กรณีที่ "โค้ชฉ่วย" สมชาย ชวยบุญชุม ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ตัดสินใจยื่นสมัครเข้าเรียนโค้ช "โปร ไลเซ่นส์" โดยใช้ทุนส่วนตัวประมาณ 5 แสนบาท แต่ปรากฏว่า ไม่มีชื่อเข้าคอร์สเรียนในครั้งนี้ ซึ่งตัวของเขาได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงไปยังเจ้าหน้าที่ต่างๆ แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน
"ผมพยายามทำตามกฎ โค้ชที่คุมข้างสนาม ต้องมีโปรไลเซนส์ ผมก็จะไปเรียน ใช้เงินส่วนตัว แต่ก็ไม่มีชื่อเรียน ผมถามว่าเพราะอะไร ก็ไม่มีใครตอบผมได้ ผมว่าเรื่องการเลือกโค้ชที่ไปเรียนก็คงจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนกลุ่มนึง บางคนไม่มีโปรไฟล์มาเลย แต่ได้ไปเรียน ไหนจะต่างชาติอีก ก็ต้องบอกว่ากลุ่มผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการเลือก เลือกแต่พรรคพวกตัวเองหรือเปล่า"
"โอเคครั้งนี้ต้องเสียเงินเยอะ ผมก็อยากจะเรียนเพื่อให้ได้ตามหลักการของ ส.บอล แต่บางทีก็เสียความรู้สึกเหมือนกัน"
ฝ่ายฝึกอบรมโค้ชสมาคมฯ ก็ได้ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ โดยเปิดเผยว่า "ผู้ฝึกสอน ท่านดังกล่าวไม่ผ่านหลักเกณฑ์ ของคณะวิทยากร ข้อที่ 1. เอกสารการสมัครไม่ครบถ้วน เนื่องจากไม่ปรากฏเอกสารใบสมัคร ในระบบโดยในขั้นตอนการสมัครจะต้องเข้าระบบ ออนไลน์ที่ https://edu.fathailand.org/login ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำทั้งทางไลน์ และโทรศัพท์อธิบายจนผู้สมัครสามารถเข้าอัปโหลดเอกสารในระบบได้ ซึ่งปรากฏเอกสาร ประวัติการปฏิบัติหน้าที่, ภูมิหลังการศึกษา และคุณสมบัติจากประกาศนียบัตร ในระบบเท่านั้น"
"คณะวิทยากร ได้ประเมินผลการลงทะเบียนแล้วเห็นชอบให้ผู้สมัครรายดังกล่าว ขาดคุณสมบัติเนื่องจากเอกสารไม่ครบถ้วน ตามระเบียบที่กำหนด"
พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เปิดเผยกับ Main Stand ว่า "เข้าใจและยินดีมากๆที่น้าฉ่วย อยากเข้ามาช่วยวงการฟุตบอลไทย แต่อย่างไรก็ตาม การสมัครเข้าอบรม จะต้องมีคณะกรรมการจากเอเอฟซีและสมาคมกีฬาฟุตบอลเป็นผู้กำหนดเกณฑ์ ซึ่งสมาคมฯ ได้แนะนำวิธีการในการล็อกอินเข้าระบบ ให้กับ "น้าฉ่วย"ครบถ้วน"
"ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงรับแค่ 18 คน จากคนสมัคร 40 คน ทางเอเอฟซี จำเป็นต้องมีการคัดกรองตามคุณสมบัติ ซึ่งเมื่อคุณสมบัติเรื่องเอกสารไม่ผ่าน ก็ทำได้หมดสิทธิ์เข้าอบรมตามกฎระเบียบ"
"ในส่วนตรงนี้ ถ้ามองเรื่องความโปร่งใส ผมมองว่ายิ่งชัดเจน เพราะถ้าเอกสารไม่ครบแล้วให้เรียน ก็จะไม่เป็นไปตามกติกาที่วางไว้"
"ในอนาคต ถ้าเราเปิดอบรมในรุ่นต่อไป เราก็ยินดีที่จะให้น้าฉ่วยเข้ามาอบรมกับเรา ทางสมาคมฯ ยินดีที่จะช่วยเหลือและประสาน เพราะเชื่อว่าน้าฉ่วยเป็นบุคลากรที่พร้อมช่วยยระดับวงการฟุตบอลไทย"