ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 (ASEAN Mitsubishi Electric CupTM 2024) เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ณ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ทีมชาติไทย ทำเอาแฟนบอลใจหายใจคว่ำ หลังตกเป็นฝ่ายตามหลังเจ้าบ้านก่อน 0-2 แต่สามารถพลิกกลับมาแซงเอาชนะแบบสุดมันด้วยสกอร์ 4-2 ครองจ่าฝูงกลุ่ม A เก็บ 9 แต้มเต็ม
อย่างไรก็ตามประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจในเกมนี้คงหนีไม่พ้นจังหวะที่ วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ ตักบอลข้ามกองหลังให้ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ยิงประตูเข้าไปให้ทีมชาติไทยขึ้นนำ 3-2 เพราะกว่าที่ผู้ตัดสินจะเป่าให้เป็นประตูนั้นต้องเช็ค VAR อยู่นานสองนาน กินเวลาเกือบ 3-4 นาที และส่งผลให้ช่วงทดเวลาบาดเจ็บต้องบวกเพิ่มไปเบ็ดเสร็จแล้วราว 15 นาที
การตัดสินในจังหวะนั้นช้าเกินกว่าที่ควรจะเป็น มีสาเหตุมาจากอะไร ... ร่วมวิเคราะห์ไปพร้อมกันกับ Main Stand
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนครั้งที่ผ่าน ๆ มา ทางฝ่ายจัดการแข่งขันยังไม่เคยมีการใช้เทคโนโลยีช่วยตัดสิน แต่ในปีนี้สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) ได้ตัดสินใจนำ VAR เต็มรูปแบบเข้ามาใช้กับการแข่งขัน เพื่อยกระดับฟุตบอลอาเซียนให้เท่าทันสากล
เคียฟ ซาเมธ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน กล่าวถึงการนำ VAR มาใช้กับการแข่งขันฟุตบอลระดับอาเซียนตั้งแต่รุ่นเยาวชนจนถึงทีมชาติชุดใหญ่ว่า "AFF เชื่อว่า VAR กำลังปรับเปลี่ยนโฉมหน้าของฟุตบอล และได้กลายเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่สุดที่จะยกระดับการแข่งขันของเราขึ้นไปอีกระดับ"
โดยในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 รอบแบ่งกลุ่มจะมีการติดกล้อง 10 ตัวเพื่อบันทึกภาพมุมต่าง ๆ ก่อนจะเพิ่มเป็น 12 ตัวตั้งแต่รอบรองชนะเลิศเป็นต้นไป
ซึ่งจากที่อธิบายไปข้างต้นนั้นดูเหมือนจะทำให้การแข่งขันอาเซียน คัพ 2024 มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าเมื่อคืนนี้ทีมงานผู้ตัดสินใช้เวลาเกือบ 3-4 นาที กว่าจะเป่าให้ลูกยิงของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี เป็นประตู 3-2 โดยสาเหตุที่ทางทีมงานได้รวบรวมมาอาจมาจากปัจจัยหลายข้อ อาทิ ความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ผู้ที่ใช้เทคโนโลยี VAR เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่นำมาใช้ และโอบีถ่ายทอดสดที่ตัดภาพ เป็นโอบีที่ประเทศเจ้าบ้านเป็นผู้ว่าจ้าง
และศูนย์ใหญ่สำหรับรับผิดชอบเรื่องนี้ก็อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย (ตามที่ประกาศออกมา ระบบ VAR จะได้รับการจัดการโดยผู้ให้บริการภายนอก แทนที่จะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในประเทศ) ทำให้การส่งสัญญาณภาพเกิดความล่าช้าไม่น้อยกว่า 10 วินาที ซ้ำในจังหวะดังกล่าวก็ไม่มีภาพช้าให้ดูอีกด้วย ซึ่งบ่งบอกถึงความชำนาญของทีมงานผู้ใช้ VAR และทีมถ่ายทอดสด ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้หากให้ว่ากันตามตรงคำว่าการนำ VAR มาใช้เต็มรูปแบบนั้นมันไม่ใช่ความจริงทั้งหมด เนื่องจากทัวร์นาเม้นต์นี้ ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ VAR ตีเส้นด้วยตัวเอง ไม่ได้เป็นระบบจับล้ำหน้าเหมือนที่พรีเมียร์ลีกใช้ ทำให้เกิดความล่าช้า
ส่วนประเด็นที่ว่า ภาพถึงแช่อยู่ที่หน้ากรรมการคนนี้นาน ไม่ตัดภาพช้ามาให้ดู ให้แฟนๆต้องลุ้นในทุกจังหวะ เป็นเพราะโอบีจะเป็นผู้พิจารณาตัดภาพช้ามาให้ชมหรือไม่ หรืออาจจะไม่ตัดภาพเนื่องจากต้องการรอทาง VAR คอนเฟิร์มมาก็เป็นไปได้
ทั้งนี้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันชิงแชมป์ อาเซียน 2024 เป็นต้นมาก็มีจังหวะกังขาหลายครั้ง แต่ VAR ก็ไม่สามารถช่วยตัดสินได้แบบถูกต้อง รวดเร็ว เหมือนอย่างที่โม้ไว้แต่แรก ... หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกมต่อ ๆ ไปทางฝ่ายจัดการแข่งขันจะพัฒนาการใช้ VAR เพื่อลดคำครหาเรื่องความไม่โปร่งใสในการตัดสิน และทำให้ผู้ชมทางบ้าน เคลียร์กับการเล่าเรื่องผ่านการถ่ายทอดสด