรณ์แบบ แต่ในมุมมองของ เทย์เลอร์ เทคโนโลยีอาจเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระผู้ตัดสิน แต่ก็ใช่ว่าจะถูกต้องทั้งหมด เช่นเดียวกับการผู้ตัดสินที่เป็นมนุษย์ ที่ย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ จนไม่อยากให้แฟนบอลคาดหวังว่าทุกคนจะทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบ
"ในความจริงแล้ว ความสมบูรณ์แบบมันไม่มีจริงหรอก เรามักคาดหวังให้ผู้ตัดสิน ตัดสินได้อย่างถูกต้อง และมันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราในการพูดถึงความกลัวที่จะล้มเหลว หรือการทำผิดพลาด"
"VAR มันทำให้เกิดความคาดหวังในเรื่องความสมบูรณ์แบบ โดยคิดว่ามันจะแก้ปัญหาของทุกคนได้แน่นอน เปรียบเสมือนความสมบูรณ์แบบ แต่ความจริงคือคนเหล่านั้นคิดผิดไปเยอะมาก ในหนึ่งสัปดาห์ จะมีคนบอกว่าเราไม่อยากได้ VAR เพราะมันทำให้เกิดการโต้แย้ง แต่อีกสัปดาห์ก็จะมีคนบอกว่า ทำไมไม่ให้ VAR เข้ามาแทรกแซงจังหวะนี้ ?"
"ทุกคนต้องตัดสินใจให้ดีว่าต้องการอะไรกันแน่ คุณไม่สามารถบอกได้ว่าเราไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวเพราะมันทำลายความลื่นไหลของเกม แต่อีกสัปดาห์ก็มาบอกว่าน่าทุเรศจริงๆ ที่ไม่ให้ VAR เข้ามาแทรกแซงตรงนี้ บางครั้งเราต้องออกจากโลกที่ไร้ทิศทาง และคิดอย่างมีเหตุผลกันหน่อยว่าเทคโนโลยีมีไว้เพื่ออะไร ?"
▪︎ ดังนั้น สิ่งที่ เทย์เลอร์ อยากบอกแฟนบอลทุกคนก็คือ อย่าคาดหวังถึงการตัดสินที่ถูกต้อง สมบูรณ์แบบ 100% จากผู้ตัดสินที่เป็นมนุษย์ หรือกระทั่ง VAR เพราะทุกสิ่งล้วนเกิดความผิดพลาดได้
สุดท้าย เทย์เลอร์ ที่เป่าเกม พรีเมียร์ ลีก มา 17 ฤดูกาล ยืนยันว่างานผู้ตัดสิน คืองานที่ดีที่สุดในโลกสำหรับเขา "เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว นี่คือหนึ่งในงานที่ดีที่สุดในโลก ถ้าถามว่าผมจะทำหน้าที่อีกนานแค่ไหน ผมยังตอบไม่ได้ สัปดาห์หน้าผมจะอายุ 47 แล้ว ถือว่าแก่แล้วสำหรับใครก็ตามที่ทำหน้าที่ในเกมระดับนี้ คอยวิ่งไล่คนที่อายุน้อยกว่าคุณ แต่เป้าหมายหลักก็คือทำให้แน่ใจว่าเราจะมีทีมผู้ตัดสิน 2 ทีม ไปอยู่ใน ฟุตบอลโลก ปีหน้าที่อเมริกา"