Feature

จากมูรินโญ่ถึงอโมริม : ดิโอโก้ ดาโล่ต์ แข้งแฟนบอลยี้ที่กุนซือผีทุกคนต้องใช้ | Main Stand

ดิโอโก้ ดาโล่ต์ เป็นนักเตะที่รับบททั้งลูกรักและลูกชังของแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด มาเสมอ นับตั้งแต่เขาย้ายมาที่นี่เมื่อปี 2018 

 

ในความผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ทำไมเขายังคงอยู่กับทีมมาได้อย่างยาวนาน และเป็นคนที่โค้ชทุกคนชื่นชมตรงกันแบบไม่น่าเชื่อ ?

ดาโลต์ มีดีอะไร ทำไมเขาถึงได้เล่นต่อเนื่อง และล่าสุด ถึงขั้นมีข่าวกับ เรอัล มาดริด ได้ ? ติดตามที่ Main Stand 


ครึ่งเดียวของ "แกรี่ เนวิลล์" 

ดิโอโก ดาโลต์ ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ มาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2018 ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ และในตอนนั้น มูรินโญ่ มองว่า ดาโลต์ จะกลายเป็น แกรี่ เนวิลล์ คนต่อไป และจะยืนระยะในตำแหน่งแบ็กขวาของทีมไปนานอีก 10 ปี 

"ผมไม่อยากเปรียบเทียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจำนวนความสำเร็จและถ้วยแชมป์ที่ แกรี่ เนวิลล์ คว้ามาตลอดชีวิต แต่พวกคุณก็ไม่ควรลืมว่า ดาโล่ต์ มีอายุเท่ากับ แกรี่ เนวิลล์ ในตอนที่เขาก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ ... เขามีศักยภาพให้เติมเต็มอีกมาก และเขามีโอกาสจะเป็นตัวจริงในตำแหน่งแบ็กขวาของทีมไปถึง 10 ปี"

ความจริงเป็นแบบนั้นแค่ครึ่งเดียว ... เขาอยู่กับทีมมานาน และมีส่วนร่วมมาตลอด 7 ปีที่ย้ายมาอยู่กับทีม ได้ลงเล่นในทุกยุคทุกสมัยที่มีการเปลี่ยนโค้ช แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกับที่คิดคือ เขาไม่สามารถเป็นตัวจริงระยะยาวได้ เนื่องจากปัญหาการเล่นที่สร้างความผิดพลาดส่วนบุคคลเป็นประจำ ภาพความผิดพลาดของเขามีให้เห็นเป็นระยะ ๆ 

ดาโล่ต์ เป็นนักเตะที่กองเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด เองก็น่าจะอธิบายความรู้สึกที่มีต่อเขาไม่ถูก ในบางครั้งเขาทำผลงานได้ยอดเยี่ยม มีผลงานชัดเจน มีแพชชั่นที่ขับเคลื่อนคนอื่นได้ และบางนัดเขาเล่นเหมือนกับเป็นนักเตะที่แบกทีมเอาไว้ 

อย่างไรก็ตาม ในความยอดเยี่ยมที่เกิดขึ้น เพียงคุณเผลอเพียงอึดใจเดียว ไม่ต้องรอนานเกินไปนัก เขาก็จะเล่นด้วยความผิดพลาดเข้าตาแบบจัง ๆ จังหวะที่ไม่ควรเสียก็เสียง่าย ๆ จังหวะที่ชี้เป็นชี้ตายก็พลาดจนส่งผลต่อผลการแข่งขัน 

ชุมพตน์ ทรงสายสกุล หรือ "เม้ง ซัมเมอร์ฮิลล์" กูรูฟุตบอลที่เป็นแฟนตัวยงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสได้อธิบายเรื่องจุดอ่อนของ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ ที่เป็นได้แค่ครึ่งเดียวของ แกรี่ เนวิลล์ ว่า เกิดจากคุณสมบัติด้านฝีเท้าเป็นหลัก แม้ ดาโลต์ จะมีคาแร็คเตอร์ดี แต่เขาไม่ใช่คนที่มีสมาธิ มีการตัดสินใจที่ดีในจังหวะสำคัญ ... และที่มีน้อยที่สุดก็คือ เรื่องความเข้าใจเกมและแท็คติก ซึ่งทำให้เขามีปัญหาจนเราได้เห็นอยู่เรื่อย ๆ 

"ถ้าเปรียบ ดาโลต์ เป็นเด็กนักเรียน เขาจะเป็นนักเรียนที่ขยันขันแข็งตั้งใจมาก แต่ปัญหาของเขาคือ เขาไม่สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ดีนัก คุณจะต้องสอนเขาแบบจ้ำจี้จ้ำไช คุณจะต้องจับมือสอนเขาแบบเรียงลำดับตั้งแต่ 1-10 คุณจะสอนข้ามขั้นตอน หรือปล่อยมือจากเด็กอย่าง ดาโลต์ ไม่ได้เลย ดังนั้นการขาดสมาธิในเกมและความเข้าใจของเขาก็สร้างปัญหาซ้ำซากแบบที่คุณกำลังเป็นในตอนนี้" 

"ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีดีอะไรเลย แต่ถ้าคุณสามารถหานักเตะที่ดีกว่าเขา และสม่ำเสมอกว่าเขาได้ คุณควรจะเปลี่ยน ... เขาอยู่กับทีมได้นะ แต่ต้องเป็นบทบาทของอะไหล่และตัวเสริมเท่านั้น"

เราเชื่อว่าสิ่งที่ "ซัมเมอร์ฮิลล์" ได้กล่าวมาถ้าคุณเป็นแฟน แมนฯ ยูไนเต็ด และเห็น ดาโลต์ เล่นมาในหลายปีที่ผ่านมา คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นไม่ได้เกินเลยจากความจริงมากนัก ดาโล่ต์ มีปัญหาเรื่องนี้จริง และตำแหน่งแบ็กขวาก็เป็นหนึ่งตำแหน่งที่แฟนบอลถกเถียงกันมากที่สุดมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม แม้มีความผิดพลาดที่แสดงออกมาเป็นระยะ ๆ น่าแปลกที่เขายังคงเป็นนักเตะที่ลงเล่นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี นับตั้งแต่ โชเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, ราล์ฟ รังนิก, เอริก เทน ฮาก และมาถึงยุคปัจจุบันอย่าง รูเบน อโมริม ... กุนซือพวกนี้เขาเห็นอะไรในตัว ดาโลต์ กันนะ ? 

 

คาแร็คเตอร์คือสิ่งสำคัญ

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ดาโลต์ ย้ายเข้ามาในยุค มูรินโญ่ และไม่เคยเล่นได้ดีพอสำหรับตำแหน่งแบ็กขวาในตอนแรก ดังนั้นในยุค โซลชา จึงมีการซื้อตัว อารอน วาน บิสซาก้า เข้ามาเมื่อปี 2019 และปล่อย ดาโลต์ ให้กับ เอซี มิลาน ยืมตัว 1 ซีซั่น ในฤดูกาล 2020-21 ... การยืมตัวครั้งนี้มีส่วนสำคัญอย่างมาก เพราะถ้าเขาไม่ได้มาที่ มิลาน เส้นทางอาชีพของเขาอาจจะแย่กว่านี้ก็ได้ 

เรื่องสำคัญที่หลายคนไม่รู้คือ ตอนที่เขาไปเล่นที่ มิลาน ดาโล่ต์ ได้เจอกับ เปาโล มัลดินี่ ตำนานกองหลังอันดับ 1 ของโลก ที่ดำรงตำแหน่ง ผอ.เทคนิค ของ มิลาน ในเวลานั้น ซึ่ง ดาโลต์ ก็ได้รับการบอกและสอนจาก มัลดินี่ มากมาย และทำให้เขาเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งในตัวเอง

ดาโล่ต์ เริ่มใส่ใจเรื่องนอกสนาม การนอน การกิน การออกกำลังกาย และเข้าเวทเทรนนิ่ง คำแนะนำของ มัลดินี่ บอกว่า เขาจะต้องมีความอดทนและพยายามมากขึ้นทั้งในและนอกสนาม เพราะร่างกายและสุขภาพ คือพื้นฐานของนักกีฬา ดังนั้นต่อให้เรื่องประสบการณ์และเซนส์ของเขาอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่ร่างกายที่แข็งแรง ทนทาน เจ็บยาก ทำให้ ดาโลต์ เป็นคนที่ได้ลงสนามต่อเนื่อง และเป็นสิ่งที่โค้ชหลายคนเลือกเขาลงสนาม 

ไม่ใช่แค่ร่างกายที่ดี คาแร็คเตอร์คือสิ่งที่สำคัญมากที่ทำให้ ดาโลต์ ยังอยู่บนเส้นทาง ณ ปัจจุบันได้ ตัวของเขาถือเป็นคนสำคัญในห้องแต่งตัวของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาโดยตลอดในช่วงหลัง และเขาเป็นคนที่เลือกเข้าหาโค้ช หรือแม้กระทั่งนักเตะที่มีประสบการณ์ นั่นอาจจะเป็นเพราะเขารู้ดีว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เขาสามารถใช้สู้และชิงตำแหน่งจากคนอื่นได้ดีที่สุด

ไม่ใช่แค่ มัลดินี่ ที่สอน ดาโลต์ เรื่องการดูแลสุขภาพและคาแร็คเตอร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เป็นไอดอลในเรื่องนี้ของเขาด้วย ดังนั้นถ้าไม่มีเรื่องคาแร็คเตอร์และทัศนคตินอกสนามเข้ามาเกี่ยวข้อง และมองด้านฟุตบอลล้วน ๆ  เขาคงจะไม่ได้อยู่ที่นี้แล้วก็ได้ 

รายงานจาก The Athletic ระบุว่า "ดาโล่ต์ เป็นคนที่ทำให้บรรยากาศในห้องแต่งตัวของทีมคึกคัก เขารับบทบาทดีเจใน้องแต่งตัวในซีซั่น 2023-24 เขาเข้ากับคนง่าย และแทบจะเข้ากับเพื่อนร่วมทีมทุกคน"

"ดาโลต์ เก่งและพูดได้หลายภาษาเขาพูดภาษาอังกฤษคล่องมาก ตอนที่เขาอยู่อิตาลีเขาก็เรียนภาษาอิตาเลียนอย่างเข้มข้น นอกจากนี้เขายังเป็นตัวเชื่อมกับกลุ่มนักเตะที่พูดภาษาสเปนและโปรตุเกสด้วย ... ณ เวลานี้คุณอาจจะลืมไปว่าเขาอายุ 25 ปีเท่านั้น ตอนนี้เขาโตเกินกว่าอายุมากสำหรับบทบาทที่เขาได้รับอยู่"

"ดาโลต์ เป็นนักเตะที่มีวินัยและความเป็นมืออาชีพสูงมาก เรื่องในสนามเขาอาจจะมีสิ่งที่ต้องแก้ไขบ้าง แต่ในฤดูกาล 2023-24 (ซีซั่นที่แล้ว) ดาโล่ต์ คือนักเตะที่ดีที่สุดของ แมนฯ ยูไนเต็ด คู่ควรกับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม ที่เพื่อน ๆ ร่วมทีมร่วมใจกันโหวตให้กับเขา" 

ดังทั้งหมดที่กล่าวมา ดาโล่ต์ มีคาแร็คเตอร์ดี ร่างกายดี ความมุ่งมั่นดี และมีความเป็นผู้นำในทีมแม้อายุจะยังน้อย เหนือสิ่งอื่นใดคือ ในทีมที่นักเตะสลับกันเจ็บแทบจะทุกสัปดาห์อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด คุณคงไม่แปลกใจนักเตะที่นักเตะอย่าง ดิโอโก้ ดาโลต์ ผู้พร้อมลงเล่นทุกสัปดาห์ แทบไม่เจ็บ ไม่ป่วย แถมยังเล่นได้หลากหลายตำแหน่งอย่างเขา จึงเป็นกำลังหลักของทีม และเป็นหนึ่งในนักเตะที่ลงสนามให้ทีมมากที่สุดใน 1 ซีซั่น ไม่ว่าจะยุคกุนซือคนไหนก็ตาม

 

แล้วเขาจะดีขึ้นได้ไหม ?

แม้จะร่ายยาวเรื่องดี ๆ ของเขามาทั้งหมด แต่เราต้องยอมรับว่า ฟุตบอลคือกีฬาที่แข่งขันกันเพื่อความเป็นเลิศ นอกจากเรื่องนอกสนามจะดีแล้ว เรื่องในสนามและฟอร์มการเล่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งจุดนี้คือสิ่งที่ ดาโล่ต์ ยังมา ๆ หาย ๆ และโดยหลัก ๆ แล้ว เขามักจะมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ 

คำถามคือเขาจะดีขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ ? หรือเราต้องทนดูความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยเอาคำว่า "คาแร็คเตอร์" มาเป็นเกราะกำบังซ้ำไปซ้ำมาแบบนี้  

อย่างที่ "ซัมเมอร์ฮิลล์" ได้พูดไว้ในเบื้องต้นที่เขาบอกว่า ดาโล่ต์ ไม่ใช่นักเตะที่เก่งได้ด้วยตัวคนเดียว เขาจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี วันไหนที่ทีมเล่นดี เขาก็จะโดดเด่นไปด้วย กลับกัน ในขณะที่เกมไหนทีมพากันออกทะเล ดาโลต์ ก็ไม่สามารถเป็นหลักในการพยุงทีมได้ หนักข้อคือบ่อยครั้ง เขามักจะเป็นคนที่ออกทะเลเองด้วยซ้ำ 

ดาโล่ต์ ต้องมีผู้นำในสนามคอยสั่งการตักเตือนและกระตุ้นเขาอยู่ตลอด และโค้ชก็ต้องเป็นคนที่สื่อสารกับเขาอย่างชัดเจนตรงไปตรงมา สอนเขาให้ถึงขั้นที่เขาต้องเข้าใจมันจริง ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความผิดพลาดที่เป็นภาพจำของเขาได้ และถ้าแก้ปัญหานี้ เขาจะเป็นนักเตะที่ดีขึ้นมาก เพราะมีพื้นฐานร่างกายและทัศนคติที่ดีที่สุดอยู่แล้ว 

"เขาเป็นผู้เล่นที่ทรงพลังมาก เราต้องหมุนเวียนเขาบ้าง เพราะถึงแม้เขาดูเหมือนจะสดชื่นอยู่เสมอ แต่ความจริงเขาไม่ใช่เครื่องจักร ... ผมคาดหวังเหมือนกับที่คุณเห็นเมื่อปีที่แล้ว ที่เขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและช่วยทีมได้มาก ... ที่สำคัญคือ เขาเป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง คุณสัมผัสได้ในทุกอย่างที่เขาทำ และเขามีความสำคัญกับเรามาก" นี่คือสิ่งที่ รูเบน อโมริม บอก ซึ่งตอกย้ำบทวิเคราะห์ทั้งหมดที่เราร่ายยาวมาเป็นอย่างดี 

แน่นอนที่สุดว่า ดาโลต์ ยังอยู่บนเส้นทางที่ห่างไกลมากหากจะไปเทียบกับแบ็กขวาระดับเบอร์ต้น ๆ ของโลก แต่สิ่งที่เขาทำอยู่ในตอนนี้ ก็ถือเป็นสิ่งที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคที่ต้องล้มลุกคุกคลาน ตั้งไข่แล้วตั้งไข่อีก ยังจำเป็นต้องมีนักเตะอย่างเขาอยู่ 

ณ ตอนนี้ ต้องยอมรับว่ามีอีกหลายเรื่องให้แก้ไขในตัวเขา ซึ่งก็ได้แต่หวังว่า รูเบน อโมริม จะเข้าใจสิ่งที่ ดาโล่ต์ เป็น และช่วยให้นักเตะอย่าง ดาโลต์ เห็นจุดอ่อนของตัวเอง และพยายามแนะนำวิธีลบจุดอ่อนนั้นให้ได้ ... ถ้าได้ เขาจะสมบูรณ์แบบกว่านี้เยอะ 

แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ จุดอ่อนและความผิดพลาดของเขายังไม่ลดลง ก็ต้องบอกว่าสิ่งที่เหลืออยู่ในตัวของเขาอย่าง คาแร็คเตอร์ ความแข็งแรง และความมุ่งมั่น จะเป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยู่กับทีมนี้ได้อีกยาว ๆ เพียงแต่ว่าบทบาทฐานะของเขา ต้องเป็นตัวสำรองที่ใช้โรเตชั่นในฤดูกาลยาวอันยาวนาน และทุกทีมล้วนต้องการนักเตะอเนกประสงค์อย่าง ดาโลต์ แน่นอน 

ทุกทีมต้องมีนักเตะที่พร้อมอุดทุกรอยรั่วไปแบบเขา แม้จะแบกทีมไม่ได้ แต่ถ้าให้เล่นในบทบาทลูกหาบ ก็ต้องบอกว่ายากที่จะหาใครที่พร้อมจะรับหน้าที่นี้แบบไม่มีปัญหาเหมือนที่ ดาโล่ต์ เป็นมาเสมอ 

ที่เหลือขึ้นอยู่กับว่า รูเบน อโมริม จะทำให้ ดิโอโก้ ดาโล่ต์ เป็นตัวหลักของทีมในระยะยาวแบบ แกรี่ เนวิลล์ หรือไม่ก็วางเขาไว้ในสถานะตัวโรเตชั่น ที่อาจจะทำให้คุณปวดหัวกับการเล่นของเขาบ้าง แต่ในเวลาที่คุณเข้าตาจน สิ่งที่เขามีอยู่ในตัวก็ยังเป็นประโยชน์ให้คุณได้เสมอ ... ช่วงเวลาต่อจากนี้เราจะได้รู้กันว่า ดาโลต์ จะไปอยู่ในสถานะไหนกันแน่ ? 

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.nytimes.com/athletic/5529740/2024/05/31/manchester-united-player-of-the-season-diogo-dalot/
https://sports.yahoo.com/only-thing-changed-diogo-dalot-213000886.html
https://www.transferfeed.com/transfers/diogo-dalot-manchester-united-real-madrid/4873364
https://www.nytimes.com/athletic/4873735/2024/02/18/dalot-wan-bissaka-united-right-back/
https://www.beinsports.com/en-mena/football/premier-league/articles/mourinho-diogo-dalot-can-be-new-gary-nevill-1

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ