ท่ามกลางทีมระดับชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลกในศึกฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2025 ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เปแอสเช, อัล-ฮิลาล, พัลไมรัส, อินเตอร์ ไมอามี่ ฯลฯ
โอ๊คแลนด์ ซิตี้ ทีมจากประเทศนิวซีแลนด์ แชมป์โอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัยติดต่อกัน ตัวแทนจากทวีปโอเชียเนีย ถือว่าเป็นสโมสรที่หลายคนไม่ค่อยได้ยินชื่อบ่อยนัก ด้วยความนิยมของกีฬาฟุตบอลในโซนนั้น
แต่เรื่องที่น่าสนใจสำหรับสโมสรโอ๊คแลนด์ ซิตี้ คือจากทั้ง 32 สโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขัน ทีมนี้ไม่มีผู้เล่นคนใดเลยที่ประกอบอาชีพเป็นนักฟุตบอลเพียงอย่างเดียว นักเตะทุกคนล้วนแล้วแต่มีงานประจำทั้งสิ้น
ก่อนที่จะต้องลุยกลุ่ม C ดวลกับ บาเยิร์น มิวนิค, เบนฟิก้า และ โบค่า จูเนียร์ส Main Stand จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับทีมโอ๊คแลนด์ ซิตี้ ชุดนี้ให้มากขึ้น
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นว่าทีมโอ๊คแลนด์ ซิตี้ ชุดนี้เล่นฟุตบอลเป็นงานรอง นักเตะทุกคนมีงานหลักหรืองานประจำ ยกตัวอย่างเช่น นายหน้าอสังหาริมทรัพย์, นักเรียน, นักศึกษา, พนักงานขายเครื่องใช้ไฟฟ้า, คุณครู รวมถึง ช่างตัดผม
ส่งผลให้ในทัวร์นาเมนต์นี้โอ๊คแลนด์ ซิตี้ ไม่ได้ใช้นักเตะชุดที่ดีที่สุด เพราะบางคนใช้โควตาวันหยุดในงานประจำหมดไปแล้ว และหากหยุดเพื่อมาแข่งอีกจะไม่ได้รับเงินค่าจ้าง
โดย พอล โซซ่า กุนซือของทีมให้สัมภาษณ์ว่า “นักเตะทุกคนมีงานประจำที่ต้องทำควบคู่ไปกับการเล่นฟุตบอล”
“ทว่าพวกเขามีความทุ่มเทอย่างมากในการเล่นฟุตบอลนอกเวลางานของพวกเขา นักเตะบางคนต้องลางานประจำเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน ... ที่จริงแล้ว นักเตะบางคนไม่สามารถลางานเพื่อเข้าร่วมทั้งการแข่งขันโอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ ได้”
ด้านมาริโอ อิลิช กัปตันทีมกล่าวเสริมว่าตนเองมีงานประจำในแผนกขาย ของบริษัทน้ำอัดลมชื่อดัง และเขาจะได้ฝึกซ้อมฟุตบอลเพียงสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งเท่านั้น แถมยังเป็นเวลาหลังเลิกงานอีกด้วย
“ผมใช้วันหยุดประจำปีทั้งหมดสำหรับทริปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2025 ดังนั้นปีนี้ผมจะไม่ได้ไปเที่ยวกับสุดที่รักของผมแน่นอน”
ขณะที่กองหน้าของทีมอย่าง แองกัส คิลโคลลี เล่าถึงชีวิตประจำวันของนักฟุตบอลทีมโอ๊คแลนด์ ซิตี้ ผ่าน BBC ว่า
“เราทุกคนคุ้นเคยกับการออกจากบ้านในตอนเช้า ไปทำงานประจำ จากนั้นไปฝึกซ้อมฟุตบอลในตอนกลางคืน”
“ผมทำงานให้กับแบรนด์เครื่องมือไฟฟ้า เป็นแบรนด์ระดับโลก ผมบริหารทีมขายที่นั่น พวกเรายังมีเพื่อนร่วมทีมอีกหลายคนที่ทำงานด้านการขายเช่นกัน บางคนเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เป็นครู แล้วก็บางคนยังเป็นนักศึกษาอยู่ มันไม่ใช่เรื่องง่าย”
“แต่ก็เป็นสิ่งที่พวกเราทำกันมาตลอด เราเลยไม่รู้สึกว่ามันแตกต่างอะไร มันก็เหมือนกับการไปโรงเรียนแล้วก็ไปเล่นฟุตบอลหลังเลิกเรียนนั่นแหละ”
“แต่การมาแข่งขันครั้งนี้ ผมต้องลางานถึง 4 สัปดาห์ ซึ่งโควต้าของผมมันหมดไปแล้ว … เท่ากับว่าผมทิ้งเงินจากงานประจำมาเพื่อรายการนี้ ผมลาแบบไม่ได้ค่าจ้าง”
นอกจากนี้คาซาลส์ ชาวบาร์เซโลน่าที่เคยหันหลังให้วงการฟุตบอล แต่สุดท้ายมาอยู่ในทีมโอ๊คแลนด์ ซิตี้ ชุดนี้ด้วย ยังรู้สึกว่าการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ไม่ได้ลงเล่นเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังเล่นแทนใจนักฟุตบอลส่วนใหญ่ทั่วโลกที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะเข้าใกล้ระดับอาชีพ
“พวกเราเป็นตัวแทนของนักฟุตบอลประมาณ 95% จากทั่วทุกมุมโลก ถ้าเรายังคงซื่อสัตย์กับตัวตนของเราเอง ถ้าเรากล้าที่จะทำในสิ่งที่เชื่อ เราก็จะสามารถทำให้ผู้คนมากมายภูมิใจในตัวเรา ในฐานะสโมสรสมัครเล่นจากประเทศเล็ก ๆ กลางที่ห่างไกลของโลก”
คงไม่เกินจริงหากจะกล่าวว่าโอ๊คแลนด์ ซิตี้ คือบทพิสูจน์ชั้นยอดเรื่องความมุ่งมั่นและใจรัก สามารถนำพาคนธรรมดาให้ไปไกลกว่าที่คาดคิด
ในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและธุรกิจ ทีมเล็ก ๆ จากนิวซีแลนด์ทีมนี้เตือนเราว่าจิตวิญญาณของการเล่นฟุตบอลคือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และนั่นคือเรื่องราวที่คู่ควรแก่การจดจำ