Feature

ลี ชาร์ป : ปีกปีศาจแดงที่ครั้งหนึ่งเคยจี๊ดกว่า ไรอัน กิ๊กส์ และหล่อเท่ยิ่งกว่า เดวิด เบ็คแฮม | Main Stand

ถ้าคุณลองไล่เรียงผู้เล่นตำแหน่งปีกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทัพนั้นมีมากมาย หลายคนคงนึกถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม หรือ อังเดร แคนเชลสกี้ แต่ปฐมบทที่ปีกที่ตรงสเป็ก สั่งได้ตามใจป๋ามากที่สุดก็คือ ลี ชาร์ป ปีกตัวริมเส้นที่ขึ้นชื่อเรื่องความจี๊ดจ๊าดในสไตล์การเล่น และหน้าตาที่รูปหล่อระดับดารายุค 1990s 

 

ชาร์ป อาจจะไม่ดังเท่าคนอื่น ๆ ที่เอ่ยชื่อมา ... แต่ขอบอกว่า ช่วงเวลาของเขากับปีศาจแดง คือช่วงรอยต่อของประวัติศาสตร์ และเขาก็มีเรื่องเล่า ความลับ ของทีมยุคขี้เมาสู่ทีมยุค 3 แชมป์ไว้มากมายอีกด้วย 

รอยต่อของยุคนั้นเป็นอย่างไร ? ให้เรื่องราวของ ลี ชาร์ป นำพาคุณไปสู่ห้วงเวลาที่หลายคนไม่เคยรู้ได้เลย 

 

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในยุคเฟอร์กี้  

ฟุตบอลของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือสิ่งที่ใครหลายคนมองว่าไม่ได้ซับซ้อนยากเย็นอะไรในเชิงแท็คติก บอลจากหลังไปสู่หน้าที่รวดเร็วแม่นยำ มีกองหน้าที่จบสกอร์ชั้นดี และฟุตบอลในจังหวะชี้เป็นชี้ตายนั้น มักจะมาจากปีกทั้ง 2 ข้าง ซึ่ง เฟอร์กี้ ให้ความสำคัญเสมอ 

ทำไมผู้เล่นตำแหน่งปีกต้องดีน่ะเหรอ ? เพราหลายคนกำลังเข้าใจผิดว่าฟุตบอลของ เฟอร์กี้ เดินหน้าฆ่ามันตลอดทั้งเกม อันที่จริง ปีก ที่เป็นตำแหน่งสำคัญในแท็คติกสไตล์ของเขา ถูกออกแบบเอาไว้มาเพื่อเล่นเกมสวนกลับโดยเฉพาะ คุณสมบัติของปีกในดวงใจป๋าก็คือปีกที่พาบอลไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะต้องกระชากไปคนเดียว ชิ่งกับเพื่อน หรือวางบอลยาวเปรี้ยงเดียวให้กองหน้าหลุดเดี่ยวไปเลย แบบไหนก็ได้ทั้งนั้น 

ดังนั้นถ้าคุณได้ไล่เรียง "โคตรปีก" ของ เฟอร์กี้ ในตอนที่เขาคุมทีมปีศาจแดงนั้นมีมากมาย หลายคนคงนึกถึง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์, เดวิด เบ็คแฮม หรือ อังเดร แคนเชลสกี้ แต่ปฐมบทที่ปีกที่ตรงสเป็ก สั่งได้ตามใจป๋ามากที่สุดก็คือ ลี ชาร์ป ปีกตัวริมเส้นที่ขึ้นชื่อเรื่องความจี๊ดจ๊าดในสไตล์การเล่น และหน้าตาที่รูปหล่อระดับดารายุค 1990s 

ชาร์ป ไม่ใช่เป็นแค่ตัวริมเส้นที่ป๋ายอมรับว่าเป็นประเภทสั่งได้ดั่งใจ ให้ลากเลื้อยคนเดียวก็ไม่มีปัญหา ครั้นจะให้เป็นคนที่พึ่งพาได้ในยามที่ต้องการประตูเขาก็ทำได้บ่อยครั้ง ไม่แปลกที่ ลี ชาร์ป จะเป็นจุดเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ ของยุคนั้น เพราะไม่ใช่แค่เรื่องฟุตบอลเท่านั้น หน้าตา ท่าทาง และคาแร็คเตอร์ของเขา เคยทำให้เขาถูกเปรียบเทียบว่า "หน้าหล่อเหมือนเบ็คแฮม แต่จี๊ดจ๊าดเหมือนกับกิ๊กส์" ซึ่งเป็นคำจำกัดความของเขาได้ดีที่สุด

ชาร์ป ยังคงเป็นนักฟุตบอลคนแรก ๆ ในยุคนั้น ที่มีแฟนคลับเป็นสาว ๆ ซึ่งมักจะคอยเอาของขวัญมาให้ในช่วงหลังแข่ง และเหนือสิ่งอื่นใด เขาเป็นนักเตะคนแรก ๆ ที่เข้าใจถึงแก่นแท้ว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เก่งกาจแค่ไหน ในวันที่ เฟอร์กี้ โดนกระแสกดดันในช่วงแรก ๆ ที่คุมแมนฯ ยูไนเต็ด จนโดนไล่ออก

ชาร์ป และ เฟอร์กี้ มีความสัมพันธ์แบบพ่อ-ลูก ... และเชื่อหรือไม่ว่า เขาคนนี้คือนักเตะอายุน้อยกว่า 18 ปีคนแรกที่ เฟอร์กี้ ตัดสินใจขอให้บอร์ดบริหารซื้อตัวมาร่วมทีมด้วยตัวเองด้วย 

 

เฟอร์กี้ - ชาร์ป ปีกคู่บารมี 

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ลี ชาร์ป คือปีกที่ เฟอร์กี้ ซื้อมาร่วมทีมเมื่อปี 1988 จาก ทอร์คีย์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุ 17 ปี และสำหรับ เฟอร์กี้ มีคำพูดเสมอว่า "ถ้าคุณเก่งพอ คุณก็แก่พอ"

และก่อนที่จะถึงกลุ่มสมาชิก คลาส ออฟ 92 แจ้งเกิดและเจอคำวิจารณ์ว่า "เด็กเกินไป" ก็เป็น ลี ชาร์ป ที่แหละที่เคยสัมผัสคำวิจารณ์นี้มาก่อน 

"เฟอร์กี้ ซื้อผมมาตั้งแต่ผมยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมจะดีพอเล่นให้กับทีมใหญ่อย่าง ยูไนเต็ด หรือป่าว ตอนที่เขาคว้าตัวผมมาร่วมทีม สิ่งแรกที่ผมเห็นและตัดสินใจเชื่อมั่นในตัวเขาคือ เขาเป็นสุภาพบุรุรษตัวจริง" ชาร์ป กล่าว

"ผมเล่นให้กับทีมเยาวชนแค่แป๊บเดียว ไม่ทันไรเขาดันผมขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างรวดเร็ว และแน่นอน ผมพูดได้เต็มปาก แม้แต่ผมเองก็คิดว่ามันเร็วไปด้วยซ้ำ"

"เฟอร์กี้ ไม่ได้สอนแค่วิธีการเล่นฟุตบอลให้กับผมนะ เขาปกป้องผมจากสื่อ และการที่เขาทำแบบนั้น ทำให้ผมพยายามไม่สร้างปัญหาให้เข้าตัวเอง ช่วงเวลานั้นเป็นการอยู่ด้วยกันแบบพ่อกับลูก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผมเลี้ยงลูกตัวเองแบบที่เขาเลี้ยงผม ลูกผมคงบ่นตายชักเลย"

อย่างที่ ชาร์ป บอกทุกอย่าง เฟอร์กี้ ประคบประหงมเพราะรู้ดีว่านักเตะดาวรุ่งที่กำลังขึ้นชั้นสู่ชุดใหญ่กำลังจะต้องเจออะไร พวกเขาจะได้เงินเยอะขึ้น พวกเขาจะมีชื่อเสียงมากขึ้น และพบตัวเองบนพาดหัวข่าวไม่เว้นแต่ละวัน ชาร์ป เองก็เป็นแบบนั้น และบางครั้ง เฟอร์กี้ ก็ทำในแบบที่เขาคิดว่า "มากเกินไป" 

ช่วงปีแรก ๆ ที่ ชาร์ป ขึ้นชุดใหญ่เขาทำผลงานได้ดีมาก และอย่างที่รู้กัน เฟอร์กี้ พยายามที่จะสนับสนุนให้เด็ก ๆ ของเขาแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้มีภรรยาช่วยดูแล และมีลูกที่เป็นตัวปลุกใจให้พวกเขาพยายามต่อสู้เพื่ออนาคต

ในรายของ ชาร์ป มันเกือบจะสำเร็จ ... เขาเกือบจะแต่งงานอยู่แล้ว ถ้า เฟอร์กี้ ไม่ไล่แฟนสาวของเขากลับบ้านไปเสียก่อน 

เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในเกมแดงเดือด ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล โดยในแมตช์นั้น เกมของ ปีศาจแดง โกลาหลมาก แถม ชาร์ป ก็เล่นได้แย่มาก เพราะ เฟอร์กี้ เสียตัวตนของตัวเองในแมตช์นั้น จากการละทิ้งระบบการเล่น 4-4-2 ที่คุ้นเคย กลับมาเล่นในระบบ 3-5-2 ซึ่งมีวิงแบ็ก 

และคนที่เล่นปีกมาตลอดชีวิตแบบ ชาร์ป คือหนึ่งในคนที่ต้องรับหน้าที่ที่ตนเองไม่เคยเล่นมาก่อนอย่างวิงแบ็ก เขาและเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ถูก เฟอร์กี้ จับมาเล่นเป็นวิงแบ็กขวา (ชาร์ป) และวิงแบ็กซ้าย (กิ๊กส์) ซึ่งนั่นแหละทำให้ปัญหาเกิดทันที 

"เกมนั้นที่ แอนฟิลด์ ต้องบอกว่าผมเล่นได้แย่เลย บอสดันตัดสินใจจะเปลี่ยนแผนการเล่นเพื่อแก้ลำให้ทันเกมของ ลิเวอร์พูล เขาวางเซ็นเตอร์แบ็ก 3 คน และตรงกลางอีก 5 คน ซึ่งนั่นทำให้ผมปวดหัวอย่างหนัก" ชาร์ป บอก

"เกมนั้นผมกับ ไรอัน กิ๊กส์ วิ่งมั่วซั่วไปหมด เพราะไม่รู้ว่าต้องเล่นเกมรับยังไง ต้องประกบใครบ้าง พูดว่าเละก็คงไม่ผิดนักในช่วงครึ่งแรก และตอนที่พักครึ่งเขาก็ด่าผมยับ ประโยคที่ชัดหูเลยคือ 'มึงมันไร้ประโยชน์จริง ๆ'" 

"'พรุ่งนี้มึงไปขายบ้าน ขายรถ ขายหมาที่ซื้อมา แล้วตะเพิดแฟนมึงกลับบ้านที่เบอร์มิงแฮมไปเลยนะ' ... เกมนั้นผมโดนเปลี่ยนตัวออกช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม ซึ่งหลังจากนั้นผมก็บอกให้แฟนผมกลับไปอยู่ที่บ้านก่อน อย่าเพิ่งมาอยู่ด้วยกัน แล้วก็ขายบ้าน ขายรถทิ้งเลย" 

"เชื่อไหม ทุกสัปดาห์หลังจากนั้น เฟอร์กี้ จะมาทักผมประจำในช่วงซ้อมว่า สรุปแกแต่งงานหรือยังวะ ... ผมก็เลยตอบกลับว่า แต่งบ้าอะไรละครับบอส ก็บอสส่งแฟนผมกลับบ้านไปแล้วไง" ชาร์ป กล่าวแบบติดตลกพร้อมบอกว่า เฟอร์กี้ ปกครองเด็ก ๆ ในสโมสรทุกคนนี้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งในและนอกสนาม  

มันไม่มีถูกหรือผิด มีแต่คนใครจะทำได้หรือไม่ได้เท่านั้น ... ถ้าได้ก็อยู่ต่อ แต่ถ้าทำตามที่เฟอร์กี้บอกไม่ได้ ก็มีไม่กี่ทางให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือย้ายออกจากสโมสรนี้ไป ส่วน ลี ชาร์ป เลือกแบบไหนน่ะเหรอ ? 

 

การโบกมือลา ส่งต่อยุคสมัยใหม่

หลังพ้นช่วงดาวรุ่ง ลี ชาร์ป ก็ยอมรับว่าตัวของเขาเริ่มทำตัวเกเร และมีเหลี่ยมในการอยู่ภายใต้การปกครองของ เฟอร์กี้ บ้างแล้ว 

ชาร์ป เป็นนักเตะสายดื่มสายปาร์ตี้ ดังนั้น เขาเป็นคนที่พยายามรักษาระยะห่าง และเลี่ยงที่จะเจอหน้า เฟอร์กี้ ให้มากที่สุด เพราะบางครั้งกลิ่นเหล้าที่เขาดื่มมาอาจจะหึ่งออกมาให้ เฟอร์กี้ จับได้

"ตอนนั้นผมติดทีมชาติอังกฤษไปแล้ว และได้ต่อสัญญากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วด้วย ผมซื้อบ้านของตัวเองได้แล้ว และแน่นอน ผมพยายามใช้เหลี่ยมให้อยู่ห่างจากเขาไว้ก่อน ... เช่นบางครั้งผมได้ยินเสียงฝีเท้า ผมรู้แล้วว่าเป็นเขา ผมจะพยายามรีบเดินไปยังทิศทางอื่น ผมก็เพิ่งรู้เหมือนกัน พวกเบอร์ใหญ่เขาก็เหลี่ยมกันแบบนี้" ชาร์ป กล่าวหัวเราะ 

ณ เวลานั้น ชาร์ป ที่มีชื่อเสียง เรียกว่าเป็นหนึ่งในแบดบอยของทีม เขามักตั้งตัวเป็นเจ้าของปาร์ตี้ที่มีการกินดื่มเป็นประจำ และบังเอิญว่าแขกของเขาก็คือ ไรอัน กิ๊กส์ เด็กรุ่นน้อง (2 ปี) ที่ เฟอร์กี้ พยายามประคบประหงมให้เป็นกำลังสำคัญในระยะยาว ซึ่งครั้งหนึ่ง เฟอร์กี้ เคยตามมาหา กิ๊กส์ แบบพลิกแผ่นดิน ก่อนจะพบว่าเขากำลังปาร์ตี้อยู่ที่บ้านของ ชาร์ป ซึ่งแม่ของ กิ๊กส์ เป็นคนแจ้งข่าวให้เฟอร์กี้เอง 

เรื่องราวคล้าย ๆ แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยจนสุดท้าย ชาร์ป ก็ย้ายออกจากทีมปีศาจแดงไปอยู่กับ ลีดส์ ในปี 1996 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแค่ไม่กี่ปีก่อนสโมสรแห่งนี้จะสร้างประวัติศาสตร์เป็นเทรเบิลแชมป์ทีมแรกของอังกฤษในฤดูกาล 1998-99 

ชาร์ป เองก็เสียดายที่ตัวเขาเลือกเส้นทางนั้น แต่ย้อนเวลากลับไป ณ ตอนนั้น ช่วงเวลาที่ชาร์ปกำลังดัง กำลังเก่ง กำลังเท่ กำลังหล่อ เป็นช่วงเวลาของการคาบเกี่ยวของฟุตบอลยุคเก่ากับฟุตบอลยุคใหม่ ... ดังนั้นเขาจึงปรับตัวไม่ทัน กลายเป็นคนที่ตกยุคและดีไม่พอที่จะเป็นขุมกำลังของ เฟอร์กี้ ที่ต้องการคนที่พร้อมที่สุดเท่านั้น 

"ตอนที่ผมย้ายเข้ามา กับตอนที่ผมย้ายออกไปมันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในแง่ของยุคสมัย ตอนแรกที่ผมมา การถ่ายทอดสดมีน้อยมาก Sky Sports ยังไม่ได้มีเอี่ยว ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกยังไม่เกิดเลยด้วยซ้ำ แต่หลังจากนั้นไม่กี่ปีเหตุการณ์ทั้งหมดมันก็พลิกหน้าประวัติศาสตร์ไปไวมาก" ชาร์ป กล่าว

"ทุกอย่างเปลี่ยนไปหลังผมเข้ามาได้ไม่นานนัก สื่อเข้ามามีบทบาทสำคัญมาก ๆ และพวกเราก็ต้องปรับตัวเยอะ เนื่องจากเราเริ่มมีนักโภชนาการ โค้ชด้านอาหาร ด้านน้ำหนัก และตำแหน่งใหม่ ๆ มากมายเกิดหลายอย่างไปหมด"

"และมันเดินหน้าไปเร็วมาก ไม่นานนักเรามีโค้ชฟิตเนส มีทีมงานวิทยาศาสตร์การกีฬา ซึ่งแน่นอนว่ามันแสดงให้เห็นว่าฟุตบอลพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และไม่หยุด ถ้าคุณตามไม่ทัน คุณก็จะตกขบวนได้" ชาร์ป ยอมรับ 

แม้บนเส้นทางแข้งเจ้าสำราญอาจจะทำให้เขาเสียดายบ้าง แต่ที่สุดแล้ว ชาร์ป ก็คือ ชาร์ป เขาบอกว่าเขาไม่เคยเสียใจที่เลือกแบบนั้น มันเป็นช่วงเวลาที่สุดเหวี่ยงที่สุดในชีวิต และทำให้เขารู้ว่าตัวเองเกิดมาได้ใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้ว  ช่วงเวลากับ ยูไนเต็ด คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเขา แม้มันจะไม่ยืดยาวนัก แตะมันก็เป็นช่วงเวลาที่จะเล่ามันด้วยรอยยิ้มและอารมณ์ดีเสมอ 

"ผมภูมิใจเสมอที่ได้เล่นให้สโมสรนี้ ผมอยู่กับทีมช่วงยุค 1980s ตอนนั้นเราก็มีวัฒนธรรมของเราที่แตกต่างออกไปจากตอนนี้ เรามีความเป็นอังกฤษสูงลิบลิ่ว พวกเราตอนนั้นแม่งโคตรจะแมนจัด ๆ ทุกครั้งที่แข่งจบ พวกเราจะนัดกันไปผับ บางครั้งเราก็ดื่มกันก่อนแข่ง ประโยคประจำที่เราจะพูดกันก็คือ 'ไปเมากันให้เละ เอาให้ลืมความเศร้า แล้วพรุ่งนี้พวกเราไปเอาชนะพวกมันกันโว้ย'" ชาร์ป เล่าถึงยุคสมัยของเขาที่ต้องใช้คำว่าเป็นยุคที่ส่งต่อสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปยังอีกระดับ และกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งเกาะอังกฤษ 

แม้การดู ชาร์ป เล่นในตอนนี้ อาจจะเทียบไม่ได้กับตอนที่เขาหนุ่ม ๆ แต่เชื่อเถอะ สิ่งที่คุณจะได้เห็นคือจากเขา คือคาแร็คเตอร์ในฐานะขุมกำลังชุดแรก ๆ ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ภาคภูมิใจ ... เผลอ ๆ คุณอาจจะได้ฟังเรื่องเล่าลับ ๆ ของ เฟอร์กี้ จากเขาด้วย เพราะ ชาร์ป คนนี้เก็บความลับของยอดกุนซือไว้มากมายกว่าที่ใครหลายคนคิด และมักจะหลุดปากเล่าให้แฟน ๆ ได้ฟังเสมอ

สำหรับแฟนบอลรุ่นเก่า ๆ หลายคนอาจจะไม่เคยเห็นลีลา และไม่รู้จักหรือคุ้นหน้าของ ลี ชาร์ป มากนัก แต่ในงาน Battle of the Reds Thailand 2024 ที่เป็นการพบเจอกันระหว่างตำนานปีศาจแดง และหงส์แดง ลี ชาร์ป จะเป็นหนึ่งในทีมตำนานปีศาจแดงที่จะเล่นเกมนี้ด้วย

และสำหรับใครที่อยากเจอ ลี ชาร์ป ตัวเป็น ๆ คุณผู้อ่าน สามารถไป รับชมตำนานทั้งสองทีมดวลกันให้เห็นกับตา ณ สนามศุภชลาศัย ในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ เพราะนี่คือการรวมตัวกันของตำนานแดงเดือดถึง 30 ชีวิตและนับว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เคยมีมาเลยทีเดียว

คิก ออฟ เวลา 18:30 น. จำหน่ายบัตรแล้ววันนี้
ช่องทางการซื้อตั๋วเข้าชม : https://bit.ly/3MdjtuP
หรือ ซื้อได้ที่ 7 -11 ทุกสาขา

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่

FB : https://www.facebook.com/BattleofTheRedsThailand2024/

IG : https://www.instagram.com/battleoftheredsthailand2024/

Tiktok : https://www.tiktok.com/@battleoftheredsthailand

และ **Meet & Greet ตำนานนักเตะทั้งทีม รายละเอียดเพิ่มเติมไลน์ @iamlegend  https://lin.ee/o54pI6Ud

 

แหล่งอ้างอิง

https://en.wikipedia.org/wiki/Lee_Sharpe
https://www.bbc.com/sport/football/68692166
https://www.dailystar.co.uk/sport/football/lee-sharpe-sir-alex-ferguson-31141773
https://www.manchestereveningnews.co.uk/sport/football/football-news/manchester-united-lee-sharpe-ferguson-20446477

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ