เป็นเรื่องที่ทำให้ เอริค เทน ฮาก กุนซือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หัวเสียพอสมควรเพราะนอกจากชวดเก็บชัยชนะในบ้านแล้ว ยังต้องเสีย คาเซมิโร่ กองกลางตัวเก๋าไปอีก 4 เกม จากการถูกใบแดงในวันที่เสมอ เซาแธมป์ตัน 0-0
มิดฟิลด์ชาวบราซิล สกัดบอลจากเท้า คาร์ลอส อัลคาราซ นักเตะทีมเยือนแต่เลยไปโดนขาของฝั่งตรงข้าม ขณะที่ อังเดร มาริเนอร์ ผู้ตัดสินภาพ VAR ได้แจ้งให้ แอนโธนี เทย์เลอร์ เชิ้ตดำกลางสนามพิจารณาการกระทำของแข้งเจ้าบ้านใหม่ ก่อนเดินไปควักใบแดงไล่เขาออก
ถือเป็นครั้งที่สองแล้วที่ คาเซมิโร่ ถูกไล่ออกจากสนามนับตั้งแต่เกม คริสตัล พาเลซ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งนั่นทำให้ เอริค เทน ฮาก กุนซือชาวดัตช์ ต้องออกมาวิพากษ์การทำงานของทีมผู้ตัดสินที่ไม่มีมาตรฐานแน่นอนกับเหตุทำฟาล์วในหลายจังหวะและหลายเกม
"สิ่งที่ผมคิดคือมันต้องมีความแน่นอน แต่ตอนนี้นักเตะไม่รู้อีกต่อไปแล้วว่ากฎจริงๆ มันเขียนไว้ว่ายังไงแน่" เทน ฮาก กล่าวหลังเกม "คุณคงเห็นจากเมื่อวานในเกม เลสเตอร์ เจอ เชลซี ตอนนั้น VAR ไม่มีการเปิดภาพออกมา แต่วันนี้มันกลับมา แถมยังมีจังหวะที่เราควรได้จุดโทษอีก 2 ครั้ง แต่ก็ไม่มีการดู VAR โดยเฉพาะลูกแรก มันคือแฮนด์บอลชัดเจน ว่าแต่นโยบายของมันคืออะไร"
ส่วนจังหวะของ คาเซมิโร่ เขาบอกว่า "คาเซมิโร่ ลงเตะในยุโรปมากกว่า 500 นัด เขาไม่เคยโดนใบแดงเลย แต่ตอนนี้โดนไป 2 ใบแล้ว ถึงจะเข้าบอลหนักแต่เขาก็เล่นแบบขาวสะอาด เกมนี้ก็เหมือนกัน เกมกับ คริสตัล พาเลซ ก็ด้วย มันเลยกลายเป็นที่ถกเถียง"
ทั้งนี้ เมื่อถูกถามว่าจะมีการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เทน ฮาก ตอบว่า "เดี๋ยวรอดู แต่ถึงอย่างนั้นเกมที่ผ่านมาก็เป็นอีกครั้งที่ทีมนี้แสดงให้เห็นถึงสปิริตที่ยิ่งใหญ่ และการต่อสู้ที่ดี เราเล่นกันภายใต้ 11 ต่อ 10 คน แต่มันก็ออกมาดี"
สำหรับ คาเซมิโร่ เบื้องต้นจะถูกแบน 4 นัดสำหรับเกมฟุตบอลในประเทศ ประกอบด้วยเปิดบ้านเจอ ฟูแล่ม (19 มีนาคม) ไปเยือน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (2 เมษายน) เล่นในบ้านกับ เบรนต์ฟอร์ด (5 เมษายน) และเจอ เอฟเวอร์ตัน (8 เมษายน)