ไม่มีใครที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปลอดภัยอีกต่อไป ใครๆ ก็ถูกเด้งได้

"ถ้าขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังถูกตัดออกจากทีม ก็ไม่มีใครที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปลอดภัยอีกต่อไป ใครๆ ก็ถูกเด้งได้ INEOS กำลังส่งข้อความนี้ถึงทุกคนที่สโมสรอยู่ใช่ไหม?" 

นั่นคือความคิดเห็นของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังขวัญใจสาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อรับรู้ว่าต้นสังกัดเดิมของเขา สั่งปลดกุนซือผู้เป็นตำนานของทีม ออกจากตำแหน่งทูตประจำสโมสรเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่เคยให้กับเขาปีละ 2.16 ล้านปอนด์ (ประมาณ 94 ล้านบาท)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ประธานแห่งกลุ่ม INEOS เข้ามาร่วมถือหุ้นสโมสร พร้อมรับตำแหน่งหัวหน้าผู้บริหารงานแผนกฟุตบอล ซึ่งนั่นทำให้เขาและทีมงานมีสิทธิ์ในการดูแลบริหารเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับฟุตบอลอย่างเต็ม 100

และงานสำคัญที่ INEOS กำลังทำ ซึ่งมาพร้อมเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางของแฟนบอล ก็คือการปรับโครงสร้างสโมสร ว่าจ้างผู้บริหารใหม่มาแทนที่คนเก่า พร้อมกับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อให้ตัวเลขขาดทุนของ "ปีศาจแดง" ลดน้อยลงไป จากรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2024 ที่พบว่าสโมสรขาดทุนไปทั้งสิ้น 113.2 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,880 ล้านบาท) 

INEOS ได้ว่าจ้าง Interpath Advisory บริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตรวจสอบโครงสร้างในทีม พร้อมดูด้วยว่ามีสิ่งใดบ้างที่ "ไม่จำเป็น" สำหรับสโมสรอีกต่อไป ตัดได้ก็ตัดเลย ซึ่งส่งผลให้บรรดาผู้บริหารระดับสูง จนถึงพนักงานระดับปฏิบัติการในสนาม ได้รับผลกระทบด้านตัวเลขและสวัสดิการกันอย่างถ้วนหน้า

สิ่งที่ INEOS ทำเพื่อลดค่าใช้จ่ายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย

- ยกเลิกบัตรเครดิตของทางบริษัท

- ยกเลิกคนขับรถ และรถส่วนตัวของเหล่าผู้บริหาร

- ให้พนักงานจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายส่วนตัวกันเอง สำหรับเกมนัดชิง เอฟเอ คัพ 2023-24 

- ลดการพิมพ์หนังสือโปรแกรมแข่งขันแจกแฟนบอลจำนวนครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการประหยัด

- ยกเลิกอาหารกลางวันของทีมงานในแมตช์เดย์ เพื่อไม่ให้เหลือทิ้งเสียของ เวลากินไม่หมด

- เลิกจ้างพนักงาน 250 คน (จากเดิมที่เคยมีอยู่ 1,112 คน)

- ยกเลิกปาร์ตี้คริสต์มาสของทีมงาน

- ถอด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ออกจากตำแหน่งทูตสโมสร (แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการอาวุโสของทีมต่อไป)

ด้วยมาตรการลดค่าใช้จ่ายต่างๆ เหล่านี้ รวมถึงการยกเลิกค่าตอบแทนจากการเป็นทูตสโมสรของ เฟอร์กี้ คาดว่าจะทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ประหยัดเงินได้สูงถึง 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,940 ล้านบาท) เลยทีเดียว

สตีฟ บราวน์ อดีตนักวิเคราะห์ผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ เซอร์ อเล็กซ์ ดึงตัวมาร่วมงานตั้งแต่ปี 2001 และถูกเลิกจ้างไปแล้ว วิเคราะห์ว่า เซอร์ จิม และ INEOS ส่งสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขากำลังปรับปรุงสโมสรโดยไล่จากแผนกบนสุด จนถึงล่างสุด เลิกจ้างคนที่ทำงานมานาน และดึงคนใหม่มาแทน โดยเฉพาะ แดน แอชเวิร์ธ จาก นิวคาสเซิล ที่ย้ายมาเป็น ผอ.ฝ่ายฟุตบอล โอมาร์ เบรร์ราด้า จาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาเป็นซีอีโอ และ โรเจอร์ เบลล์ อดีตทีมงานฝ่ายกีฬาของ INEOS เข้ามาเป็นประธานฝ่ายการเงิน

อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างโดยลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในสโมสร รวมถึงการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนบอลไม่ดีเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่า INEOS มัวแต่ให้ความสำคัญเรื่องภายใน มากกว่าผลงานในสนามที่ตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การนำของ เอริค เทน ฮาก มีผลงานที่น่าผิดหวัง ออกสตาร์ท พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลใหม่ 7 นัด ร่วงลงไปอยู่อันดับ 14 มี 8 แต้ม ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3 แถมฟอร์มการเล่นโดยรวมก็สะเปะสะปะ ไม่มีมาตรฐาน แต่ถึงอย่างนั้น เทน ฮาก ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งกุนซือไม่เปลี่ยนแปลง

สตีฟ บราวน์ ยังมองว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังสูญเสียจิตวิญญาณของตัวเองในยุคของ INEOS จากทีมที่มุ่งมั่นเก็บชัยชนะ และยกระดับผลงานให้แข็งแกร่งขึ้นในทุกนัด กลายเป็นทีมที่มัวแต่คิดจะตัดลดค่าใช้จ่ายมากกว่าให้ความสำคัญเรื่องผลงานในสนาม ซึ่งเขาได้ฝากข้อความถึงผู้บริหารหน้าใหม่ว่า "อย่าสูญเสียจิตวิญญาณของสโมสร เพื่อประหยัดเงินเพียงเล็กน้อย"

การถอด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน พ้นตำแหน่งทูต นำความไม่พอใจมาสู่สาวก "เรด เดวิลส์" ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้แฟนบอลทั่วโลกส่วนใหญ่มองว่า INEOS ไม่ใหัความเคารพแก่หนึ่งในบุคลากรระดับตำนานที่พา แมนฯ ยูไนเต็ด ยิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลโลก เป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างโหดร้ายในสายตาแฟนบอล กระนั้น INEOS รวมถึง เซอร์ จิม จะต้องโดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วงกว่านี้แน่ ถ้าหากพวกเขาลุยปรับโครงสร้างต่างๆ ภายในอย่างเดียว จนลืมที่จะปรับปรุงผลงานในสนามของทีมให้ดีขึ้น สอดคล้องตามกันไป