
อย่างที่ทราบกันดีว่าการได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกจะส่งผลกระทบเชิงบวกให้แก่ประเทศที่ได้รับเลือกทั้งในเรื่องของ ภาพลักษณ์, เศรษฐกิจ รวมถึงสังคมภายในประเทศ ล่าสุดเป็นทางประเทศอินโดนีเซีย เพื่อนบ้านในกลุ่มอาเซียนของไทยเรา ที่กำลังวางแผนเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ร่วมกับประเทศแนวร่วม
เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า(FIFA) ได้ประกาศว่าฟุตบอลโลก 2030 จะถูกจัดขึ้นในหกประเทศ จากสามทวีป โดยเจ้าภาพหลักประกอบด้วย โมร็อกโก จากทวีปแอฟริกา ร่วมกับโปรตุเกส และสเปน จากทวีปยุโรป แต่ในส่วนของสามเกมแรกในรอบแบ่งกลุ่มจะฟาดแข้งกัน ณ อุรุกวัย, อาร์เจนตินา และ ปารากวัย ในอเมริกาใต้
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน ซาอุดีอาระเบีย ชาติที่กำลังมุ่งมั่นพัฒนากีฬาลูกหนัง ได้ทำการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ในทันที โดยหวังเดินตามรอย กาตาร์ ที่ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก 2022
"เรามีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะเสนอราคาแข่งขันที่สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะช่วยรวมโลกของเราเข้าด้วยกันผ่านการเล่นกีฬาฟุตบอล และครอบครัวฟุตบอลเอเชียทั้งหมดจะยืนหยัดเป็นหนึ่งเดียวกันสำหรับการสนับสนุน" ยาสเซอร์ อัล มิเซฮาล ประธานสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบีย กล่าว
ล่าสุดดูเหมือน ซาอุดีอาระเบีย จะเจอกับคู่แข่งที่อยากเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 เช่นเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นเพื่อนบ้านอาเซียนของไทยอย่าง อินโดนีเซีย ที่กำลังอยู่ในระหว่างการหารือกับ ออสเตรเลีย รวมถึง มาเลเซีย และสิงคโปร์
โดย เอริค โธเฮียร์ ประธานสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย หรือ PSSI กล่าวกับ Sydney Morning Herald สื่อออสเตรเลีย ว่า "เรากำลังหารือกับ ออสเตรเลีย และเมื่อตอนที่ผมเดินทางไปเยือนมาเลเซีย และสิงคโปร์ ทั้งสองประเทศแสดงความสนใจที่จะเข้าร่วมกับอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย"
นอกจากนี้ยังมีการเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่าการเจรจาระหว่างสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย และสมาคมฟุตบอลออสเตรเลีย เริ่มมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มิหนำซ้ำหลายฝ่ายภายในประเทศอินโดนีเซีย รวมถึง โจโก วิโดโด ประธานาธิบดีของประเทศ ก็เห็นชอบให้แผนการความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นจริงเช่นเดียวกัน