Feature

มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ : เกิดที่ดัตช์ ล้มที่อิตาลี ครึ่ง ๆ กลาง ๆ ที่เยอรมัน ... มาวัดกันที่อังกฤษ ! | Main Stand

มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ เคยดังมาก ๆ ตอนที่เขาอายุ 17 ปี สมัยที่เล่นให้กับ อาแจ็กซ์ และเป็นขุนพลชุดสร้างชื่อของ เอริค เทน ฮาก 

 

เพียงแต่ว่าชีวิตค้าแข้งที่ควรจะมีแต่ขาขึ้นหากเทียบจากความเก่งกาจในวัยเด็กของเขา กลับค่อย ๆ เดินทางสู่ขาลงแบบเร็วเกินคาด ความล้มเหลวมที่ ยูเวนตุส การไร้แสง ไม่โดดเด่นที่ บาเยิร์น มิวนิค จนราคาตกลงมาทุก ๆ ปี 

ก่อนที่เขากำลังจะได้เริ่มใหม่อีกครั้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ... เราจะย้อนไปดูว่าทำไมเด็กเทพเบอร์ 1 ของรุ่นจึงอยู่ไม่ติดที่ และต้องชีพจรลงเท้าแบบนี้  ?  ติดตามที่ Main Stand 

 

แจ้งเกิดที่ อาแจ็กซ์ 

ย้อนเรื่องราวกลับไปสักราว ๆ ปี 2017 เรื่องราวของ เดอ ลิกต์ เป็นคนละแบบกับในตอนนี้ เพราะในขณะที่ปัจจุบันมีคำถามเรื่องพัฒนาการของการเป็นกองหลังชั้นยอดของเขา รวมถึงเรื่องของอาการบาดเจ็บที่รบกวนอาชีพค้าแข้งอยู่เป็นเนือง ๆ แต่ในปี 2017 นั้น เดอ ลิกต์ ถือว่าเป็น "กองหลังดาวรุ่งเบอร์ 1 ของโลก" สมัยที่เล่นให้กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม

เรื่องจริงที่ เดอ ลิกต์ ตอนอายุ 17 ปีทำอะไรได้มากมาย และมันไม่ใช่แค่สื่อที่อวยเขา ... เดอ ลิกต์ ลงเล่นเป็นผู้นำเกมรับของ อาแจ็กซ์ ยืนสั่งการเหมือนกับตัวเองเป็นกัปตัน คอยจัดระเบียบแผงเกมระรับตะโกนเตือนให้เพื่อนมีสมาธิตลอด แถมร่างกายของเขาก็ดูเหมือนกับไม่ใช่ดาวรุ่ง สูงใหญ่ มีมัดกล้าม พร้อมเข้าปะทะ 

เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ซีอีโอของ อาแจ็กซ์ ณ เวลานั้น หนึ่งในผู้สร้างทีมวันเดอร์คิดชุดที่ เดอ ลิกต์ และเพื่อน ๆ ของเขาขึ้นมา ให้ราคากับ เดอ ลิกต์ มากกว่าใครเพื่อน และมั่นใจว่า เดอ ลิกต์ มีทุกอย่างที่จะเป็นนักเตะระดับโลกได้ หลายสิ่งที่ เดอ ลิกต์ ทำได้ ฟาน เดอ ซาร์ บอกว่า ไม่เคยเห็นเด็กอายุ 17 ปีคนอื่นทำได้มาก่อนเหมือนกัน 

"ผมเห็น เดอ ลิกต์ เป็นแบบนี้มานานแล้ว คาแร็คเตอร์ของเขาชัดมากตั้งแต่ 7-8 ปีก่อน (หมายถึงตอนอายุ 10 ขวบ) เขาเป็นคนที่มีความเป็นผู้ใหญ่สูงมากเมื่อเทียบกับอายุของเขาซึ่งต้องยกให้เรื่องทัศนคติ ตอนนี้เขาอายุย่าง 18 ปี แต่ร่างกายของเขาเหมือนกับคนหนุ่มวัย 24 ปี"

"ส่วนในเรื่องของวิธีการเล่น นี่คือกองหลังที่เล่นได้ทั้งแบบสต็อปเปอร์และสวีปเปอร์ เล่นบอลด้วยเท้าได้ดีทั้งสองเท้า มีระยะการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณถามหาอะไรจากองหลัง เขาทำได้ทั้งนั้น การโหม่งบอล การเติมขึ้นมายิงประตู และการเป็นผู้นำในแนวรับ"

"เดอ ลิกต์  ขึ้นมาทีมชุดใหญ่ตอนเขาอายุ 17 ปี จากนั้นทุกคนไม่คิดจะเอาเขากลับลงไปเล่นชุดเยาวชนแล้ว เช่นเดียวกับเขาที่ไม่เคยมองย้อนหลังอีกเลย ... นี่ผมพูดถึงเด็กอายุ 18 ปี จริง ๆ แล้วคุณจะได้เห็น" ฟาน เดอ ซาร์ ว่าแบบนั้น 

ภาพของ เดอ ลิกต์ ตอนนั้นเป็นแบบที่ ฟาน เดอ ซาร์ ว่าจริง ๆ ถ้าคุณย้อนกลับไปดูคลิปตอนนั้น คุณจะได้เห็นภาพของเขาตอนอายุ 17 ปี ถือโทรโข่งเป็นตัวแทนนักเตะปลุกเร้ากองเชียร์หลังพาทีม อาแจ็กซ์ เข้ารอบชิง ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2017 แม้ที่สุดแล้วจะแพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบชิงชนะเลิศ แต่คาแร็คเตอร์ของ เดอ ลิกต์ ก็ถูกพูดถึงโดยผู้ชนะในวันนั้นอย่าง โชเซ่ มูรินโญ่ ที่เป็นกุนซือของปีศาจแดง ที่ชม เดอ ลิกต์ ยิ่งกว่าที่ ฟาน เดอ ซาร์ ชมนักเตะของตัวเองซะอีก 

"เดอ ลิกต์ ยอดเยี่ยมที่สุดในเรื่องคาแร็คเตอร์ ตอนที่เราเจอกับเขาในนัดชิงยูโรป้า ปี 2017 เขาดูเหมือนคนอายุ 26 ปีไปแล้ว ... เรากำลังรอให้เขามีประสบการณ์ที่มากขึ้น เพื่อดูว่าเขาจะเป็นกองหลังที่ดีกว่านี้ได้หรือไม่ ?" มูรินโญ่ ว่าแบบนั้น 

และอีก 3 ปีหลังจากนั้น สิ่งที่เรียกว่าประสบการณ์ก็รอ เดอ ลิกต์ อยู่หลังจากเขาย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยราคา 80 ล้านยูโร ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขาอายุ 21 ปีเท่านั้น 

 

ล้มเหลวที่ ยูเวนตุส 

สุดยอดวันเดอร์คิดอย่าง เดอ ลิกต์ เปรียบเสมือนเก่งเล็กในลีกดัตช์ ย้ายมาอยู่กับ ยูเวนตุส ในปี 2019 ... ณ เวลานั้นเก่งใหญ่อย่าง เลโอนาร์โด โบนุชชี่ และ จอร์โจ คิเอลลินี่ เป็นพี่ใหญ่ในตำแหน่งเดียวกันอยู่ที่ตูริน

ถ้าถามว่า เดอ ลิกต์ มีประสบการณ์ดี ๆ อะไรบ้างกับ ยูเวนตุส เราก็คงต้องยอมรับความจริงว่ามันน้อยมาก ภาพจำของเขาที่นั่นเป็นเรื่องของความผิดพลาดต่าง ๆ มากมาย ... ทั้งที่ความจริงมันควรจะเป็นการเริ่มต้นสู่เวทีใหญ่ที่ดีของเขา

ในวันที่ เดอ ลิกต์ ย้ายมาใหม่ ๆ ไม่กี่เดือน เป็นช่วงจังหวะที่ คิเอลลินี่ พี่ใหญ่ของทีมบาดเจ็บต้องพักรักษาตัวนานถึง 6 เดือน ... แต่ในทางกลับกันคือ เดอ ลิกต์ ที่คาดหวังจะค่อย ๆ ปรับตัว ถูกจับเล่นเป็นตัวจริงทันที และปัญหาก็เกิดหลังจากนั้น 

เดอ ลิกต์ เล่นผิดพลาดในเกมแรกของเขากับ นาโปลี แม้ทีมจะชนะ 4-3 แต่ความกระโดกกระเดกของเขาชัดเจนมาก อีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาทำเสียจุดโทษจากแฮนด์บอลในเกมกับ อินเตอร์ มิลาน และเสียจุดโทษจากแฮนด์บอลอีกครั้งในเกมเสมอกับ เลชเช่ 1-1 ปิดท้ายด้วยฟอร์มอันย่ำแย่ในเกมแพ้ ลาซิโอ 1-3 ช่วงเดือนธันวาคม จากนั้น เดอ ลิกต์ ก็โดน เมริห์ เดมิรัล เซ็นเตอร์แบ็กชาวตุรกี แย่งตำแหน่งตัวจริงไปโดยปริยาย 

โลกโซเชี่ยลสนุกปากกับการเล่นของ เดอ ลิกต์ ในตอนนั้น การล้อเลียนเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะล้อเลียนทั้งตัวของเขาที่ได้รับฉายาโก้หรูดีดีต่าง ๆ มากมายตอนอยู่กับ อาแจ็กซ์ ขณะที่ ยูเวนตุส ก็โดนล้อว่าจ่ายเงินระดับ 80 ล้านยูโรเพื่อคนที่พร้อมแจกจุดโทษให้คู่แข่งในทุกสัปดาห์ 

เดอ ลิกต์ ให้สัมภาษณ์อย่างยอมรับและเข้าใจสถานการณ์ของตัวเองมากขึ้นว่า ณ ตอนนั้นเขาจะรู้สึกว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกเป็นพี่ใหญ่เหมือนตอนเล่นให้อาแจ็กซ์ต้องถูกลบทิ้งไป เหลือแค่เพียงการทำงานหนักเพื่อแย่งตัวจริงกลับคืนมา

"เดอ ลิกต์ ประสบปัญหาการปรับตัวในช่วงแรกมากกว่าที่หลายคนคิด แต่อย่าลืมล่ะว่าเขาอายุ 20 ปี ที่ผมเห็นข้อดีในตัวของเขาคือ เขายังเป็นนักเตะที่มุ่งมั่น มีคาแร็คเตอร์ดี พยายามเล่นแบบเต็มที่ใส่สุดตัวตลอด แต่สิ่งที่เขามี (ราคา,ชื่อเสียง) นี่แหละที่ทำให้เรื่องความผิดพลาดของเขามันไม่ปกติของคนอื่น ๆ เพราะทุกคนคาดหวังที่จะเห็นเขาในเวอร์ชั่นที่ไร้ข้อผิดพลาดแบบนี้" โจนาธาน เซบิน่า อดีตกองหลังของ ยูเว่ ว่าแบบนั้น 

เดอ ลิกต์ เล่นให้ ยูเวนตุส 3 ซีซั่น แม้จะมีแชมป์เซเรียอา 1 ครั้ง แชมป์โคปปา อิตาเลีย 1 ครั้ง แต่ในผลงานส่วนตัวนั้น แย่กว่าที่ใครคาดคิด ... สุดท้าย ยูเวนตุส ก็ตัดสินว่าเขายังไม่ใช่กองหลังที่เหมาะกับทีม และการขายต่อคือทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อเอาทุนคืน การย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค จึงเกิดขึ้นหลังจากนั้น พร้อมคำพูดส่งท้ายของ โบนุชชี่ ที่บอกว่า การย้ายออกของ เดอ ลิกต์ คือสิ่งดีที่สุดทั้งสำหรับนักเตะและสโมสร 

 

เกิดอะไรขึ้นที่ บาเยิร์น ?

เดอ ลิกต์ เริ่มชีวิตใหม่กับ บาเยิร์น และบอกว่าที่ตัดสินใจมาที่นี่เพราะมีสไตล์การเล่นเหมาะกับเขามากกว่า ยูเวนตุส เพราะ บาเยิร์น เป็นทีมเซ็ตบอลเข้าทำจากกองหลัง และตัวของเขาก็เป็นกองหลังประเภทนั้น 

ทว่าเป็นอีกครั้งที่ชีวิตใหม่ใน บาเยิร์น นั้นไม่ง่ายนัก แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่เหมือนกับตอนที่อยู่ ยูเวนตุส อย่างน้อย เขาก็คิดถูกที่มาเล่นให้ บาเยิร์น เพราะเข้ากับสไตล์การเล่นของเขามากกว่า โดยการวิเคราะห์ของกลุ่มแฟนบอลบาเยิร์น ในเว็บไซต์ Bavarian Football Works ก็ออกมาพูดถึง เดอ ลิกต์ ว่าไม่ใช่นักเตะที่ล้มเหลวอย่างที่หลายคนเข้าใจ 

เรื่องสไตล์ก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องของการปรับตัว เดอ ลิกต์ มาอยู่กับบาเยิร์น และด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น เขาเข้ากับนักเตะรุ่นใหญ่ในทีมได้ดีมากขึ้น และปรับหลาย ๆ อย่างเริ่มที่ตัวเองเช่นการฝึกภาษาเยอรมันเพื่อให้ง่ายต่อการปรับตัว

เพียงแต่ว่าปัญหาหลัก ๆ ของ เดอ ลิกต์ ที่คอยกวนอยู่ตลอด คือเรื่องของอาการบาดเจ็บ นับตั้งแต่เขามาอยู่กับ บาเยิร์น เขาได้รับบาดเจ็บถึง 8 ครั้ง ในหลายที่แตกต่างกันไป และการบาดเจ็บ 8 ครั้งทำให้เขาพลาดเกมไปทั้งหมด 29 เกม และภาพมันชัดในฤดูกาล 2023-24 นี่แหละที่ เดอ ลิกต์ เจ็บถึง 4 ครั้ง หายไปจากทีมถึง 20 เกม 

เรื่องนี้น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจขาย เดอ ลิกต์ แบบยอมขาดทุนของ บาเยิร์น เพราะ บาเยิร์น คือทีมที่เขี้ยวมากเรื่องตัวเลข พวกเขาเข้าใจเรื่องการผันผวนของตลาดเป็นอย่างดี นักเตะคนไหนที่มีแววจะเข้าช่วงขาลง พวกเขาจะยอมขายทิ้ง แม้จะขาดทุนบ้าง แต่การเก็บไว้ก็มีความเสี่ยงในการขาดทุนระยะยาว

พวกเขาซื้อ เดอ ลิกต์ มาด้วยราคาราว 75 ล้านยูโร แต่ เดอ ลิกต์ ราคาตกฮวบเหลือเพียง 60 ล้านยูโร ในฤดูกาล 2023-24 ซึ่งสิ่งที่คาดคะเนไว้มันแตกต่าง นักเตะหนุ่ม มีศักยภาพพัฒนาต่ออย่าง เดอ ลิกต์ ควรจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ดังนั้นเมื่อราคาตกลง บวกกับในทีมมีกองหลังอย่าง คิม มิน แจ, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ คนที่ซื้อมาใหม่อย่าง ฮิโรกิ อิโต   ทำให้โปรเจ็กต์การขาย เดอ ลิกต์ และซื้อกองหลังใหม่เข้ามาเริ่มขึ้น

ประกอบกับเมื่อ แว็งซองต์ กอมปานี เข้ามาเป็นเฮดโค้ชคนใหม่ ก็มีการเปิดเผยว่าเงินที่ได้มาจาก เดอ ลิกต์ จะถูกเแปลงเป็น โจนาธาน ทาห์ หรือคนอื่น ๆ ที่เข้าสไตล์การทำทีมของ กอมปานี มากกว่าด้วย

เรื่องนี้ขัดใจแฟนบอล บาเยิร์น พอสมควร มีการล่ารายชื่อแฟนบอลกว่า 70,000 คนเพือคัดค้านการขายครั้งนี้ ขณะที่ Bavarian Football Works แฟนไซต์ของ บาเยิร์น ก็บอกว่า การขาย เดอ ลิกต์ คือเรื่องไร้สาระที่สุด ข้อความทั้งหมดในบทความที่ได้รับการโหวตให้ขึ้นหน้าแรกของเว็บไซต์มีอยู่ว่า

"การคิดจะขาย เดอ ลิกต์ ออกคือเรื่องที่ไร้สาระมาก นักเตะดัตช์รายนี้คือคนหนึ่งที่เล่นได้สม่ำเสมอที่สุดของเราในช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา และเขาเป็นกองหลังที่ดีที่สุดเท่าที่เรามีอยู่ด้วยซ้ำ การปล่อย เดอ ลิกต์ จะส่งผลแน่ทั้งในแง่ของคุณภาพเกมรับและการเสียนักเตะที่มีความเป็นผู้นำ ... การมัวแต่กลัวขาดทุนจนต้องขายนักเตะอายุน้อยที่เล่นได้ดีแบบนี้ คือเรื่องของทีมเล็ก ๆ ทำกัน ไม่สมกับเป็นเราเลย" 

และตอนนี้การย้ายทีมกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว เดอ ลิกต์ จะได้กลับมาร่วมงานกับ เอริค เทน ฮาก ที่แมนฯ ยูไนเต็ด อีกครั้ง โดยทั้งคู่เคยทำงานด้วยกันในช่วงราว ๆ 18 เดือน ก่อนที่ เดอ ลิกต์ จะย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส และ ณ เวลานั้นกลุ่มเด็ก อาแจ็กซ์ ของ เทน ฮาก ดังขึ้นมาแบบยกชุด

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด อย่างน้อย ๆ ณ ตอนนี้ หากมองจากชื่อชั้นที่ ยูไนเต็ด มี การได้ เดอ ลิกต์ มาในราคาที่ต่อแล้วจบที่ราว ๆ 42 ล้านยูโรก็ถือว่าเป็นการซื้อขายที่คุ้มค่ามาก ๆ เพราะอายุการใช้งานยังเหลืออีกเยอะ 

ส่วนจะคุ้มมากหรือคุ้มน้อย คงต้องให้ฟอร์มของ เดอ ลิกต์ ในยามลงสนามเป็นคำตอบ เพียงแต่ว่าด้วยคาแร็คเตอร์ที่เอาคือเอา เข้าปะทะแย่งบอลดุดัน และเป็นคนที่ชอบตะโกนสั่งการตลอดเวลาแบบนี้ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะช่วยเข้ามาเสริมในจุดที่ ยูไนเต็ด ขาดอยู่พอดี ... เทน ฮาก กับฤดูกาลที่เขาไร้ข้ออ้าง หากเขาปลุก เดอ ลิกต์ คนเดิมกลับมาได้เหมือนสมัยทำงานด้วยกันครั้งแรก เก้าอี้กุนซือของเขาก็จะปลอดภัยไปด้วย  

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.goal.com/story/matthijs-de-ligt-nxgn-2018-EN/index.html
https://www.goal.com/en/lists/man-utd-lowball-transfer-offer-matthijs-de-ligt-knocked-back-bayern-munich-under-pressure-sell/blt7af895b9acb4c41f#cs008c900b1158b268
https://www.bavarianfootballworks.com/2024/6/10/24175439/two-reasons-why-bayern-munich-transfer-rumors-matthijs-de-ligt-tah-upamecano-min-jae-dier-kompany
https://www.transfermarkt.co.uk/why-are-bayern-willing-to-sell-matthijs-de-ligt-dutch-defender-set-for-man-utd-move/view/news/440080
https://www.transfermarkt.com/matthijs-de-ligt/verletzungen/spieler/326031
https://www.besoccer.com/new/bonucci-scolds-de-ligt-for-leaving-juventus-1165274
https://onefootball.com/en/news/matthijs-de-ligts-agent-explains-why-he-left-juventus-for-bayern-munich-36073373
https://bleacherreport.com/articles/2879327-how-bad-has-matthijs-de-ligts-1st-season-at-juventus-really-been

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ