แอนโทนี่ กำลังไปได้สวยกับ เรอัล เบติส ด้วยสัญญายืมตัว ประตูมี รางวัลมา ซีอีโอชอบใจ แฟนบอลก็ปลื้มปริ่ม ... ไม่น่าเชื่อว่า ไม่ถึง 1 เดือนก่อน เขากำลังตกนรกทั้งเป็นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อยู่เลย
เราลองจับสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นกับ แอนโทนี่ ทั้งตอนที่เขาเล่นใน พรีเมียร์ ลีก และตอนนี้ ที่เขากำลังเล่นใน ลา ลีกา สเปน ... หากว่าลองเทียบกับนักเตะบราซิลอีกหลาย ๆ คนในอดีต ที่เคยทั้งเกิดและดับกับสองลีกนี้ แอนโทนี่ เข้าข่ายกลุ่มไหน และจะสรุปเรื่องของเขาได้ยังไงแน่ ?
หาคำตอบไปพร้อม ๆ กับ Main Stand ที่นี่
ตั้งข้อสงสัยกับนักเตะเกมรุก
ขึ้นชื่อว่านักเตะบราซิล สิ่งแรกที่วาบเข้ามาในความคิดคือ ทักษะฟุตบอล เทคนิค และลีลาที่พริ้วไหว เอ็นเตอร์เทนแฟนบอลได้ ดังที่เขาเรียกกันว่า "ลีลาแซมบ้า" เหมือนกับ โรนัลโด้, โรนัลดินโญ่, โรบินโญ่ หรือ เนย์มาร์
แต่ปัญหาก็คือ เมื่อเรามองไปยังนักเตะบราซิลที่เล่นเกมรุกเป็นหลัก และจำเพาะเจาะจงไปยังคนที่ย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ ลีก แบบค่าตัวแพง ๆ ในลักษณะคล้าย ๆ กับ แอนโทนี่ เราก็พบว่า น่าแปลกที่นักเตะตัวรุก ที่เล่นในตำแหน่งกองหน้า หรือตัวริมเส้นสายลากเลื้อย แทบไม่ค่อยมีใครประสบความสำเร็จมากนัก
ย้อนกลับไปในปี 2008 โรบินโญ่ ย้ายจาก เรอัล มาดริด มาที่ แมนฯ ซิตี้ เรื่องทักษะลูกเล่นต่าง ๆ แทบไม่ต้องพูดถึง แวงซองต์ กอมปานี ที่เล่นให้ ซิตี้ ในเวลานั้นบอกว่า "โรบินโญ่ เหมือนมาจากนอกโลกเวลาอยู่ในสนามซ้อม เขาทำให้พวกเราเหมือนเป็นตัวตลก แต่ในการแข่งขันเขาเป็นนักเตะบราซิลที่อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย นั่นคือความไม่แน่นอนของเขา แต่ถึงยังงั้นคุณต้องยอมรับว่า นักเตะบราซิลระดับ โรบินโญ่ นั้นมีเสน่ห์ คุณจะต้องพูดถึงเขาก่อนคนอื่น ๆ เสมอ ไม่ว่าเรื่องบวกหรือลบก็ตาม"
ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเหตุผลหลัก ๆ ของนักเตะบราซิลสายลากเลื้อยที่มาพร้อมกับชื่อเสียง ราคา และความกดดัน เดิมทีพวกเขาก็เล่นยากอยู่แล้วในฟุตบอลอังกฤษ ที่บีบไล่กันแบบหายใจรดต้นคอกันทุกวินาที ซึ่งนั่นอาจจะทำให้นักเตะตัวรุกที่ชอบการครองบอลอยู่กับตัวไว้เป็นเวลานาน ๆ แบบนี้เล่นยากกว่าปกติ หรืออย่างน้อย ๆ ก็คือ พวกเขาจะขาดพื้นที่ในการเลี้ยงและโชว์ลีลาต่าง ๆ ที่เป็นไม้เด็ดของตัวเอง
โดยเฉพาะกับทีมระดับแถวหน้าที่ต้องเล่นเกมบุก และเป็นฝ่ายโดนฝั่งตรงข้ามตั้งรับและเข้าบอลในระยะประชิด นักเตะบราซิลสายเน้นโชว์เดี่ยวลากเลื้อยแบบนี้ประสบปัญหาขึ้นแบบคูณสอง เพราะเราลองไล่ดูนักเตะตำแหน่งตัวริมเส้นชาวบราซิลของทีมใหญ่ ๆ ใน พรีเมียร์ ลีก เราไม่พบใครเลยที่สามารถใช้คำว่า "ประสบความสำเร็จ" ได้เต็มปากเต็มคำ
นักเตะบราซิลที่เล่นแล้วดี เล่นแล้วปังใน พรีเมียร์ ลีก ส่วนใหญ่ ดูเหมือนมักจะมาจากตำแหน่งที่ต้องอาศัยการเล่นเป็นทีม และมีความสอดคล้องกับแท็คติกที่โค้ชวางไว้เป็นหลัก หลับตาและนึกภาพง่าย ๆ ชื่อของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, จูนินโญ่ เปาลิสต้า, กาเบรียล เชซุส และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ คุณจะนึกออกทันที
นักเตะพวกนี้มีความเป็นทีมสูงมาก แม้ทักษะส่วนตัวจะโดดเด่นไม่แพ้ใคร แต่นักเตะเหล่านี้ยอดเยี่ยมได้ เพราะอยู่ในองค์ประกอบรอบตัวที่ดี โค้ชเลือกใช้งานพวกเขาได้ถูกที่ถูกทาง เรียกว่าพวกเขาเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ทีมดีขึ้น
เช่นเดียวกันกับนักเตะบราซิลที่โดดเด่นได้ด้วยการมีองค์ประกอบที่ดี มีความเป็นทีมเวิร์ก และเล่นในตำแหน่งปิดทองหลังพระอย่าง จิลแบร์โต้ ซิลวา, แฟร์นันดินโญ่, ฟาบินโญ่ หรือแม้กระทั่งคู่หูแซมบ้าของ นิวคาสเซิ่ล อย่าง บรูโน่ กิมาไรส์ และ โชลินตอน เช่นกัน
นักเตะประเภทนี้จะแตกต่างกับนักเตะอย่าง โรบินโญ่ หรือ แอนโทนี่ คนละโยชน์ ... ในรายของ แอนโทนี่ นั้น แม้จะเป็นนักเตะที่บราซิลที่มีเบสิกทักษะดี แต่การที่เขาเป็นนักเตะที่พยายามเล่นด้วยตัวเองบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะด้วยทัศนคติ หรือว่าพวกเขาอยู่ในทีมที่องค์ประกอบที่ไม่ดีมากนัก เพื่อนร่วมทีมไม่เสริมส่ง และโค้ชก็ใช้แท็คติกคนละสไตล์กับวิธีการเล่นของพวกเขา ... ทุกอย่างรวมกันทำให้พวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่เล่นไม่ออก หรือเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน
หากเราลองเทียบดูระหว่างคนที่พีก และคนที่ดูเหมือนจะล้มเหลว เราสามารถพบได้ว่า พรีเมียร์ ลีก โดยเฉพาะในยุคนี้ อาจจะไม่เหมาะกับสายเทคนิคจ๋า ๆ ลีลาสวย ๆ หรือเรียกง่าย ๆ พวกที่ชอบอยู่ในสถานะเป็นพระเอกของทีม ด้วยสไตล์การเล่นของแต่ละทีม และ DNA ฟุตบอลที่เน้นความแข็งแกร่งเชิงกายภาพ มากกว่าลีลาสวยงามหาตัวจับยาก ยิ่งคนที่ไม่ได้อยู่ในทีมที่มีองค์ประกอบดีอย่าง แอนโทนี่ มันยิ่งทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่า แม้เขาจะพยายาม แต่ดูเหมือนว่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด หรือ พรีเมียร์ ลีก เขาอาจจะอยู่ผิดที่ผิดทาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเตะที่ชอบอยู่ในกระแส มีความโดดเด่น และสื่อชอบเล่นข่าว นักเตะกลุ่มนี้มีสิทธิ์ที่จะทำตัวเกินเบอร์ไปบ้าง จนหลงลืมไปว่าจริง ๆ แล้ว ตัวเองยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างให้พัฒนา ซึ่งเรื่องนี้ คาฟู ตำนานวิงแบ็กชุดแชมป์โลกปี 2002 ก็ออกมาพาพูดในเชิงเหน็บสื่ออังกฤษที่ทำให้นักเตะในลีกหลงระเริงเกินตัวว่า
"ผมกลัวอยู่ว่า นักเตะบราซิลไปเล่นใน พรีเมียร์ ลีก เยอะเกินไป ยิ่งพวกเขาไปค้าแข้งที่นั่นมากเท่าไหร่ โอกาสที่บราซิลจะคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 6 ก็น้อยลงเท่านั้น ... ลองนึกภาพดู คุณจะเป็นนักเตะที่ดีขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อคุณโดนสื่อล้างสมองทุกสัปดาห์ว่า คุณกำลงเล่นในลีกที่ดีที่สุดในโลก ทั้งทีมความจริงผมว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย"
อย่างไรเสีย ไม่ได้แปลว่าเขาจะเป็นนักเตะที่ไม่ดีหรือห่วยแตก เพียงแต่เขาต้องหาเวทีที่เหมาะสมกับตัวตนของตนเองให้ได้ ซึ่งตอนนี้เขาอาจจะเจอมันแล้วที่ ลา ลีกา สเปน
ไปเลื้อยที่ ลา ลีกา ทำไมเวิร์ก
นักเตะบราซิลกับ ลา ลีกา สเปน ดูจะเป็นอะไรที่มีภาพด้านความสำเร็จชัดมากกว่าพรีเมียร์ลีก
The Elastico เว็บไซต์เกี่ยวกับการวิเคราะห์เรื่องตัวเลขและสถิติในวงการฟุตบอลระบุว่า ฟุตบอลสเปนในช่วงนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา มีความโดดเด่นที่ชัดเจนเรื่องการครอบครองบอล โดยเฉพาะหลังพวกเขาเป็นแชมป์โลก 1 สมัย และแชมป์ยุโรป 2 สมัยในช่วงเวลา 6 ปี
"ลา ลีกา สเปน เป็นฟุตบอลที่เน้นเรื่องเทคนิค และให้ความสำคัญในการครอบครองบอลสูงมาก ๆ ทีมจากสเปนจะเล่นสปีดเกมที่ไม่เร็วมาก แต่เน้นความแน่นอน พวกเขาไม่อยากจะเสียบอล เพราะการจะแย่งบอลกลับมาได้เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก"
"เทคนิค เป็นหัวข้อที่สำคัญมากที่ผู้จัดการทีมใน ลา ลีกา ให้ความสำคัญกับนักเตะของพวกเขา ผู้เล่นที่ทักษะและเทคนิคดี จะเป็นผู้เล่นที่คอยพลิกเกมภายใต้จังหวะการเล่นที่ช้า ๆ แต่มั่นคง ดังนั้นนักเตะประเภทนี้จะไม่ถูกปิดกั้น และถูกสนับสนุนให้แสดงออกถึงความเป็นตัวเอง ใช้ความคิดสร้างสรรค์และไหวพริบของตัวเองได้อย่างเต็มที่"
จากคำกล่าวด้านบน คุณจะพอเห็นภาพว่า ลา ลีกา สเปน มักจะมีนักเตะท้องถิ่นลงเล่นในตำแหน่งต่าง ๆ ที่ไม่ใช่นักเตะเกมรุก โดยเฉพาะกองกลางจากสเปนนั้น ถือเป็นของขึ้นชื่อเรื่องการอ่านเกม การจ่ายบอล การพลิกบอล และการเอาตัวรอดเสียบอลยาก กองกลางประเภทนี้ใน ลา ลีกา สเปน เต็มไปหมด ดังนั้นในส่วนของเกมรุก พวกเขาจึงต้องการนักเตะที่รอบจัด เร็วจี๊ด เทคนิคดี และพลิกเกมได้ภายในชั่วพริบตา เหมือนกับที่คุณเห็น วินิซิอุส จูเนียร์ หรือ เนย์มาร์ ทำเอาไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
และถ้าคุณจะบอกว่า นักเตะบราซิลสายเลื้อยคนไหน สร้างผลงานฝังความทรงจำที่สุดก็ต้องมีชื่อของ โรนัลดินโญ่ ... ซึ่ง โรนัลดินโญ่ ก็พูดออกมาด้วยตัวเองว่า ลา ลีกา เหมาะกับนักเตะที่เทคนิคดี ลีลาสวยมาก ๆ เพราะที่นี่ไม่ได้เล่นฟุตบอลหนักหน่วง และเข้าปะทะกันแบบเอาเป็นเอาตาย
โดย โรนัลดินโญ่ พูดถึงเรื่องนี้หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า ว่า "หลังจากที่ผมเล่นใน ลีก เอิง กับ เปแอสเช ผมพบว่าที่นั่นเป็นลีกที่เน้นความแข็งแกร่งของร่างกายสูงมาก ๆ นักเตะแอฟริกันหรือเชื้อสายแอฟริกันมีอยู่ทุกทีม และพวกเขาขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังมากกว่าที่ไหน ๆ"
"ดังนั้นเมื่อผมมาเล่นในสเปนกับ บาร์เซโลน่า ผมจึงได้พบว่าที่ ลา ลีกา นั้น เป็นลีกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องเทคนิคมากกว่า ผมลงเล่นที่นี่และผมก็คิดว่า นักเตะหลายคนใน ลา ลีกา ไม่ได้แข็งแกร่งเลย อาจจะหนักไปถึงทางอ่อนแอด้วยซ้ำ ผมจึงรู้ทันทีว่าผมสามารถเติบโตได้ดีในลีกนี้ ผมคิดว่าที่ ลา ลีกา เล่นง่ายกว่า" โรนัลดินโญ่ ว่าเช่นนั้น
แม้เขาจะไม่ได้เทียบกับฟุตบอลอังกฤษ เพราะเขาเทียบกับลีกฝรั่งเศส แต่ประโยคดังกล่าวก็พอจะเห็นภาพว่า ทำไมลีกสเปนจึงเหมาะกับนักเตะสายเทคนิคที่ชอบเลี้ยงเลื้อยโชว์ลีลา และเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมนักเตะบราซิล มาที่นี่แล้วเวิร์ก ได้เล่นในแบบที่ตัวเองชอบ และหลายคนประสบความสำเร็จในลีกนี้มากกว่า หากเทียบกับนักเตะสไตล์เดียวกันใน พรีเมียร์ ลีก
ไม่ใช่แค่เรื่องในสนาม
เรื่องของในสนามจบลงไปแล้ว และแน่นอนว่าฟุตบอลนั้นเป็นสิ่งที่คุณมองได้จากหลายมุมหลายแบบ ดังนั้นเราจึงพบว่า มีอีกหลายอย่างที่ทำให้นักเตะบราซิล ที่ไม่ว่าจะเกิดมาลากเลื้อย หรือเล่นในตำแหน่งไหน ๆ ก็จะสามารถปรับตัวกับลีกสเปนได้มากกว่า
ประการแรก เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ไลฟ์สไตล์ ภาษา อากาศ อาหารการกิน ฯลฯ ทุกอย่างที่กล่าวมาล้วนมีความคล้าย ๆ กับบรรยากาศในบราซิล บ้านเกิดของพวกเขา
แม้ชาวบราซิลจะพูดภาษาโปรตุเกสเป็นหลัก แต่ภาษาสเปนนั้นก็มีรากศัพท์ไม่หนีกันมาก แม้จะไม่ได้คล้ายกันในระดับฟังกันรู้เรื่องเหมือนภาษาไทยกับภาษาลาว หรือภาษาสเปนกับภาษาอิตาลี แต่ความแตกต่างที่มีก็ไม่ได้มากห่างกันคนละโยชน์เหมือนภาษาโปรตุเกสกับภาษาอังกฤษ ซึ่งแน่นอนว่านักเตะบราซิลส่วนใหญ่ ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้คล่องแคล่วนัก
นอกจากเรื่องชีวิตและไลฟ์สไตล์แล้ว เรื่องของกฎการย้ายทีม ก็ทำให้ความแตกต่างของบราซิลกับอังกฤษในด้านของฟุตบอลนั้น ขยับห่างกันออกไปไกลขึ้นอีก เพราะกฎการขอ "เวิร์กเพอร์มิต" หรือใบอนุญาตทำงานของลีกอังกฤษเข้มงวดมาก โดยเฉพาะกับนักเตะต่างทวีป ต่างกับฟุตบอลสเปน ที่หากนักเตะสามารถพิสูจน์ว่าครอบครัวมีรกรากจากทวีปยุโรปและขอพาสปอร์ตได้ ก็ไม่นับเป็นตัวโควต้าต่างชาตินอกอียูทันที ดังนั้นเราจึงเห็นดาราชาวบราซิลหลายคนค้าแข้งที่นั่น
“พรีเมียร์ลีกปิดประตูไม่ต้อนรับนักฟุตบอลที่ไม่ใช่สหภาพยุโรปมาเป็นเวลานานแล้ว เนื่องด้วยสถานการณ์เรื่องใบอนุญาตทำงาน"
"สำหรับนักเตะบราซิลนั้น ถ้าเราย้อนเวลากลับไป เราจะพบว่าจุดหมายปลายทางที่ชาวบราซิลชื่นชอบในยุค 1980s เคยเป็น เซเรีย อา มาก่อน ทั้ง ซิโก้, โตนินโญ่ เซเรโซ่ และ โซเครตีส ต่างก็ย้ายไปที่นั่น ขณะที่ยุค 1990s พวกเขาก็เริ่มย้ายไปเล่นมี่ ลา ลีกา นำโดยนักเตะอย่าง เบเบโต้, เมาโร ซิลวา และ โรมาริโอ ก่อนจะมาถึงยุค โรนัลโด้ และอีกหลายคนที่ตาม ๆ มาในภายหลัง" เอราสโม่ ดามิอานี่ อดีตผู้ประสานงานทีมชาติบราซิลว่าเช่นนั้น
คนบราซิลรู้จักฟุตบอลสเปนมากกว่าจากจุดนั้น ฮีโร่ของพวกเขาหลายคนโด่งดังและสร้างชื่อเสียงที่นี่ ... ดังนั้นนี่คือเรื่องนอกสนาม เมื่อประกอบกับเหตุผลที่เรากล่าวมาทั้งหมด จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนักเตะบราซิลสายลากเลื้อยหลายคนจะมาโดดเด่นที่นี่
ส่วนในรายของ แอนโทนี่ นั้น เรายังไม่สามารถตัดสินเขาได้ว่าเขาจะดีหรือแย่ แม้ 3 เกมแรกเขาจะยิงไป 2 ลูกพร้อมรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ 2 เกม แต่อย่าลืมว่าตอนที่เขาเล่นกับ ยูไนเต็ด ปีแรก เขาก็ทำสถิติเป็นนักเตะหน้าใหม่คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยิงประตูได้ใน 3 เกมแรกติดต่อกัน
ดังนั้นหนทางยังอีกยาวไกล ... และถ้าเขาพิสูจน์ตัวเองได้ ก็นับว่าเขาได้เจอที่ที่ใช่ ได้เจอเวทีที่เหมาะกับตัวเอง ซึ่งดูแล้วฝั่ง ยูไนเต็ด ก็น่าจะชอบใจที่เป็นแบบนั้น เพราะทุกประตูที่ แอนโทนี่ ยิงได้ จะทำให้พวกเขามีโอกาสขายดาวเตะค่าตัวแพง ค่าเหนื่อยสูงรายนี้ออกจากทีมได้สำเร็จ หลังจากพยายามมาอย่างยาวนานเหลือเกิน
แหล่งอ้างอิง
https://www.goal.com/en/lists/fans-fume-antony-reminds-man-utd-why-he-cost-with-another-goal-real-betis/bltc46cd2c1ba8fb0a1#cs68074b66a3c38faa
https://www.thedailystar.net/sports/football/news/its-not-football-its-la-liga-3326826
https://www.reddit.com/r/soccer/comments/88zuqu/ronaldinho_about_the_difference_between_la_liga/?rdt=65462
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/40983922/can-brazilian-attackers-break-premier-league
https://medium.com/@football_57201/style-study-robinho-kylian-mbapp%C3%A9-5a665dd3d954
https://the-elastico.com/la-liga-vs-premier-league/
https://www.thesun.co.uk/sport/24863837/cafu-brazil-world-cup-premier-league/