Feature

เริ่มเกิดขึ้นตอนไหน ? : วัฒนธรรมรายงานตัวทีมชาติราว "แฟชั่นวีก" ของนักเตะฝรั่งเศส | Main Stand

นอกจากเรื่องของฝีเท้าและเป็นเจ้าของแชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัยแล้ว ทีมชาติฝรั่งเศสยังมีสิ่งขึ้นชื่อที่เหล่านักข่าวพร้อมรัวชัตเตอร์ไม่ยั้งอีก 1 เรื่อง

 

นั่นคือการปรากฏตัวในแคมป์ทีมชาติของแข้งตราไก่ เพราะแต่ละคนนั้นมาในสภาพที่จัดเต็มด้วยเสื้อผ้าหลากสไตล์ราวกับเป็นมหกรรมแฟชั่นวีก

วัฒนธรรมสุดเท่นี้มีจุดเริ่มต้นจากไหน ? เกิดขึ้นมาและติดตลาดได้ยังไง ติดตามที่นี่

 

ปารีส เมืองแฟชั่น 

ฝรั่งเศส ถูกพูดถึงในแง่ของประเทศที่โดดเด่นเรื่องศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรม เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน เพราะฝรั่งเศส คือชาติที่มีอิทธิพลอย่างสูงในวงการแฟชั่นระดับโลกมาอย่างยาวนาน 

เบื้องหลังทางประวัติศาสตร์บอกว่าความเรืองรองในยุคล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส ทำให้มีสิ่งที่เรียกว่าความสนุทรีย์และความมีวัฒนธรรมในแง่มุมต่าง ๆ ของชีวิต ซึ่งเรื่องของการแต่งกายก็รวมอยู่ในนั้นด้วย

ชาวฝรั่งเศสมีฟอร์มของการแต่งตัวตั้งแต่ชนชั้นปกครองจนถึงชนชั้นกลาง ความใส่ใจในทุก ๆ การแต่งตัวตามกาลเทศะต่าง ๆ ทำให้ ฝรั่งเศส ถูกยกให้เป็นชาติที่เป็นผู้นำด้านแฟชั่นและสไตล์ของโลกมาตั้งยุคศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา 

คิดเอาแล้วกันว่าความใส่ใจในเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มของชาวฝรั่งเศส ส่งผลไปถึงชื่อเมืองหลวงของพวกเขาอย่าง ปารีส ซึ่งมาจากการเล่นคำให้เป็นคำตรงกันข้ามของคำว่า prêt-à-porter(เสื้อผ้าสำเร็จรูป) ดังนั้นสารของการตั้งชื่อเมืองหลวงก็มีจากการพยายามที่จะบอกว่านี่คือ "เสื้อผ้าชั้นสูงที่ตัดเย็บด้วยความเชี่ยวชาญ" ไม่ได้ทำยกโหลยังไงก็ได้ ... และแน่นอนว่าภายหลัง ปารีส ถูกยกย่องว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่นของโลก เพราะแบรนด์ดัง ๆ ระดับไฮเอนด์ล้วนก่อกำเนิดที่ ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทั้งนั้น 

เมื่อกาลเวลาผ่านไป จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ชาวฝรั่งเศส ยังคงมีชุดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องความดูดีไม่เปลี่ยนแปลง โดยมีศิลปินชาวอังกฤษที่ใช้ชีวิตอยู่ในฝรั่งเศสมาหลายปีพูดถึงความใส่ใจเรื่องแฟชั่นและเสื้อผ้าของชาวฝรั่งเศสได้อย่างเห็นภาพว่า ชาวฝรั่งเศสทั่วไปจะซื้อเสื้อผ้าคุณภาพดีเกรดพรีเมี่ยมสัก 2-3 ชิ้น จากนั้น พวกเขาจะใส่มันไปนาน ๆ หรือตลอดไป

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะเสื้อผ้าดี ๆ ที่เกิดจากงานฝีมือคุณภาพจะเป็นแฟชั่นระดับคลาสสิก ไม่ใช่แฟชั่นตามกระแสที่ผ่านมาและผ่านไปอย่างรวดเร็ว 

"เมื่อคุณมาที่ปารีส คุณแทบจะไม่เห็นความแปลกประหลาดในเสื้อผ้าของผู้คน เหมือนกับที่คุณอาจจะได้เจอในลอนดอนหรือนิวยอร์ก คุณอาจโดนคนแก่บนถนนในปารีสดุเพราะเรื่องการแต่งตัวในแบบบริติชหรืออเมริกัน ... อย่าเข้าใจผิดล่ะ ชาวฝรั่งเศสไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อซื้อเสื้อผ้า แต่พวกเขาให้ความสำคัญในระยะยาว ไม่ใช่แค่ในปารีส แต่ในเมืองต่างๆ ของฝรั่งเศสส่วนใหญ่มีร้านบูติกส่วนตัวเล็ก ๆ มากมายที่เจ้าของเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับแฟชั่นเป็นของตัวเอง แม้อาจจะไม่มีสินค้าให้เลือกมากนักแต่รับรองได้เลยว่ามันต้องดีแน่ ๆ ในแง่ของคุณภาพ และความสวยงาม" ศิลปินชาวอังกฤษอธิบายเพิ่มเติม

ค่อนข้างชัดว่าการดูดีมันอยู่ใน DNA ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อสายแอฟริกัน อาหรับ หรือใด ๆ ก็ตาม ตราบใดที่เติบโต อยู่อาศัย และใช้ชีวิตในฝรั่งเศส DNA นี้จะติดตัวคุณอย่างแน่นอน และภาพที่สะท้อนชัดที่สุดก็คือทีมฟุตบอลชายทีมชาติฝรั่งเศสนี่แหละ 

 

รายงานตัว = แฟชั่นวีก 

ในช่วง 30 ปีหลังสุด ต้องยอมรับว่าทีมชาติฝรั่งเศสมีความหลากหลายทางเชื้อชาติแบบสุด ๆ เนื่องจากเหตุผลทางด้านการเมือง สังคม และเศรษฐกิจหลายอย่างประกอบกัน ทำให้พวกเขามีนักเตะทีมชาติที่มีเชื้อสาย แอฟริกัน หรือ อาหรับ ปรากฎตัวอยู่เสมอ 

โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเป็นยุคที่โลกของเรามีความเปิดกว้างทางวัฒนธรรม ความคิด และเชื้อชาติมากขึ้น จึงทำให้ผู้คนหรือแม้กระทั่งนักเตะในทีมชาติฝรั่งเศส ที่มีความเป็นวัยรุ่น กล้าแสดงออกถึงความชอบของตัวเองออกมาผ่านเครื่องแต่งกาย 

คุณอาจจะได้เห็นในภาพข่าวบ่อย ๆ ในช่วงที่นักเตะฝรั่งเศสถูกเรียกรายงานตัวเข้าแคมป์ทีมชาติ พวกเขาแต่ละคนจะจัดเต็มด้วยเสื้อผ้าในสไตล์ของตัวเอง ยิ่งในช่วงปัจจุบัน คุณจะเห็นความเป็นแฟชั่นนิสต้า (ผู้คลั่งไคล้แฟชั่น) ในหมู่นักเตะมากขึ้น 

กล่าวคือในอดีต นักเตะอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, ปาทริค วิเอร่า หรือ โลรองต์ บลองก์ อาจจะปรากฏตัวด้วยเสื้อวอร์มของทีม ใส่รองเท้าผ้าใบมาแบบธรรมดา ๆ ชนิดที่ว่าปราดตามองทีเดียวก็รู้ว่านักเตะเหล่านี้เป็นนักกีฬาอาชีพ จะมีคนที่ดูซ่อนความเป็นแฟชั่นหน่อยก็แค่ไม่กี่คน นำโดยกลุ่มนักเตะหนุ่มในยุคนั้น (ปลายยุค 1990s) อย่าง เธียร์รี่ อองรี หรือ นิโกล่าส์ อเนลก้า ซึ่งนักเตะเหล่านี้เริ่มแต่งตัวตามแฟชั่นในยุค 2000s อันเป็นยุคที่กระแสการแต่งตัวสไตล์ฮิปฮอปกำลังมา 

สิ่งที่น่าสนใจคือ อองรี เคยให้สัมภาษณ์ว่าในยุคที่เขาเป็นนักเตะดาวรุ่ง เขาไม่ค่อยกล้าแต่งตัวแบบจัดเต็มเหมือนนักเตะรุ่นปัจจุบัน เพราะมันมีเหตุผลเรื่องของการถูกตัดสินจากคนอื่น ๆ รอบข้าง รวมถึงเรื่องของการทำให้ถูกวิจารณ์บนหน้าสื่อว่าเป็นนักฟุตบอลที่สนใจแฟชั่น มากกว่าเรื่องในสนาม ซึ่งย้อนไปยุคนั้นมันค่อนข้างชัดว่า "แฟชั่น กับ ฟุตบอล" ยังไม่รวมเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนกับทุกวันนี้ 

"ผมชอบแฟชั่นมาเสมอ แต่ผมไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของแฟชั่น ... มันไม่ใช่แค่เรื่องแต่งตัวหรอกนะ สมัยก่อนผมไม่กล้าจะไว้เคราหรือตัดเล็ม (เฟด) ให้มันเท่ ๆ นักหรอก เพราะมันดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก สำอางมากไปหน่อย แต่ปัจจุบันน่ะเหรอ ดูเหมือนว่านักเตะยุคนี้ต้องตัดผมใหม่แทบทุกวันที่ปรากฏตัวต่อสื่อ สิ่งสำคัญมากสำหรับนักเตะยุคนี้คือการรักษาลุคเท่ ๆ และแสดงมันออกมา แต่ในตอนที่ผมยังเล่นอยู่เรื่องนี้ไม่ถูกให้ความสำคัญนัก"

"ผมคิดว่ามันก็ดีนะ (ที่นักเตะยุคนี้ดูแลตัวเองให้ดูดีต่อหน้าสื่อ) เพราะตอนผมยังเด็ก ผมไม่เคยเข้าใจว่าใครเป็นคนคิดกฎเรื่องการแต่งตัวขึ้นมา เสื้อผ้าแบบไหนใส่ได้ ใส่ไม่ได้ ... ความจริงมันน่าจะขึ้นอยู่กับคนใส่มากกว่า ต่อให้คุณจะต้องโดนคนอื่นหัวเราะเยาะหรือเกลียดมัน แต่สุดท้ายทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับคุณเลย มันขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบมันหรือเปล่า" 

สิ่งที่อองรีให้สัมภาษณ์ คุณสามารถเห็นได้ถึงความแตกต่างของยุคสมัยและช่วงอายุของนักเตะ จากอดีตมาถึงปัจจุบัน นักเตะทีมชาติฝรั่งเศสที่เป็นคนหนุ่มแห่งยุคสมัยนี้ ทำในสิ่งที่อองรีบอกทุกอย่าง พวกเขาไม่เคยมีกฎเกณฑ์เรื่องแฟชั่นและการแต่งตัว ถ้าพวกเขาชอบ พวกเขาจะใส่มันออกมาและพร้อมปรากฏตัวต่อหน้าสื่อ ต่อให้คนทั้งโลกไม่เข้าใจ นั่นไม่ใช่ประเด็น และไม่ใช่ปัญหาของพวกเขา มันคือปัญหาของคนวิจารณ์มากกว่า 

ดังนั้นเมื่อพวกเขามี DNA ความเป็นแฟชั่นนิสต้าไหลเวียนอยู่ในตัว พวกเขายังเป็นคนวัยหนุ่มที่ต้องการแสดงออกถึงความเป็นตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมที่เปิดกว้างพร้อมให้ทุกคนแสดงออก (อย่างถูกกาละเทศะ) คุณจึงได้เห็นเทศกาลแฟชั่นวีกในการรายตัวของทีมชาติฝรั่งเศสในยุคปัจจุบันแต่ละครั้ง ที่แต่ละคนจัดเต็มกราฟไม่มีกั๊ก ราวกับใส่มาประชันกันในงานนี้โดยเฉพาะ 

 

การแต่งตัวส่งผลกับอาชีพนักฟุตบอลจริง ๆ

ถ้าคุณเล่นฟุตบอลเก่งโลกจะหมดคำถามกับคุณ ซีเนดีน ซีดาน และ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ใช่นักเตะที่ถูกจดจำในแง่ของการแต่งตัวหรือการดูดีเฟอร์เฟ็กต์ต่อหน้าสื่อมากนัก ซึ่งอันที่จริงพวกเขาอาจจะชอบแต่งตัวก็ได้ในชีวิตจริง แต่ด้วยความเก่งกาจปานอัจฉริยะ เรื่องอื่น ๆ จึงถูกความเก่งปิดเอาไว้หมด 

แต่อันที่จริง การดูดีและให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องการแต่งตัว การดูแลตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำให้นักเตะมีเสน่ห์ขึ้นมามาก ชัดที่สุดคือ เดวิด เบ็คแฮม และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ความหล่อเท่ และความโดดเด่นในไลฟ์สไตล์ของพวกเขาโดยเฉพาะการปรากฏตัวต่อหน้าสื่อแต่ละครั้ง ยิ่งทำให้พวกดังขึ้น และดังกว้างออกไปยิ่งกว่าวงการฟุตบอล แม้แต่คนที่ไม่ดูฟุตบอลก็ยังรู้จักนักเตะเหล่านี้  

เบ็คแฮม กับ ซีดาน ใครเก่งด้านฟุตบอลกว่ากัน ? อันนี้ตอบไม่ยาก และเช่นเดียวกันกับคำถามว่า เบ็คแฮม กับ ซีดาน ใครดังในวงกว้างมากกว่ากัน ? 

นั่นแหละเป็นเหตุผลที่แฟชั่น การดูแลตัวเอง และการแสดงตัวตน ไลฟ์สไตล์ ออกมากลายเป็นเรื่องปกติ โดยกลุ่มนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดปัจจุบันก็ทำตัวเองให้โดดเด่นมาก ๆ และพวกเขาก็ถูกพูดถึงบนหน้าสื่อมากขึ้นด้วย แม้จะไม่ได้พูดเรื่องฟุตบอลเพียว ๆ ก็ตาม 

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การแต่งตัวของพวกเขาทำให้พวกเขามีงานพรีเซนเตอร์ งานแบรนด์แอมบาสเดอร์ต่าง ๆ ที่ทำให้แต่ละคนมีรายได้มากขึ้นด้วย ยิ่งพวกเขาดูดีมีสไตล์ ตรงกับรูปลักษณ์ของแบรนด์แค่ไหน พวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสได้สร้างชื่อเสียงมากขึ้น 

เช่นเดียวกัน คือการแสดงออกของพวกเขา ส่งผลต่อสภาพจิตใจของพวกเขาด้วย คนที่อธิบายเรื่องนี้คือแฟชั่นนิสต้าเบอร์ 1 แห่งทัพฝรั่งเศสชุดปัจจุบันอย่าง ฌูลส์ คุนเด้ เขาอาจจะไม่ใช่นักเตะที่ดังระดับโลก แต่ ณ เวลานี้ เขาถือเป็นนักฟุตบอลที่ได้งานในสายแฟชั่นหลายเจ้า และพร้อมกันนี้เขายังบอกว่า ทุกสิ่งที่เขาทำ เกิดจากตัวตนที่เขาเป็นจริง ๆ ... และแน่นอนที่สุดว่าการได้แสดงความเป็นตัวเองออกมาทำให้เขากลายเป็นนักฟุตบอลทีดีขึ้นด้วย 

"ผู้คนมักให้ความสำคัญกับการแต่งตัวของผมมากเกินไป ... อันที่จริงพวกเขาอาจจะลืมไปแล้วว่าผมเป็นนักฟุตบอลและผมจะบอกคุณว่า แฟชั่นกับนักเตะอาชีพมันเกี่ยวกันแบบที่คุณปฏิเสธไม่ได้"

"ถ้าคุณแต่งตัวดี คุณจะรู้สึกดีที่สุด และเมื่อความรู้ดีมันจะนำมาสู่สิ่งดี ๆ ในชีวิต ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งฟอร์มการเล่น และ ฟอร์มการเล่นที่ดี ก็นำมาซึ่งรางวัลในอาชีพของคุณด้วย" คุนเด้ กล่าว 

แน่นอนที่สุด การที่คุณเป็นนักเตะระดับแถวหน้าของโลก คุณไม่สามารถทิ้งเรื่องฟุตบอลได้เลย ต่อให้คุณจะแต่งตัวดีแค่ไหน แต่หากฟอร์มในสนามแย่ ก็ยากที่จะมีคนสนใจ

ดังนั้นสิ่งที่นักเตะฝรั่งเศสชุดปัจจุบันทำคือ พวกเขาทำหน้าที่ควบคู่กันไปทั้งสองอย่าง รักษาฟอร์มการเล่นให้ดี และใช้ชีวิตนอกสนามแบบเป็นตัวเองอย่างที่สุด ... และถ้าพวกเขาไปถึงจุดสูงสุดเมื่อไหร่ พวกเขาอาจจะเป็นศูนย์กลางของแฟชั่นที่แฟน ๆ อาจจะยกย่องและอยากเลียนแบบก็ได้ 

"เมื่อคุณเป็นนักฟุตบอล ปัญหามันขึ้นอยู่กับว่าคุณรักษาอาชีพและทำในสิ่งที่เป็นอาชีพของคุณได้ดีหรือไม่ ... คุณอาจจะไม่ใช่คนที่ชอบแฟชั่น แต่คุณก็เป็นคนที่สร้างต้นแบบของสไตล์ได้เช่นกัน"

"ผมยกตัวอย่างให้ก็ได้ ซีเนดีน ซีดาน คือคนที่ชัดเจนที่สุดในปี 1998 ที่พวกเราคว้าแชมป์โลก ซิซู โดดเด่นมากที่สุดในสนาม และไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวด้วยชุดแบบไหน ผู้คนก็อยากจะใส่ชุดเลียนแบบเขาเหมือนกัน" อองรี เล่าย้อนความไปเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน และเป็นอันชัดเจนว่าความเท่เกิดขึ้นจากความเก่งในสนามเป็นอย่างแรก ... ส่วนเรื่องเสื้อผ้าอาภรณ์นั้น แล้วแต่ความชอบ ไม่มีถูกไม่ผิด แต่เมื่อใดที่คุณเก่งกาจจนผู้คนยกย่อง แฟชั่นของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งที่โลกสนใจ เหมือนกับที่นักเตะฝรั่งเศสชุดนี้เป็นอยู่นั่นเอง 

 

แหล่งอ้างอิง

https://aithor.com/essay-examples/the-influence-of-french-culture-on-global-fashion-an-analysis-of-de-notre-style-and-its-impact
https://www.quora.com/How-do-French-people-approach-fashion-in-their-everyday-lives
https://civilisable.com/what-is-the-lifestyle-of-people-in-france/
https://www.besoccer.com/new/people-focus-on-my-clothes-and-forget-that-i-m-a-footballer-1319082
https://www.esquire.com/uk/style/a46664696/thierry-henry-style-interview/
https://www.goal.com/en/news/from-beckham-to-ronaldo-why-are-footballers-at-the-apex-of-male-beauty/9kcffo0we61pu2ib8ynjooo

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา