ชาร์ลตัน ประเพณีการวิ่งดีใจจากอุโมงค์สนาม สิ่งเล็กๆ ที่นักเตะจะมอบความสุขให้แฟนบอล

สโมสร ชาร์ลตัน แอธเลติก ทีมฟุตบอลในลีกวันของประเทศอังกฤษ ซึ่งที่สโมสรแห่งนี้มีหนึ่งในประเพณีที่ทำกันมาอย่างยาวนานนั่นก็คือ การวิ่งออกมาจากอุโมงค์สนามกระโดดดีใจท่ามกลางแฟนบอลในสนาม

โดยในเกมล่าสุดที่ทีม ชาร์ลตัน แอธเลติก สามารถเอาชนะ คาร์ไลล์ ยูไนเต็ด 3-2 นักเตะที่ยิงประตูในเกมนี้ทั้ง อัลฟี เมย์ และ แดเนียล คานู ต่างสลับกันวิ่งออกมาจากอุโมงค์สนามทางอัฒจันทร์ทิศเหนือพร้อมกับดีใจด้วยท่าทางที่สุดแล้วแต่จะครีเอต เพื่อขอบคุณและตอบแทนแฟนบอลที่เดินทางมาร่วมส่งแรงเชียร์

แล้วการวิ่งออกมาดีใจจากอุโมงค์สนามมันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร ? เหตุการณ์นี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2000 ซึ่งมีการคาดว่าการกระทำเช่นนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในเกม เอฟเอ คัพ รอบที่ 5 เมื่อ ชาร์ลตัน แอธเลติก ต้องออกไปเยือน โคเวนทรี พร้อมพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ 3-2

ซึ่งในครั้งนี้ คริส โพเวลล์ กองหลังชาวอังกฤษของทีมได้วิ่งออกมาดีใจจากอุโมงค์สนามด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตามยังมีหนึ่งในเหตุการณ์ที่ทำให้การวิ่งออกมากระโดดดีใจจากอุโมงค์ออกมาถูกจดจำกันเกิดขึ้นเมื่อปี 2008 เกมสุดท้ายของฤดูกาลที่ ชาร์ลตัน แอธเลติก แข่งขันกับ โคเวนทรี เพราะว่า คริส โพเวลล์ ได้วิ่งออกมาดีใจพร้อมกับหมวกของฟลอยด์ ซึ่งเป็นมาสคอตสุนัขของทีม และยังถอดเสื้ออีกด้วย

"ผมจำได้ว่าพวกเราชนะ แต่ตอนนั้นในสองสามนาทีก่อน ผมคิดว่า ในสนามไม่มีใครกลับบ้าน ไม่มีใครเลยจริงๆ ซึ่งปกติแล้วคุณจะเห็นแฟนบอลสักสองสามคนลุกออกจากสนาม ซึ่งมันก็เหมือนกับว่า คุณต้องทำมัน สุดท้านผมก็วิ่งออกจากอุโมงค์ไปกระโดดท่ามกลางแฟน ๆ แล้วมันก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน"

"มันคงเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ในฐานะนักเตะเพื่อทำให้แฟน ๆ มีความวันทีดี...แน่นอนว่ามันอาจเป็นเองที่บ้านิดหน่อยที่ผมได้วิ่งออกไปพร้อมกับมาสคอต" คริส โพเวลล์ เล่าย้อนเหตุการณ์ในครั้งนั้น

แม้ว่าการกระโดดออกจากอุโมงค์ จะไม่ได้มีความพิเศษหรือที่มาอะไร ที่มากไปกว่าการแสดงความดีใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า วัฒนธรรมการกระโดดออกจากอุโมงค์ คือสิ่งที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของชาร์ลตัน

และเชื่อว่า ทุกครั้งที่แฟนบอลของพวกเขาสุขสมหวังจากการทำประตูได้ การกระโดดออกจากอุโมงค์ จะเป็นสิ่งที่สร้างความปลาบปลื้มให้กับพวกเขาตลอดไป