ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ อุสมาน เดมเบเล่ ก้าวขึ้นไปรับรางวัลบัลลงดอร์ ประจำปี 2025 อย่างสง่างาม อดีตเพื่อนร่วมทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง อย่าง เนย์มาร์ ที่เคยถูกมองว่าเกิดมาเพื่อครอบครองรางวัลนี้ กลับต้องรักษาอาการบาดเจ็บเป็นครั้งที่สามของปี
และในขณะที่เดมเบเล่เดินขึ้นเวทีพร้อมเสียงปรบมือ เนย์มาร์เองก็กำลังแข่งขันโป๊กเกอร์ออนไลน์อยู่ที่บราซิล เขาจบอันดับสอง รับเงินรางวัลกว่า 70,000 ปอนด์ เป็นชัยชนะเล็ก ๆ ของชายที่ดูเหมือนจะชนะบนโต๊ะพนันได้ง่ายกว่าบนสนามฟุตบอลในตอนนี้
การกลับมาที่สโมสรบ้านเกิดอย่าง ซานโต๊ส เมื่อเดือนมกราคมควรจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ ทั้งเพื่อฟื้นฟูความรักในเกมลูกหนัง และล้างภาพล้มเหลวหลังจากช่วงเวลาที่ไม่ราบรื่นกับ เปแอสเช และ อัล ฮิลาล แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปอย่างที่หวัง
ตลอดฤดูกาล เนย์มาร์พลาดการลงสนามไปเกือบครึ่ง และเมื่อได้ลง เขาก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป จากนักเตะที่เคยเฉิดฉายท้าชน ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กลับกลายเป็นผู้เล่นที่มีชื่อในตารางสถิติเพียงอันดับ 50 ในด้านการเลี้ยงบอลต่อเกม ตามข้อมูลจาก Sofascore
9 ประตูที่เขาทำได้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเกมกับทีมจากดิวิชั่นล่างของบราซิลในศึกชิงแชมป์รัฐเซาเปาโล เป็นตัวเลขที่แทบไม่สะท้อนความเป็น เนย์มาร์ ในแบบที่โลกเคยรู้จัก
ขณะเดียวกัน คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือทีมชาติบราซิลก็ยังคงยืนยันว่าเนย์มาร์มีเวลาพอ ที่จะกลับมาให้ทันฟุตบอลโลก 2026
"สิ่งสำคัญคือเขาพร้อมในเดือนมิถุนายน ไม่ใช่เดือนตุลาคมหรือตอนนี้" อันเชล็อตติกล่าวกับ L'Équipe
แต่คำพูดเหล่านั้นกลับกลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อเนย์มาร์ออกมาแย้งว่าเขาไม่ได้ถูกดร็อปเพราะเรื่องความฟิต แต่เพราะเหตุผลทางเทคนิคล้วน ๆ จนทำให้แฟนบอลบราซิลตั้งคำถามว่า ถ้านักเตะที่แบกความหวังทั้งชาติถูกมองข้ามเพราะแท็กติก มันต้องมีอะไรผิดไปแน่
ตำนานอย่าง คาฟู เองก็พูดตรง ๆ ว่า "ถ้าเนย์มาร์ไม่ถูกเลือกเพราะเหตุผลทางเทคนิค แสดงว่ามีบางอย่างไม่ปกติจริง ๆ"
และเสียงของแฟนบอลก็ดูแตกออกเป็นสองฝั่ง จากผลสำรวจของ Datafolha พบว่า 48% ยังอยากเห็นเนย์มาร์ในฟุตบอลโลก แต่มีถึง 41% ที่ไม่เห็นด้วย
ในสนาม เนย์มาร์ดูหงุดหงิดมากกว่าที่เคย มีปากเสียงกับแฟน ๆ หลายครั้ง และถึงกับร้องไห้กลางสนามหลังจากพ่าย วาสโก ดา กามา 6-0 อันเป็นความพ่ายแพ้ที่หนักที่สุดในชีวิตค้าแข้งของเขา
พ่อของเขาออกมาปกป้อง โดยบอกว่า "เนย์มาร์แค่ต้องการห้าเดือนเพื่อฟื้นฟูร่างกาย" แต่คำพูดนั้นกลับยิ่งจุดไฟให้แฟนบอลซานโต๊สไม่พอใจ เพราะทุกคนอยากเห็นเขาสู้ ไม่ใช่พัก
ถึงอย่างนั้น ความหวังยังไม่หมดเสียทีเดียว เพราะอดีตดาวยิงระดับตำนานอย่าง โรนัลโด้ นาซาริโอ ยังเชื่อว่าเนย์มาร์จะกลับมาได้เหมือนที่เขาเคยทำในปี 2002
"ไม่มีใครแทนที่เนย์มาร์ได้ เขาเป็นผู้เล่นที่พิเศษจริง ๆ คนอาจคิดว่าเขาไม่ทุ่มเท แต่ใครที่เคยผ่านอาการบาดเจ็บหนักจะรู้ดีว่าการกลับมามันยากแค่ไหน"
ปัจจุบัน เจ้าชายแห่งซานโต๊ส ยังไม่ได้ลงเล่นให้ทีมชาติเลยภายใต้ยุคของอันเชล็อตติ และถูกตัดชื่อจากทีมชุดล่าสุดที่จะลงอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้และญี่ปุ่น นับเป็นเวลากว่าสองปีแล้วนับจากเกมสุดท้ายที่เขาใส่เสื้อบราซิล
หากเขายังไม่สามารถกลับมาฟิตได้ภายในต้นปีหน้า เนย์มาร์จะเหลือโอกาสเพียงสองนัดในเดือนมีนาคม 2026 เพื่อพิสูจน์ตัวเองก่อนฟุตบอลโลก โอกาสสุดท้ายของชายที่ครั้งหนึ่งทั้งประเทศเคยเรียกว่า "เจ้าชายผู้สืบทอดบัลลังก์ของเปเล่"
"เวลาของเขากำลังจะหมด" ทอสเตา อดีตแชมป์โลกปี 1970 เขียนไว้ในคอลัมน์ของ Folha de São Paulo "แม้แต่ซูเปอร์สตาร์ก็ต้องพิสูจน์ว่าตัวเองยังคู่ควรกับเสื้อตราแซมบ้า"
คำถามที่บราซิลยังไม่มีคำตอบในตอนนี้คือ เนย์มาร์ยังเหลือเวทมนตร์นั้นอยู่ไหม ? หรือว่าจะกลายเป็นแค่ตำนานอีกบทหนึ่งของเกมที่เขารักมากที่สุด
เรื่อง : ชินภัทร มุทะสัง นักศึกษาฝึกงาน
