เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ตำนานนักฟุตบอลของสโมสร อาร์เซนอล เดินทางมาที่ประเทศไทยเพื่อร่วมงานมีตติ้งกับแฟนบอลชาวไทย ในงาน “I’M LEGEND” EMMANUEL PETIT x ArsenalThailand FAN MEET ครั้งที่ 1 เมื่อวานนี้
ซึ่งเปอตีต์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ Main Stand ถึงมุมมองต่อการเสริมทัพของอดีตทีมเพื่อลุยซีซั่นหน้าที่มีฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกเพิ่มมาด้วยว่าควรเสริมทัพ 5 คน โดยเฉพาะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กและกองกลาง เพราะฤดูกาลหน้าจะยิ่งยากกว่าเดิม และความกดดันก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
"นักเตะบางคนดูเหนื่อยล้าหลังเล่นไปไม่กี่สัปดาห์ ผมคิดว่าเราต้องเสริมนักเตะใหม่อย่างน้อย 5 คน เพราะเราจะต้องเล่นทุกๆ 3 วัน และความคาดหวังก็จะยิ่งสูงกว่านี้ในฤดูกาลหน้า ผมคิดว่าอาร์เตตารู้ดี พวกเขาพยายามซื้อนักเตะเข้ามาในช่วงฤดูหนาว เช่น ทรอสซาร์ด ที่ทำผลงานได้โดดเด่นมากๆ แต่ทีมก็ยังต้องการนักเตะเก่งๆมาเสริมทัพอีก"
อดีตกองกลางแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส บอกอีกว่าเชื่อว่าในซีซั่นหน้าทุกทีมจะยิ่งเคี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม เป็นผลพวงมากจากที่หลายทีมใหญ่ผลงานตกลงไปในซีซั่นนี้
"ผมคิดว่าฤดูกาลหน้าจะยากมาก การแข่งขันจะต่างไปจากฤดูกาลที่แล้วเลย เพราะเชลซีมีฤดูกาลที่แล้วผลงานแย่มาก ลิเวอร์พูลก็ผลงานน่าผิดหวัง ในทีมต่างชี้นิ้วโทษกันและกัน ส่วนไบรตันนี่ผมไม่แน่ใจ เพราะพวกเขาต้องเล่นทุกๆ 3 วัน แต่สำหรับผมพรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่เล่นยากที่สุดในโลก และฤดูกาลหน้า จะมีถึง 6-8 ทีม ที่ต้องขับเคี่ยวกัน ผมคิดว่าฤดูกาลหน้าการสร้างผลงานให้ได้ดีเท่าเดิมจะยิ่งยากมาก โดยเฉพาะที่เราต้องเล่นแชมป์เปียนส์ลีก ผมว่าเราต้องเสริมทีมอย่างหนัก"
เมื่อถูกถามถึงการคาดหวังให้ได้ถึง 2 แชมป์ในฤดูกาลหน้า เปอตีต์ บอกว่าสำหรับตัวเขาแชมป์ลีกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และยังขอขยายความถึงการให้สัมภาษณ์ครั้งล่าสุดที่พูดถึงเชลซีว่าเสียใจที่ย้ายไปร่วมทัพสิงห์บลู จนมีแฟนบอลเข้าใจผิดว่า
"ผมไม่ได้พูดถึงเชลซีในแง่ที่ไม่ดีเลย เพราะผมมีความสุขมากที่ได้เล่นให้เชลซี แต่ผมย้ายไปเชลซีในช่วงชีวิตที่ลำบาก ผมบาดเจ็บหลายครั้ง ผมรู้สึกว่าสภาพร่างกายผมไม่พร้อมเล่นให้เชลซี ผมย้ายมาจากบาร์เซโลน่า ในสายตาของแฟนเชลซีหลายคน ผมคืออดีตนักเตะอาร์เซนอล ดังนั้นบางช่วงถึงค่อนข้างลำบาก แต่ผมเล่นฤดูกาลแรกโดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ว่าชีวิตส่วนตัวผมวุ่นวายมาก แต่ผมยืนยันอีกครั้งว่า ที่ผมพูดไปแบบนั้น ผมไม่ได้มีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเชลซี เพราะตอนนั้นคือช่วงบั้นปลายชีวิตค้าแข้งของผม ผมรู้สึกขอบคุณมากที่เชลซีซื้อผมไปร่วมทีม แต่ตอนนั้นผมไม่ใช่ผู้เล่นคนเดิมอีกแล้ว" เปอตีต์ทิ้งท้าย