Feature

ถึงกับทำร้ายตัวเอง : เป๊ป กับงานโค้ชที่เครียดไม่ปราณีใคร | Main Stand

"เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เครียดจนทำร้ายตัวเอง" กลายเป็นข่าวใหญ่ประจำวันไปเรียบร้อย 

 


ผู้ไรืเทียมทานอย่างเขากำลังตั้งตัวไม่ถูกเมื่อเจอกับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า

Main Stand จะเจาะลึกเรื่องนี้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ? และคนอย่าง เป๊ป เดินทางมาถึงจุดที่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดนี้ได้อย่างไร ? ติดตามที่นี่ 

 

งานที่เหมือนไม่เครียด 

มักมีคนบอกว่า งานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นเป็นเรื่องง่ายดาย เขาอยากจะได้อะไร ก็จะได้ตามนั้น ราวกับมีคฑาวิเศษมาเสกให้ 

สัญญาค่าจ้างที่แพงที่สุดในโลกที่เขาถือครองมาเกือบ 10 ปี นักเตะชั้นดีฝีเท้าเยี่ยมที่ทีมงานสรรหาพยายามหามาเสิร์ฟเขาในทุกตลาดซื้อขาย ทำให้ทีมของเขาไม่เคยลดหย่อนเรื่องประสิทธิภาพลงเลย ไหนจะเรื่องของเจ้าของทีม ที่พร้อมจะใช้เงินแก้ทุกเรื่องที่ เป๊ป คิดว่าเป็นปัญหา 

โดยข้อแลกเปลี่ยนมีอยู่อย่างเดียวเท่านั้น นั่นคือ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของเขาจะต้องลงสนามและคว้าชัยชนะมาให้ได้ พร้อมตอนจบของซีซั่นที่จำเป็นจะต้องมาพร้อมกับถ้วยแชมป์ ... ไอ้คำว่าต้องชนะนี่แหละ ที่มันเป็นปัญหาที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กำลังเจอในตอนนี้

ลูปเวลาของฟุตบอล เป็นสัจธรรมที่เลี่ยงได้ยาก ไม่มีทีมไหนแข็งแกร่งไร้ทีมทานได้ตลอด ทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดระดับโคตรเซียนเหินเวหา ก็ยังถึงเวลาต้องร่วงโรยและแพ้ให้แก่เวลาและสังขาร แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป เองก็ไม่ต่างกัน เพราะนักเตะที่เก่งที่สุดระดับเบอร์ต้น ๆ ในโลกเมื่อ 3-4 ปีก่อน กำลังโรยรา และไม่เหมือนเดิม 

ไคล์ วอล์คเกอร์  ไม่พร้อมจะวิ่งแซงทุกคนอีกต่อไปแล้วในแดนหลัง, หัวใจเกมรับอย่าง รูเบน ดิอาส ไม่เคยได้เล่นแบบต่อเนื่อง, โรดรี้ บาดเจ็บบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนทีมขาดกระดูกสันหลัง, เควิน เดอ บรอยน์ ก็ไม่แพ้กัน การบาดเจ็บร้างสนามทำให้บอลสุดท้ายที่เฉียบขาดของเขาหายไปเยอะ, อิลคาย กุนโดกัน กองกลางเบอร์ 8 ที่ เป๊ป เรียกว่า "อัจฉริยะ" ก็เลยจุดพีกไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงคนอื่น ๆ มากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง 

ทีมฟุตบอลที่ขาดตัวหลัก ขาดกระดูกสันหลังไปสักคน ก็เหมือนกับโดมิโน่ล้มหนึ่งตัว ... เพราะจุดเริ่มต้นที่เกิดจากการล้มแค่ตัวเดียว ก็มีโอกาสที่มันจะแฉลบไปโดนตัวอื่นจนล้มระเนระนาด ส่งผลต่อกันอย่างน่าประหลาด แบบที่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์, ซาวินโญ่, เฌเรมี่ โดกู และ ริโก้ ลูอิส ... นักเตะหนุ่มเหล่านี้เมื่อไม่มีพี่ ๆ ที่นอกจากฝีเท้าระดับโลก ยังมากประสบการณ์คอยประคอง พวกเขาก็ลดประสิทธิภาพลงอย่างที่ทุกคนได้เห็นกัน 

ปัญหาทุกอย่างที่กล่าวมา นำมาซึ่งผลการแข่งขันที่ไม่ดี ... แมนฯ ซิตี้ แพ้ติดต่อกันมา 5 เกม ไม่ชนะใครติดต่อกันมา 6 เกม คือสถิติที่เหลือเชื่อ และเป็นเรื่องใหญ่สำหรับทีมที่เคยไร้เทียมทาน 

เราจะเห็นว่าปัญหาเกิดมาจากหลาย ๆ จุด ทั้งเรื่องนักเตะเจ็บ การผลัดใบของเจเนอเรชั่น หรือแม้กระทั่งเรื่องนอกสนาม กับการเผชิญคดีผิดกฎการเงินมากมายหลายข้อ แต่คนที่ต้องตอบคำถามทั้งหมดนี้ และแทบจะเป็นคนแรกที่ต้องรับผิดชอบเรื่องแย่ ๆ ที่เกิดขึ้นเป็นคนแรก ก็คือเฮดโค้ชอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ... นั่นเองเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเครียดหนักถึงขนาดต้องทำร้ายตัวเอง

 

เรื่องใหญ่มากกว่าแค่ในสนาม

การทำร้ายตัวเองด้วยการข่วนหน้าด้วยเล็บ มันทำให้ เป๊ป ได้รับการแสดงความเป็นห่วงจากหลายฝ่าย ทันทีที่เขาสารภาพหลังเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ เสมอ เฟเยนูร์ด ร็อตเดอร์ดัม 3-3 ว่า "ผมอยากทำร้ายตัวเองน่ะ ด้วยเล็บของผมเอง ขอบคุณ ฝันดีทุกคน" 

มันบ่งบอกได้เลยว่าปัญหากำลังรุมเร้าเขาเยอะมาก จนเขามองว่าไม่มีใครช่วยเขาได้อีกแล้ว และเรื่องนี้เขาต้องลงโทษตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนผิดและสมควรได้รับมัน ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องทั้งหมด แต่ด้วยความเป็น เป๊ป เพอร์เฟ็คชั่นนิสต์อย่างเขา ไม่เคยต้องเจออะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต 

มันเหมือนกับเด็กที่สอบได้เกรด 4 มาตลอดการเรียน 10 กว่าปี อยู่ดี ๆ ในปีที่เขาคิดว่าไม่น่าจะมีใครไล่เขาทัน เขากลับทำผลงานแย่กว่ากลุ่มเด็กหลังห้องที่เขาเคยเอาชนะได้อย่างง่ายดายยิ่งกว่าปลอกกล้วยมาโดยตลอด ... เรื่องที่ไม่คิดว่าจะได้เจอก็ต้องเจอ และเขาจะช็อกถึงขั้นทำร้ายตัวเองก็ไม่แปลกนัก 

เป๊ป เป็นคนแบบนี้มาโดยตลอด เขาไม่เคยออกจากเกมฟุตบอลได้ เคยมีอดีตโค้ชของ บาร์เซโลน่า ที่เคยทำงานร่วมกับเป๊ปในการทำงานช่วงแรก ๆ ของเขาได้ออกมาบอกว่า เป็ป เป็นคนที่คิดเรื่องฟุตบอลตลอดเวลา ออกนอกเรื่องได้ไม่ถึง 1 นาที เขาจะวนกลับมาคิดเรื่องฟุตบอลใหม่ บางครั้งเขาก็พูดพึมพำคนเดียวขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องแท็คติก วิธีการเล่น และถ้าเขาคิดอะไรดี ๆ ออก เขาจะทิ้งทุกอย่างตรงหน้า และเริ่มจดมันใส่กระดาษเพื่อต่อยอดในการแข่งขันจริง 

นั่นเองที่ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดของนักคิด ที่นำสิ่งใหม่ ๆ มาสู่โลกฟุตบอลเสมอ โดยจะโชว์การแสดงผ่านทีมที่คุม ซึ่งทำให้โลกได้เห็นว่า ในวันที่ เป๊ป มีอาวุธครบมือ ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เขาสามารถสร้างความมหัศจรรย์อะไรได้บ้าง 

เป๊ป เรียกร้องจากลูกทีมของเขาถึงขีดสุด นักเตะหลายคนอยู่กับเขาไม่ได้ แต่ในทางกลับกัน หลายคนก็เป็นคนใหม่ผ่านวิธีการสอนของเขา ภาพของการตะโกนใส่หน้านักเตะ หรือล็อกคอลูกทีมหลังจากที่ทีมเพิ่งคว้าชัยชนะแสดงให้เห็นว่า ภายในหัวสมองของเขาวางภาพไว้เวอร์วังอลังการแค่ไหน ทั้ง ๆ ที่นักเตะเพิ่งลงไปเล่นและเอาชนะคู่แข่งได้ 3-4 หรือ 5 ลูก เขาก็ยังมองว่ามีเรื่องต้องแก้ไขอยู่ดี 

สิ่งเหล่านี้สะท้อนผ่านคาแร็คเตอร์ของเขาเป็นอย่างดี ... เพียงแต่ว่าตอนนี้ปัญหามันเยอะมากเกินกว่าที่เขาจะแก้ได้ และมันจบด้วยการทำร้ายตัวเองอย่างที่เราได้เห็นกัน ซึ่งเรื่องนี้มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยันว่า "เขากำลังเผชิญปัญหาจริง ๆ" 

มีการระบุในวารสารเชิงการแพทย์ที่อธิบายเรื่องนี้ว่า เหตุผลของการทำร้ายตัวเองนั้นเกิดขึ้นได้หลากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุที่ตรงกับ เป๊ป คือการที่บทความดังกล่าวอธิบายว่า "คนที่ทำร้ายตัวเอง เกิดจากความรู้สึกแย่ในตัวเองมากจนไม่สามารถจัดการได้ ไม่รู้จะคิดบวก และปรึกษาใคร พวกเขาจึงใช้วิธีการทำร้ายตัวเอง เป็นการระบายความรู้สึกที่ไม่สามารถเก็บไว้ข้างในทั้งหมดได้" 

โดยมีการกล่าวอ้างถึงคนไข้ที่ทำร้ายตัวเอง ซึ่งมักจะพูดว่า "ถ้าให้รู้สึกเจ็บปวดยังดีกว่าต้องรู้สึกว่างเปล่าแบบนี้ มันเป็นความรู้สึกที่เคว้งคว้างมาก"

ฟุตบอล อาจจะเป็นความบันเทิงสำหรับแฟน ๆ และคนดู แต่สำหรับคนที่ต้องรับผิดชอบมัน โดยเฉพาะคนที่คอยแบกความคาดหวังเรื่องของชัยชนะอย่าง โค้ช นี่คืองานที่เครียดจริง ๆ วันใดที่พวกเขาก้าวข้ามมันไปได้ พวกเขาจะรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก มีความสุขจากชัยชนะที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาจะมีเวลาฉลองน้อยมาก เพราะไม่นานนัก ฟุตบอลนัดต่อไปก็จะกลับมาเตะกันอีกครั้ง วนเวียนกันไปทั้งปี และมันต้องมีสักวันที่พวกเขาต้องแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวันที่แพ้แบบที่รู้สึกว่าตัวเองแก้ปัญหาไม่ได้แบบที่เคยทำ พวกเขาจะรู้สึกแย่มากขึ้นคูณสอง 

ไม่ต้องมองย้อนไปไหนไกล เมื่อไม่กี่เดือนก่อน คู่อริในสนามของ เป๊ป อย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ อดีตกุนซือของ ลิเวอร์พูล ก็ยอมรับว่าเหนื่อยและเครียดจนทำงานโค้ชต่อไปไม่ไหว แม้เขาจะพยายามมากแค่ไหน แต่ถ้วยรางวัลและชัยชนะก็ไม่ได้ตกเป็นของพวกเขาทุกครั้งเหมือนที่พวกเขาลงแรงไป ... สุดท้าย คล็อปป์ ผู้มีคาแร็คเตอร์ของคนที่แข็งแกร่งก็ยังต้องยอมแพ้ และขยาดงานนี้จนถึงขั้นไปรับงานบริหารเต็มตัว  

ทว่าเรื่องของ เป๊ป มันอาจจะเครียดกว่านั้น แมนฯ ซิตี้ ลงทุนสูงทุกด้าน ความหวังก็สูงตาม และ เป๊ป ก็ทิ้งกลางคันง่าย ๆ แบบ คล็อปป์ ไม่ได้ เพราะเขาเพิ่งต่อสัญญาแห่งความเครียดใหม่ ขยายสัญญาเดิมไปอีก 2 ปี จนถึงกลางปี 2027 ... กับสิ่งที่เขาเจอในตอนนี้ แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว ไม่แปลกเลยที่เขาจะสิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องจบที่การทำร้ายตัวเอง

 

ทำยังไงให้กลับมา ?  

เป๊ป จะกลับมาเป็น เป๊ป ผู้สุขุมนุ่มลึกคนเดิมได้ไหมจากการน็อตหลุดครั้งนี้ ?

อย่างที่ได้กล่าวออกไปในข้างต้นสัจธรรมของฟุตบอลและทุกอย่างในโลกนี้ก็คือ ทุกอย่างล้วนมีเกิดและมีดับ ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าตลอด เช่นเดียวกันกับไม่มีใครที่จะจมอยู่กับความมืดมิด และไม่มีทางได้เห็นแสงสว่างไปตลอดกาล ไม่นานนัก รอบของวัฏจักรจะกลับมาหาเขา เพียงแต่ปัญหาตอนนี้คือ เขาอาจจะต้องหาทางรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ดีมากกว่าการทำร้ายตัวเอง 

ด้วยนิสัยของ เป๊ป ดังที่กล่าวมา เขาคงพยายามอย่างหนักเพื่อหาวิธีทำให้ทีมของเขากลับมาอยู่จุดเดิมอีกครั้ง และใช่ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้นักเตะของ แมนฯ ซิตี้ หลายคนก็เริ่มทยอยกลับมาจากอาการบาดเจ็บแล้ว เช่นเดียวกับเรื่องการเงินของพวกเขา ที่หากเราตัดเรื่องการผิดกฎออกไป แมนฯ ซิตี้ เป็นทีมที่มีบัญชีตัวเขียว (กำไร) แบบเหลือ ๆ ซึ่งมันทำให้เขาเสริมทัพแก้ปัญหาได้เมื่อตลาดซื้อขายเปิดขึ้นอีกครั้ง 

เรื่องเหล่านี้จะทำให้เวลาแห่งความเครียดของเป๊ปสั้นลงบ้างไม่มากก็น้อย แต่ ณ ตอนนี้ เป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้กับความผิดพลาดล้มเหลวแบบที่ตัวเองไม่เคยเจอ เขาอาจจะเป็นปรมาจารย์ด้านศาสตร์ลูกหนัง แต่เรื่องของการรับมือกับความพ่ายแพ้แบบเหลือเชื่อแบบที่เจอในเวลานี้ เขาอาจจะเป็นผู้เล่นใหม่ที่ต้องซึมซับสิ่งเหล่านี้ ถอดบทเรียนจากมันออกมา และไม่ทำให้มันเกิดซ้ำขึ้นอีก ... 

เพียงแต่ว่าท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนที่อยู่รอบข้างเขาต้องคอยทำงานหนักร่วมกัน ให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ ช่วยแบ่งเบาภาระการงานและความเครียดของเขาให้น้อยลง ... และสิ่งที่ง่ายที่สุดคือ หากทีมของเขากลับมาชนะต่อเนื่อง อาการเหล่านี้อาจจะเริ่มทุเลาลงก็เป็นได้ 

อย่าลืมว่าทุกอย่างบนโลกนี้คือการเรียนรู้ ถ้าคุณได้ลองสักครั้ง ครั้งต่อไปคุณจะผ่านมันไปได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ... ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ ไม่เว้นแม้แต่ความล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อไม่คุณไม่ยอมแพ้ และเรียนรู้จากมัน 

 

แหล่งอ้างอิง

Russell S, Jenkins D, Smith M, Halson S, and Kelly V. The application of mental fatigue research to elite team sport performance: New perspectives. J Sci Med Sport 22: 723-728, 2019.
Martin K, Meeusen R, Thompson KG, Keegan R, and Rattray B. Mental fatigue impairs endurance performance: A physiological explanation. Sports medicine (Auckland, NZ): 1-11, 2018.
https://www.coachbetter.com/blog/why-mental-health-matters-for-football
https://www.goal.com/en/news/gegenpressing-how-does-the-football-tactical-style-made-famous-by-klopp-work/1wc20wx6qtkkq1t36xj0px9mel
https://thepotential.org/life/self-injury/

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ