News

แม้เลสเตอร์ ซิตี้ จะตกไปในลีกแชมเปี้ยนชิพ แต่เกณฑ์ที่ศุภณัฏฐ์จะได้ไปค้าแข้ง ไม่ง่ายขึ้นกว่าตอนเลสเตอร์อยู่พรีเมียร์ลีก

จากกระแสข่าวที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เซ็นสัญญากับเลสเตอร์ ซิตี้ โดยมีกระแสข่าวว่าตัวนักเตะจะไปค้าแข้งกับทีม โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยมก่อน เพื่อปูทางสู่การเล่นที่เลสเตอร์ ซิตี้ ในอนาคต

 


ทราบกันดีว่า การไปเล่นในพรีเมียร์ลีก จำเป็นต้องทำ WORK PERMIT ซึ่งการทำงานในสหราชอาณาจักร ปัจจุบันมีกฎเกณฑ์การคำนวณโดยคณะกรรมการ เพื่อออกใบอนุญาตในการลงเล่นที่ยากพอสมควร

และหลังจากที่เลสเตอร์ ซิตี้ ตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก สู่ลีกแชมเปี้ยนชิพ อาจจะสร้างความสงสัยว่า การที่ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะได้ไปเลสเตอร์ ซิตี้และลงเล่นในลีกอังกฤษง่ายขึ้นหรือไม่?

คำตอบคือ เกณฑ์ทั้งหมดในการขอใบอนุญาตทำงานในสหราชอาณาจักร ยังคงมีเกณฑ์การประเมินเหมือนกัน กล่าวคือ ไม่ว่าเลสเตอร์ ซิตี้จะอยู่บนลีกสูงสุดหรือไม่ ศุภณัฏฐ์ก็จะได้รับการประเมินเเบบเดียวกัน

โดยหลังจากที่สหราชอาณาจักร ลงสนาม Brexit จากสหภาพยุโรปหรือ EU เกณฑ์แรกที่มีการนำมาผ่านระบบที่ชื่อว่า GBE คือ

1.อันดับโลกฟีฟ่าของชาตินักเตะนั้นๆ 2.ระบบผลงานสโมสรก่อนหน้า หรือ BAND ซึ่งทั้งสองเกณฑ์การประเมิน เมื่อรวมกันแล้ว จะต้องได้ 15 คะแนน จึงจะผ่านการพิจารณาได้รับใบอนุญาตในการทำงานในสหราชอาณาจักร

[1.เกณฑ์อันดับโลก]

สิ่งที่คณะกรรมการนำมาพิจารณาก็คือ อันดับโลกของชาตินั้นๆ ประกอบกับการจำนวนการลงเล่นทีมชาติของนักเตะนั้นๆ ซึ่งเกณฑ์ขั้นต่ำของการผ่านการพิจารณาแบบ AUTO PASS ที่ใช้อันดับโลกนั้น จะตัดที่อันดับที่ 50 โดยมีจำนวนการลงเล่นขั้นต่ำที่ 70% หากถึงเกณฑ์จะผ่านทันที โดยไม่ต้องใช้เกณฑ์ระบบผลงานสโมสรแต่อย่างใด

แต่หากยังไม่ Auto Pass จะมีคะแนนนการประเมินเพิ่มเติม โดยจะได้คะแนนตั้งแต่ 10 คะแนน ลดหล่นลงไป 9-8-7-6 และ 0 คะแนน แต่สำหรับทีมชาติที่อันดับโลกต่ำกว่า 51 เช่นทีมชาติไทย มีเกณฑ์การประเมิน คือ นักเตะที่ลงเล่นทีมชาติ 90-100% จะได้คะแนนประเมินเพียง 2 คะแนน, 80-89% จะได้คะแนนในการประเมินเพียง 1 คะแนน หากต่ำกว่านั้นจะมีคะแนนในการประเมิน 0 คะแนน

[2.ระบบผลงานของสโมสร หรือ BAND]

นี่เป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงหลังจากที่สหราชอาณาจักรมีการทำ Brexit ออกจากสหภาพยุโรป โดยระบบ Band นี้ ทำความเข้าใจโดยง่ายคือ จะมีการประเมินผลงานของสโมสรที่นักเตะคนนั้นสังกัดอยู่ก่อนหน้านี้ จากผลงานและอันดับของสโมสร ที่ลงเล่นในฟุตบอลลีกของประเทศนั้นๆ และฟุตบอลชิงแชมป์ทวีป (สำหรับทวีปยุโรปและอเมริกาใต้) ประกอบกับจำนวนการลงเล่นของนักเตะ มีการตีมูลค่าออกมาเป็นคะแนน

นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งระดับของลีก ออกเป็น 6 ระดับ (BAND) ตามความสำคัญ ซึ่งจะมีระบบการประเมินคะแนนที่ลดหลั่นลงไป ประกอบด้วย

BAND 1 : พรีเมียร์ลีก, บุนเดสลีกา, ลาลีกา, ลีกเอิง
BAND 2 : โปรตุเกส, เนเธอร์แลนด์, เบลเยี่ยม, ตุรกี, แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ
BAND 3 : รัสเซีย, ลีกบราซิล, ลีกอาร์เจนตินา, ลีกเม็กซิโก, ลีกสก็อตแลนด์
BAND 4 : ลีกเช็ค, ลีกโครเอเชีย, ลีกสวิสเซอร์แลนด์, ลีกรองของระดับ BAND 1(ยกเว้นอังกฤษ), เมเจอร์ลีก สหรัฐฯ, ลีกยูเครน, ลีกกรีซ, ลีกออสเตรีย
BAND 5 :ลีกเซอร์เบีย, ลีกเดนมาร์ก, ลีกโปแลนด์, ลีกสโลวีเนีย, ลีกชิลี, ลีกปารากวัย, ลีกจีน
BAND 6 : ลีกอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึง

โดยจะมีการนำคะแนนทั้งหมดมารวมกัน ถ้ามากกว่า 15 คะแนน จะผ่านเกณฑ์และได้ใบอนุญาตทันที

[กรณีของศุภณัฏฐ์ ?]

เทียบจากหลักเกณฑ์ทั้งหมด กรณีของศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นั้น เมื่อพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินในตอนนี้ จะพบว่า คะแนนส่วนที่ 1 คือ ผลงานทีมชาติ ศุภณัฏฐ์ มีโอกาสจะได้รับคะแนนประเมินไม่เกิน 2 คะแนน เท่านั้น เพราะทีมชาติไทยมีอันดับโลกที่ต่ำกว่า 50 ขณะที่การลงเล่นนั้นก็ยังไม่ได้ลงเล่นในรายการที่ได้รับการรับรองอย่างสม่ำเสมอ ยิ่งส่วนของลีกนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะ ไทยลีกนั้น อยู่ในการประเมินระดับ BAND 6 ประกอบกับการลงเล่นและสโมสร ที่แม้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นแชมป์ แต่ก็มีคะแนนได้เพียง 1 คะแนน ส่วนการลงเล่นเป็นกำลังหลัก 90-100% แม้จะต่อเนื่อง แต่ก็จะได้คะแนนประเมินเพียง 2 แต้ม

เมื่อรวมหลักเกณฑ์ทั้งหมด จะอยู่ที่อย่างมาก 5 คะแนน ซึ่งไม่ผ่านแน่ๆ

ดังนั้น ทางเดียวที่จะทำให้ศุภณัฏฐ์ ไปเล่นในพรีเมียร์ลีก นั่นก็คือ การยกระดับสโมสรต้นสังกัดของศุภณัฏฐ์ ไปอยู่ในระดับ BAND ที่สูงขึ้น ซึ่งจากข่าวก็คือ การไปเล่นในลีกเบลเยี่ยมกับ โอเอช ลูเวิน ที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ BAND 2 ที่จะยกระดับคะแนนได้อย่างมาก ซึ่งคะแนนในการประเมินจะอยู่ที่ 4 ส่วน คือ

1.การลงเล่นของนักเตะในลีก // หากอนาคตศุภณัฏฐ์ มีโอกาสได้ลงเล่นในลีกต่อเนื่อง ศุภณัฏฐ์ จะมีโอกาสได้รับการประเมินส่วนนี้ มากที่สุดถึง 10 คะแนน และลดหลั่นลงมา 9-8-7-6-5-4 ตามจำนวนการลงเล่น

2.ผลงานของสโมสรต้นสังกัดในลีก // หากสโมสรโอเอช ลูเวิน ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปได้ จะได้คะแนนในส่วนนี้ด้วย ขั้นต่ำคือ ไปเล่นรอบคัดเลือกยูโรป้า ลีก จะได้คะแนนในการประเมินแล้ว 1 คะแนน แต่ถ้ายกระดับไปถึงขั้นเล่นรอบแบ่งกลุ่ม หรือไป ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จะได้คะแนนเพิ่มขึ้นเป็น 2-3-4 คะแนน และถ้าแชมป์ได้ จะได้ถึง 5 คะแนนด้วยกันร

3.การลงเล่นของนักเตะในฟุตบอลถ้วยยุโรป // หากสโมสรได้เข้าถึงฟุตบอลถ้วยยุโรป ถ้าศุภณัฏฐ์ได้ลงเล่นจะได้คะแนนในส่วนนี้เพิ่มด้วย ตั้งแต่ 1-5 คะแนน (กรณีลงเล่นเกิน 50%)

4.ผลงานของสโมสรต้นสังกัดในถ้วยยุโรป // หากสโมสรได้เข้าถึงฟุตบอลถ้วยยุโรป ถ้าสโมสรผ่านเข้าสู่รอบลีกได้ ศุภณัฏฐ์จะได้คะแนนในส่วนนี้ อย่างน้อย 2 คะแนน

กล่าวโดยสรุปคือ ลีกเบลเยี่ยม คือ พื้นฐานที่ดีอย่างยิ่ง ในการปูทางสู่การได้เวิร์ค เพอร์มิต ของศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เพราะคือการยกระดับคะแนนของลีกสู่ BAND 2 ได้โดยง่าย แต่การที่อนาคตศุภณัฏฐ์จะมีโอกาสได้เวิร์ค เพอร์มิต กับเลสเตอร์ ซิตี้ หรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ การลงเล่นของศุภณัฏฐ์ เพียงอย่างเดียว ต้องอยู่ที่ผลงานของสโมสรด้วย แต่ศุภณัฏฐ์เองก็ต้องได้ลงล่นต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มคะแนนการประเมินในส่วนนี้ ที่จะมีถึง 10 คะแนนด้วยกัน

และที่สำคัญคือ ศุภณัฏฐ์ ต้องลงเล่นกับทีมชาติไทย อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน เพราะแม้ทีมไทยจะอันดับต่ำกว่า 50 แต่หากลงเล่นต่อเนื่อง ศุภณัฏฐ์จะได้คะแนนการประเมินในส่วนนี้ 2 คะแนนทันที

 

Author

วิรวิชญ์ เจริญเชื้อ

The handsome boy like Jackson Wang and the best singer of Main Stand.

Graphic

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1