หลังย้ายไปร่วมทัพ เรอัล มาดริด แบบไร้ค่าตัวในซัมเมอร์นี้ ด้าน เอ็มบัปเป้ ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวตอนที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ยืนกรานจะไม่ให้กองหน้ารายนี้ลงเล่นทั้งซีซั่น
เอ็มบัปเป้ ให้สัมภาษณ์ว่าตัวเขาต้องพบกับเรื่องแย่ๆ ที่ทำให้รู้สึกไม่เป็นสุขอยู่เสมอในฤดูกาล 2023/24 ในถิ่น ปาร์ก เดอ แปรงซ์ ซึ่งสาเหตุมาจาก บุคคลบางคน ในสโมสรที่ทำให้สถานการณ์ต้องเป็นแบบนั้นและนั่นคือตัวจุดประเด็นที่ทำให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ปฏิเสธการต่อสัญญา จนทำให้มีเรื่องบาดหมางกับประธานสโมสรอย่าง นาสเซอร์ อัล เคไลฟี่
“ผมไม่ได้ ไม่มีความสุข ที่ เปแอสเช ทั้งโค้ช ผู้เล่น และ พนักงาน ของสโมสรต่างสนับสนุนในตัวผม ผมมีความสุขเสมอมากับที่นั่น แต่มีบางสิ่งและบางบุคคลที่ทำให้ผมไม่มีความสุขจริง ๆ แต่ตอนนั้นผมแสดงออกมาไม่ได้เพราะผมคือผู้นำ ผมเลยพยายามมองในแง่บวกเสมอ”
“หลุยส์ เอ็นริเก้ และ หลุยส์ คัมโปส ช่วยผมไว้ ถ้าไม่มีพวกเขา เท้าของผมคงไม่ได้แตะพื้นสนามหรอก และถึงแม้ผมจะลงเล่นด้วยความภาคภูมิใจ แต่มันชัดเจนแล้ว ว่าผมจะไม่ทนต่ออะไรแบบนี้อีกแล้ว” เอ็มบัปเป้ ให้สัมภาษณ์ขณะอยู่ในแคมป์ทัพ “ตราไก่” ชุดลุยศึกยูโร 2024
หลังคำพูดเหล่านั้นออกจากปากสตาร์เลือดน้ำหอมวัย 25 ปี ส่งผลให้สโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ที่ทราบเรื่องต้องออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์นี้ พร้อมกล่าวถึงเอ็มบัปเป้ว่า “เขาไม่มีคลาสเอาซะเลย”
“ประธาน นาสเซอร์ อัล เคไลฟี่ ไม่เคยได้มีส่วนร่วมและยุ่งเกี่ยวต่อการทำงานของผู้จัดการทีม หลุยส์ เอ็นริเก้ ซึ่งกุนซือชาวสแปนิชเป็นคนยืนยัน และถึงความจริงจะเป็นแบบที่แจ้งไป แต่เมื่อ เอ็มบัปเป้ พูดอะไร ไม่ว่าสื่อหน้าไหนก็จะรายงานว่ามันคือ เรื่องจริง เสมอ” ตัวแทนของ เปแอสเช กล่าว
ถึงแม้จะจากกันไม่ค่อยดีแต่ระยะเวลา 6 ปี ของ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ในาฐานะนักเตะปารีส ถือเป็นประวัติศาสตร์ของสโมสรก็ว่าได้ หลังยิงไปได้ถึง 256 ประตู จาก 308 นัดในสนาม พร้อมทั้งคว้าไปถึง 14 ถ้วย (แชมป์ลีกเอิง 5 สมัย, ทรอเฟ เด ช็องปียง 4 สมัย, คูป เดอ ฟรองซ์ 3 สมัย และ คูป เด ลา ลีก อีก 2 สมัย ) และเคยพาสโมสรไปถึงรอบชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ บาเยิร์น มิวนิค มาแล้วในปี 2020 แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายตัวเขาไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ยุโรปได้ พ่ายให้ “เสือใต้” ด้วยสกอร์ 0-1
