ฟุตบอลอังกฤษ คือลีกที่คนทั่วโลกติดตามมากที่สุด และคุณไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าพวกเขามีอิทธิพลขนาดไหน โดยเฉพาะต่อชาวเอเชีย
อย่างไรก็ตาม ในโลกคู่ขนานที่เรียกว่า "การพนัน" มันก็เกิดเหตุการณ์ "ฝรั่งเตะ - เอเชียล็อก" ซึ่งในโลกฝั่งนี้ คนเอเชียคือผู้คุมเกม และว่ากันว่านี่คือดินแดนแห่งความเจ้าเล่ห์ และฉลาดแกมโกงที่สุดในโลก
อ่านเรื่องเล่าจากปากอดีตนักเตะพรีเมียร์ลีกที่เคยเข้าร่วมขบวนการนี้ที่ Main Stand
จากดาวรุ่งระดับพรีเมียร์ลีก
ชื่อของ มอยเซส สไวบู ไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูแฟนบอลบ้านเราแน่นอน อย่างไรก็ตาม เราอยากให้คุณจำชื่อของเขาให้ดี เพราะเขาคือตัวเดินเรื่องสำคัญที่เชื่อมโลกตะวันตก กับตะวันออกเข้าด้วยกัน
สไวบู คือเด็กหนุ่มเชื้อสายแอฟริกันที่เติบโตในลอนดอน มีฝันอยากจะเป็นนักเตะอาชีพ เพราะอยากจะเปลี่ยนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเองและครอบครัว
พ่อและแม่ของสไวบูแยกทางกันตั้งเด็ก ก่อนที่เขาและน้องชายจะต้องไปอยู่กับพ่อทางตอนใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นย่านเสื่อมโทรม โดยพ่อของเขาทำงานเป็นแรงงาน แถมบางครั้งยังมีเรื่องลักเล็กขโมยน้อย
นั่นจึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพ่อ เป็นในรูปแบบแค่อยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้สนิทหรือมีบทสนทนาต่อกันมากนัก และพ่อของเขาก็เลี้ยงลูกด้วยระบบถึงเนื้อถึงตัว เตะเป็นเตะ ตบเป็นตบ นั่นทำให้เขาอยากจะออกไปจากบ้านหลังนี้
"ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์ดี ๆ กับพ่อแบบคนอื่นเขา ผมเลิกเรียนบ่าย 3 และพ่อวางกฎว่า ถ้า 4 โมงครึ่งผมยังไม่ถึงบ้าน ประตูจะถูกล็อก ส่วนผมจะไสหัวไปนอนที่ไหนก็ไป และมันจะเปิดอีกทีในเวลา 9 โมงเช้า" สไวบู กล่าว
นั่นเป็นเรื่องแย่ ๆ แต่ก็เป็นประตูบานที่เปิดให้เขาได้รู้จักกับฟุตบอล สไวบู ใช้เวลาที่ไมได้เข้าบ้านไปเตะบอลกับเพื่อน ๆ และรุ่นพี่แถวบ้าน เตะบอลเสร็จ ก็พักผ่อนด้วยการขึ้นไปนอนบนรถเมล์ฟรีที่วิ่งไปรอบ ๆ กรุงลอนดอน ชีวิตมันเป็นแบบนี้ และสิ่งนี้เกิดขึ้นตอนที่เขาอายุแค่ 12 ปีเท่านั้น
สตรีทฟุตบอล และการเล่นกับนักเตะรุ่นพี่หรือคนที่อายุมากกว่า ทำให้ สไวบู เก่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาไม่เคยเข้าอคาเดมี่ที่ไหน แต่ฟอร์มกับฟุตบอลข้างถนนทำให้แมวมองของ คริสตัล พาเลซ ติดต่อให้เขาเข้าไปทดสอบฝีเท้าและเขาก็สามารถทดสอบผ่านตอนอายุ 16 ปี
สไวบู เล่นร่วมรุ่นกับวันเดอร์คิดระดับประเทศในเวลานั้นอย่าง จอห์น บอสต็อก และ วิคเตอร์ โมเซส โดยที่สองคนนี้ขึ้นรุ่นไปก่อน ส่วน สไวบู ใช้เวลาช้ากว่าราว ๆ 2 ปี พอถึงอายุ 18 ปี เขาก็ได้โอกาสเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ หลังจากที่คว้ารางวัลนักเตะรุ่นยู 21 ยอดเยี่ยม พร้อมรางวัลนักเรียนดีเด่นของศูนย์ฝึกด้วย
"ท่านประธานมาพูดกับผมว่า เรามีแผนการที่ยิ่งใหญ่รอผมอยู่ และหลังจากนั้น 3 เดือน ผมได้ลงเล่นที่ เซลเฮิร์ส พาร์ค กับทีมชุดใหญ่นัดแรกในเกมกระชับมิตรกับ เอฟเวอร์ตัน ในเกมนั้นมีนักเตะอย่าง มิเกล อาร์เตต้า และ แอนดี้ จอห์นสัน ลงสนามด้วย ผมจำได้ดีว่ามีคนดูในสนามถึง 20,000 คน"
สไวบู เหมือนดาวรุ่งที่อยากจะพิสูจน์ตัวเองมากกว่านี้ แต่บางปัจจัยเขาก็ไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อ พาเลซ เปลี่ยนโค้ชใหม่ และ นีล วอร์น็อค เข้ามา สไวบู ถูกลดชั้นลงมาเป็นผู้เล่นทีมสำรอง เพราะ วอร์น็อค มองว่าเขาตัวเล็กและผอมเกินไปสำหรับทีมชุดใหญ่
หลังจากรับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมได้ปีเดียว ชีวิตของ สไวบู กลับตาลปัตร เมื่อสัญญาเขาหมด และ วอร์น็อค ก็เลือกที่จะไม่ยื่นสัญญาใหม่ให้แถมไม่มีเขาในแผนการทำทีม เด็กอายุ 18 ปี ถูกปล่อยจากทีมระดับพรีเมียร์ลีก และต้องไปเป็นนักเตะที่เร่ร่อนในลีกล่างเรื่อย ๆ หลังจากนั้น
สไวบู เล่นให้กับทีมในระดับ ลีก วัน, ลีก ทู และ คอนเฟอเรนซ์ ลีก เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ที่เคยคาดหวังไว้ไม่เกิดขึ้นจริง และสิ่งที่เขาได้รับห่างจากสิ่งที่เขาตั้งเป้าหมายไว้มาก กระเป๋าที่แบน และหัวใจที่ห่อเหี่ยว พาให้เขาไปเจอกับเส้นทางสู่โลกอีกใบ นั่นคือ "โลกของมาเฟีย"
เอเชีย … ดินแดนแห่งการพนัน
ทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ "อาเซียน" คือภูมิภาคที่ไม่ได้โด่งดังเรื่องความเก่งกาจของกีฬาฟุตบอลในเวทีระดับโลก แต่ถ้าเป็นเรื่องวงการพนันฟุตบอล ไม่มีที่ไหนในโลกยิ่งใหญ่กว่าที่นี่อีกแล้ว
อาเซียน คือดินแดนที่กฎหมายอ่อนแอ จนวงการพนันเข้ามาแอบแฝงได้ในทุกซอกหลืบของทุกวงการ เงินสกปรกจากการพนันถูกนำมา "ฟอก" กับธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ นั่นทำให้ธุรกิจการพนันเติบโตอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ชนิดที่ว่าอาชญากรจากทั่วโลกอยากจะเข้ามามีส่วนร่วม
คนพวกนี้มีเครือข่ายอยู่ทั่วทุกมุมโลกที่มีฟุตบอลแข่ง และมีการเปิดราคาให้นักพนันได้แทง ไม่เว้นแม้แต่ดินแดนต้นตำรับฟุตบอลอย่าง อังกฤษ ที่นักเตะกลุ่มเปราะบาง แข้งตกอับ ในลีกล่าง ๆ มักจะเป็นเหยื่อที่แก๊งพนันใช้เงินหลอกล่อพวกเขาเข้ามาในวงการนี้
สไวบู เริ่มเข้ามาในฐานะ "ตัวล้ม" ช่วงปี 2012 เขาเล่นให้กับทีม ลินคอล์น และมีมาเฟียจากเอเชีย ยัดเงินสดจำนวน 60,000 ปอนด์ เพื่อให้เขาล้มบอลในเกมกับ นอร์ธแฮมป์ตัน ... นี่คือเงินที่มากกว่ารายได้ค่าเหนื่อยรายสัปดาห์ของเขามหาศาล เพราะตอนนั้น สัญญาของเขาได้รับค่าเหนื่อยแค่ 1,500 ปอนด์
เงินจำนวนนี้มาตั้งตรงหน้า สไวบู ก็แพ้มัน เขาจัดการรับเงินและหาเพื่อนนักเตะอีก 3 คนเพื่อช่วยให้งานสำเร็จ แต่ดวงชะตาโจรของเขายังไม่เกิดขึ้นในวันนั้น เพราะ สไวบู และเพื่อน ๆ อีก 3 คนได้เป็นตัวสำรอง จึงล้มบอลไม่สำเร็จ
แต่เงิน 60,000 ปอนด์ในกระเป๋าวันนั้นยังติดตาเขาเสมอ อีกไม่นานนัก เขาย้ายไปอยู่ทีม บรอมลี่ย์ ซึ่งเป็นทีมนอกลีก หนนี้มาเฟียเอเชีย เดินทางมาพบกับเขาด้วยตัวเอง และเสนอเงินก้อนโต
ช่วงเวลาดังกล่าว สไวบู มีภาระแล้ว ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ และเงินของเขาก็ร่อยหรอ ดังนั้นเขาตัดสินใจทำทันที และรับปากกับมาเฟียเอเชียว่า "จะทำให้สำเร็จ"
"เรานัดเจอกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในลอนดอน ผมเปิดประตูเข้าไปในห้อง แล้วชายร่างเล็กชาวเอเชียที่มาดเหมือนกับคนใหญ่คนโตในท้องถิ่นรออยู่ ... เขานั่งลงและจุดบุหรี่สูบแบบไม่สนโลก ผมบอกเขาว่า พี่ชาย ที่นี่สูบบุหรี่ในห้องไม่ได้นะ ... เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาตอบกลับ คือการซี้ดควันเข้าปอดครั้งใหญ่และพ่นออกมากกว่าเดิม"
"เขาเอาเครื่องดื่มราคาแพงมาหว่านล้อม และเริ่มเข้าประเด็นในวันนั้น ซึ่งเรื่องง่าย ๆ ก็คือ บรอมลี่ย์ ต้องแพ้ อีสต์บอร์น ด้วยสกอร์ 0-2 ... เงินรางวัลในการล้มบอลครั้งนี้คือ 1 แสนปอนด์ "
"สีหน้าเพื่อนร่วมทีมบางคนของผมลังเล แต่สำหรับผม ไม่ต้องกลัวเลย ผมจะรับงานนี้และลุยทันทีแบบไม่ต้องคิด" สไวบู กล่าว
เดาสิว่าอะไรเกิดขึ้น ? ... อีสบอร์น ชนะเกมนั้น 2-0 ได้ประตูจาก 2 จุดโทษ และคนทำเสียจุดโทษก็คือ สไวบู เอง
"ผู้จัดการทีมด่าผมแหลกในห้องแต่งตัว แต่พอผมเปิดโทรศัพท์ ก็มีข้อความส่งเข้ามาเป็นอีโมจิชูนิ้วโป้ง (เอเชียสไตล์ของแท้) เข้ามา จากนั้นเงินสดจำนวนมากก็ส่งมาถึงผม ... ผมอาจจะเป็นนักเตะที่ตกจากยอดพีระมิดสู่ฐาน แต่มันก็เป็นหนทางที่ทำให้ผมเดินเข้าสู่โลกแห่งอาชญากรแบบเต็มตัว" สไวบู กล่าว
มุมมองต่อชาวเอเชียที่เปลี่ยนไป
สไวบู ฉลาดพอที่จะรู้ว่า ด้วยจำนวนเงินก้อนโตขนาดนี้ เขาไม่จำเป็นต้องเตะฟุตบอลแล้ว และเขาจะทำเงินได้มากกว่าหากผันตัวมาเป็นคนประสานงาน แถมเหนื่อยน้อยกว่าด้วย รับคำสั่งจากเอเชีย ติดต่อหานักเตะท้องถิ่น และจากนั้นก็ตกลงกัน จบ ! หน้าที่ของเขามีแค่นั้น
มีผู้เล่นที่เข้ามาอยู่ในเครือข่ายล้มบอลของ สไวบู ถึง 50 คน เขากลายเป็นตัวละครหลักที่มาเฟียเอเชียรักเป็นพิเศษ เพราะทำผลงานได้ดีมาก ถ้าเป็นเครือข่ายลูกโซ่ สไวบู ก็ต้องเป็นถึงระดับ "บอส" ซึ่งมันทำให้เขาถลำลึกไปรู้ความจริงที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่า คนเอเชียที่เขาทำงานด้วยพวกนี้ มีอำนาจ เงินทอง และอิทธิพลต่อโลกฟุตบอลปัจจุบันแค่ไหน
"เงินเป็นของหาง่ายไปแล้ว ณ เวลานั้น ผมถือกระเป๋าใบใหญ่เหมือนกับกำลังจะไปเข้ายิม แต่ข้างในนั้นมีเงินสดเต็มไปหมด ผมยังจำได้ดีว่า คืนหนึ่งผมมีเงินสดติดตัวถึง 500,000 ปอนด์ ... เงินมันมาง่ายมากจนผมเป็นคนหวาดระแวง ไม่กล้าทำตัวหรู ไม่กล้าคุยกับเพื่อนบ้าน เพราะกลัวพวกเขาระแคะระคาย"
"แต่กลับกัน ถ้าคุณเห็นเงินจำนวนขนาดนี้ ต่อให้ระแวงแค่ไหน คุณก็ต้องพูดเหมือนผมนั่นคือ 'ผมโคตรจะชอบงานนี้เลย'" สไวบู เล่าถึงตอนที่เขาไปถึงขีดสุดของวงการพนัน
จากคนจัดหา เขาได้เข้ามาเป็นคนที่เห็นระบบหลังบ้านของเว็บพนันที่อยู่ในเอเชีย และโดยเฉพาะย่านอาเซียน เขาเล่าว่า เขาได้เห็นแพลตฟอร์มเดิมพันสด ๆ ที่ล้ำมาก ๆ ในยุค 15 ปีก่อน กลุ่มคนเอเชียพวกนี้บอกเขาว่า ด้วยแพลตฟอร์มและหน้าเว็บแบบใหม่นี้ เงิน 500,000 ปอนด์ ที่เขาเคยได้จะเป็นแค่เศษเงินเท่านั้น ... จากนี้จะคุยกันเรื่องเงินหลักล้านเท่านั้น
"ช่างเทคนิคที่เป็นทีมงานเปิดบางอย่างให้ผมดู มีช่องของตารางและตัวเลขวิ่งเต็มไปหมด ทุกอย่างเป็นตัวหนังสือภาษาจีน ที่จะทำให้การเดิมพันสามารถรันได้ตลอดการแข่งขัน ไม่จำเป็นต้องรอให้แข่งจบก่อนอีกต่อไป" สไวบู ว่าแบบนั้น
ซึ่งถ้าให้เปรียบเทียบกับไทม์ไลน์ช่วงเวลาดังกล่าว ถือเป็นช่วงที่เว็บพนันออนไลน์เฟื่องฟูสุด ๆ ในบ้านเรา วัฒนธรรมของการแทงบอลของผีพนันเปลี่ยนไป จากการแทงผ่านโพย กลายเป็นการโยกไปเล่นบนเว็บไซต์เป็นหลัก ซึ่งเงินหมุนเวียนในส่วนนี้ก็มากมายมหาศาล และเงินจากการพนันก็ถูกนำมาฟอกให้ขาวตามที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น
ขณะที่กลุ่มมาเฟียพนันจากเอเชีย เดินหน้าเข้าสู่ทุกที่ที่มีฟุตบอลมากขึ้น สไวบู เล่าว่า เขาเป็นเหมือนกับหนึ่งตัวละครเล็ก ๆ ในเรื่องนี้ ไม่ใช่พระเอกอย่างที่เขาเข้าใจ เพราะมีคนที่เป็นตัวกลางระหว่างเว็บพนันจากเอเชีย กับนักเตะท้องถิ่น ที่ทำงานเหมือนกับเขาเป็นร้อย ๆ พัน ๆ คน ... แล้วคุณคิดดูเอาแล้วกันว่า โลกฟุตบอลจะปั่นป่วนและไม่ชอบมาพากลขนาดไหน
มาเฟียเอเชียไม่ได้ทำแค่ล็อกผลเท่านั้น วิธีการของพวกเขายกระดับไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ มีทั้งการวางยาใส่นักเตะทีมตรงข้าม การข่มขู่ การซื้อกรรมการ หรือแม้กระทั่งการตัดไฟในสนาม เพื่อให้แมตช์ยกเลิกในยามที่ผลการแข่งขันไม่เป็นอย่างใจ
สไวบู บอกว่า คนเอเชียตัวเล็ก ๆ เหล่านี้คืออัจฉริยะแห่งวงการอาชญากรรมของจริง พวกเขาสามารถหาวิธีหาเงินได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว นอกจากนี้ พวกเขายังมีเหลี่ยมและเล่ห์กลที่จะใช้เงินที่ได้มา เอาไปต่อยอดทำสิ่งอื่น ๆ ผ่านการจ่ายใต้โต๊ะให้กับหน่วยงานราชการ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่แม้ทุกวันนี้ทุกคนจะรู้ว่ามี แต่การจับอย่างจริงจังก็ไม่สามารถทำได้
ว่ากันว่าเงินจากส่วนของเว็บพนันนี้ ถูกส่งต่อไปยังระบบการเมืองต่าง ๆ เพื่อเสริมอำนาจและอิทธิพลในรูปแบบของการแบ่งกันกิน แบ่งกันรวย เอื้อประโยชน์ให้กันและกันอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์นี้ก็ไม่ได้หวานแหววโรแมนติกและเป็นเรื่องของความจงรักภักดีใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเงินและผลประโยชน์ ซึ่งเมื่อฝ่ายไหนหมดผลประโยชน์ ปลายทางของพวกเขาก็คือ ถูกตัดหางปล่อยวัด ราวกับไม่เคยเกี่ยวข้องกันมาก่อน
ตัวของ สไวบู เรียนรู้สิ่งนี้ด้วยตัวเอง เพราะในวันที่เขาเริ่มทำเงินให้กับมาเฟียเอเชียน้อยลง การป้องกันและซ่อนตัวของเขาที่เคยได้รับการช่วยเหลือจากมาเฟียเอเชียก็ลดลงไปเป็นเงาตามตัว สุดท้าย สไวบู ก็โดนจับในปี 2019 ฐานสมคบคิดและกระทำความผิดรับสินบน
เขาต้องโทษ 16 เดือน และสิ่งที่ทำให้เขาระลึกได้ว่าเวลาของเขาในโลกอาชญากรหมดแล้วก็คือ วันที่ภรรยาและลูกต้องมาส่งตัวเขาเข้าคุก และเงินทองที่เคยหามาได้ ถูกอายัดจนหมด และเขาต้องใช้ชีวิตในคุกแบบที่พะวงตลอดว่าลูกเมียของเขาจะอยู่อย่างไร และต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง
โชคยังดีที่บ้านของเขาไม่ทิ้ง ภรรยาและลูกมาเยี่ยมเขาตลอดช่วงติดคุก และทุกครั้งที่หมดเวลาเยี่ยม เห็นคนที่เขารักจากด้านหลังเดินออกประตูไป เป็นช่วงเวลาที่เขายอมรับว่าเขาหลงระเริง เขาผิดเอง และต้องลบล้างสิ่งที่ได้ทำลงไป
"หลังจากที่ภรรยาผมหันหลังไปจากห้องขัง ผมนั่งคิดและพูดกับตัวเองว่า จากนี้ไปผมจะลืมเรื่องเงิน เรื่องฟุตบอล และลบทุกสิ่งทุกอย่าง ผมจะกลับไปเริ่มต้นใหม่" สไวบู กล่าว
หลังจากนั้น หลังจากพ้นโทษ เขาก็ทำงานร่วมกับหน่วยงานที่ช่วยตรวจสอบเรื่องการล็อกผลการแข่งขันในอังกฤษ ด้วยประสบการณ์ล้มบอลที่โชกโชนของเขา แค่เขาเห็นสิ่งไม่ชอบมาพากลนิดเดียว เขาก็รู้แล้วว่าเกมการแข่งขันเกมไหนบ้างที่ควรต้องลงไปตรวจสอบ
สไวบู เล่าว่า แม้เขาจะเลิก แต่กลไกของมาเฟียชาวเอเชียไม่เคยหายไป ซ้ำร้ายจะมากขึ้นและแข็งแกร่งขึ้น พวกเขาบางกลุ่มถึงกับจับมือเป็นพันธมิตร แบ่งเงินกันเพื่อให้ได้ผลประโยชน์มากที่สุด
ชาวเอเชียตัวเล็ก ๆ อาจจะเก่งกาจพอที่จะเล่นฟุตบอลในพรีเมียร์ลีกได้ แต่พวกเขาเอาชนะนักเตะอาชีพที่แข็งแกร่งได้ด้วยเงิน และด้วยความเจ้าเล่ห์ ใจถึง บวกกับระบบทางสังคมที่กฎหมายเปราะบาง ทำให้มาเฟียเอเชียกลายเป็นตัวละครที่มีอำนาจในโลกฟุตบอลปัจจุบันแบบที่ใครก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
และเราเชื่อเหลือเกินว่า คุณเองก็สัมผัสได้ว่าเรื่องนี้มันใกล้ตัวเข้ามาเรื่อย ๆ ในเวลานี้
แหล่งอ้างอิง
https://www.pulsesports.co.ke/football/story/moses-swaibu-7-crazy-facts-about-the-notorious-football-match-fixer-who-once-made-naira200-million-from-a-single-game-2024082511160492188
https://www.thesun.co.uk/sport/29965510/fix-football-matches-london-100k-moses-swaibu/
https://www.thestar.com/sports/olympics-and-paralympics/the-canadian-womens-soccer-team-got-caught-in-paris-but-cheating-is-everywhere-in-sports
https://www.bbc.com/sport/football/articles/cd05385k722o
https://sportingintelligence832.substack.com/p/revealed-true-scale-of-historic-match