เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม E ลาซิโอ จากอิตาลี เปิดบ้านเอาชนะ เซลติก ทีมดังแห่งสกอตต์แลนด์ ไปด้วยสกอร์ 2-0 โดยนอกจากเกมในสนามที่เล่นกันอย่างสนุกแล้ว ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มได้เกิดเหตุการณ์แฟนบอลทั้งสองทีมปาพลุเข้าใส่กัน จนร้อนไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาระงับเหตุ
เหตุการณ์ความรุนแรงครั้งนี้เกิดขึ้นที่อัฒจันทร์สนามสตาดิโอ โอลิกปิโก รังเหย้าของลาซิโอ ปรากฏว่ามีแฟนบอลของทั้งลาซิโอ และเซลติก ได้โหมโรงก่อนที่เกมจะฟาดแข้งด้วยการขว้างปาพลุใส่กัน อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยว่ากลุ่มอุลตร้าลาซิโอ เป็นฝ่ายเริ่มก่อน และแฟนบอลเชลติก โจมตีกลับในแทบจะทันทีทั้งที่มีไม้กั้นขวางระหว่างทั้งสองฝ่าย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แฟนบอลของทั้งสองทีมก่อเหตุทะเลาะวิวาท เพราะย้อนกลับไปในเกมยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อปี 2019 ที่เซลติก สามารถเอาชนะ ลาซิโอ 2-1 บรรดาแฟนบอลของเซลติก ก็เคยถูกปรับเงินจำนวน 13,000 ปอนด์ หรือราว 570,000 บาทไทยด้วยข้อหาจุดพลุก่อนที่เกมจะเริ่ม
แต่หากว่ากันตามประวัติศาตร์แล้วแฟนบอลทั้งสองสโมสร มีรากเหง้าความขัดแย้งกันมาเป็นเวลานานทั้งแง่ของวัฒนธรรมรวมถึงการเมือง โดยแฟนบอลเซลติก มักเอนไปทางฝ่ายซ้าย ส่วนแฟนบอลลาซิโอ เป็นตัวแทนฝ่ายขวาสุดโต่ง และความแตกต่างในอุดมการณ์ทางการเมืองเหล่านี้นำไปสู่ความตึงเครียดในอดีตหลายเหตุการณ์
ทั้งนี้สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ได้จับตามองเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด และเตรียมมอบบทลงโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด
หลังจาก ลาซิโอ สามารถเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ พวกเขารั้งอยู่รองจ่าฝูงของกลุ่ม E ด้วยการมี 10 คะแนน มีโอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปสูง ส่วน เซลติก ลงสนามไปแล้ว 5 เก็บได้เพียงคะแนนเดียว จ่อตกรอบ