เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ประจำฤดูกาล 2022-23 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ ฟิออเรนติน่า ไปด้วยสกอร์ 2-1 จากประตูชัยของ จาร์ร็อด โบเว่น ในนาทีที่ 90 นี่นับเป็นการคว้าแชมป์ได้ครั้งแรกนับตั้งแต่รอบชิง เอฟเอ คัพ เมื่อปี 1980 และยังเป็นถ้วยยุโรปแรกนับตั้งแต่เถลิงบัลลังก์แชมป์รายการยูโรปา วินเนอร์ คัพ เมื่อปี 1965 อีกด้วย
นอกเหนือจากการคว้าแชมป์ได้อย่างยิ่งใหญ่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แล้ว แบ็กซ้ายชาวอิตาลีนามว่า "เอเมอร์สัน พัลมิเอรี" ได้สถาปนาตัวเองให้กลายเป็นนักฟุตบอลคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ของ ยูฟ่า หรือ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ได้ครบทั้ง 5 รายการ ไล่เรียงตั้งแต่ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ปี 2019, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ปี 2021, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ปี 2021 กับ เชลซี, ยูโร 2020 กับทีมชาติอิตาลี และล่าสุด ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ปี 2023 กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
การเล่นของเขาแตกต่างจากแบ็กซ้ายคนอื่นอย่างไร และสาเหตุใดที่ทำให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี สามารถชูถ้วยของยูฟ่าได้ครบทั้ง 5 รายการ สามารถหาคำตอบ…ได้ที่นี่
อย่างที่ทราบกันดีว่า เอเมอร์สัน พัลมิเอรี แบ็กซ้ายวัย 28 ปี ของสโมสรเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไม่ได้มีสกิลอะไรที่โดดเด่นขึ้นมาชัดเจนให้แฟนฟุตบอลจดจำ ทำให้ที่ผ่านมาตัวเขามักจะนั่งอยู่บนม้านั่งสำรองซะเป็นส่วนใหญ่ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง เอเมอร์สัน พัลมิเอรี สามารถทำทุกอย่างที่ผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายควรจะเป็นได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
โดย เอเมอร์สัน พัลมิเอรี เป็นนักฟุตบอลที่ทักษะเบสิคพื้นฐานค่อนข้างแน่น อีกทั้งยังมีความเข้าใจในเกมสูงมาก และสามารถช่วยเหลือทีมได้ในหลาย ๆ สถานการณ์ กลับกันสิ่งที่เขาขาดไปคือเรื่องของแอสซิสต์และการทำประตู หรือเรียกโดยรวมว่า "ความหวือหวาในเกมบุก" สามารถยืนยันได้จากสถิติการลงเล่นในฤดูกาล 2022-23 เอเมอร์สัน พัลมิเอรี ลงสนามให้กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปทั้งสิ้น 34 นัด ทำได้ 2 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์เท่านั้น จากการลงสนามรวมทุกรายการ
ทว่าถ้าหากเจาะลึกจริง ๆ สไตล์การเล่นของ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี มีอะไรมากกว่าสถิติตัวเลขที่ปรากฏออกมา ซึ่งก็คือการที่เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งทางฝั่งซ้ายไม่ว่าจะเป็นปีก, แบ็ก และมิดฟิลด์ โดยคุณสมบัตินี้ส่งผลให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี กลายเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ของทีม พร้อมกับเป็นข้อดีให้กับโค้ชที่สามารถปรับเปลี่ยนแผนการเล่นได้หลากหลายรูปแบบ
จุดเด่นของ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี คือการร่วมเล่นกับเพื่อน และมีความเข้าใจในแผนการเล่นสูง ซึ่งมีอยู่หลายครั้งที่ผู้จัดการทีมใช้งาน เอเมอร์สัน พัลมิเอรี เป็นตัวดึงความสนใจจากคู่แข่ง หรืออีกหนึ่งกรณีคือการให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี เล่นคล้ายตัวฟรีคอยหาจังหวะวิ่งสอดขึ้นมาทำเกมจากมุมอับสายตาจนเป็นจุดเริ่มต้นในการได้ประตูหลายต่อหลายครั้ง
ลูกไม้เด็ดที่ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี มักจะใช้เล่นงานคู่แข่งคือการทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีม หรือที่เรียกว่า “The One-Two Pass” ส่วนกุญแจสำคัญสำหรับการเอาชนะคู่ต่อสู้ในสนามของ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี คือมีอยู่หลายครั้งที่ผู้เล่นในตำแหน่งปีกซ้ายหุบเข้ามาพื้นที่ตรงกลาง เพื่อเปิดพื้นที่ให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี ที่ประจำการอยู่ในตำแหน่งแบ็กซ้ายสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างเกมให้กับทีมได้
นอกจากนี้ สัมผัสแรก (First Touch) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในสนามที่ทำให้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี สามารถกุมความได้เปรียบได้อยู่เสมอ ยังไม่รวมถึงความนิ่งที่ไม่ว่าจะเจอกับสถานการณ์กดดันแบบไหนเขาก็จะแก้ไขมันด้วยความสุขุมใจเย็นเสมอมา
สุดท้ายนี้ไม่ว่าผู้จัดการทีมคนใดที่ได้ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี มาเป็นลูกทีม มั่นใจได้เลยว่าจะส่งผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน เพราะทุกสโมสรสามารถส่งผู้เล่นตัวจริงลงสนามได้เพียง 11 คน และจะมีสักกี่คนที่ไม่เคยงอแงสักครั้งเมื่อถูกจับนั่งอยู่ข้างสนาม ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่ เอเมอร์สัน พัลมิเอรี ได้รับโอกาสลงเล่น เขาไม่เคยทำให้แฟนบอลทีมตนเองผิดหวังสักครั้งไม่ว่าจะกับสโมสรใดหรือในนามทีมชาติอิตาลีก็ตาม