ในฤดูกาล 2024-25 ที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่า ฟรานเซสโก้ อาแซร์บี้ ปราการหลังวัยเก๋าของอินเตอร์ มิลาน ถือเป็นกำลังสำคัญของสโมสร ทั้งในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และการไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้สุดท้ายจะพ่ายเปแอสเช 0-5 ก็ตาม
แต่บางท่านอาจยังไม่ทราบว่ากว่าที่ ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ จะมาถึงจุดนี้ เขาเคยต้องต่อสู้กับโรคมะเร็งถึงสองครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงปรีซีซั่นก่อนเปิดฤดูกาล 2013-14 กับ ซาสซูโอโล โดยผลการตรวจเลือดที่ผิดปกติเผยให้เห็นเนื้องอกที่อัณฑะ ซึ่งกองหลังรายนี้ต้องเข้ารับการผ่าตัดนำเนื้อร้ายออก ก่อนจะกลับมาซ้อมได้ตามปกติ
ทว่าในเดือนธันวาคม ปีเดียวกัน หลัง ฟรานเชสโก้ อาแซร์บี้ ลงเล่นให้ซาสซูโอโล ไปครึ่งฤดูกาล โรคมะเร็งที่จุดเดิมก็กลับมาทักทายเขาอีกครั้ง โดยถูกตรวจพบฮอร์โมนผิดปกติในการทดสอบสารกระตุ้น ซึ่งภายหลังยืนยันว่าเกิดจากอาการป่วย ไม่ใช่สารต้องห้าม
แต่ครั้งนี้เขาต้องเข้ารับเคมีบำบัดเป็นเวลาสามเดือน ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม ถึง 14 มีนาคม 2014 แต่ก็ยังฝึกซ้อมกับทีมต่อไป แม้จะไม่ได้ลงสนามในช่วงที่เหลือของฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส อดีตกองหน้าเพื่อนร่วมทีมที่ ซาสซูโอโล ของ ฟรานเซสโก้ อาแซร์บี้ เปิดเผยว่าหลังจาก ฟรานเซสโก้ อาแซร์บี้ รู้ตัวว่าป่วยรอบที่สอง เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนอารมณ์ร้อนกลายเป็นคนที่คอยสร้างแรงบันดาลใจและถ่ายทอดแง่มุมชีวิตให้กับเพื่อนร่วมทีม ถึงขั้นถูกยกให้เป็นแบบอย่าง
“ตอนที่อาแซร์บี้รู้ว่าตัวเองป่วย เขากลายเป็นบทเรียนชีวิตให้พวกเราทุกคน เขาไปรับคีโมแล้วกลับมาวิ่งในสนามซ้อมต่อ มันแทบจะเกินมนุษย์ หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน และกลายเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับทุกคนในทีม” อันโตนิโอ ฟลอโร ฟลอเรส กล่าวผ่านพอดแคสต์ DoppioPasso
ปัจจุบัน ฟรานเซสโก้ อาแซร์บี้ อายุ 37 ปี ลงเล่นให้ อินเตอร์ มิลาน ไปแล้ว 122 นัด ทำได้ 5 ประตู 5 แอสซิสต์จากตำแหน่งกองหลัง นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2022
