อีกไม่กี่อึดใจฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ก็จะลงเล่นให้ชมกันแล้ว วันนี้จะเป็นนัดเปิดสนามที่ ทีมชาติกาตาร์เจ้าภาพ พบกับ ทีมชาติเอกวาดอร์ ในเวลา 22.00 น.
หลายคนคงไม่ได้รู้เรื่องราวพัฒนาการของฟุตบอลกาตาร์มากนัก จนเดาไม่ออกว่าพวกเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องเจอกับเหล่าชาติหัวแถวในด้านฟุตบอลของโลก
เชื่อหรือไม่ว่าทีมชาติกาตาร์นั้นพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายในระยะเวลาแค่ 12 ปี พวกเขาคว้าเเชมป์ทวีปเอเชีย ขยับอันดับโลกขึ้นมากว่า 100 อันดับ พวกเขาทำได้อย่างไร ? และในเวิลด์คัพฉบับกาตาร์ มีกฎอะไรบ้างที่แตกต่างจากที่อื่น
ติดตามได้ที่ Main Stand
เริ่ม ... ก่อนที่จะรู้
ย้อนอดีตไปในช่วงยุค 90s เป็นต้นมา กาตาร์ อาจจะเป็นชาติที่ไม่ได้เก่งเรื่องฟุตบอลมากถึงขั้นที่เป็นชาติแถวหน้าของเอเชีย พวกเขาอาจจะเคยเข้าไปเล่นในรอบลึก ๆ ของศึกเอเชียนคัพบ้าง แต่พวกเขาก็ไม่เคยดีพอจะเป็นแชมป์ และเช่นเดียวกันพวกเขาไม่เคยได้ไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเลย
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่กาตาร์มีคือ "เงิน" และคนที่ร่ำรวยและประสบความสำเร็จหลายคนก็มักมีนิสัยเหมือนกันอยู่ 1 อย่าง นั่นคือพวกเขาจะ "เกลียดความพ่ายแพ้" นี่คือการเปรียบเทียบให้เห็นง่าย ๆ ว่าทำไมกาตาร์จึงพยายามที่จะทำทีมฟุตบอลให้เเข็งแกร่งในเอเชีย อย่างน้อย ๆ ก็ต้องเป็นเบอร์ 1 ของชาติอาหรับให้ได้
ต้องไม่ลืมว่าชาติอาหรับหรือชาติแถบตะวันออกกลางนั้นมีการแข่งขันความเป็นที่หนึ่งอยู่เสมอ และแบ่งเป็น 2 ฝั่งมาอย่างนานนม ฝั่งหนึ่งเป็นมุสลิมสุหนี่ ส่วนอีกฝั่งคือมุสลิมชีอะห์ และพวกเขาก็แข่งขันกันในทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่เรื่องฟุตบอล
แม้กาตาร์จะเริ่มจากการทำให้ตัวเองกลายเป็นชาติเบอร์ 1 ของตะวันออกกลางได้ แต่ในเมื่อพวกเขาคิดจะทำแล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดังนั้นในปี 2004 ราชวงศ์แห่งกาตาร์จึงรู้สึกไม่พอใจนักเกี่ยวกับวงการกีฬาในบ้านเมืองของพวกเขา เพราะหากย้อนกลับไปเมื่อ 15 ปีก่อนหน้ากาตาร์ไม่ปรากฏความโดดเด่นเรื่องกีฬาชนิดใดบนโลกใบนี้เลย แม้ว่าพวกเขาจะมีเงินมากมายให้ใช้ลองผิดลองถูกก็ตาม
เข้าสู่ช่วงกลางปีมีคำสั่งจาก เอเมียร์ ชีกห์ ฮาเหม็ด บิน คาห์ลิฟา อัล ทาห์นี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ให้ ชีกห์ ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ทาห์นี ผู้เป็นรัชทายาทร่างโครงการที่จะสร้างความเป็นเลิศทางด้านกีฬาให้กับประเทศกาตาร์ ด้วยงบประมาณที่วางไว้ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้ชื่อโครงกว่า แอสไปร์ อคาเดมี (Aspire Academy)
เมื่อกาตาร์คือประเทศที่มีประชากรน้อย และอาชีพส่วนใหญ่ของคนในประเทศคือการทำงานที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสายกีฬา จึงทำให้โครงการนี้มุ่งเน้นการสร้างนักกีฬาระดับเพชรในตมโดยไม่สนว่าจะมีเชื้อชาติกาตาร์หรือไม่ พวกเขาเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกทั้งแอฟริกา อเมริกาใต้ และเอเชีย เพื่อหาเด็ก ๆ ที่มีแวว จากนั้นก็จะมอบทุกอย่างให้ ทั้งการศึกษาตลอดจนศาสตร์และศิลป์ทางกีฬาทั้งหมด
ทุก ๆ ปีแอสไปร์จะทำการคัดเลือกนักกีฬากว่า 5-6 แสนคนเพื่อคัดเอาระดับหัวกะทิมาต่อยอด ณ สถานที่ที่มีพร้อมทั้งที่พัก, การศึกษา, วิทยาศาสตร์การกีฬา และผู้มีประสบการณ์ในเกมกีฬาระดับสูง ... ทั้งหมดนี้คือเหตุผลที่กาตาร์สามารถสร้างทีมฟุตบอลชุดที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาได้ก่อนที่พวกเขาจะรู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022
จากศูนย์ฝึกสู่แชมป์เอเชีย
หลังจากสร้างศูนย์ฝึกแอสไปร์ได้เพียง 6 ปี กาตาร์ก็มองไปถึงเป้าใหญ่กว่าที่ตัวเองเคยตั้งไว้ เพราะในปี 2010 พวกเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งผลการรับเลือกนี้นำมาซึ่งกระแสต่อต้านมากมายว่ากาตาร์ใช้เงินซื้อโอกาสให้ตัวเองเพื่อให้ได้เล่นฟุตบอลโลก เพราะพวกเขายังไม่เคยผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายมาก่อนเลย (และฟุตบอลโลกปี 2022 ก็จะเป็นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งแรกของชาตินี้)
เมื่อโดนหยาม ตระกูล อัล ทาห์นี ก็เริ่มอยากจะตอบโต้กลับ พวกเขาต้องการจะพิสูจน์ว่ากาตาร์ไม่ได้มีแค่เงินแต่มีสมองด้วย ดังนั้นเมื่อมีโอกาสแสดงฝีมือในเวทีระดับสูง กาตาร์จะต้องแสดงออกถึงพัฒนาการที่ใครก็ไม่อยากจะเชื่อให้ได้ ดังนั้นการไล่บี้คนที่ดูแลทีมในแต่ละชุดจึงเริ่มเกิดขึ้นอย่างจริงจังนับแต่นั้นมา
กาตาร์ไว้วางใจ เฟลิกซ์ ซานเชซ อดีตโค้ชเยาวชนของสโมสรบาร์เซโลน่า ให้เข้ามารับผิดชอบเรื่องการสร้างอนาคตให้กับทีมชาติกาตาร์ โดยตัวของซานเชซเข้ามาทำงานที่กาตาร์ครั้งแรกในปี 2006 ก่อนที่จะได้ขยับตำแหน่งหลังช่วงที่กาตาร์ชนะการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก โดยเริ่มทำงานจากทีมชุด ยู-16, ยู-19, ยู-23 และทีมชาติชุดใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน
เหตุผลที่ต้องให้เฟลิกซ์ทำงานและขยับรุ่นอายุตามนักฟุตบอลนี้มีเหตุผล เนื่องจากกาตาร์เป็นประเทศที่มีประชากรน้อยมาก ดังนั้นเมื่อได้เด็กที่เก่งที่สุดในช่วงอายุพวกเขาจะต้องประคบประหงมอย่างดี เพราะไม่สามารถคัดทิ้งและเปลี่ยนทีมใหม่ระหว่างทางได้เหมือนกับชาติระดับแถวหน้าด้านฟุตบอลอย่าง สเปน, อังกฤษ, เยอรมัน และอื่น ๆ ... เรียกได้ว่าเมื่อเลือกเด็กที่เก่งที่สุดในช่วงอายุเข้ามาสู่ทีมสักคนแล้วก็ต้องดันกันไปจนถึงสุดทาง แล้วค่อยไปวัดกันอีกทีที่ทีมชาติชุดใหญ่
"เราถูกข้อกำหนดจากจำนวนประชากรที่น้อย ดังนั้นเราต้องเริ่มทำงานกับเด็กแต่ละรุ่นที่เกิดในรอบปฏิทิน ที่นี่ไม่เหมือนสเปนหรอกที่นักเตะคนนี้ไม่ดีเล่นไม่ได้คุณก็แค่โละออกแล้วหาใหม่ กาตาร์ไม่มีตัวเลือกมากนัก คุณต้องดูพวกเขาให้ดีและอ่านให้ออกว่าพวกเขาเหล่านี้จะก้าวไปในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร" เฟลิกซ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อดังบ้านเกิดอย่าง AS
เฟลิกซ์ไม่ได้แค่ทำทีมฟุตบอลเท่านั้น แต่เขายังมีตำแหน่งเป็นเหมือนไดเร็กเตอร์หรือผู้อำนวยการกีฬาอีกด้วย เขาเป็นผู้วางโครงสร้างฟุตบอลของกาตาร์ แม้กระทั่งเรื่องนอกสนามเขาก็เรียกร้องให้ผู้บริหารองค์กรหาสโมสรในยุโรปเอาไว้เพื่อรองรับนักเตะกาตาร์รุ่นหลังที่เก่งเกินกว่าจะเล่นในประเทศแถบอาหรับ นำมาสู่การที่ราชวงศ์ในกาตาร์ได้เทคโอเวอร์ สโมสรอูเปน ทีมในระดับลีกสูงสุดของเบลเยียม และ คูตูรัล เลโอเนซ่า ในระดับดิวิชั่น 3 ของสเปน
โดยเหล่านักเตะทีมชาติกาตาร์ชุดปัจจุบันหลายคนก็เคยมีประสบการณ์ไปค้าแข้งในต่างเเดน ทั้ง อัลโมเอซ อาลี, อัคราม อาฟิฟ, อาเหม็ด โมอีน และ อาเหม็ด อัล ซาดี เป็นต้น
นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนแนวคิดให้สโมสรฟุตบอลลีกในของกาตาร์ดึงเอานักเตะระดับโลกมาค้าแข้งด้วย เพื่อให้เด็ก ๆ ที่ไม่เก่งพอจะไปเล่นในต่างแดนได้มีประสบการณ์ตรงในการเล่นฟุตบอลกับนักเตะระดับโลก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้เห็นนักเตะอย่าง ราอูล กอนซาเลซ, ชาบี เอร์นานเดซ, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, จูนินโญ่ แปร์นัมบูกาโน่ และอีกหลาย ๆ คนไปเล่นฟุตบอลที่นั่น
พวกเขาพัฒนาทั้งเรื่องโครงสร้างและระบบการเล่นในสนามมาตั้งแต่ก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มถึง 12 ปี ... ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมท้ายที่สุดเเล้วพวกเขาจะสามารถพาทีมพิชิตเอเชียได้สำเร็จในการแข่งขัน เอเชียนคัพ ในปี 2019 ซึ่งหากยังจำกันได้ในรายการนั้น ชาวไทยและชาวเอเชียหลายคนได้เห็นพัฒนาการของนักเตะกาตาร์ด้วยตาตัวเอง พวกเขามีทักษะส่วนตัวที่เป็นเลิศ มีความเข้าใจเกมสูง และเป็นทีมที่เล่นโมเดิร์นฟุตบอลได้ดีกว่าที่ใครหลายคนคิด
ในรอบแบ่งกลุ่มที่อยู่ร่วมสายกับ ซาอุดีอาระเบีย อริเบอร์ 1 ของกาตาร์, เลบานอน และ เกาหลีเหนือ พวกเขาก็เก็บได้ 9 แต้มเต็ม ยิงไป 10 ประตู และไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว ... จากนั้นเมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ กาตาร์ก็ผ่านทีมแกร่งอย่าง อิรัก, เกาหลีใต้ และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้สบาย ๆ โดยไม่เสียประตูเลยเช่นกัน ก่อนที่ไข่จะมาแตกเอาในรอบชิงชนะเลิศด้วยการชนะญี่ปุ่น 3-1 คว้าเเชมป์เอเชียสมัยแรกไปครองอย่างยิ่งใหญ่
ในทัวร์นาเมนต์นั้น อัลโมเอซ อาลี ยิงไปถึง 9 ประตู มากกว่านักเตะเอเชียที่ไปค้าแข้งในยุโรปอย่าง ซาดาร์ อัซมูน, ทาคุมิ มินามิโนะ, อู๋ เหล่ย และ เอลดอร์ โชมูโรดอฟ ไปแบบขาดลอย ... ทีมชุดแชมป์เอเชียนคัพของกาตาร์ถือเป็นโมเดลหลักที่พวกเขาปฏิบัติตามกันมาแบบรุ่นสู่รุ่นเพื่อสร้างนักเตะที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น
ก่อนสอบไฟนอล
นับตั้งแต่สร้างแอสไปร์ อคาเดมี หากวัดกันที่ผลลัพธ์ไม่นับเงินลงทุน กาตาร์ประสบความสำเร็จมากกว่าที่พวกเขาตั้งไว้เสียอีก เพราะในปี 2010 ก่อนที่พวกเขาจะได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2022 กาตาร์ยังโดนค่อนขอดว่าใช้เงินซื้อฟุตบอลโลก และมีทีมฟุตบอลที่อ่อนชั้น พาลทำให้ภาพรวมของฟุตบอลโลก 2022 ไม่น่าสนุก ... ย้อนกลับไปตอนนั้นพวกเขาอยู่ในอันดับที่ 113 ของโลกเลยทีเดียว
ทว่าหลังจากการเริ่มงานอย่างจริงจังสำหรับโปรเจ็กต์ฟุตบอลโลก มีการเลือกโค้ชที่มีฝีมือมาดูแลทีมเยาวชนแต่ละรุ่น มีการใช้หลักสูตรฟุตบอลจากประเทศแถวหน้าของโลกด้านฟุตบอลเป็นต้นแบบ และมีการพัฒนาโครงสร้างโดยรวมที่จะสามารถผลักดันผลงานในสนามให้ดียิ่งขึ้น จนถึงตอนนี้กาตาร์ขยับอันดับขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 48 ของโลกตามคะแนนฟีฟ่า แรงกิ้ง ล่าสุด ... สิ่งนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่ากาตาร์ก้าวกระโดดได้รวดเร็วขนาดไหนภายในระยะเวลาแค่ 12 ปี
ตอนนี้พวกเขาชนเป้าหมายแรกได้แล้ว แต่เป้าหมายต่อไปนั้นยากกว่ามาก นั่นคือการทำผลงานให้ดีในฟุตบอลโลกที่แข่งขันในบ้านของตัวเอง และจากการจับฉลากก็ถือว่าพวกเขาไม่ได้เจอกับภารกิจที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาได้อยู่กลุ่มเดียวกับ เอกวาดอร์, เซเนกัล และ เนเธอร์แลนด์ แม้ทีมเหล่านี้จะแกร่งกว่าพวกเขามาก ๆ บนหน้าเสื่อ แต่กาตาร์ก็ตั้งเป้าว่าพวกเขาจะต้องผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เป็นอย่างน้อย
มันซูร อัล อันซารี เลขาธิการสมาคมฟุตบอลกาตาร์ ยอมรับว่าเมื่อทัวร์นาเมนต์ใกล้จะเริ่มขึ้น ความคาดหวังที่มีจากกลุ่มผู้บริหารองค์กร กลุ่มราชวงศ์ที่ให้การสนับสนุนเรื่องเงินทุน รวมถึงชาวกาตาร์ทุกคนก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วย แต่กาตาร์ชุดนี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการทำให้ดีที่สุดและรีดฟอร์มให้พีกแบบที่ไม่เคยทำได้มาก่อน โดย อัล อันซารี บอกว่าความทะเยอทะยานคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้ทีมของพวกเขาเดินทางมาถึงจุดนี้
ข้อดีของการวางแผนอีกอย่างหนึ่งคือเหล่านักเตะดาวรุ่งของกาตาร์ที่ประคบประหงมกันมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะขยับระดับตัวเองขึ้นมาจากการเป็นดาวรุ่งสู่ตัวความหวังของทีมอย่างเต็มตัว พวกเขาเป็นทีมคนหนุ่มที่มีอายุเฉลี่ยไม่ถึง 25 ปี (วัดจากทีมชุดปัจจุบัน) ทว่านักเตะเหล่านี้กลับมีประสบการณ์การเล่นเกมระดับทีมชาติมาอย่างโชกโชน อาทิ อัคราม อาฟีฟ จากอัล ซาดด์ ที่เคยเล่นให้กับทีมอย่าง บียาร์เรอัล, อูเปน และ สปอร์ติง กิฆอน ก็เคยติดทีมชาติไปมากถึง 85 เกมทั้ง ๆ ที่อายุเพียง 24 ปีเท่านั้น ส่วนกัปตันทีมอย่าง ฮัสซาน อัล-ไฮดอส ที่อยู่ในวัย 31 ปีนั้นเคยติดทีมชาติมากถึง 165 นัด
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่านักเตะกาตาร์ชุดนี้เคยเล่นร่วมกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งมันจะทำให้ทีมเวิร์กกลายเป็นจุดแข็งของพวกเขา โดย เฟลิกซ์ ซานเชซ เล่าว่าปรัชญาของทีมกาตาร์ชุดนี้คือทีมเวิร์กและความเข้าใจเกมเป็นหลัก พวกเขาอาจจะไม่ได้มีนักเตะดัง แต่พวกเขาเชื่อว่าโมเดิร์นฟุตบอลแบบรุกทั้งทีมและรับทั้งทีมจะสามารถตอบโจทย์ได้ดีไม่แพ้กับการมีสตาร์ดังมาแบกทีม
"กดดัน (เพรสซิ่ง) ให้เร็วและสูงที่สุด ต้องรู้จักเกมรับ และที่สำคัญที่สุดคือต้องรู้ว่าจังหวะไหนของเกมควรฆ่าคู่ต่อสู้ให้ตาย" ซานเชซ กล่าวและพูดถึงทีมชุดนี้ต่ออีกว่า การทำงานร่วมกันมานานของนักเตะและโค้ชจะเป็นกุญเเจสำคัญที่ทำให้กาตาร์พร้อมสำหรับฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้
"นี่คือกลุ่มผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ผมรู้จักพวกเขามานาน แม้เราจะมีข้อจำกัดที่เป็นประเทศเล็กที่มีประชากรไม่กี่คน แต่การทำงานหนักทำให้เราได้เจอกับผลลัพธ์บางอย่างที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้”
ฟุตบอลโลก 2022 จะเป็นเช่นไรคือเรื่องของอนาคต แต่ที่แน่ ๆ เราสามารถรู้ได้เลยว่าการลงทุนด้านฟุตบอลของกาตาร์ไม่มีทางสูญเปล่าแน่ พวกเขายกระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้จะได้พิสูจน์ฝีมือในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้นจะสมหวังหรือผิดหวังมันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ และต่อให้พวกเขาล้มเหลวแต่ก็ใช่ว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย เพราะ กาตาร์ ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคตที่พวกเขาจะเป็นทีมที่ดีกว่านี้ขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่พวกเขาไม่ลังเลที่จะทุ่มงบประมาณมหาศาลจนกว่าวันนั้นจะมาถึง ... วันที่พวกก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวของโลก
เอาล่ะครับ สำหรับฟุตบอลโลกที่กาตาร์ครั้งนี้ยังมีเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยและกฎต่าง ๆ มากมายที่น่าสนใจมาฝากกันในช่วงท้าย เรามาดูว่ามีอะไรกันบ้าง
1. ความปลอดภัย LGBTQ+
อย่าเข้าใจผิด กาตาร์ ไม่ได้เป็นประเทศที่ปิดกั้นกลุ่ม LGBTQ+ ไม่ว่าคุณจะมีรสนิยมแบบไหนก็สามารถมาดูฟุตบอลโลกที่ประเทศกาตาร์ได้ทั้งนั้น
เพียงแต่มีการออกมาเตือน ๆ ของฝั่งเจ้าภาพว่าหากชาว LGBTQ+ เดินทางมาชมฟุตบอลโลก 2022 ขอให้หมดห่วงเรื่องการแสดงออก เพราะสามารถแสดงออกเรื่องรสนิยมทางเพศได้ในที่สาธารณะตามหลักสิทธิสากล เพราะกฎหมายต่อต้านมีผลบังคับใช้กับประชาชนในประเทศเท่านั้น
โดยทางฝ่ายเจ้าภาพก็มีแอบเตือนว่าหากเป็นไปได้ก็อย่าโบกธงสีรุ้งเพื่อความปลอดภัยแก่แฟนบอลเอง เพราะถึงทางการจะไม่ได้ห้ามเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มักจะมีประชาชนหัวโบราณทำตัวเป็นศาลเตี้ยเสมอ
โดยในช่วงก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นนั้น ฮิวแมนไรท์วอทช์ Human Rights Watch (HRW) องค์การนอกภาครัฐระหว่างประเทศซึ่งทำวิจัยและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน ออกมาระบุในรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาผ่านสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองกำลังรักษาความปลอดภัยในกาตาร์จับกุมและทำร้าย LGBTQ+ กาตาร์อย่างจงใจเมื่อเดือนที่แล้วในช่วงก่อนการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก
แม้ฝั่งกาตาร์จะมีการปฏิเสธเรื่องดังกล่าวไป แต่ที่สุดเเล้วเรื่องความปลอดภัยของชาว LGBTQ+ ยังคงเป็นคำถามสำหรับฟุตบอลโลกครั้งนี้
2. หมดสิทธิ์ One Night Stand (ONS)
กาตาร์ได้ออกมาตรการห้ามมีเพศสัมพันธ์กันระหว่างผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงานหรือจดทะเบียนสมรส เพราะถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ขัดกับหลักศาสนาในประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปีถึงตลอดชีวิต
แหล่งข่าวของตำรวจในประเทศอังกฤษได้เตื่อนแฟน ๆ ของพวกเขาก่อนเดินทางไปเชียร์ฟุตบอลโลกที่กาตาร์ว่า "การมีเซ็กส์เป็นสิ่งที่ห้ามทำ ยกเว้นหากคุณเป็นสามีภรรยากัน ทัวร์นาเมนต์นี้จะไม่มีวันไนท์สแตนด์อย่างแน่นอน"
"จะไม่มีงานเลี้ยงใด ๆ เกิดขึ้น ทุกคนต้องสงบ เว้นแต่พวกเขาต้องการเสี่ยงที่จะติดอยู่ในคุก"
"การห้ามมีเพศสัมพันธ์ในฟุตบอลโลกปีนี้ถือเป็นครั้งแรก แฟน ๆ จะต้องเตรียมพร้อม"
3. ถุงยางล้นตลาด
สืบเนื่องจากเรื่อง ONS เมื่อเล่นผีผ้าห่มไม่ได้ก็หมายความว่าการซื้อถุงยางอนามัยก็ถูกแบนไปด้วย โดยกาตาร์กำหนดโทษเบื้องต้นไว้ที่ 7 ปี ทั้งนี้ไม่ได้มีการระบุว่า คู่สามี-ภรรยา ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายสามารถซื้อถุงยางมาเริงรมย์กันได้หรือไม่
โดย Daily Star สื่อดังของประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตำรวจสหราชอาณาจักรได้มีการเตือนแฟนบอลเมืองผู้ดีที่จะเดินทางไปชมเกมฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ในช่วงปลายปีอีกครั้ง เรื่องการที่จะต้องประพฤติตัวให้เหมาะสม เนื่องจากประเทศเจ้าภาพมีกฎหมายที่รุนแรง
"มันเป็นช่วงการเรียนรู้สำหรับทุกคน"
"แต่ความแตกต่างในวิถีชีวิตของเราทุกคนนั้นชัดเจนมาก"
"ตำรวจกาตาร์บอกเราว่า ในอดีตมีคนเคยติดสินบนเภสัชกร เมื่อเข้าไปซื้อถุงยางอนามัยโดยคู่ที่ยังไม่ได้แต่งงานกัน"
"มีกล้องวงจรปิดทุกที่ในกาตาร์ ที่นี่มีหูมีตาเป็นสับปะรด แฟนบอลต้องจำไว้" แหล่งข่าวตำรวจจากสหราชอาณาจักรในหน่วยเฉพาะกิจกาตาร์ เผย
4. การแสดงความรักในที่สาธารณะ
การกอด จูบ ลูบ คลำ แสดงความรักในที่สาธารณะถือว่าเป็นความผิดที่ร้ายแรงอย่างมาก อาจถึงขั้นได้รับการลงโทษสถานหนัก
หากแต่ทางการอนุญาตให้ทำได้เพียงแต่การจับมือ ควงแขน หรือแตะไหล่ เพียงเท่านั้น และการจะทำเช่นนี้ได้ก็ต้องเป็นคู่หมั้นหรือคู่แต่งงาน หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีความสัมพันธ์ในลักษณะดังกล่าวก็อาจจะต้องถูกลงโทษเช่นกัน
5. จำกัดการแต่งตัว
ทางการกาตาร์ถือว่าเคร่งครัดกับเครื่องแต่งกายของแฟนบอลสตรีอย่างมาก โดยไม่อนุญาตให้สวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเนื้อหนังมังสา อาทิ เสื้อครอป เสื้อสายเดี่ยว สปอร์ตบรา กางเกงประเภทขาสั้น (สั้นมาก ๆ) กางเกงยีนส์คว้านเข่า กระโปรงสั้น ๆ มินิสเกิร์ต หรือแม้แต่เดรส แต่ไม่ได้ห้ามเสื้อฟุตบอลสำหรับสตรีที่มีการคว้านร่องอก (ไม่ถึงกับเห็นร่องอก) แต่อย่างใด
6. แอลกอฮอล์คือเรื่องต้องระวัง
หนึ่งในเรื่องที่กาตาร์ชัดเจนมาแต่ไหนแต่ไรคือการออกมาตรการห้ามจำหน่ายสิ่งมึนเมาทุกชนิดทั้งในและนอกสนามโดดเด็ดขาด เนื่องจากการดื่มแอลกฮอล์ขัดต่อหลักของศาสนาอิสลาม แต่ภายหลังได้มีการผ่อนปรนให้จำหน่ายก่อน-หลัง แข่งได้ประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือในสถานที่ที่ทางการกำหนด และต้องมีการตรวจบัตร ห้ามจำหน่ายให้แฟนบอลที่อายุไม่ถึง 21 ปีบริบูรณ์โดยเด็ดขาด
7. อเวจีสายควัน
การสูบบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าในกาตาร์ถือว่ามีความผิดร้ายแรง โดยได้รับการจัดหมวดหมู่ไว้ในระดับความผิดทางอาชญากรรม ทางการได้วางโทษที่เกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าไว้ว่าหากใครครอบครองหรือจำหน่ายอาจถูกปรับสูงถึง 10,000 ริยาล (ประมาณ 95,599 บาท) หรืออาจถูกจำคุกสูงสุด 3 เดือนเลยทีเดียว
8. การบริโภคหมู
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่แฟนบอลทั่วโลกทราบกันเป็นอย่างดี เพราะในโลกอิสลามไม่มีการบริโภคหมูอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นสัตว์ชั้นต่ำ สกปรก อย่างมาก แม้จะมีประชาชนจากศาสนาอื่น ๆ ที่บริโภคหมู แต่สำหรับแฟนบอลแล้ว ทางการออกมาตรการห้ามอย่างเด็ดขาด โดยจัดจำหน่ายเนื้อสัตว์อื่น ๆ เช่น วัว ไก่ แกะ หรืออาหารทะเลแทน
9. นักเลงระวังตัว
การร้องรำทำเพลง รวมกลุ่มเล่นเครื่องดนตรี สร้างความสนุกสนาน สร้างสีสันให้กับฟุตบอลโลก ถือว่าทำได้โดยเสรี หากแต่เมื่อบรรดาแฟนบอลเริ่มทำนิสัยถ่อย ส่งเสียงดังเกินกว่าเหตุ คุกคามประชาชนกาตาร์ หรือออกทรงฮูลิแกน ทางการอนุญาตให้ประชาชนปาหินใส่ได้ในทันที และจะมีการลงโทษอย่างหนัก
โดยทีมที่ได้รับผลกระทบที่สุดคือต้นตำรับฮูลิแกนอย่าง อังกฤษ โดยมีการยืนยันว่าทางฝั่งอังกฤษจะมีการส่งทีม "ผู้รักษาความสงบเรียบร้อย" (Peacekeepers) จำนวน 15 นายไปยังกาตาร์ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก เพื่อป้องกันไม่ให้แฟนบอลชาวอังกฤษไปสร้างปัญหาและกระทำความผิดอื่น ๆ ที่นำไปสู่การถูกจับกุม ซึ่งแฟนบอลอังกฤษขึ้นชื่อเรื่องแฟนบอลฮูลิแกนหรือแฟนบอลอันธพาลที่มักจะไปก่อเรื่องต่างบ้านต่างเมืองอยู่เสมอ
10. ต้องใช้ "มือขวา"
อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนบอลต้องท่องไว้ให้ขึ้นใจคือเวลารับอาหาร จับจ่ายสิ่งของ หรือบัตรต่าง ๆ ห้ามใช้มือซ้ายโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้นอาจได้รับสหบาทาหรือโดนประชาทัณฑ์ได้ นั่นเพราะสำหรับโลกอิสลาม มือซ้ายใช้สำหรับทำงานสกปรก การใช้มือซ้ายทำอะไรต่าง ๆ จึงถือว่าไม่ให้เกียรติ หยามแบบต่อหน้าต่อตาอย่างมาก แม้คน ๆ นั้นจะถนัดซ้ายก็ควรที่จะฝืนตนเองใช้มือขวาเพื่อความปลอดภัย
ฝากติดตามกันด้วยนะครับสำหรับ ฟุตบอลโลก 2022 ในคำ่คืนนี้ ผลงานของกาตาร์ทั้งในสนามและนอกสนามจะเป็นเช่นไรคือเรื่องของอนาคต แต่ที่แน่ ๆ คือเราสามารถรู้ได้เลยว่าการลงทุนด้านฟุตบอลของกาตาร์ไม่มีทางสูญเปล่าแน่ พวกเขายกระดับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้จะได้พิสูจน์ฝีมือในทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว
ส่วนเรื่องผลลัพธ์นั้นจะสมหวังหรือผิดหวังมันเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ และต่อให้พวกเขาล้มเหลวแต่ก็ใช่ว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้าย เพราะ กาตาร์ ได้วางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่ออนาคตที่พวกเขาจะเป็นทีมที่ดีกว่านี้ขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่พวกเขาไม่ลังเลที่จะทุ่มงบประมาณมหาศาลจนกว่าจะถึงวันนั้น ... วันที่พวกก้าวขึ้นมาเป็นทีมระดับหัวแถวของโลก
แหล่งอ้างอิง
https://www.bbc.com/sport/football/32147203
https://www.gulf-times.com/story/412779/We-have-achieved-our-dream-says-Felix
https://baomoi.com/hlv-felix-sanchez-u23-duoc-to-chuc-tot-va-rat-ky-luat/c/24710555.epi
https://baomoi.com/hlv-felix-sanchez-u23-duoc-to-chuc-tot-va-rat-ky-luat/c/24710555.epi
https://www.theguardian.com/football/2018/nov/22/xavi-qatar-four-years-until-world-cup
http://www.espn.com/soccer/fifa-world-cup/4/blog/post/3700843/qatars-unknown-players-may-not-be-the-2022-world-cup-flops-theyre-expected-to-be
https://www.reuters.com/article/us-football-nfl-trump-football/trump-says-he-wouldnt-steer-son-toward-football-idUSKCN1PS0JB
https://in.reuters.com/article/soccer-asiancup-final-preview/soccer-qatar-wont-be-distracted-from-final-by-eligibility-row-coach-idINKCN1PP13U
https://www.theguardian.com/football/2015/nov/14/qatar-world-cup-200-billion-dollar-gamble
https://www.euronews.com/2022/09/01/fifa-world-cup-qatar-2022-can-the-hosts-reach-the-knockout-stages