โคดี้ กักโป ดูจะร้อนแรงเหลือเกินในศึกยูโร 2024 ครั้งนี้ ตอนนี้เขายิงไป 3 ประตูกับทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ ครองดาวซัลโวร่วม และเหนือสิ่งอื่นใด แต่ละจังหวะของเขาดูวูบวาบ อันตราย และหวังผลได้เสมอ
มันเหมือนจะเป็นอีกร่างที่แฟนบอล ลิเวอร์พูล เองก็น่าจะรู้สึก ในช่วงปลายซีซั่นที่แล้วคำวิจารณ์ถึง กักโป ว่าเป็นนักเตะประเภทไปไม่สุดสักทาง ลุกลามไปถึงว่า ลึก ๆ แล้วเขาเป็นนักเตะที่ใช่สำหรับ ลิเวอร์พูล จริงหรือ ?
สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนผันในเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ เมื่อทัวร์นาเมนต์เริ่ม กักโป กลับเข้าสู่เวอร์ชั่นร่างทอง ร่างที่ทำให้ ลิเวอร์พูล ควัก 50 ล้านปอนด์ ซื้อตัวเขามา ... แต่น่าแปลก ทำไมกับหงส์แดงเขาถึงเล่นไม่ได้แบบนี้ ? ติดตามที่ Main Stand
กักโป ที่แท้ทรูคือ ?
ก่อนจะวัดที่ปัจจุบันก็ย้อนกลับไปดูต้นกำเนิดกันหน่อย โคดี้ กักโป ถือเป็นนักเตะตัวรุกสมัยใหม่ ที่สามารถเล่นได้ท้ัง 4 ตำแหน่งในแนวรุกไม่ว่าจะ ปีกซ้าย ปีกขวา หน้าต่ำ หน้าเป้า ซึ่งทุกตำแหน่งที่กล่าวมาเขาเคยเล่นมาตั้งแต่ก่อนจะมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แล้ว เพียงแต่จ๊อบหลักของเขาสมัยอยู่กับ พีเอสวี คือตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนจะเข้าที่เข้าทางสำหรับเขามากที่สุด
ในอดีตสมัยขึ้นรุ่นมาใหม่ ๆ กักโป เป็นปีกที่มีสไตล์โดดเด่นและหลากหลายในเวลาเดียวกัน เขาสามารถพาไปบอลไปริมเส้นก่อนเปิดบอลเข้าในพื้นที่กรอบเขตโทษให้เพื่อน หรือสามารถวิ่งตัดเข้าด้านในกรอบเขตโทษ และทำประตูแบบปีกสไตล์ Cut-Inside ให้เห็นอยู่บ่อย ๆ สิ่งเหล่านี้ยืนยันได้จากการสร้างเกมรุกของของเขาที่ พีเอสวี
เมื่อเอาสถิติมากางจะพบว่า กักโป เป็นนักเตะที่อันตรายมากเมื่อเขามีโอกาสได้เล่นเกมรุกบริเวณช่องว่างระหว่างในการยืนตำแหน่งของกองกลางและกองหลัง ซึ่งเป็นจุดที่เขาใช้สร้างโอกาสทำประตูอยู่บ่อยครั้ง จาก 55 ประตูนับตั้งแต่เขาเล่นฟุตบอลอาชีพจนถึงปีสุดท้ายกับ พีเอสวี ลูกยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ เป็นลูกยิงที่ กักโป ทำได้มากที่สุด วัดจาก xG เฉลี่ยในจุดดังกล่าวมีค่าสูงถึง 15.3 (ยิงจากนอกรอบ และลูกยิงแบบตัดเข้าในได้รวม 24 ประตู) เรียกได้ว่าเกือบครึ่งหนึงของประตูทั้งหมดที่เขายิงได้
การที่กล่าวอ้างสถิตินี้ก็เพื่อจะบอกว่าลูกยิงลักษณะนี้ที่นับเป็นของถนัดสำหรับ กักโป ก็เพิ่งเกิดขึ้นในเกมที่ เนเธอร์แลนด์ เอาชนะ โรมาเนีย 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย การเลี้ยงบอลจากด้านซ้าย ตัดเข้าใน และเลือกมุมยิงของเขาในเกมเมื่อคืนนี้ดูเป็นธรรมชาติ เล่นไปตามสัญชาตญาณที่ทำจนคุ้นชิน การยิงอัดเสาแรกที่หนักหน่วงและแม่นยำ ยืนยันตัวตนชัดเจนว่าตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายคือสิ่งที่จะเรียกความสามารถของเขาออกมาได้มากที่สุด
นอกจากการเล่นทางด้านซ้ายจะทำให้เขาเข้าระยะทำการเรื่องการยิงประตูได้ถนัดแล้ว มันยังเสริมส่งกับวิธีการเล่นของเขาหลายแบบ โดยในฤดูกาลสุดท้ายกับ พีเอสวี กักโป เป็นนักเตะที่เล่นลูกเปิดจากด้านกว้าง สร้างโอกาสได้เฉลี่ยเกมละ 1.98 ครั้งต่อ 1 เกม เรียกได้ว่าถ้าวางเขาไว้ตรงนี้ ก็จะได้ประโยชน์ทั้งเรื่องการยิงประตู และการสร้างโอกาสในเวลาเดียวกัน
และทีมงานสตาฟฟ์โค้ชเนเธอร์แลนด์เองก็ดูเหมือนจะรู้จุดนี้ดี พวกเขาขยับ กักโป ออกมาเล่นฝั่งซ้ายตามถนัดในฟุตบอลยูโร 2024 โดยก่อนหน้านี้ในฟุตบอลโลก 2022 กักโป มักจะได้เล่นเป็นกองหน้าหมายเลข 9 มากกว่า ซึงถึงแม้จะยิงได้ แต่เรื่องของความวูบวาบ และการมีส่วนร่วมกับเกม ต้องบอกว่า ยูโร 2024 คือร่างทองของเขาอย่างแท้จริง
บุกสไตล์ดัตช์ ต้องจัดปีกอย่างกักโป
ย้อนกลับไปใน ฟุตบอลโลก 2022 หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชุดนั้นเลือกใช้ กักโป ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในตำแหน่งเบอร์ 9 ในทุก ๆ เกม ส่วนหนึ่งที่ ฟาน กัล ใช้ กักโป ในตำแหน่งนี้ เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า กักโป สามารถเล่นกองหน้าได้ เนื่องจากมีศักยภาพด้านร่างกายที่ดี ทั้งเรื่องความแข็งแรง และความรวดเร็ว พร้อมกับส่วนสูงที่สูงถึง 193 เซนติเมตร
ฟาน กัล หวังว่า กักโป ที่เล่นได้ 2 เท้า แข็งแรง และเล่นลูกกลางอากาศได้จะช่วยอุดปัญหาเบอร์ 9 ที่ไม่มีตัวเล่น ซึ่งผลออกมาก็ไม่เลวนัก กักโป ยิงไป 3 ลูกจาก 5 เกมในบอลโลก 2022 ได้ประตูจาก ลูกโหม่ง 1 ลูก เท้าซ้าย 1 ลูก และเท้าขวา 1 ลูก ... ซึ่งลูกที่ยิงได้จากเท้าซ้าย และเท้าขวา มาจากระยะใกล้เคียงกันมาก นั่นคือบริเวณเส้นกรอบเขตโทษ ซึงเขาเป็นคนหาจังหวะยิงได้ดีตามสถิติที่กล่าวไว้ในข้างต้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม การเล่นเล่นเบอร์ 9 นั้นดูจะกดศักยภาพของเขาเอาไว้ เรียกได้ว่า ไม่ได้ใช้จุดเด่นของเขาได้เต็มที่นัก เพราะ 3 ประตูที่ได้มาจากการมีโอกาสยิงเพียง 3 ครั้งเท่านั้น จะบอกว่าคมก็คงใช่ แต่ กักโป มีโอกาสยิงแค่ 3 ครั้ง มันน้อยเกินไปมากสำหรับนักเตะที่ควรจะมีบทบาทกับเกมรุกมากกว่านี้
คราวนี้ลองมาเปรียบเทียบกันใน ยูโร 2024 ที่ โรนัลด์ คูมัน หาทางออกใหม่ด้วยการสละเบอร์ 9 ที่ตัวใหญ่ แข็งแรงทิ้งไป ปรับใช้ตามนักเตะที่มีและหาแนวทางที่เหมาะกับขุมกำลังที่สุด เมมฟิส เดปาย รับบทบาทเบอร์ 9 รูปแบบการเล่นแบบ False 9 ขณะที่ กักโป ขยับออกมาเล่นในตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย
ในแง่ของภาพรวม เนเธอร์แลนด์ ดีขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่เกมรุกลื่นไหลมาก มีการเล่นเกมรุกที่เข้าทำแบบเป็นกลุ่ม ซึ่งทำให้ฟุตบอลไม่ตายง่าย ๆ เคลื่อนที่ไปตลอด จนสร้างโอกาสได้มากมาย
และหากมองไปที่ กักโป เขามีพื้นที่เล่นมากขึ้นกว่าเดิม โดยพื้นที่ฝั่งซ้าย แม้ กักโป จะไม่ใช่นักเตะที่เลี้ยงบอลเก่งกาจมากมายนัก แต่ระบบของทีมช่วยให้เขาไม่ต้องใช้การเลี้ยงบอลเยอะ แต่เป็นการเล่นชิ่ง 1-2 หรือการจ่ายบอลไปที่จุดนัดพบให้เขาเอาชนะแบ็กคู่แข่งได้แทน โดยสถิติการเลี้ยงบอลของเขาในทัวร์นาเมนต์นี้มีทั้งหมด 11 ครั้ง แต่การวิ่งตัวเปล่าเข้ากรอบเขตโทษ และรับบอลในกรอบเขตโทษมีถึง 15 ครั้ง มันแสดงให้เห็นว่า คูมัน เลือกเอาจุดแข็งของ กักโป มาเล่น เลือกซื้อเรื่องการเล่นในพื้นที่สุดท้ายของเขา มากกว่าการเลี้ยงบอล
ซึ่งผลออกมาดีมาก เพราะผ่านไป 4 เกม กักโป ยิง ไป 3 ลูกเท่ากับตอนฟุตบอลโลก แถมยังมีแอสซิสต์อีก1 ลูก เหนือสิ่งอื่นใด ยูโร 2024 นี้ กักโป มีโอกาสยิงด้วยตัวเองถึง 10 ครั้ง และเป็นการยิงเข้ากรอบถึง 7 ครั้ง และผ่านบอลเข้าสร้างโอกาสในพื้นที่อันตรายให้เพื่อนร่วมทีมได้อีก 10 ครั้ง
เหนือสิ่งอื่นใดคือ โรนัลด์ คูมัน ก็ให้ความมั่นใจกับ กักโป มาก ๆ ด้วยการให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า กักโป จะเป็นหัวใจเกมรุกตัวสำคัญของทีมตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์เริ่ม และในเกมแรกที่ชนะ โปแลนด์ คูมัน ยังเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าทีมเล่นไม่ได้ตามที่วางแผนไว้ เพราะตัวของเขาตั้งใจให้ทีมบุกทางซ้ายที่มี กักโป อยู่มากขึ้น
“เราเล่นทางปีกขวามากเกินไป และมีพื้นที่ทางปีกซ้ายโล่งมาก ๆ ... เอาจริง ๆ โคดี้เล่นได้ดีมาก เขาดูอันตราย และเราควรส่งบอลให้เขาบ่อยขึ้นกว่านี้” คูมัน ว่าแบบนั้น
ขณะที่อดีตนักเตะ ลิเวอร์พูล อย่าง แดนนี่ เมอร์ฟี่ และ สตีเฟ่น วอร์น็อค ที่เป็นกูรูของ BBC ก็พูดถึง กักโป ว่าการได้เป็นคนสำคัญ เป็นตัวเลือกแรกในแนวรุก ทำให้เขามีความมั่นใจ ซึ่งความมั่นใจนำมาสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องในสนาม ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยง ส่ง หรือยิง
"เราได้เห็น โคดี้ กักโป ทำแบบนั้นมาแล้วหลายครั้ง จบสกอร์อย่างใจเย็นและออกสตาร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ... เขาดูเป็นคนที่พึ่งพาได้ในเกมรุกจริง ๆ" เมอร์ฟี่ ว่าแบบนั้น
ทำไมที่ ลิเวอร์พูล ไม่เปรี้ยง ?
ประการแรกแบบที่ควรจะยกมาเป็นประเด็นคือ ในทีม ลิเวอร์พูล ตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายมีคนที่ตรงตามแท็คติกของ เยอร์เก้น คล็อปป์ มากกว่า นั่นคือ หลุยส์ ดิอาซ ซึ่งเป็นตัวริมเส้นธรรมชาติ คล่องตัว รวดเร็ว เทคนิคจัดจ้าน และเก่งเรื่องการเอาชนะ 1-1 มากที่สุดในทีม ลิเวอร์พูล ชุดนี้
การมี ซาลาห์ เป็นปีกกึ่งกองหน้าทางฝั่งขวาที่เน้นไปที่เรื่องการยิงประตู หรือแม้กระทั่งบอลคิลเลอร์พาสในเกมสวนกลับ ทำให้การมีปีกอีกฝั่งที่เร็วจี๋อย่าง ดิอาซ จึงตอบโจทย์กว่า กักโป เราได้เห็นหลายเกมที่ ซาลาห์ แทงบอลเปลี่ยจากรับเป็นรุก พรวดเดียวให้ ดิอาซ เข้าไปท้าดวลกองหลังคู่แข่งอยู่บ่อย ๆ
ครั้นบางนัดที่ ดิอาซ ไมได้เล่น ก็จะเป็น ดาร์วิน นูนเญซ ที่ออกไปยืนด้านซ้าย เพราะต้องอาศัยความเร็วในการเล่นบอลสวนกลับเป็นหลักตามสไตล์การเล่นของทีม ดังนั้น กักโป จึงต้องหาตำแหน่งอื่นเล่นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ใช่ว่า เยอร์เก้น คล็อปป์ จะไม่รู้ เพียงแต่เขามีคนที่เหมาะกว่าเท่านั้นเอง
"ตำแหน่งที่เขาเล่นบ่อยที่สุด [ที่ไอนด์โฮเฟ่น] เห็นได้ชัดว่าเป็นปีกซ้าย แต่เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก" นี่คือสิ่งที่ คล็อปป์ ตอบคำถามสื่อว่า กักโป จะเล่นตรงไหนให้ ลิเวอร์พูล
กักโป กลายเป็นนักเตะอเนกประสงค์ที่ ลิเวอร์พูล ด้วยเหตุผลดังกล่าว เขาเล่นมาแล้วครบทุกตำแหน่ง และเปลี่ยนตำหน่งในแทบทุกสัปดาห์ และบางครั้งเขาก็ถอยมาเล่นกองกลางเบอร์ 8 ในช่วงต้น ๆ ซีซั่น 2023-24 แน่นอนว่าการเปลี่ยนตำแหน่งบ่อย ๆ แบบนี้ส่งผลไปที่ความต่อเนื่อง และความมั่นใจ ความไม่คุ้นชินเกิดขึ้นเสมอกับ กักโป และนำมาซึ่งการเล่นผิดจังหวะ รวมถึงการพลาดจังหวะสำคัญ ๆ เพราะขาดเกมอย่างเนื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูล ก็หงุดหงิดกับเรื่องนี้ของ กักโป ไม่น้อย
"โคดี้ต้องดิ้นรน (เพื่อชิงโอกาสลงสนาม) เล็กน้อย และนั่นเป็นความผิดของผมมากกว่า ... ถ้าถามว่าโคดี้จะเล่นตำแหน่งกองกลางให้เราได้ไหม ผมจะตอบว่าใช่... เขาเล่นได้ แต่ถ้าถามว่ากองกลางเป็นตำแหน่งของเขาหรือเปล่า ? ผมจะตอบว่า 'ไม่' โดยไม่ต้องคิดเลย" คล็อปป์ กล่าว
ขณะที่ กักโป เองก็ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล คือ "การไม่เป็นธรรมชาติ" หรือ "การไม่เป็นตัวเอง" ซึ่งไม่ว่าผู้เล่นคนไหนในโลกก็ต้องเผชิญปัญหานี้หากต้องโดนเปลี่ยนตำแหน่ง และเปลี่ยนวิธีการเล่นทุกสัปดาห์
"มันยากจริง ๆ สำหรับการเป็นนักเตะที่รับบทบาทสาารพัดประโยชน์ มันยากกับการปรับตัว แต่ที่สุดแล้วคุณก็ต้องทำ คุณต้องพยายามเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้น นั่นคือสิ่งที่จำเป็นต้องคิดแบบนั้นเสมอ" กักโป กล่าว
"คุณต้องพยายามปรับปรุงตัวเอง พยายามครั้งแล้วครั้งเล่า ตัวผมเองก็พยายามเต็มที่เสมอและพยายามเติมเต็มส่วนที่หายไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางครั้งมันก็แก้ได้ผลออกมาได้ บางเรื่องก็แก้ไม่ได้ และผลลัพธ์ออกมาก็ไม่ดีนัก" เขายอมรับ และเราแทบไม่ต้องหาเหตุผลอื่นเมื่อเจ้าตัวพูดแบบนี้
อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีแนวโน้มจะดีขึ้น เมื่อ ลิเวอร์พูล มีการเปลี่ยนกุนซือเป็น อาร์เน่อ สล็อต ซึ่งทุกคนก็ต้องกลับมาแย่งชิงตำแหน่ง 11 ตัวจริงกันใหม่ ... และถ้า กักโป เอาฟอร์มอย่าง ยูโร 2024 กลับมาท้าชิง ไม่แน่ซีซั่นต่อไป เขาอาจจะได้นำหน้า และได้ลงเล่นในแบบที่ตัวของเขาอยากให้เป็นมากขึ้น
แหล่งอ้างอิง
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-13538209/Cody-Gakpo-Netherlands-Euro-2024-Ronald-Koeman-Liverpool.html
https://www.liverpool.com/liverpool-fc-news/features/cody-gakpo-netherlands-liverpool-legend-29422694
https://breakingthelines.com/player-analysis/cody-gakpo-the-key-to-the-netherlands-hopes-in-qatar/
https://sportsspectrum.com/sport/soccer/2024/06/19/cody-gakpo-netherlands-faith-god-peace/
https://www.plus.fifa.com/es/content/cody-gakpo-all-goals-fifa-world-cup-qatar-2022-tm/9ee223ee-7696-4aa0-ac8b-cf7965283b17?gl=th
https://www.uefa.com/euro2024/teams/players/250096849--cody-gakpo/statistics/
