Feature

ไทยลีก อยู่ในระดับเดียวกับ JFL ลีกระดับ 4 ญี่ปุ่น จริงหรือ ? | Main Stand

อิตสึกิ คุราตะ เอเยนต์นักฟุตบอลชาวญี่ปุ่น เปรียบเทียบ ไทยลีก ลีกสูงสุดของไทยว่า อยู่ในระดับเดียวกับ JFL หรือ Japan Football League ลีกกึ่งอาชีพ อันถือเป็นลีกระดับ 4 ของพิรามิดฟุตบอลญี่ปุ่น คำถามสำคัญจึงเกิดขึ้นว่า ความจริงแล้ว ลีกสูงสุดของไทยวันนี้ อยู่ในระดับที่คนในวงการลูกหนังญี่ปุ่นกล่าวอ้างจริงหรือไม่ 

 

เราจึงอยากพาทุกคนลงลึกแบบไม่มีอ้อม ผ่านมิติสำคัญทั้ง คุณภาพผู้เล่น สปีดและรูปแบบการเล่น คุณภาพสนามเเละสิ่งอำนวยความสะดวก มาตรฐานคลับไลเซนซิ่งและโครงสร้างสโมสร จำนวนผู้ชมและการมีส่วนร่วมของแฟนบอล ตลอดจนด้านอื่น ๆ เช่น ความเป็นมืออาชีพ ระบบพัฒนาเยาวชน และโอกาสต่อยอดสู่ลีกที่สูงกว่าเพื่อเปรียบเทียบคำตอบอย่างตรงไปตรงมา เป็นต้น

ถ้าพร้อมกันเเล้วเตรียมพบกับเนื้อหาที่ กระชับ – ตรงประเด็น – สุดพิเศษ ได้ก่อนใครที่ Main Stand

 

คุณภาพของผู้เล่น

• ระดับประสบการณ์และฝีเท้า 

ไทยลีกเป็นลีกสูงสุดของประเทศ จึงรวบรวมนักเตะฝีเท้าดีทั้งชาวไทยและต่างชาติไว้มากมาย หลายคนมีดีกรีทีมชาติหรือเคยค้าแข้งในลีกใหญ่ เช่น มีอดีตนักเตะทีมชาติญี่ปุ่นและผู้เล่นระดับเจลีก (J1) ย้ายมาเล่นในไทยลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ JFL เป็นลีกระดับสมัครเล่น/กึ่งอาชีพ นักเตะส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นที่อาจยังอายุน้อยเพิ่งจบมหาวิทยาลัย หรือนักเตะที่ไม่ได้ไปต่อในเจลีกระดับสูง นักเตะใน JFL จึงโดยมากไม่มีประสบการณ์ทีมชาติหรือระดับนานาชาติเท่ากับนักเตะไทยลีก

 

• นักเตะต่างชาติและค่าเหนื่อย

ไทยลีกมีนโยบายเปิดรับนักเตะต่างชาติจำนวนมาก ตามมติที่ประชุมไทยลีกสำหรับฤดูกาล 2025/26 สโมสรสามารถ ลงทะเบียนผู้เล่นต่างชาติทั่วไปได้ 7 คน และ ส่งลงสนามได้ 5 คน ขณะเดียวกัน นักเตะจากอาเซียนสามารถลงทะเบียนได้ไม่จำกัด แต่ส่งลงสนามได้ ไม่เกิน 2 คนต่อเกม รวมแล้วสโมสรสามารถใช้นักเตะต่างชาติในสนามได้มากสุด 7 คน ต่อแมตช์แข่งขันเพราะหากให้ลงทะเบียนมากกว่านี้อาจมีความเหลื่อมล้ำระหว่างทีมเล็กและทีมใหญ่

ซึ่งคิดเป็น 26.9% ของผู้เล่นทั้งหมดในลีก นักเตะต่างชาติในไทยลีกมักมาจากบราซิล ยุโรป แอฟริกา รวมถึงญี่ปุ่น และหลายคนเป็นกำลังหลักของทีม 

ส่วน JFL นั้นมีนักเตะต่างชาติจำนวนน้อยมาก เพียงราว 4.6% ของผู้เล่นทั้งหมด หรือ 1.375 คน/ทีม ประมาณ 1-2 คนเท่านั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและลักษณะกึ่งสมัครเล่นของลีกเอง

จากข้อมูลด้านมูลค่าตลาดนักเตะ (market value) จะเห็นภาพคุณภาพผู้เล่นที่แตกต่างอย่างชัดเจน ค่าเฉลี่ยมูลค่าตลาดผู้เล่นไทยลีกอยู่ราว 160,000 ยูโรต่อคน ประมาณ 6,160,000 บาท) ขณะที่ผู้เล่น JFL มีมูลค่าตลาดเฉลี่ยเพียงประมาณ 2,000 ยูโรต่อคน ประมาณ 76,000 บาท

ซึ่งสะท้อนระดับฝีเท้าและประสบการณ์ที่แตกต่างกันมาก นอกจากนี้ ค่าเหนื่อยนักเตะไทยลีกอยู่ในเกณฑ์สูงเมื่อเทียบกับลีกเพื่อนบ้าน 

ในช่วงปัจจุบันมีรายงานว่าสโมสรไทยลีกจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะญี่ปุ่นทั่วไประดับ 10-20 ล้านเยนต่อปี ประมาณ 2.35 – 4.7 ล้านบาท ซึ่งถือว่าดึงดูดใจนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีให้มาค้าแข้งในไทย
 
ตรงกันข้าม JFL ซึ่งเป็นลีกสมัครเล่น นักเตะหลายคนอาจมีงานประจำหรือสังกัดบริษัท เช่น Honda FC เป็นทีมของบริษัทฮอนด้า ซึ่งนักเตะมักเป็นพนักงานบริษัทควบคู่ไปด้วย ค่าเหนื่อยจึงไม่สูงมากและบางส่วนเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงมากกว่าจะเป็นเงินเดือนเต็มตัว

 

• ภาพรวม

โดยสรุป ไทยลีกมี คุณภาพผู้เล่นสูงกว่า JFL อย่างชัดเจน ทั้งในแง่ประสบการณ์ (มีทีมชาติและผู้เล่นลีกสูงอื่นๆ มากมาย) ทักษะฝีเท้า และความสามารถในการดึงดูดนักเตะต่างชาติฝีเท้าดีด้วยค่าเหนื่อยและสวัสดิการที่เหนือกว่า JFL 
ขณะที่ JFL แม้จะมีนักเตะที่มุ่งมั่นและมีระบบเยาวชนญี่ปุ่นสนับสนุน แต่ระดับฝีเท้าและชื่อเสียงยังเป็นรอง เนื่องจากเป็นเวทีระดับล่างและกึ่งอาชีพ

 

สปีดของเกมและรูปแบบการเล่น

• ความเร็วและความฟิตของผู้เล่น

มีข้อสังเกตจากผู้ที่เคยเล่นทั้งในไทยลีกและเจลีกว่า จังหวะการเล่นในเจลีกนั้นรวดเร็วมาก เมื่อเทียบกันแล้ว ไทยลีกจะดูช้ากว่าอย่างเห็นได้ชัด สถิติหนึ่งที่น่าสนใจคือ ระยะทางวิ่งเฉลี่ยต่อเกม โดย ชนาธิป สรงกระสินธ์ อดีตนักเตะไทยลีกที่ไปเล่นในเจลีก ยังเคยกล่าวว่า นักฟุตบอลไทยในไทยลีกวิ่งกันน้อยกว่านักเตะญี่ปุ่นมาก ในไทยลีกการวิ่งได้ 7 กิโลเมตรต่อเกมนับว่าเยอะแล้ว 

แต่ทว่า ปี 2025 ในเจลีกนั้น การวิ่งประมาณ 10.35 กิโลเมตรต่อผู้เล่นหนึ่งคนพึ่งจะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำสุดของจำนวน 20 ทีม บนเจลีกเท่านั้น ซึ่งตัวเลขนี้มาจาก ทีมซานเฟรซเซะ ฮิโรชิมะ ที่ทำการหารด้วยจำนวนผู้เล่นในสนาม 11 คน จากระยะทางรวม 113.9  กิโลเมตรในหนึ่งแมตช์การเเข่งขัน จากสถิตินี้สะท้อนถึงความเข้มข้นทางกายภาพและสปีดของเกมที่ต่างกันมาก

ทางส่วนของ JFL ก็ขึ้นชื่อว่ามักจะผ่านระบบฝึกซ้อมที่เน้นความฟิต วิ่ง pressing และวินัยยุทธวิธีมาตั้งแต่ระดับเยาวชน ทำให้มีพื้นฐานความอึดและสปีดเกมที่สูงกว่าผู้เล่นไทยโดยเฉลี่ยเป็นปกติอยู่เเล้ว

จากข้อมูลของ J1 League ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของญี่ปุ่น พบว่าทีม Cerezo Osaka มีระยะทางวิ่งเฉลี่ยต่อเกมสูงสุดอยู่ที่ 124.2 กิโลเมตรต่อทีมในฤดูกาล 2025 ซึ่งหากหารด้วยจำนวนผู้เล่นในสนาม 11 คน จะได้ประมาณ 11.29 กิโลเมตรต่อผู้เล่นต่อเกม

ในขณะที่ข้อมูลจากการวิเคราะห์การแข่งขันฟุตบอลอาชีพในยุโรป ระบุว่ากองกลางเป็นตำแหน่งที่วิ่งมากที่สุด โดยมีระยะทางเฉลี่ยประมาณ 10.6 กิโลเมตรต่อเกม

สำหรับไทยลีก เราเเล้วเเม้จะยังไม่มีข้อมูลสถิติระยะทางการวิ่งของผู้เล่นที่เปิดเผยเเน่ชัด แต่จากประสบการณ์ของผู้เล่นที่เคยเล่นในไทยลีกหลากหลายคน พูดไปทิศทางเดียวกันว่าระดับความฟิตและความเข้มข้นของเกมอาจต่ำกว่าลีกในยุโรปหรือญี่ปุ่น 

ดังนั้น แม้จะไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบโดยตรงระหว่างผู้เล่นใน JFL และไทยลีก แต่จากข้อมูลที่มีอยู่ สามารถสันนิษฐานได้ว่าผู้เล่นในลีกญี่ปุ่นมีระยะทางการวิ่งเฉลี่ยต่อเกมสูงกว่าผู้เล่นในไทยลีก

 

• รูปแบบการเล่น 

ไทยลีกมีสไตล์การเล่นที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ โดยเฉพาะนักเตะไทยและบราซิลที่มีทักษะส่วนตัวสูง กับการพึ่งพาความสามารถของผู้เล่นต่างชาติที่มาช่วยยกระดับทีม หลายทีมในไทยลีกเล่นเกมรุกได้ดุดัน 

แต่บางครั้งจังหวะจะช้าลงในช่วงท้ายเกมเนื่องจากปัจจัยความฟิตและสภาพอากาศร้อนชื้นของไทยที่ส่งผลต่อแรงของผู้เล่น มีความเห็นจากแฟนบอลว่าแม้ไทยลีกปีหลังๆ จะสนุกสูสีมากขึ้น แต่สปีดบอล ยังช้ากว่าชาติชั้นนำของเอเชียอยู่มาก (เมื่อเทียบกับลีกญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้)

ในทางกลับกัน JFL ถึงแม้ระดับทักษะความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นจะไม่สูงเท่าไทยลีก แต่รูปแบบการเล่นโดยทั่วไปได้รับอิทธิพลจากปรัชญาฟุตบอลญี่ปุ่น คือ มีวินัยและเป็นระบบ ผู้เล่นเล่นตามแท็คติกที่โค้ชวางไว้อย่างเคร่งครัด วิ่งไล่บอลและต่อบอลเป็นทีมตามแบบแผน มีการเคลื่อนที่และเพรสซิ่งสม่ำเสมอ 

สิ่งที่โดดเด่นคือ ความทุ่มเทและความมีระเบียบในเกม ซึ่งบางครั้งแฟนบอลที่เคยชมยังเปรียบเทียบว่าทีมสมัครเล่นระดับล่างของญี่ปุ่นยังคงมีรูปแบบการเล่นเป็นระเบียบกว่าไทยลีกบางทีมเสียอีก ทั้งนี้ข้อจำกัดของ JFL คือทักษะเฉพาะตัวและความสร้างสรรค์ที่อาจจะไม่โดดเด่นเท่า เนื่องจากผู้เล่นเก่งๆ มักไปอยู่ใน J1-J3 หมดแล้ว

 

• ภาพรวม

ไทยลีกมีความได้เปรียบในแง่ความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น (individual brilliance) แต่ความเร็วและความฟิตของเกมโดยรวมอาจยังเป็นรองฟุตบอลญี่ปุ่นโดยทั่วไป
 
ส่วน JFL นั้นแม้ผู้เล่นจะเป็นระดับสมัครเล่น แต่ก็ได้รับการปลูกฝังสไตล์ญี่ปุ่นที่เน้นวิ่งและเล่นเป็นระบบตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เกมในสนามมีวินัยและความเร็วระดับหนึ่ง 

หากไทยลีกต้องการยกระดับให้เทียบเท่ามาตรฐานญี่ปุ่น ก็อาจต้องพัฒนาด้านความฟิตและสปีดเกมของผู้เล่นไทยให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้ต้องพึ่งพานักเตะต่างชาติในเรื่องนี้มากเกินไป

 

คุณภาพสนามแข่งขันและสิ่งอำนวยความสะดวก

• สนามเหย้าและความจุ

ไทยลีกใช้ระบบสนามเหย้า-เยือน สโมสรส่วนใหญ่มีสนามเหย้าของตนเองที่ได้มาตรฐาน ลีกสูงสุดของไทยเคยกำหนดไว้ ​ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ทางการของไทยลีก (Thai League) ฤดูกาล 2023/24 ได้กำหนดมาตรฐานสนามแข่งขันสำหรับสโมสรในไทยลีก 1 ว่า สนามต้องมีความจุไม่น้อยกว่า 5,000 ที่นั่ง

ทว่าหลายทีมมีสนามความจุสูงกว่านั้นมาก เช่น ช้าง อารีนา ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จุได้ 32,600 คน เป็นสนามสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในไทยและได้รับรองมาตรฐานระดับ FIFA/AFC​  ธันเดอร์โดม ของ เอสซีจี เมืองทองฯ จุได้15,000 คน ทางฝั่ง บีจี สเตเดี้ยม ของ บีจี ปทุมฯ จุได้ 15,114 คน เป็นต้น 

ซึ่งสนามเหล่านี้ถูกออกแบบเพื่อฟุตบอลโดยเฉพาะ บางแห่งไม่มีลู่วิ่งคั่น ทำให้บรรยากาศการเชียร์เข้มข้น นอกจากนี้ทุกสนามในไทยลีกมีไฟส่องสว่างสำหรับการถ่ายทอดสดกลางคืน 

มาตรฐานปัจจุบันไทยลีก 1 จะอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 1200 ลักซ์ และมีที่นั่งผู้ชมค่อนข้างสะดวกสบาย ทั้งแบบมีเก้าอี้นั่งหรืออัฒจันทร์ยกระดับตามมาตรฐานลีกอาชีพ

ตรงกันข้าม สนามที่ใช้ในการแข่งขัน JFL ส่วนใหญ่เป็นสนามกีฬาเทศบาลหรือสนามมหาวิทยาลัยทั่วญี่ปุ่น ซึ่งมีขนาดและความพร้อมที่ิอาจจะน้อยกว่าไทยลีกอยู่บ้างจะสังเกตได้จากทีมอันดับหนึ่ง
ของตารางลีก นอกจากนี้ทีมบางทีมในลีกก็ยังมีการใช้สนามที่มีลู่วิ่งกรีฑาและอัฒจันทร์ขนาดเล็กให้เห็นอยู่บ่อยๆ 

อย่างไรก็ดี โดยทั่วไปแล้วความจุเฉลี่ยของสนามใน JFL จะต่ำกว่าไทยลีกอยู่พอสมควร และสิ่งอำนวยความสะดวกก็จะเรียบง่ายกว่า 

เนื่องจากไม่ได้มีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศทุกนัดเหมือนไทยลีก สนามหลายแห่งอาจไม่มีที่นั่งมีหลังคาครบทุกด้าน บางเเห่งไม่มีห้องสื่อมวลชนหรือห้องวีไอพีเหมือนสนามไทยลีก

 

• มาตรฐานสนามและสิ่งอำนวยความสะดวก 

ไทยลีกมีการตรวจมาตรฐานสนามตามเกณฑ์คลับไลเซนซิ่งของ AFC เช่น พื้นหญ้าต้องเรียบมีการระบายน้ำดี บางสนามอย่างบีจี สเตเดี้ยมใช้หญ้าแบบไฮบริดเพื่อทนฝนมากขึ้น มีห้องพักนักกีฬาและห้องทีมแพทย์ที่เพียบพร้อม 

รวมถึงห้องควบคุมการแข่งขันที่รองรับระบบถ่ายทอดสด ช้าง อารีนา ของบุรีรัมย์ถือเป็นตัวอย่างสนามที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันระดับนานาชาติ มีทั้งห้องแต่งตัวทีมเหย้า-เยือนมาตรฐาน, ห้องพยาบาลที่ทันสมัย, และห้องถ่ายทอดสดโทรทัศน์วิทยุในตัว​ 

ในขณะที่สนามของทีม JFL หลายแห่งเป็นสนามกีฬาเปิดโล่ง ความพร้อมด้านห้องต่างๆ อาจไม่ครบครัน บางทีมต้องใช้สนามกลางที่ห่างไกลชุมชนกรณีสนามหลักไม่ผ่านเกณฑ์ เช่น ในกรณีต้องแข่งเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ J3 เป็นต้น

 

• ภาพรวม 

คุณภาพสนามและสิ่งอำนวยความสะดวกของไทยลีก เหนือกว่า JFL อย่างชัดเจน จากการที่ไทยลีกเป็นลีกอาชีพเต็มตัว สนามได้รับการลงทุนพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

ขณะที่ JFL ในฐานะลีกสมัครเล่น สนามแข่งจำนวนมากยังคงเป็นแบบพื้นฐานที่รองรับผู้ชมได้จำกัดและขาดสิ่งอำนวยความสะดวกบางประการ 

อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่ทีม JFL มีความพร้อมจะเลื่อนชั้นสู่เจลีก ก็จำเป็นต้องปรับปรุงสนามให้ได้มาตรฐานเจลีกก่อน เช่น ต้องมีความจุและระบบต่างๆ ตามเกณฑ์ ซึ่งหลายทีมก็อยู่ระหว่างดำเนินการในจุดนี้ ทำให้ในส่วนของ คุณภาพสนามแข่งขันและสิ่งอำนวยความสะดวก ไทยลีก ชนะอย่างขาดลอย

 

มาตรฐานคลับไลเซนซิ่ง โครงสร้างสโมสร และการบริหารงาน

• ความเป็นมืออาชีพของสโมสร - โครงสร้างลีกและการเลื่อนชั้นตกชั้น 

ไทยลีกดำเนินการในฐานะลีกอาชีพเต็มรูปแบบมาตั้งแต่ปี 2009 ทุกสโมสรในไทยลีกจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีโครงสร้างบริหารเป็นบริษัทหรือสมาคมที่ชัดเจน และต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด คลับไลเซนซิ่ง (Club Licensing) ที่ออกโดยสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) และไทยลีก 

โดยเกณฑ์คลับไลเซนซิ่งครอบคลุมหลายด้าน เช่น การเงินสโมสรที่ต้องโปร่งใสมีตรวจสอบ, การมีระบบเยาวชนและทีมเยาวชน, คุณสมบัติของสนามเหย้าและที่ตั้งสโมสร, คุณวุฒิผู้ฝึกสอน (โค้ชต้องมีใบอนุญาตตามระดับ), และการบริหารจัดการทั่วไป ซึ่งแต่ละปีคณะกรรมการคลับไลเซนซิ่งของไทยลีกจะประเมินและออกใบอนุญาตให้สโมสรที่ผ่านเกณฑ์

​ส่วนในลีก JFL ซึ่งเป็นลีกระดับสมัครเล่นสูงสุดของญี่ปุ่น ไม่มีระบบคลับไลเซนซิ่งอย่างเป็นทางการเหมือนกับลีกอาชีพ J1–J3 ของ J.League อย่างไรก็ตาม สโมสรที่ต้องการเลื่อนชั้นขึ้นสู่ J3 League จำเป็นต้องขอรับ "ใบอนุญาตคลับไลเซนซิ่ง J3" (J3 Club License) จาก J.League โดยต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระบบคลับไลเซนซิ่งของ J.League

ในไทยลีกมีระบบ เลื่อนชั้น-ตกชั้น ร่วมกับไทยลีก 2 (T2) โดยสามทีมอันดับท้ายไทยลีก1 จะตกไป T2 และสามทีมอันดับสูงสุด T2 ที่ผ่านคลับไลเซนซิ่งจะขึ้นมาแทน 

การมีระบบตกชั้นนี้บังคับให้ทุกสโมสรต้องรักษามาตรฐานและลงทุนพัฒนาโครงสร้างอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นหากตกชั้นไป ลีกล่างจะมีรายได้น้อยลงมาก 

ส่วน JFL นั้นสถานะพิเศษเนื่องจากอยู่ระหว่างลีกอาชีพ (J1-J3) กับลีกสมัครเล่นระดับภูมิภาค JFL ถือเป็น ลีกกึ่งทางผ่าน ที่ทีมจะอยู่ต่อก็ต่อเมื่อยังไม่พร้อมเป็นอาชีพเต็มตัวหรือยังไม่ผ่านเกณฑ์ขึ้น J3 และหากทำผลงานแย่มากก็อาจตกชั้นลงสู่ลีกภูมิภาค (ระดับ 5) ได้เช่นกัน 

ในแต่ละปีแชมป์และรองแชมป์ JFL ที่มีคุณสมบัติ เช่น ได้รับการรับรองเป็น J.League Associate Member และ ถ้าผ่านเงื่อนไขต่างๆ จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไป J3 (ลีกอาชีพระดับ 3) 

เงื่อนไขสำคัญที่เจลีกกำหนดเพิ่มเติมคือ ทีม JFL ที่จะเลื่อนชั้นต้องมี จำนวนผู้ชมเฉลี่ยอย่างน้อย 2,000 คนต่อแมตช์เหย้า และมีรายได้ค่าบัตรผ่านประตูปีละอย่างน้อย 10 ล้านเยน​ 

นอกจากนี้ยังต้องผ่านมาตรฐานด้านสนาม, การเงิน, การจัดการทีมเยาวชน ฯลฯ ตามที่เจลีกกำหนด หากไม่ผ่าน แม้ผลงานในสนามจะดี ทีมก็จะยังไม่ถูกเลื่อนชั้น

ลักษณะของสโมสรใน JFL  มีทั้งสโมสรที่เป็นทีมสมัครเล่นของบริษัทใหญ่ เช่น ฮอนด้า เอฟซี (Honda FC) ของบริษัทฮอนด้า, โซนี่ เซนได (Sony Sendai) ของบริษัทโซนี่, และ มารุยาสุ โอกาซากิ (Maruyasu Okazaki) ของบริษัทมารุยาสุ รวมถึงทีมฟุตบอลจากชมรมหรือนักลงทุนท้องถิ่นที่ตั้งใจไต่เต้าไปสู่ลีกอาชีพ เช่น อิวากิ เอฟซี (Iwaki FC), นารา คลับ (Nara Club), และ เอฟซี โอซาก้า (FC Osaka) ซึ่งได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่เจลีก 3 ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ทีมบริษัทมักมีเงินสนับสนุนจากองค์กรแม่และมีความมั่นคง แต่บางทีมก็ไม่ได้ต้องการเลื่อนชั้นไปเจลีก เพราะจุดประสงค์หลักคือการให้พนักงานได้เล่นกีฬาเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กับชุมชนเท่านั้น เช่น ฮอนด้า เอฟซี ที่ปฏิเสธการเลื่อนชั้นมาหลายครั้ง แม้จะคว้าแชมป์ JFL หลายสมัย

ในขณะที่ทีมที่มีเป้าหมายเลื่อนชั้น จะพยายามเพิ่มความเป็นมืออาชีพในสโมสรของตน เช่น จ้างโค้ชและผู้เล่นที่มีประสบการณ์สูง พัฒนาสนามและอะคาเดมีเยาวชน ทำการตลาดเพื่อดึงดูดผู้ชม เป็นต้น 

อย่างไรก็ตาม จนกว่าจะได้เลื่อนชั้นขึ้นเจลีก 3 ได้สำเร็จ โครงสร้างโดยรวมของทีม JFL ส่วนใหญ่ยังคงเล็กกะทัดรัด มีเจ้าหน้าที่ไม่มาก และอาศัยอาสาสมัครหรือการสนับสนุนจากเทศบาลในพื้นที่พอสมควร

 

• การบริหารงาน

สโมสรไทยลีกหลายแห่งบริหารแบบมืออาชีพเต็มตัว มีฝ่ายต่างๆ ครบถ้วน (ฝ่ายบริหารจัดการแข่งขัน, ฝ่ายการตลาดสื่อสาร, ฝ่ายพัฒนาเยาวชน ฯลฯ) และบางทีมมีงบประมาณประจำปีสูงถึงหลักร้อยล้านบาท ทีมชั้นนำอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เมืองทอง ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ล้วนมีเจ้าของหรือผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่ทุ่มลงทุนทั้งด้านค่าจ้างนักเตะและโครงสร้างสโมสร ซึ่งส่งผลให้ทีมมีผลงานและภาพลักษณ์แข็งแกร่ง 

ขณะที่ทีม JFL การบริหารยังอยู่ในวงจำกัด งบประมาณส่วนใหญ่มาจากสปอนเซอร์ท้องถิ่นหรือบริษัทแม่ ไม่มีรายได้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดก้อนใหญ่ เหมือนไทยลีก ทำให้ต้องใช้งบอย่างรัดกุม แต่ข้อดีคือบางทีมฝังตัวในชุมชนแน่นแฟ้น เจ้าหน้าที่และแฟนบอลทำงานร่วมกันอย่างครอบครัว

 

• ภาพรวม

มาตรฐานการจัดการและโครงสร้างสโมสรไทยลีกอยู่ในระดับลีกอาชีพที่แข็งแกร่งกว่า ทีม JFL อย่างเห็นได้ชัด ทั้งในแง่ระบบคลับไลเซนซิ่งที่บังคับใช้และการสนับสนุนด้านการเงิน-การตลาดจากลีก 

อย่างไรก็ตาม JFL ก็มีบทบาทสำคัญในระบบฟุตบอลญี่ปุ่นในฐานะเวทีพัฒนาทีมท้องถิ่นที่จะก้าวขึ้นสู่ลีกใหญ่ต่อไป ซึ่งไทยลีกไม่มีขั้นตอนนี้เนื่องจากเป็นลีกสูงสุดอยู่แล้ว 

จุดนี้ชี้ให้เห็นว่า ไทยลีกอยู่ในสถานะที่สูงกว่า JFL แต่ก็ต้องรักษามาตรฐานการบริหารให้ต่อเนื่อง เพราะการแข่งขันกับลีกอื่นในระดับเอเชีย เช่น เจลีก, เคลีก นั้นเข้มข้นขึ้นทุกปี

 

จำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อเกม เรตติ้ง และการมีส่วนร่วมของแฟนบอล

• จำนวนผู้ชมในสนาม 

ไทยลีกมีจำนวนผู้ชมเฉลี่ยต่อเกมสูงกว่า JFL หลายเท่า จากสถิติฤดูกาล 2024/25 หลังช่วงผ่านไป 20 นัด พบว่ามียอดผู้ชมรวมกว่า 729,000 คน หรือเฉลี่ยเกือบ 5,000 คนต่อเกม​  ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นจากช่วง
โควิดก่อนหน้า และแสดงถึงความนิยมที่เติบโตอีกครั้งของลีก 

ส่วนทั้งฤดูกาลคาดการณ์ว่าจะมียอดผู้ชมรวมทะลุ 1 ล้านคน ในฤดูกาล 2022/23 ไทยลีกมีผู้ชมเฉลี่ยราว 4-5 พันคนต่อเกม โดยทีมที่มีแฟนบอลเข้าชมเฉลี่ยมากที่สุดต่อเกม มีดังนี้

1. บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด  ≈ 17,448 คน
2.บีจี ปทุม ≈ 8,180 คน
3.นครราชสีมา มาสด้า ≈ 7,800 คน​ 
4.การท่าเรือฯ ประมาณ  ≈ 4,459 คน

จากข้อมูลจะเห็นว่าแม้แต่ทีมที่ไม่ได้เป็นหัวตารางของลีกอย่าง นครราชสีมา มาสด้า ของไทยลีกก็ยังมีศักยภาพที่สามารถจะดึงแฟนบอลได้หลักหลายพันคนทุกนัดที่ทีมลงเเข่งขัน

ขณะที่ JFL มีจำนวนผู้ชมเฉลี่ยเพียงประมาณ 1,200-1,300 คนต่อเกม เท่านั้นในปีล่าสุดซึ่งต่ำกว่าไทยลีกอย่างมาก ทีมที่มียอดผู้ชมสูงสุดใน JFL เช่น ครีอาเซา ชินจูกุ (Criacao Shinjuku) สโมสรในโตเกียว เฉลี่ยราว 2,897 คนต่อเกมเหย้าและ โทจิงิ ซิตี้ เอฟซี (Tochigi City FC) 2,496 คน​ ส่วนหลายๆ ทีมมียอดผู้ชมเฉลี่ยแค่หลัก หลักร้อยถึงพันต้นๆ เท่านั้น 

สาเหตุเพราะ JFL เป็นลีกระดับสมัครเล่น ความสนใจในวงกว้างน้อย และหลายทีมอยู่ในเมืองเล็กหรือเป็นทีมองค์กรที่แฟนกลางๆ ไม่รู้จัก 

อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นเองก็มีกรณีพิเศษที่น่าสนใจ เช่น นัดชิงแชมป์หรือแมตช์พิเศษของ JFL บางนัดที่โปรโมตดี ๆ ก็สามารถจูงใจคนดูเข้ามามากเป็นพิเศษ ดังภาพที่สนามกีฬาแห่งชาติญี่ปุ่น (โตเกียว) ที่มีคนดู 16,480 คน ในเกม JFL 2024 ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดไม่บ่อย

 

• เรตติ้งถ่ายทอดสดและแพลตฟอร์มการรับชม

ไทยลีกมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์และออนไลน์ควบคู่กันไป ทำให้แฟนบอลทั่วประเทศเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้ฐานแฟนบอลขยายตัวพร้อมๆ กับยอดผู้ชมในสนาม 

แม้เรตติ้งโทรทัศน์เฉลี่ยจะไม่สูงเท่าการแข่งขันระดับทีมชาติ แต่แมตช์ใหญ่ๆ เช่น บิ๊กแมตช์เมืองทองฯ-บุรีรัมย์ หรือเกมชิงแชมป์ท้ายฤดูกาล ก็มักจะติดอันดับเรตติ้งรายการกีฬาที่คนดูเยอะในสัปดาห์นั้นๆ 

สำหรับ JFL การถ่ายทอดสดมักจำกัดอยู่ที่การสตรีมออนไลน์ผ่าน YouTube ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นหรือช่องทางท้องถิ่น ไม่มีการถ่ายทอดออกทีวีทั่วประเทศเป็นประจำ ทำให้การรับรู้ของแฟนบอลวงกว้างมีน้อยกว่า จะมีก็แต่แฟนพันธุ์แท้ของทีมหรือแมวมองที่ติดตาม

 

• การมีส่วนร่วมของแฟนบอลและชุมชน

สโมสรไทยลีกหลายแห่งมี ฐานแฟนบอลที่เหนียวแน่นและมีเอกลักษณ์ เนื่องจากตัวสโมสรมีการทำกิจกรรมชุมชน, มีร้านขายของที่ระลึก, และมีกลุ่มเชียร์ (ultras) เป็นของตนเอง 

ส่งผลให้แบรนด์สโมสรฝังรากในท้องถิ่นและสร้างความภักดีระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้น ในระดับประเทศ สื่อโซเชียลของสโมสรไทยลีกก็มีผู้ติดตามจำนวนมาก อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีมีผู้ติดตามเฟซบุ๊กกว่า 2 ล้าน ซึ่งช่วยสร้างสังคมออนไลน์ของทีมให้มีการพูดคุยข่าวสารของทีมอย่างต่อเนื่อง

สำหรับ JFL การมีส่วนร่วมของแฟนบอลจะ จำกัดในวงแคบ กว่า ทีมที่ตั้งอยู่ในเมืองเล็กจะมีฐานแฟนหลักๆเป็นคนท้องถิ่นจริงๆ เพียงไม่กี่หลักร้อยหลักพันคน ซึ่งมักเป็นครอบครัวของนักเตะ, ศิษย์เก่าโรงเรียน/มหาวิทยาลัยที่ทีมสังกัด หรือพนักงานบริษัทสปอนเซอร์ 

อย่างไรก็ดี ทีม บางแห่งที่มุ่งสู่มืออาชีพก็พยายามสร้างฐานแฟน เช่น นารา คลับ (Nara Club) จังหวัดนาราก่อนเลื่อนชั้น J3 ที่ได้ทำงานกับชุมชนอย่างใกล้ชิด จัดกิจกรรมสอนบอลเด็ก เปิดคลินิกฟุตบอล และโปรโมตผ่านสื่อออนไลน์จนมีแฟนคลับเหนียวแน่นพอควร 

ซึ่งการมีส่วนร่วมลักษณะนี้คล้ายกับไทยลีกสโมสรขนาดเล็กที่เป็นการทำในเรื่องของ CSR ที่ย่อมาจาก Corporate Social Responsibility คือ การที่องค์กรหรือบริษัท ดำเนินกิจกรรมหรือโครงการที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการแสวงหากำไร โดยมุ่งหวังให้ ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เช่น สนับสนุนกีฬาในระดับเยาวชน เป็นต้น 

ทว่าในภาพรวมนั้นทั้งลีก JFL ก็คงยังไม่ได้รับการติดตามจากมหาชนเท่ากับไทยลีก

 

• ภาพรวม

ไทยลีกมีจำนวนผู้ชมและการมีส่วนร่วมของแฟนบอลสูงกว่า JFL อย่างมาก เป็นผลจากการตลาดและความเป็นลีกสูงสุดที่ดึงดูดความสนใจได้มากกว่า 

ขณะที่ JFL นั้นมีฐานแฟนเฉพาะกลุ่ม แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีความน่าสนใจ  ในมุมของความสัมพันธ์ชุมชน ทีม JFL บางทีมก็สร้างความผูกพันกับท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งในแบบของตน เพียงแต่เม็ดเงินและจำนวนคนอาจน้อยกว่าไทยลีกหลายเท่า 

การที่ไทยลีกมีผู้ชมมากกว่าและได้รับความสนใจมากกว่า นั่นสะท้อนถึงโอกาสในการสร้างรายได้และกระแสตอบรับที่ดีกว่า ซึ่งส่งผลให้ลีกสามารถเติบโตต่อเนื่อง 

อย่างไรก็ตาม ไทยลีกก็ควรต่อยอดใช้ประโยชน์จากฐานแฟนจำนวนมากนี้ในการพัฒนาคุณภาพลีกต่อไป เช่น ลงทุนในระบบเยาวชนหรือสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อรักษาแฟนบอลระยะยาว ไม่ใช่แค่ความนิยมชั่วครั้งชั่วคราว

 

ความเป็นมืออาชีพของลีก ระบบพัฒนาเยาวชน และโอกาสต่อยอดสู่ลีกที่สูงกว่า

• สถานะความเป็นมืออาชีพของลีก

ไทยลีกเป็นลีกอาชีพเต็มตัวที่อยู่ภายใต้สมาคมฟุตบอลฯ และบริษัทไทยลีก มีการดำเนินงานเป็นธุรกิจ หารายได้จากสปอนเซอร์ ลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ฯลฯ ผู้ตัดสินและเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันก็เป็นมืออาชีพมาก

ในทางตรงกันข้าม JFL แม้จะได้รับการดูแลโดยสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น (JFA) แต่ก็ยังถือเป็น ลีกสมัครเล่นระดับประเทศ ผู้เล่นหลายคนไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอาชีพเต็มเวลา ต้องแบ่งเวลาระหว่างงานกับการเล่นบอล 

ผู้ตัดสินบางส่วนก็อาจไม่ได้มาจากชุดผู้ตัดสินเจลีก การจัดการแข่งขันอาจยืดหยุ่นกว่า เพราะไม่มี VAR หรือเทคโนโลยีช่วยตัดสินทันสมัยอย่างที่ลีกสูงกว่ามี 

อย่างไรก็ตาม JFL ได้รับการยอมรับว่าเป็นลีกสมัครเล่นที่มีคุณภาพดีที่สุดของญี่ปุ่น และถูกมองว่า “เทียบเท่า” ลีกอาชีพระดับ J3 ในด้านการแข่งขันตามที่เอกสารทางการของเจลีกเคยระบุไว้ เพียงแต่ ในทางปฏิบัติ JFL ก็คือระดับที่ 4 รองจาก J3  อยู่ดีซึ่งยังต่ำกว่าไทยลีกที่เป็นระดับสูงสุดของประเทศไทย

 

• ระบบพัฒนาเยาวชน 

ประเทศญี่ปุ่นมีชื่อเสียงเรื่องระบบพัฒนาเยาวชนฟุตบอลที่เป็นระบบเดียวกันทั่วประเทศ เด็กญี่ปุ่นถูกฝึกด้วยหลักสูตรใกล้เคียงกันตั้งแต่ระดับโรงเรียนประถม มัธยม ไปจนมหาวิทยาลัย และสโมสรในเจลีกก็มีอะคาเดมีที่ดึงเด็กเหล่านั้นเข้าสู่ทีม 

เมื่อมาเล่น JFL นักเตะเหล่านี้จึงมีพื้นฐานทักษะและแท็คติกที่ดีเยี่ยมแม้อายุยังน้อย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยังเคยกล่าวชื่นชมว่า

“ที่ญี่ปุ่นมีการวางระบบฟุตบอลตั้งแต่ระดับรากฐานในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ ทำให้มาตรฐานโดยรวมสูงและมีความสม่ำเสมอ”

สำหรับไทยลีก ในช่วง 5 ปี ให้หลังก็ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนมากขึ้น ทุกสโมสรไทยลีกต้องมีทีมเยาวชน ตามเกณฑ์คลับไลเซนซิ่ง และทางสมาคมฟุตบอลฯ ก็จัดการแข่งขัน เพื่อพัฒนาฝีเท้านักกีฬาฟุตบอลอยู่บ่อยครั้ง อาทิเช่น ในรายการเเข่งขันไทยลีกเยาวชน (Thai Youth League)

 

• โอกาสในการต่อยอดสู่ลีกที่สูงกว่า

สำหรับผู้เล่นไทยลีก เนื่องจากไทยลีกเป็นลีกสูงสุดของประเทศ โอกาสต่อยอดในที่นี้มักหมายถึง การย้ายไปเล่นในลีกต่างประเทศที่ระดับสูงกว่า 

ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ก็เกิดขึ้นจริงหลายกรณี เช่น ชนาธิป, ธีราทร บุญมาทัน, สุภโชค สารชาติ ย้ายไปเล่นในเจลีกระดับ J1 ซึ่งถือว่าคุณภาพสูงกว่าไทยลีก 

นักเตะไทยบางรายก็ไปยุโรป นอกจากนี้นักเตะต่างชาติที่มาโชว์ฟอร์มเด่นในไทยลีกก็มีโอกาสขยับขึ้นไปเล่นลีกใหญ่ที่สูงขึ้นได้เช่นกัน เนื่องจากแมวมองมาเห็นผลงาน

สำหรับ JFL การต่อยอดหลักของนักเตะคือการได้สัญญากับทีมใน J3 หรือ J2 ถ้าผลงานโดดเด่น บ้างก็ผ่านการที่สโมสรต้นสังกัดเลื่อนชั้นขึ้น J3 แล้วนักเตะได้เล่นลีกสูงขึ้นต่อเลย หรือนักเตะบางคนทำผลงานเตะตาจนทีมใน J2 ดึงไปร่วมทีม 

อย่างไรก็ดี โอกาสที่นักเตะจาก JFL จะข้ามไปลีกระดับท็อปทันทีค่อนข้างจำกัด ต่างจากไทยลีกที่เป็นลีกอันดับต้นๆ ของภูมิภาค ดังนั้นนักเตะ JFL ที่ต้องการไปให้ไกลมักเลือกย้ายขึ้นไปสู่ระบบเจลีกก่อน แล้วค่อยไต่ระดับต่อไปตามลำดับ

 

• ภาพรวม

ลีกไทยและ JFL ของญี่ปุ่นต่างก็มีระบบของตนที่สร้างเส้นทางให้นักเต้าพัฒนาขึ้นไปได้ ไทยลีกในฐานะลีกสูงสุดก็สร้างโอกาสให้นักเตะไทย ไปสู่เวทีที่ใหญ่กว่าในต่างประเทศ ได้หากโชว์ฟอร์มดี โดยเฉพาะเจลีกที่เปิดรับผู้เล่นไทยในโควต้าเอเชียมากขึ้น อย่างล่าสุดมีข่าวว่าจะมีนักเตะไทยไปเล่นครบทั้ง 4 ดิวิชั่นของญี่ปุ่นในปี 

ส่วน JFL นั้นเป็นบันไดก้าวสุดท้ายก่อนการเป็นนักเตะอาชีพเต็มตัวในญี่ปุ่น ผู้เล่นที่แสดงศักยภาพใน JFL จะได้ขยับขึ้นสู่เจลีกต่อไป กล่าวได้ว่า ไทยลีกเปรียบเสมือนปลายทางของนักเตะภายในประเทศ (top domestic league) ส่วน JFL เปรียบเหมือนทางผ่านไปสู่ปลายทางมือสมัครเล่นสู่เส้นทางใหม่เพื่อก้าวไปสู่การเล่นลีกระดับมืออาชีพ นั่นเอง

 

สรุป-เปรียบเทียบ-ส่งท้าย

จากการวิเคราะห์ในมิติต่างๆ ข้างต้น จะเห็นว่า ไทยลีก อยู่ในระดับที่สูงกว่าและมีความเป็นมืออาชีพมากกว่า JFL อย่างชัดเจนในแทบทุกด้าน

• คุณภาพผู้เล่น : ไทยลีกเต็มไปด้วยนักเตะดีกรีสูง ทั้งไทยและต่างชาติ ค่าจ้างสูง ดึงดูดผู้เล่นฝีเท้าดีจากต่างแดน ขณะที่ JFL เป็นเวทีกึ่งสมัครเล่น ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังอายุน้อยหรือระดับรอง และมีนักเตะต่างชาติน้อยมาก

• สปีดและสไตล์การเล่น : ไทยลีกมีทักษะความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ความเข้มข้นของเกมในเรื่องของ ความฟิตและระยะทางวิ่ง ยังช้ากว่าเจลีกที่เป็นมาตรฐานญี่ปุ่นอยู่พอสมควร​ ส่วน JFL แม้ผู้เล่นเป็นสมัครเล่นแต่ก็ซึมซับวินัยและความฟิตแบบญี่ปุ่น ทำให้เกมการเล่นมีระบบระเบียบและความทุ่มเทที่ดี แต่มิติด้านเทคนิคและความสร้างสรรค์ยังน้อยกว่าไทยลีก

• สนามและสิ่งอำนวยความสะดวก : ไทยลีกใช้สนามมาตรฐานสูง จุคนได้เยอะ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ​ ส่วน JFL สนามเล็กกว่ามาก และส่วนมากจะไม่ได้ติดตั้งระบบครบครันเหมือนไทยลีกเพราะไม่ได้ออกอากาศทั่วประเทศ

• การบริหารและคลับไลเซนซิ่ง : ไทยลีกบังคับใช้คลับไลเซนซิ่ง AFC ทุกทีม โครงสร้างสโมสรเป็นเเบบมืออาชีพ มีงบประมาณและทีมงานเต็มที่ ในขณะที่ JFL สโมสรหลายแห่งยังเป็นแบบสมัครเล่น อาศัยทุนจากองค์กร/ท้องถิ่น และต้องผ่านเงื่อนไขเข้มงวดหลายด้านก่อนจะเลื่อนชั้นสู่ลีกอาชีพ

• แฟนบอลและความนิยม : ไทยลีกมีฐานแฟนบอลใหญ่กว่า เห็นได้จากผู้ชมเฉลี่ย 
5,000 คน/เกม และแมตช์ใหญ่ดึงได้เกินหมื่นคน ส่วน JFL เฉลี่ยเพียง 1,200-1,300 คน/เกม ถึงแม้จะมีบางนัดพิเศษที่คนดูเยอะผิดปกติเป็นกรณีพิเศษก็ตาม เเต่ทางด้านความสนใจจากสื่อและผู้สนับสนุนในไทยลีกก็จะสูงกว่า

• ระบบเยาวชนและโอกาสเติบโต : ไทยลีกเริ่มลงทุนในระบบเยาวชนมากขึ้น แต่ยังตามหลังญี่ปุ่นที่ทำมานาน ไทยลีกเป็นเวทีให้นักเตะก้าวไปต่างแดนโดยเฉพาะเจลีก ส่วน JFL เป็นเวทีให้นักเตะก้าวขึ้นสู่ลีกระดับมืออาชีพในระดับที่สูงขึ้นในระดับประเทศต่อไป

กล่าวโดยสรุป “ไทยลีก” มีระดับสูงกว่า “JFL” อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะมองในด้านคุณภาพการแข่งขันหรือโครงสร้างลีกเอง การที่เอเย่นต์ญี่ปุ่นบางรายเปรียบเทียบว่าไทยลีก = JFL นั้นอาจเป็นมุมมองที่เน้นเทียบ “คุณภาพนักเตะท้องถิ่นล้วนๆ” เช่น หากไม่มีผู้เล่นต่างชาติช่วย ไทยลีกอาจเหลือศักยภาพใกล้ JFL ตามความเห็นของเขา 

แต่ในภาพใหญ่ เมื่อรวมองค์ประกอบทั้งหมด ไทยลีกยังคงเป็นลีกระดับแนวหน้าของอาเซียนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะที่ JFL เป็นลีกสมัครเล่นของญี่ปุ่นที่แม้คุณภาพพื้นฐานดีตามมาตรฐานญี่ปุ่น แต่ยังห่างไกลไทยลีกในหลายมิติ

แม้ไทยลีกจะอยู่ในระดับที่สูงกว่า JFL อย่างชัดเจนตามข้อเท็จจริง แต่การเปรียบเทียบนี้ก็ชี้ให้เห็นบางจุดที่ไทยลีกอาจนำไปพัฒนาเพิ่มเติม เช่น เรื่องความฟิตและสปีดของผู้เล่นไทย ที่ยังเป็นรองญี่ปุ่น หากสามารถยกระดับการฝึกซ้อมและโภชนาการให้ผู้เล่นไทยมีความอึดและเร็วทัดเทียมนักเตะญี่ปุ่นได้ ไทยลีกจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาต่างชาติมากเกินไป 

อีกด้านคือ การลงทุนในระบบเยาวชน ที่ญี่ปุ่นทำอย่างเป็นระบบมายาวนาน ประเทศไทยก็ควรเดินหน้าตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ให้เกิดผลอย่างจริงจังเเละใจเย็น เพื่อสร้างนักเตะรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพและวินัยสูงมาทดแทนรุ่นพี่ในไทยลีกให้ได้อย่างต่อเนื่อง 

สุดท้าย การรักษามาตรฐานคลับไลเซนซิ่งและการบริหารแบบมืออาชีพก็สำคัญ ไทยลีกควรเรียนรู้จากเจลีกในแง่การจัดการและการมีส่วนร่วมของชุมชนเพิ่มเติม เพื่อให้ลีกเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลต่อไป เพราะทุกเรื่องราวที่กล่าวมาทั้งหมด นั้นคือเรื่องราวที่มากกว่าผลการเเข่งขันในสนามเเต่คือการพัฒนาร่วมกันผ่านการหาข้อเท็จจริงของทั้ง 2 ลีก จากต่างเเดนบนโลกที่งดงามร่วมกัน .

 

บทความโดย นักศึกษาฝึกประสบการณ์ สมปรารถนา อำนวยลาภไพศาล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

 

ที่มา : 

https://www.instagram.com/reel/DFISCwOv6w9/
https://www.idoojung.com/news_view/67959/9.html#:~:text=%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%9B%2010%20%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%20,7%20%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%B5
https://www.transfermarkt.com/japan-football-league/besucherzahlen/wettbewerb/JFL/saison_id/2023#:~:text=,6
https://www.transfermarkt.us/thai-premier-league/besucherzahlen/wettbewerb/THA1#:~:text=,9
https://www.idoojung.com/news_view/67959/9.html#:~:text=%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A2%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2
https://www.thai.fyi/2024/11/19/302/thai-league-foreign-player-quota?utm_source
https://www.siamsport.co.th/football-thailand/thaileague-1/67332/
https://web.facebook.com/mr.ekapong/posts/%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%8120252026%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4-52-%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9B%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%93-%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%8B%E0%B8%B3-%E0%B8%99/1133929468734296/?_rdc=1&_rdr#
https://en.wikipedia.org/wiki/Works_team?utm_source
https://global.honda/en/sports/soccer/?utm_source
https://en.wikipedia.org/wiki/Honda_FC?utm_source
https://en.wikipedia.org/wiki/Tatsuya_Furuhashi?utm_source
https://football-observatory.com/IMG/sites/mr/mr68/en/
https://www.jleague.co/stats/clubs/j1/2025/distance/
https://en.wikipedia.org/wiki/J1_League
https://pantip.com/topic/40410656#:~:text=,%E0%B8%88%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0
https://web.facebook.com/MuangthongUnitedFootballClub/photos/chanathip-songkrasin-jleague-lessons%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81/1847869701904466/?_rdc=1&_rdr#
https://thaileague.co.th/v1/news-index/%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1-%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%A7-%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%81-%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A5-202324/
https://en.wikipedia.org/wiki/Chang_Arena#:~:text=ImageIn%20front%20of%20the%20stadium,ImageThe%20stadium%20on%20a%20matchday
https://www.the-afc.com/en/more/news/acl_recommendations_for_thai_clubs.html
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid0pvQ5PwwusFu8Qn4Gq2w1mEgK77M6jz9HAdc7mKUJ1zSBwEgLYm2ttMznzkrmwgVHl&id=100064673920393
https://en.wikipedia.org/wiki/2024_Japan_Football_League#:~:text=promotion%2Frelegation%20between%20J3%20and%20JFL,7
https://www.instagram.com/p/CsibW5kN9up/
https://asiasportbusiness.com/thai-league-attendance-after-20-rounds/#:~:text=After%2020%20matchweeks%2C%20the%20total,key%20fixtures%20and%20team%20performances
https://www.siamsport.co.th/football-jleague/54038/
https://en.wikipedia.org/wiki/2024_Japan_Football_League#:~:text=Average%20attendance%201%2C234
https://fathailand.org/youth-football?language=en#:~:text=The%20FAT%20has%20developed%20a,East%20Asia
https://web.facebook.com/photo.php?fbid=4004211389623331&id=136045649773277&set=a.136046083106567&_rdc=1&_rdr#
https://www.idoojung.com/news_view/65729/9.html#:~:text=%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%204%20%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%20%21%21

Author

Main Stand

Stand ForAll สื่อกีฬาที่เข้าถึงทุกคน

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ