Feature

ราฟาเอล วาราน : กองหลังที่วันที่ไหนไม่เจ็บ วันนั้นเตรียมได้เห็นฟอร์มระดับโลก | Main Stand

ในวัยแค่ 31 ปี ราฟาเอล วาราน ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว

 


นี่คือเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะเขาคือหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก เพียงแต่ว่าต้องใส่ดอกจันทร์ไว้ว่า "ในวันที่เขาร่างกายฟิตเต็มร้อย" 

น่าเสียดาย ที่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกับเขาบ่อยนัก ...อาการบาดเจ็บรบกวนวารานมาเป็น 10 ปีแล้วก่อนจะถึงวันเลิกเล่น เรื่องนี้มันเริ่มตั้งแต่จุดไหนกันแน่ ? ติดตามที่ Main Stand 

 

ผู้บัญชาการน้อย

ราฟาเอล วาราน ถือเป็นกองหลังดาวรุ่งในยุคที่วงการฟุตบอลฝรั่งเศสกำลังรุ่งเรื่อง เพราะหลังจากการคว้าแชมป์โลกปี 1998 ศูนย์ฝึกต่าง ๆ ของสโมสรฝรั่งเศส ได้รับงบประมาณในการพัฒนานักเตะมากขึ้น เพื่อส่งต่อความยอดเยี่มจากรุ่นสู่รุ่น 

ซึ่งตัวของ วาราน นั้นก็ต้องบอกว่าไล่ ๆ รุ่นกันกับพวก คาริม เบนเซม่า, ฮาเต็ม เบน อาร์ฟา, มามาดู ซาโก้ กลุ่มที่ถือเป็นรุ่นแนวหน้าของยุค โดยตัวของเขาแจ้งเกิดกับสโมสร ลองส์ โดยได้ลงเล่นในลีกเอิง ตั้งแต่อายุ 17 ปีเท่านั้น และแน่นอนว่าจากนั้นเพียงอึดใจเดียวยอดทีมจากยุโรปหลายทีมก็มาต่อคิวซื้อตัวเขาไป 

"ผมอายุ 17 ปีในตอนนั้น แต่ผมคิดเสมอว่าผมพร้อมแล้ว แน่นอนมันเป็นเรื่องยากสำหรับเด็กอายุขนาดนั้น และมันปกติมากที่เมื่อคุณขึ้นชุดใหญ่แล้วคุณจะต้องแสดงความผิดพลาดออกมา คุณเพียงต้องไม่ลืมว่าความผิดพลาดเหล่านั้นเกิดขึ้นเพื่อให้เราได้ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น"

"ผมถูกสอนเสมอว่าเราจะไม่สามารถเป็นมืออาชีพได้ ถ้าไม่มีความอดทน ผมทดสอบตัวเองแบบนั้นมาตั้งแต่ยังเด็ก ผมพยายามสร้างคาแร็คเตอร์ของตัวเองขึ้นมา ผมพยายามกดดันตัวเอง เพื่อให้ได้รู้สึกถึงการแข่งขัน การแย่งชิงโอกาสลงสนามเสมอ" 

"ผมขึ้นมาเล่นกับ ล็องส์ ได้ไม่นานผมก็กลายเป็นกัปตันทีมในบางเกม ... นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจว่าสิ่งที่ผมลงทุนสร้างมาตลอดในช่วงวัยเด็กไม่ใช่เรื่องเสียเปล่า" วาราน กล่าว

วาราน ได้ฉายาว่า "ผู้บัญชาการ" ตั้งแต่อายุยังน้อย การเล่นฟุตบอลแบบไม่ใช่ดูแค่ตัวเอง แต่ยังสังเกตการเล่นของเพื่อน ๆ ในแผงเกมรับ และตะโกนสั่งคนอื่นในเวลาที่ขาดสมาธิ หลุดตำแหน่ง หรือมีอะไรที่ต้องควรทำ  

ฟอร์มแบบนี้ทำให้หลายทีมในยุโรปต่อแถวเข้ามาเป็นสาย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จาก แมนฯ ยูไนเต็ด เคยติดต่อเขาตอนที่เล่นให้ ล็องส์ แม้ วาราน จะชอบ ยูไนเต็ด มาก แต่ทีมอื่น ๆ ก็มีข้อเสนอและสิ่งจูงใจที่ดีเช่นกัน โดยเฉพาะฝั่ง เรอัล มาดริด ที่เป็นคู่แข่งแย่งดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสรายนี้

อย่างที่พวกเรารู้กัน วาราน นั้นเลือก เรอัล มาดริด ในท้ายที่สุด เหตุผลหลัก ๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่าการชักจูงของ ซีเนอดีน ซีดาน ฮีโร่ของชาวฝรั่งเศส ที่เคยเป็นนักเตะและทำงานให้ มาดริด ที่ลงทุนมาโน้มน้าวใจวัยรุ่นคนบ้านเดียวกันด้วยตัวเอง

"ผมนี่แหละที่เป็นคนที่มีส่วนสำคัญในการพาตัว วาราน มาที่ เรอัล มาดริด" ซีดาน กล่าวย้อนความ

"ผมบอกว่าเขาคาแร็คเตอร์ที่เขามีเป็นสิ่งที่ เรอัล มาดริด เรียกร้องนักเตะประเภทนี้อยู่เสมอ และการที่เขาได้มาเป็นนักเตะของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่คุมทีมในเวลานั้น มันจะสำคัญต่อโอกาสพัฒนาเขาอย่างมากในแง่ของนักเตะที่เล่นเกมรับ"

"ผมทำแบบนั้นก็เพราะว่าผมเห็นเขาเล่นแล้วมันทำให้ผมนึกถึงนักเตะร่วมรุ่นของผมอย่าง โลรองต์ บลองค์ (เซ็นเตอร์ฮาล์ฟชุดแชมป์โลกปี 1998) คุณสมบัติคล้าย ๆ กัน เร็ว ฉลาด และมีความเป็นผู้นำสูง ... ตอนนั้น ล็องส์ ตกชั้นไปลีก เดอซ์ และผมรู้ว่าต้องทำทุกอย่างให้เราได้ตัวเขามา" ซีดาน ว่าแบบนั้น 

วาราน ไป เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ... ความท้าทายครั้งใหม่ที่ใหญ่ขึ้น  เขาต้องใช้ความพยายามมากขึ้น และแน่นอนมันรวมถึงการใช้ร่างกายมากขึ้นด้วย 

 

ไม่เจ็บไม่ยิ่งใหญ่ 

ช่วงเวลาที่ เรอัล มาดริด นั้นถือเป็นช่วงเวลาที่เราไม่ต้องบรรยายถึงสรรพคุณของ วาราน เพิ่มเติมอีกแล้ว เอาเป็นช่วงเวลานั้นถ้วยแชมป์เต็มและความสำเร็จเต็มตู้ไปหมด  

ทุกอย่างที่ ซีดาน พูดเอาไว้ก่อนย้าย กลายเป็นดั่งคำทำนายที่ถูกต้องทุกอย่าง วาราน จับคู่กับ เซร์คิโอ รามอส และเป็นส่วนหนึ่งในยุคสมัยของราชันชุดขาว โดยตัวขอเขาอธิบายเพิ่มเติม ณ เวลานั้น และอย่างที่บอกคือช่วงเวลาที่ต้องใช้ร่างกายแลกกับความสำเร็จก็คงไม่ผิดนัก

วาราน เป็นนักเตะตัวใหญ่เขาสูง 191 เซ็นติเมตร น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 80-83 กิโลกรัม ร่างกายของเขาส่งเสริมให้เขามีความเร็วในทางตรงจากช่วงขาที่ยาว เพียงแต่ว่าความใหญ่นี่แหละที่ทำให้เขาพยายามใช้สปีดให้น้อยลง เพราะทุก ๆ การวิ่งสปีดแบบเต็มฝีเท้า ก็เป็นการสร้างความเสียเสียหายให้กับร่างกายของเขาเหมือนกัน 

"ผมเป็นคนวิ่งได้เร็วมาก ๆ นั่นคือสิ่งที่ติดตัวมา เพียงแต่ว่าผมต้องพยายามใช้จุดเด่นนี้ให้น้อยที่สุด" วาราน พยายามอธิบายว่าเขาพยายามเซฟร่างกายด้วยการใช้สมองและสมาธิเข้ามาเป็นส่วนเสริม 

"สิ่งที่จะทำได้คือการพยายามวางตัวเองในตำแหน่งที่ดี มีสมาธิตลอดเวลา เพราะนั่นจะทำให้ผมไม่ต้องออกแรงมากนัก สิ่งเหล่านี้กว่าจะทำได้มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ คุณต้องตัดสินใจให้ดี และส่วนนี้เป็นผมที่ผมเพิ่งพัฒนาขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา(สัมภาษณ์ในช่วงปี 2018)" 

ตอนช่วงวัยหนุ่ม วาราน มีคลิปในยูทูบจังหวะไล่กวดกองหน้าแบบแซงเห็น ๆ ให้เราได้ดูกันบ่อยมาก ทว่าอย่างที่เขาบอก เมื่อเขาเป็นคนตัวใหญ่ทุกการออกแรงเต็มฝีเท้ามีราคาที่ต้องจ่ายเสมอ หลังจากปี 2014 เป็นต้นมาถือเป็นช่วงที่วารานบาดเจ็บรบกวนอยู่บ่อย ๆ 

แน่นอนว่ามันเกิดจากคุณภาพของเกมระดับสูงที่ต้องการความเข้มข้นเยอะมากทั้งในสนามแข่งและในสนามซ้อม และคุณต้องไม่ลืมว่า วาราน ถูกใช้งานอย่างเต็มเหนี่ยวมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ดังนั้นเมื่อใช้ร่างกายเต็มที่มันส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาในช่วงเวลาดังกล่าว

ถามว่าเรารู้ได้อย่างไร ? ก็ต้องบอกว่าประวัติอาการบาดเจ็บของเขาบอกทุกย่าง ช่วงเวลา 4 ปีสุดท้ายกับ เรอัล มาดริด วาราน เจ็บครบแทบทุกที่ทั้ง เข่า, กล้ามเหนือหลังต้นขา, ปัญหากล้ามเนื้อ และ ข้อเท้า .. ช่วงนั้นแหละที่ วาราน เปลี่ยนวิธีการเล่นจากการเล่นในแนวสต็อปเปอร์ (ตัวชน) กลายเป็นการเล่นแบบสวีปเปอร์ (ตัวดักทาง) 

"คุณเลี่ยงไม่ได้เลยในการเข้าปะทะหากคุณเป็นนักเตะตำแหน่งกองหลัง เพราะมันเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก ๆ ในตำแหน่งนี้ เพียงแต่ว่าจริง ๆ แล้วมันมีรายละเอียดอย่างอื่นอีกเยอะ ที่เราต้องทำในเกมการแข่งขันจริง"

"สำหรับผม ผมเลือกให้การปะทะโดยตรงกับคู่แข่งถือเป็นทางเลือกสุดท้ายโดยเฉพาะตอนที่เราเจอกับกองหน้าที่เร็วและแข็งแรง สไตล์ของผมจึงเปลี่ยนไปเป็นกาพยายามอยู่ในตำแหน่งที่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ"

"การคาดเดาการอ่านเกมล่วงหน้าสามารถสร้างความแตกต่างได้มาก ๆ ในยุคที่ฟุตบอลเร็วกันเร็วแบบนี้ ผมต้องวิเคราะห์ให้ดีที่สุดก่อนที่ผมจะพยายามเข้าสกัดบอล เพราะมันจำเป็นต้องแม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" 

แม้จะต้องปรับสไตล์ แต่ไม่ใช่ปัญหา วาราน โดดเด่นขึ้นในตำแหน่งตัวเชิง ประกอบกับคุณภาพนักเตะรอบตัวที่สามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาสำหรับเขาได้ ช่วงเวลาที่ เรอัล มาดริด เป็นแบบนั้นมาเสมอ ถ้วยแชมป์ที่มากมายพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี จนกระทั่งวันที่เขาย้ายออกไปอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลที่ใช้ร่างกายมากกว่าลีกใด ๆ บนโลกนี้ 

 

ทุกอย่างถูกเปิดเผยที่ ยูไนเต็ด 

วาราน ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านปอนด์ พร้อมค่าเหนื่อยก้อนโต แต่ถ้าคุณถามแฟน ๆ ของ ยูไนเต็ด ว่า วาราน เป็นกองหลังที่เก่งและมีคุณภาพหรือไม่ ทุกเสียงจะตอบตรงกันว่าใช่ 

และเช่นเดียวกันถ้าคุณถามแฟน ๆ ยูไนเต็ด ว่าจำได้หรือไม่ว่า วาราน เจ็บกี่ครั้งนับตั้งแต่อยู่กับทีมมา 4 ปี ... คำตอบจะออกมาว่า "นับไม่ถ้วนอย่างไม่ต้องสงสัย"

ซึ่งประวัติการบาดเจ็บก็ฟ้องชัดว่าแผลเก่าที่เขาเคยเจ็บจากที่ มาดริด เกิดการ "เจ็บซ้ำ" ที่ ยูไนเต็ด ทุก ๆ อาการ หนำซ้ำยังมีอาการบาดเจ็บส่วนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมาเช่นการบาดเจ็บที่หลัง และการบาดเจ็บที่ศรีษะจากการถูกชน(คอนคลัสชั่น) อย่างแรง  

เรื่องสำคัญที่ต้องไม่ลืมคือการบาดเจ็บไม่ใช่ส่วนเดียวที่บั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจ ในช่วงของกลายเรียกฟิต เพื่อกลับมาเล่นอีกครั้ง นักเตะต้องอยู่ในกฎต่าง ๆ ที่ทีมแพทย์และนักกายภาพแนะนำอย่างเคร่งครัด 

การฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นเต็มไปด้วยความเครียดทางร่างกายและจิตใจ วารานต้องผ่านโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายนับครั้งไม่ถ้วน ต้องพลาดการแข่งขัน และความหงุดหงิดที่ไม่สามารถลงสนามได้อย่างเต็มที่ ในฐานะผู้เล่นที่ภาคภูมิใจในความเป็นมืออาชีพและความทุ่มเทของตัวเอง อุปสรรคเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะมันยากมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออายุของเขาเข้าเลข 3 เพราะร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูตัวเองช้าไปตามสังขารด้วย

ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปัญหาการบาดเจ็บเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก แม้ว่าวารานจะสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อฟิต แต่การต้องพักรักษาตัวข้างสนามกลับเกิดขึ้นบ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ อาการบาดเจ็บล่าสุดนี้ซึ่งถือว่าร้ายแรง ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตระยะยาวของเขาในวงการกีฬา

“ครั้งแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับ [อาการกระทบกระเทือนทางสมองเล็กน้อย] คือในฤดูกาลนี้เมื่อผู้เชี่ยวชาญเข้ามาคุยกับเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ ... บ่อยครั้งที่เราในฐานะผู้เล่นไม่เข้าใจและไม่คิดที่จะทำการทดสอบด้วยซ้ำ” เขากล่าว

“เมื่อต้นฤดูกาลนี้ ผมโหม่งบอลซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่างการแข่งขันกับแมนฯ ยูไนเต็ด และรู้สึกเหนื่อยล้าผิดปกติในอีกไม่กี่วันต่อมา รวมถึงมีอาการเมื่อยล้าของดวงตาด้วย ผมรายงานเรื่องนี้กับทีมงาน ซึ่งพวกเขาก็แนะนำอย่างหนักแน่นว่าอย่าให้ผมเล่น และผมก็ไปตรวจ ซึ่งนั่นหมายถึงว่าผมต้องพลาดการแข่งขันนัดต่อไป"

วาราน พยายามครั้งแล้วครั้งเล่าในการกลับมาเล่นอีกครั้ง ซึ่งก็กลับมาได้ไม่กี่เกมก็เจ็บซ้ำอีก แต่อย่างน้อยความพยายามครั้งสุดท้ายของเขาก็ได้ใจแฟนแมนฯ ยูไนเต็ด เต็ม ๆ เนื่องจากเขาหายจากทีมไปเกือบ 2 เดือนในช่วงท้ายฤดูกาล 2023-24  กว่าจะหายเจ็บและฟิตเต็มที่คือเกมสุดท้ายของซีซั่นจริง ๆ นั่นคือนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ แมนฯ ซิตี้ ... ซึ่งอย่างที่เรารู้กัน ราฟาเอล วาราน ได้แสดงมหกรรม "Last Dance" อย่างสมฉายาผู้บัญชากร เพราะช่วยดักทาง สกัดกั้น และใส่สุดตัวจน ปีศาจแดง คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครอง และถือเป็นโทรฟี่ที่ 2 ในรอบ 2 ปีติดต่อกัน หลังจากทีมห่างหายจากความสำเร็จมา 6 ปีเต็ม ๆ 

หลังจบซีซั่น 2023-24 วาราน รู้ดีว่าร่างกายเขาบอบช้ำเกินกว่าเกมพรีเมียร์ลีกแล้ว เขาบอกลาในฐานะขวัญใจแฟนบอล ยูไนเต็ด และไปอยู่กับ โคโม่ หวังทิ้งท้ายอาชีพ ทว่าโชคร้ายที่อาการบาดเจ็บที่หัวเข่าของเขากำเริบหนักจนไม่สามารถลงเล่นได้เลย และสุดท้าย ราฟาเอล วาราน ก็ประกาศแขวนสตั๊ด และทิ้งไว้เพียงศิลปะการเล่นเกมรับแบบผู้บัญชาการให้กองหลังรุ่นหลังได้ศึกษาวิธีการเล่นของเขาสืบไป 

 

แหล่งอ้างอิง 

https://www.manutd.com/en/news/detail/raphael-varane-in-depth-interview-on-background-in-full-2022
https://www.fifpro.org/en/supporting-players/health-and-performance/player-workload/raphael-varane-we-want-to-protect-the-game-we-love
https://www.european-nights.com/articles/raphael-varane-the-art-of-defending
https://www.espn.co.uk/football/story/_/id/39857955/man-united-varane-concussions-damaged-my-body
https://www.odrimedia.co.ke/raphael-varane-former-manchester-united-star-considers-retirement-at-31-after-serious-injury/
https://www.transfermarkt.co.uk/raphael-varane/verletzungen/spieler/164770

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

ปฐวี ยอดเนียม

Man u is No.2 But YOU is No.1

Graphic

ปริญญา คงปันนา

กราฟฟิคหน้าโหด ทำงานด้วย Passion ว่างๆ ชอบไปคาเฟ่ หลงไหลในศิลปะ, การเดินทางและกีฬา