ย้อนกลับไปในเดือนมีนาคม ปี 2022 หลังจากเกิดเหตุการณ์รัสเซียบุกยูเครน โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย เจ้าของเชลซี ณ ขณะนั้น ถูกรัฐบาลอังกฤษกล่าวหาว่ามีความสนิทชิดเชื้อกับ วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และบีบให้ "เสี่ยหมี" ต้องปล่อยมือจากเชลซี
กระทั่งในเดือนพฤษภาคม 2022 โรมัน อบราโมวิช ขายเชลซี ให้กับ ท็อดด์ โบห์ลี และกลุ่ม Clearlake Capital โดยนำเงิน 2,500 ล้านปอนด์ไปฝากไว้ในบัญชีธนาคารของอังกฤษที่ถูกอายัด เพื่อที่จะนำไปบริจาคให้กับองค์กรการกุศลที่ช่วยเหลือเหยื่อสงครามในยูเครน
อย่างไรก็ตามหลังผ่านมาแล้ว 3 ปี โรมัน อบราโมวิช ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรก สำหรับหนังสือ Sanctioned: The Inside Story of the Sale of Chelsea FC ที่เขียนโดย นิค เพียววัล ว่าเขาไม่คิดจะกลับไปเป็นเจ้าของสโมสรใดอีกแล้วบนโลกใบนี้ แต่จะเน้นไปที่การช่วยพัฒนาเด็ก ๆ และเยาวชน
โดยเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเชลซี และอนาคต โรมัน อบราโมวิช กล่าวว่า "บางทีสักวันหนึ่ง อาจจะมีโอกาสที่ผมจะได้ไปชมการแข่งขันและกล่าวคำอำลาอย่างเหมาะสมต่อหน้าแฟนบอล แต่ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"
"ผมไม่มีความสนใจที่จะมีบทบาทใด ๆ ในสโมสรฟุตบอล อย่างแน่นอน โดยเฉพาะบทบาทในระดับอาชีพ"
"บางทีอาจมีอะไรบางอย่างที่ผมจะช่วยเหลือได้ อย่างการสนับสนุนอคาเดมีหรือเยาวชน ให้โอกาสที่ดีกับคนที่มาจากพื้นเพที่ยากลำบาก หากมีโครงการที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ แต่ในเรื่องของการเป็นเจ้าของหรือบทบาทในระดับอาชีพกับสโมสร ผมจบกับสิ่งนั้นแล้วในชีวิตนี้"
นอกจากนี้อดีตเจ้าของเชลซี ยังกล่าวด้วยว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกรบกวนจากข้อกล่าวหาต่าง ๆ
"มีสุภาษิตรัสเซียโบราณว่า 'หมาเห่าก็เห่าไป แต่ขบวนคาราวานก็ยังเดินต่อ' ซึ่งมันก็ตรงกับสถานการณ์นี้"
"ไม่ว่าผมจะทำอะไร ผู้คนก็จะกล่าวหาผมว่ามีวาระซ่อนเร้นอยู่ดี ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ผมทำทั้งหมด ก็เพียงเพื่อพยายามช่วยเหลือ"
สำหรับ โรมัน อบราโมวิช เขาเทคโอเวอร์เชลซี มาด้วยเงิน 140 ล้านปอนด์ในปี 2003 ก่อนจะพลิกโฉม "สิงห์บลูส์" ให้กลายเป็นทีมระดับหัวแถว โดยกวาดแชมป์ไปทั้งหมด 21 รายการ ได้แก่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ยูโรปาลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์คัพ 1 สมัย, พรีเมียร์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย (โดยในปี 2010 เป็นครั้งแรกที่สโมสรคว้าดับเบิลแชมป์ลีกและเอฟเอ คัพในฤดูกาลเดียวกัน), ลีกคัพ 3 สมัย และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย
