หนึ่งในดีลที่ดีและดูคุ้มค่าในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคม 2025 ของ พรีเมียร์ ลีก คงหนีไม่พ้น มาร์โก อเซนซิโอ บึ๊กดีลที่ แอสตัน วิลล่า ยืมตัวมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ซึ่งตอนนี้แนวรุกทีมชาติสเปนกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมและเป็น "คีย์แมน" สำคัญที่พา แอสตัน วิลล่า ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในเวทียุโรป
แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มาร์โก อเซนซิโอ ได้ชื่อว่าเป็นนักเตะสายโรเตชั่นอีกคนนึงที่ไม่สามารถเบียดขึ้นมาในชุด 11 ตัวจริงได้อย่างสมํ่าเสมอ ตั้งแต่สมัยเป็นดาวรุ่งของ เรอัล มาดริด จนมาถึง ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
ทว่าสถานะการลงเล่นของนักเตะรายนี้ได้เปลี่ยนไปทันทีที่ แอสตัน วิลล่า เพราะปัจจุบันผลงานของ มาร์โก อเซนซิโอ กำลังครองใจ อูไน เอเมรี่ และแฟน ๆ สิงห์ผงาด … เส้นทางที่ผ่านมาของ มาร์โก อเซนซิโอ ยากลำบากขนาดไหน ติดตามพร้อมกันที่ Main Stand
เติบโตมากับ เรอัล มาดริด
มาร์โก อเซนซิโอ อดีตเด็กปั้นของ เรอัล มายอร์ก้า เซ็นสัญญามาร่วมทีม เรอัล มาดริด เมื่อฤดูกาล 2015-16 และถูกปล่อยให้ เอสปันญ่อล ทีมร่วมลีกยืมตัวเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ก่อนที่เจ้าตัวจะโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยการมีส่วนร่วม 17 ประตู แบ่งเป็นยิง 4 ประตูกับอีก 13 แอสซิสต์ ส่งผลให้ตัวรุกชาวสเปนรายนี้ถูกดึงกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในทีมชุดใหญ่ของ เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2016-17 อย่างเต็มตัว
ชีวิตในทีมชุดใหญ่ของ มาร์โก อเซนซิโอ นั้นเป็นไปด้วยดี เพราะเจ้าตัวเป็นที่รักของแฟนบอล เรอัล มาดริด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยได้รับโอกาสเป็น 11 ตัวจริงมากเท่าที่ควรก็ตาม เพราะราชันชุดขาว มีหนึ่งใน 3 ประสานที่ดีที่สุดในโลก อย่าง BBC (คาริม เบนเซม่า, แกเร็ธ เบล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้) ยืนทำหน้าที่อยู่ในแนวรุก
ถึงภายหลัง แกเร็ธ เบล และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกจากทีมไป แต่ก็ยังมีนักเตะวันเดอร์คิดหน้าใหม่จากบราซิล อย่าง โรดริโก้ กับ วินิซิอุส ที่เข้ามารับไม้ต่อจากตำนานรุ่นพี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งกองกลางที่เจ้าตัวพอเล่นได้ ก็มี โทนี่ โครส และ ลูก้า โมดริช ประจำการเป็นกำลังหลักอยู่ ชนิดที่เรียกว่าราชันชุดขาวขาดสองคนนี้ไม่ได้เลย รวมถึง อิสโก้ ที่นั่งรอโอกาสอยู่เช่นกัน ทำให้เวลาในการลงสนามของแนวรุกทีมชาติสเปนรายนี้ตกเป็นตัวสำรองซะส่วนใหญ่ในตลอด 7 ฤดูกาลกับ เรอัล มาดริด
หลังจากค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ถึง 7 ฤดูกาลและคว้าแชมป์มาหมดทุกรายการกับยักษ์ใหญ่ของลีกสเปน มาร์โก อเซนซิโอ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม ท่ามกลางความเสียดายของแฟนบอล ราชันชุดขาว เพราะถึง มาร์โก อเซนซิโอ จะได้ลงสนามในฐานะตัวสำรองอยู่บ่อย ๆ แต่เจ้าตัวก็แสดงฟอร์มในสนามของตัวเองออกมาได้อย่างเต็มที่และช่วยทีมได้เยอะมาก ๆ ในช่วงเวลาที่คับขัน เรียกได้ว่า แฟน ๆ อุ่นใจเสมอเมื่อมีชื่อของ มาร์โก อเซนซิโอ อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรอง
เจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปเข้าร่วมทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แบบไม่มีค่าตัว เพื่อหาโอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างสมํ่าเสมอ ทิ้งไว้เพียงความทรงจำที่ยอดเยี่ยมและตัวเลขสถิติตลอด 7 ฤดูกาล กับ เรอัล มาดริด ที่เจ้าตัวได้ลงสนามไปทั้งหมดในทุกรายการ 286 เกม ยิงได้ 61 ประตูและทำอีก 32 แอสซิสต์ และปิดเส้นทางของตัวเองกับ เรอัล มาดริด ได้อย่างสวยงาม
ผิดหวังที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
"การพูดคุยครั้งแรกกับเปเอสเชเป็นไปในเชิงบวกมาก พวกเขาอธิบายแนวทางทุกอย่างทั้งหมดให้ผมฟังและพูดตามตรงเลยนะ เมื่อผมได้เห็นความพยายามของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ต้องการตัวผม มันทำให้ เปเเอสเช เป็นสโมสรที่น่าสนใจมากและนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงมาเป็นส่วนหนึ่งของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในตอนนี้"
"ผมถามเพื่อนบางคนของผมใน เรอัล มาดริด เช่น คาริม เบนเซม่า, เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า และ ออเรเลียง ชูอาเมนี่ เกี่ยวกับลีกเอิง ซึ่งพวกเขาก็พูดเรื่องดี ๆ ให้ผมฟัง แต่ลีกเอิงของฝรั่งเศสเป็นการแข่งขันที่เน้นการปะทะกันอย่างรุนแรง และเต็มไปด้วยผู้เล่นที่มีทักษะสูงอีกด้วย"
"ผมรู้จัก หลุยส์ เอ็นริเก้ เป็นอย่างดี เขาเป็นโค้ชที่ผมเคยเล่นอยู่ด้วยในฟุตบอลโลกกับทีมชาติสเปน เรามีความสัมพันธ์ที่ดีมากและผมหวังว่าเราจะประสบความสำเร็จด้วยกันที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง" มาร์โก อเซนซิโอ กล่าวถึงสาเหตุที่เลือกย้ายไปค้าแข้งใน ลีกเอิง กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ในช่วงเวลานั้น
มาร์โก อเซนซิโอ กลายเป็นนักเตะคนที่สองที่ หลุยส์ เอ็นริเก้ เซ็นสัญญามาร่วมทีม ด้วยสไตล์การเล่นและเทคนิคที่แนวรุกชาวสเปนรายนี้มีติดตัว ว่ากันว่าเหตุผลที่ เอ็นริเก้ เลือก อเซนซิโอ เนื่องจากแข้งเลือดกระทิงดุ เคยลงเล่นให้กับ หลุยส์ เอ็นริเก้ ในตำแหน่ง "ฟอลส์ไนน์" กับทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกปี 2022
แต่สุดท้ายดีลนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่หลาย ๆ คนคาดหวัง เพราะแม้ในฤดูกาลแรกของเขากับ เปแอสเช มาร์โก อเซนซิโอ จะได้ลงมากถึง 31 นัด แต่เขาก็ส่งบอลไปนอนก้นตาข่ายได้เพียง 5 ประตู 7 แอสซิสต์ และมีบางเกมที่เขานั่งดูเพื่อนเล่นอยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองอีกด้วย
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะหลังจากลงเล่นได้เพียง 4 เกม มาร์โก อเซนซิโอ ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวถึงจบเลกแรก ซึ่งส่งผลให้ หลุยส์ เอ็นริเก้ เลิกใช้แท็คติกกองหน้าตัวหลอก และหันมาจับคู่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ กับ กอนซาโล รามอส ให้ยืนหอกคู่แทน ยังไม่รวมถึงการมาของวันเดอร์คิดอย่าง บรัดเล่ย์ บาร์โคล่า
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่า มาร์โก อเซนซิโอ จะหายจากอาการบาดเจ็บแล้ว แต่แนวรุกเลือดกระทิงดุก็ไม่สามารถยึดตำแหน่ง 11 ตัวจริงกลับคืนมาได้ เนื่องด้วย หลุยส์ เอ็นริเก้ และ เปแอสเชทุ่มเงินมากกว่า 60 ล้านยูโร เพื่อคว้า เดสิเร่ ดูเอ้ มาจาก แรนส์ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2024 และ ควิช่า ควารัตสเคเลีย มาจาก นาโปลี ค่าตัวราว 70 ล้านยูโรในช่วงตลาดเดือนมกราคม 2025 ตามลำดับ
นั่นทำให้ในฤดูกาล 2024-25 มาร์โก อเซนซิโอ ลงเล่นให้กับ เปเเอสเช ในลีกเป็นเวลารวมทั้งหมดแค่ 620 นาที จาก 12 นัด และลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แค่ 135 นาที จาก 8 นัดในรอบลีก และยิงได้เพียง 2 ประตูกับอีก 4 แอสซิสต์
ความผิดหวังของ มาร์โก อเซนซิโอ กับ เปแอสเช ในฤดูกาลนี้ คือเขาไม่ค่อยได้ลงเล่นมากนัก เพราะ หลุยส์ เอ็นริเก้ เลือกแนวรุกคนอื่นก่อนแข้งชาวสเปนรายนี้เสมอ ไม่ว่าจะทั้งในลีก หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็ตาม
"โค้ชรู้สึกว่าเขาจำเป็นต้องทำการเลือกตัวเลือกอื่นที่ไม่ใช่ผม พอเขาทำเช่นนั้น ผมเลยตัดสินใจว่า ผมต้องการลงเล่นและต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของผม" นี่คือความรู้สึกของ มาร์โก อเซนซิโอ ก่อนจะย้ายออกจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง
ถึงจะทำผลงานได้ดีตามมาตรฐานทุกครั้งเมื่อได้รับโอกาสลงสนาม แต่เพื่อหาโอกาสการลงเล่นที่มากขึ้นอย่างสมํ่าเสมอ ทำให้เจ้าตัวตัดสินใจปิดฉาก 2 ปีกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เก็บของออกจากทีมในตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมที่ผ่านมา และย้ายมาอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ด้วยสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล
"การตัดสินใจของผมบ่งบอกอะไรได้ดีกว่าสิ่งที่ผมคิด ผมจะบอกเสมอว่าผมตัดสินใจเลือกนักเตะด้วยผลงานทั้งในการแข่งขันและในสนามซ้อม มันแน่นอนว่านักเตะที่ไม่ได้ลงเล่นก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งนี้ แต่ทั้งหมดมันคือสิ่งที่ผมต้องทำในฐานะโค้ช ผมบอกกับลูกทีมเสมอว่าไม่มีสถานการณ์ใดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในวันนี้การตัดสินใจของเขาเป็นแบบนั้น และผมไม่มีอะไรต้องอธิบาย" หลุยส์ เอ็นริเก้ กล่าวหลัง มาร์โก อเซนซิโอ ย้ายออกจากทีมไปในตลาดหน้าหนาว
ตำแหน่งที่ชอบกับโค้ชที่ใช่
ชีวิตใหม่ของ มาร์โก อเซนซิโอ กำลังเริ่มต้นขึ้น หลังแนวรุกทีมชาติสเปนเลือกสวมเสื้อเบอร์ 21 ลงเล่นให้กับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดใจถึงความรู้สึกหลังจากได้ย้ายมาอยู่ที่ วิลล่า พาร์ค ว่า อูไน เอเมรี่ มีส่วนสำคัญที่พาตัวเขามาอยู่ที่นี่
"อูไน เอเมรี่ เป็นโค้ชที่ผมรู้จักมาระยะหนึ่งแล้ว เขาเป็นโค้ชชั้นนำและมีประสบการณ์การทำงานที่ยอดเยี่ยม"
"เขามองผมเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 ซึ่งสิ่งนี้มันสำคัญกับตัวผมมาก เพราะมันเป็นตำแหน่งที่ผมชอบเล่น ผมรู้ว่า อูไน เอเมรี่ ชอบแทคติกฟุตบอลแบบไหนและสไตล์ของเขาก็ตรงกับสไตล์การเล่นฟุตบอลของผม เขาเลยเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผมมาอยู่ที่นี่"
ผลงานของ แอสตัน วิลล่า ในมือของ อูไน เอเมรี่ กำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ และการได้ มาร์โก อเซนซิโอ เข้ามาเสริมทีมในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ ส่งผลดีต่อทีมในแง่ของคุณภาพและประสบการณ์ที่ต้องใช้ในเวทียุโรป
"เพื่อนร่วมทีมของผมหลายคนพูดถึงพรีเมียร์ ลีก ว่าเป็นลีกที่ดีที่สุดในโลก อาจเป็นเพราะนักเตะ แฟนบอล หรือเพราะการแข่งขันที่เข้มข้น"
"มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากที่ผมกำลังได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีก ผมรอคอยที่จะพิสูจน์ตัวเองกับทีมที่ดีที่สุดในโลกทุก ๆ สัปดาห์และนั่นคือสิ่งที่ต้องการสำหรับผู้เล่นอย่างผม มันเป็นเป้าหมายในอาชีพของผมและผมดีใจที่สามารถบรรลุเป้าหมายในตอนนี้ได้"
นับตั้งแต่ย้ายเข้ามาร่วมทีม แอสตัน วิลล่า เมื่อตลาดเดือนมกราคม 2025 แนวรุกทีมชาติสเปนลงสนามให้ทีมไปทั้งหมด 8 นัด ซัดไป 7 ประตู เรียกได้ว่าฟอร์มกำลังดีและเป็นความหวังใหม่ของแฟนบอล "สิงห์ผงาด" ที่หวังอยากให้ทีมได้ไปลุยเวทียุโรปต่อในปีหน้า
ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดของตัวเอง ทำให้ มาร์โก อเซนซิโอ ต้องการพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่าเขานั้นสมควรได้รับโอกาสมากกว่าที่ต้องนั่งเป็นตัวสำรองคอยโรเตชั่นให้กับคนอื่น
มาร์โก อเซนซิโอ เป็นคีย์แมนคนสำคัญ โชว์ฟอร์มเก่งยิงอีก 2 ประตู หลังถูกเปลี่ยนลงมาเป็นตัวสำรอง พา แอสตัน วิลล่า ชนะ คลับ บรูจจ์ ด้วยสกอร์รวม 6-1 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
บทบาทเบอร์ 10 ที่ มาร์โก อเซนซิโอ ได้รับจาก อูไน เอเมรี่ ที่ แอสตัน วิลล่า ทำให้เจ้าตัวแสดงศักยภาพทั้งเรื่องเทคนิคและวิสัยทัศน์ในการที่จ่ายบอลบนสนามได้อย่างเต็มที่ และเสริมทีเด็ดด้วยการวิ่งสอดขึ้นไปทำประตูให้เราได้เห็นกัน
โดย มาร์โก อเซนซิโอ ตัวรุกทีมชาติสเปนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ TNT Sports หลังซัดสองประตูใส่ คลับ บรูจจ์ ว่าดีใจและมีความสุขกับชัยชนะในครั้งนี้มาก
"ผมดีใจมากกับชัยชนะในเกมนี้ ตอนนี้ผมมีความสุขมากกับเพื่อนร่วมทีม มีความสุขมากกับแฟนบอลและชื่นชอบเมืองนี้ บรรยากาศในแต่ละเกมกับแฟนบอลมันยอดเยี่ยมมาก ตอนนี้เรามีเวลาพักผ่อนเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปในเกมที่ต้องเจอกับ เปแอสเช"
"เขาไป มาดริด เขาคว้าแชมป์ลีกที่ สเปน เขาไป ปารีส และเขาก็คว้าแชมป์ได้อีกครั้ง เขามีเวทมนตร์โคตรจะวิเศษ รู้จักเขาไหม ชื่อของเขาคือ มาร์โก มาร์โก อเซนซิโอ"
นี่คือเพลงที่แฟนๆ สิงห์ผงาด ช่วยกันร้องให้กับ มาร์โก อเซนซิโอ ในเกมที่ แอสตัน วิลล่า เอาชนะ คลับ บรูจจ์ ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายบนเวทียุโรปได้สำเร็จ
"มันน่าเหลือเชื่อมากที่แฟนบอลสนับสนุนและให้กำลังใจเราขนาดนี้ หากเรานำทุกสิ่งทุกอย่างของ แอสตัน วิลล่า มารวมกัน ไม่ว่าจะเป็นสโมสร โค้ช ผู้เล่นและแฟนบอล ผมเชื่อว่าเราจะสามารถชนะและประสบความสำเร็จสูงสุดในปีนี้ได้"
อีกทั้ง อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสเปนของ แอสตัน วิลล่า ได้ออกมาตอบคำถามกับสื่อในประเด็นที่จะซื้อขาด มาร์โก อเซนซิโอ หรือไม่หลังจบฤดูกาล "ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แน่นอนว่าพวกเราทุกคนพอใจและมีความสุขกับเขา"
"ตอนนี้เรากำลังดูแลเขา เพราะเขายังไม่ได้อยู่ในสภาพที่ฟิตสมบูรณ์ 100% แต่เขาก็ยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งที่เราวางแผนให้เขาเล่น พวกเราทุกคนมีความสุขกับเขาจริง ๆ"
น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า มาร์โก อเซนซิโอ จะพา แอสตัน วิลล่า บินไปสูงได้ขนาดไหน หลัง "สิงห์ผงาด" ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2024-25 ซ้ำยังอยู่บนเส้นทางลุ้นท็อปโฟร์ในลีกอีกด้วย … แต่เชื่อว่าตอนนี้แฟนบอลวิลล่าอยากให้สโมสรซื้อขาด มาร์โก อเซนซิโอ แน่นอน
บทความโดย นายพัทรพร ร่วมรักษ์ (มหาวิทยาลัยกรุงเทพ)
นักศึกษาฝึกงาน Main Stand
แหล่งอ้างอิง
https://www.transfermarkt.com/marco-asensio/profil/spieler/296622
https://en.wikipedia.org/wiki/Marco_Asensio
https://www.birminghammail.co.uk/sport/football/transfer-news/luis-enriques-comments-leave-marco-31109239
https://telegrafi.com/en/asensio-shpjegon-arsyen-pse-vendosi-te-transferohet-te-psg/
https://www.footboom1.com/th/news/football/2377299-psg-transfer-news-marco-asensio-opens-up-about-his-departure-from-paris-sg
https://www.getfootballnewsfrance.com/2024/profile-marco-asensios-prominent-role-at-psg-under-threat-in-2025/
https://www.bbc.com/sport/football/articles/cvg1dxyz1jjo