ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า เคยจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจสำหรับดูแลเรื่องการโอนย้ายนักเตะโดยเฉพาะ และมีรายงานว่าพวกเขามีความสนใจที่จะใช้อัลกอริทึมกำหนดมูลค่าการโอนย้ายทีมของนักฟุตบอล หลังจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ยอมทุ่มเงิน กว่า 222 ล้านยูโร เพื่อดึงตัว เนย์มาร์ มาจาก บาร์เซโลน่า รวมถึงเงินอีกว่า 180 ล้านยูโร สำหรับค่าสินสอดของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่พวกเขาจ่ายให้ โมนาโก
กระทั่งปัจจุบันมูลค่าการโอนย้ายนักเตะที่มีตัวเลขมหาศาลยังมีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ อย่างเช่นในกรณีของ เชลซี ที่ยอมควักเงินรวมกันกว่า 200 ล้านปอนด์ในดีลของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ และ มอยเซส ไคเซโด้ ทำให้ล่าสุด จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า ได้ออกมาพูดถึงความเป็นไปได้ในการนำแนวคิดใช้อัลกอริธึมเพื่อประเมินมูลค่าโอนย้ายนักเตะ กลับมาพิจารณาอีกครั้ง กลางงานประชุมกฎหมายประจำปี ณ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ว่า
"ตอนนี้มันเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับเราที่จะพูดคุยหัวข้อเหล่านี้ และหัวข้ออื่น ๆ มากขึ้นกว่าเดิม ยกตัวอย่าง เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการใช้อัลกอริธึมเพื่อประเมินมูลค่าที่ยุติธรรมสำหรับค่าธรรมเนียมการโอน เพื่อเพิ่มความโปร่งใสในระบบการโอนย้าย และช่วยเหลือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในฟุตบอล"
ฟีฟ่า ได้สนับสนุนโครงการใช้อัลกอริธึมเพื่อประเมินมูลค่าโอนย้ายนักเตะมาตั้งแต่ปี 2010 โดยทำงานร่วมกับ CIES Football Observatory กลุ่มนักวิจัยสถิติฟุตบอลในสวิตเซอร์แลนด์ แต่ดูเหมือนอัลกอริธึมตัวนี้จะยังต้องได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอีกพอสมควร เนื่องจากเคยประเมินมูลค่าของ จู๊ด เบลลิงแฮม และ เออร์ลิง ฮาลันด์ ไว้สูงถึง 250 ล้านยูโร ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยสโมสรจะยอมจ่ายเพราะตอนนี้มีกฎ FFP คอยกำกับดูแลการใช้เงินของแต่ละสโมสร