Feature

กาเบรียล-ซาลิบา : คู่เซ็นเตอร์ที่ เป๊ป บอกว่า "อยากผ่านต้องฆ่าใครสักคน" | Main Stand

“จะเอาชนะเกมรับแบบต่ำ (Low Block) ของอาร์เซน่อลได้อย่างไรน่ะเหรอ? คงต้องฆ่าใครสักคน" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ถึงกับบ่นถอดใจเมื่อเจอแนวรับของ อาร์เซน่อล ในเกมล่าสุด

 

และ 2 คนที่แบกเกมรับของทีมได้ชัดเจนคือ วิลเลี่ยม ซาลิบา และ กาเบรียล มากัลเญส .. นี่คือเรื่องราวตั้งแต่เริ่ม กว่าที่ทั้งคู่จะหากันเจอ

อะไรที่ทำให้ ซาลิบา และ กาเบรียล ทำงานด้วยกันได้อย่างลงล็อก ยิ่งเล่นยิ่งเก่งขึ้นขนาดนี้?

ติดตามที่ Main Stand

 

สร้างจากฐาน

ทีมฟุตบอลทีมหนึ่งจะแข็งแกร่งขึ้นได้ล้วนต้องกลุ่มนักเตะที่มีความพร้อมทั้งเรื่องศักยภาพฝีเท้า หัวใจ และทัศนคติ ถ้าคุณมีนักเตะลักษณะนี้ทั้งทีม คุณจะได้ความสำเร็จในไม่ช้า แต่ถ้าคุณยังหานักเตะแบบนี้ไม่ได้ทั้งทีม คุณควรเริ่มจากฐานก่อนนั่นคือการหานักเตะที่มีคุณสมบัติทั้งหมดนี้มาเป็น "คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ" ที่เปรียบเหมือนกับกระดูกสันหลังของทีม

ทำไมถึงต้องสร้างทีมจากเกมรับก่อน? เรื่องนี้มีการอธิบายไว้ในเว็บไซต์ของ FIFA เองเลย ในหัวข้อฟุตบอลยุคใหม่ต้องการสร้างทีมหลังไปหน้า เกมรับดีก่อน จากนั้นเกมรุกที่ดีจะตามมาเอง กลับกันถ้าเกมรับคุณไม่มีความนิ่ง ไม่สามารถเป็นฐานสำหรับการตั้งเกมของทีมได้ คุณก็จะไม่มีได้เกมรุกที่ดีเช่นกัน.. โดยสรุปของบทความเกี่ยวกับเกมรับที่ชื่อว่า Strong centre-back partnerships บอกแบบนั้น

มิเกล อาร์เตต้า ก็ทำแบบนั้น ในวันที่เขาเข้ามาคุมทีม อาร์เซน่อล ในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล 2019-20 ปัญหาที่แก้กันไม่จบไม่สิ้น ส่งต่อกันมาตั้งแต่ปลายยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ จนมาถึง อูไน เอเมอรี่ คือ "ฐานเกมรับ" ของอาร์เซน่อล ไม่สามารถเป็นหลักให้ทีมได้เลย ส่งผลต่อความแน่นอนให้กับทั้งทีม เพราะวันไหนคิดจะเสียประตูขึ้นมาก็จะเสียง่ายเสียดายแบบไม่น่าเชื่อ ซึ่งบ่อยครั้งการเสียประตูง่าย ๆ นำมาซึ่งปัญหาสารพัดแบบที่เอาออกมาพูดกันไม่หมด

อาร์เตต้า จับใครมาเล่นก็ไม่ตอบโจทย์แท็คติกของเขา ที่จำเป็นต้องใช้นักเตะกองหลังในระดับที่เก่งมาก ๆ จึงจะเอาอยู่ เพราะแท็คติกที่ต้องยืนบีบคู่แข่งถึงกลางสนาม เเละเน้นเป็นฝ่ายครองบอลมากกว่า คุณสมบัติที่เหมาะสมที่ของแท็คติกแบบนี้คือ รวดเร็ว อ่านทางบอลดี แข็งแกร่ง และมีสมาธิตลอดเวลา ซึ่งกองหลัง อาร์เซน่อล ทำไม่ได้เคยได้ แม้เขาจะพยายามหยิบจับใครมาลองหายหน อาทิ ซคราติส ปาปาสทาโธปูลอส สโครดาน มุสตาฟี่, ร็อบ โฮลดิ้ง, ดาวิด ลุยซ์, คอนสแตนตินอฟ มาฟโรปานอส .. ซึ่งก็จบด้วยความเหลวทั้งหมด

แม้ปีแรกกับ อาร์เซน่อล เขาจะพาคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ทันที แต่เกมรับเป็นสิ่งที่ อาร์เตต้า แก้ไม่ตก ซีซั่นต่อมาเขาคว้า กาเบรียล มาร์กัลเญซ มาจาก ลีลล์ ในฝรั่งเศส ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ซึ่งในส่วนของการจัดหาครั้งนี้ เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง อาร์เตต้า กับ เอดู ผู้ดูแลเรื่องการซื้อขายของทีม

โดย เอดู บอกว่า เหตุผลที่เขาและอาร์เตต้า ลงความเห็นสำหรับ กาเบรียล เพราะเป็นนักเตะที่ตรงกับที่มองหา คืออายุน้อย มีพละกำลังดี มีความดุดัน รวมมีสถิติต่าง ๆ ตอนที่เล่นให้กับ ลีลล์ ตรงเป๊ะกับสเป็คที่ อาร์เตต้า ตามหา โดยย้ำคำหนึ่งว่า กาเบรียล จะเป็นตัวยืนในแผนการสร้างหลังบ้านให้แข็งแกร่งตามที่ตั้งใจไว

อย่างไรก็ตาม กาเบรียล คนเดียวยังไม่ได้เห็นภาพชัดนักในการสร้างฐานของทีม เพราะการวนจับคู่กับคนอื่น ๆ ตามชื่อที่กล่าวมาข้างต้นยังไม่มีใครตอบโจทย์ได้ดีเสียทีเดียว และเมื่อเวลาผ่านไป 2 ฤดูกาล สิ่งที่ เอดู พูดไว้กับ กาเบรียล เหมือนจะไม่เกิดขึ้น เขาไม่ได้มีจุดเด่นที่พุ่งขึ้นมาถึงขั้นที่จะเป็นยอดกองหลังของลีกเลยด้วยซ้ำ ... เขาเกือบจะเป็นดีลที่ล้มเหลวแล้ว เพราะหาคู่หูเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่เข้ากันไม่ได้เสียที ... จนกระทั่งปี 2022-23 กองหลังที่แฟน อาร์เซน่อล ตั้งตารอคอยก็กลับมายังสโมสร และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นคู่หูกองหลังที่ อาร์เซน่อล รอคอย

 

ซาลิบา .. เด็กที่เกือบถูกลืม

ในระหว่างที่หาคู่ของ กาเบรียล ที่ล้มเหลวอยู่ 2 ปี ใช่ว่า อาร์เตต้า จะอยู่เฉย ๆ ในระหว่างฤดูกาล 2020-21 และ 2021-22 อาร์เซน่อล ก็ค่อย ๆ ผลัดใบทีมไปทีละนิด ๆ นักเตะที่ใช้งานไม่ได้ ไม่ตรงตามแท็คติก ไม่ตอบโจทย์เรื่องการใช้งานออกจากทีมไปหลายคน ราวกับเป็นการผลัดใบเพื่อรอใครสักคนที่จะมาทำให้ส่วนประกอบทั้งหมดนี้ลงล็อกกันจนได้

ซึ่งเมื่อซีซั่น 2022-23 มาถึงการประกอบร่างก็มาถึง วิลเลี่ยม ซาลิบา กองหลังดาวรุ่งที่ อาร์เซน่อล ซื้อมาจาก แซงต์ เอเตียนน์ ในฝรั่งเศส ก็มาถึง ... เขาคนนี้ถูกซื้อมาตั้งแต่ปี 2019-20 ในยุคของ อูไน เอเมอรี่ แล้ว แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเขายังอายุ 18 ปี เท่านั้น อาร์เซน่อล จึงให้ต้นสังกัดเดิมยืมตัวใช้งานไปก่อน

จะว่าไป ซาลิบา ก็เป็นหนึ่งคนที่แฟน อาร์เซน่อล หวังกับผลงานตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้าตาไม่เห็นฝีเท้า เพราะ อาร์เซน่อล จ่ายเเพงเกือบ 30 ล้านปอนด์สำหรับเด็กคนนี้ ดังนั้นเองเมื่อ อาร์เตต้า ที่ตัดสินใจปล่อย ซาลิบา ยืมตัวเพิ่มอีก 2 ซีซั่น จึงทำให้หลายคนไม่ค่อยพอใจนัก เนื่องจากผลงานนักเตะกองหลังในทีมก็ไม่ค่อยจะดี เหตุใดจึงไม่ลอง ซาลิบา ดูล่ะ? ... แต่คนอย่าง อาร์เตต้า ทำอะไรแบบแผนเสมอ และการปล่อย ซาลิบา แบบยืมตัวเต็ม ๆ ถึง 3 ปี ก็เช่นกัน

อาร์เตต้า ไม่ได้ลืม ซาลิบา เขาติดตามผลงานจองนักเตะที่ยืมตัวอยู่ตลอด และค่อย ๆ ยกระดับผลงานของ ซาลิบา ขึ้นแม้กระทั่งการโดนปล่อยยืมตัว เนื่องจาก ซาลิบา ถูกยืมตัวถึง 3 ปี แต่เป็นการยืมตัวที่ขยับมาตรฐานขึ้นเรื่อย ๆ จาก แซงต์ เอเตียนน์ ทีมระดับหนีตกชั้นในปีแรก ขึ้นมาเป็นทีมระดับกลางค่อนบนอย่าง นีซ ในปีต่อมา จนกระทั่งในฤดูกาล 2021-22 อาร์เซน่อล ส่ง ซาลิบา ไปอยู่กับ มาร์กเซย หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของฝรั่งเศส ... เราจะได้เห็นการไล่เลเวลขึ้นเรื่อย ซึ่งระหว่าง 3 ปีนี้ อาร์เซน่อล ก็ส่ง ซาลิบา ให้เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้เตรียมพร้อมตลอดเวลา

โดยเฉพาะในปีกับ มาร์กเซย ที่เขาผลงานดีมาก ๆ ระดับคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมของลีกหลายคนสงสัยว่าเก่งขนาดนี้ทำไมไม่เอาไปใช้เอง แต่ อาร์เตต้า ก็ตอบภายหลังว่า ณ ฤดูกาลดังกล่าว อาร์เซน่อล ไม่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปเลยแม้แต่รายการเดียว มีแต่ฟุตบอลลีกให้โฟกัสเท่านั้น ดังนั้นหาก ซาลิบา กลับมาสู่ทีมในปี 2021-22 ก็จะทำให้เขาต้องรอโอกาสลงสนามนานกว่าปกติ และการเอานักเตะอายุ 20 ปี ซึ่งเป็นวัยที่ต้องเริ่มลงสนาม เริ่มเก็บประสาบการณ์มานั่งดูเพื่อนเล่น เป็นการเสียเวลาโดยใช้เหตุ

พร้อมทั้งยังทิ้งท้ายว่า "ไม่ต้องห่วง ซาลิบา จะกลับมาแน่ ตอนนี้เขากำลังเก็บประสบการณ์และลงเล่นในสภาพแวดล้อมที่เข้มข้นขึ้นมาก ๆ ถึงเวลาที่เหมาะสมเขาจะพร้อมสำหรับการแข่งขันภายในทีมอาร์เซน่อลแน่นอน"

"ถ้าผมดึงเขากลับมาตั้งแต่ปีนี้ (2021-22) โดยมีเกมพรีเมียร์ลีกสัปดาห์ละเกมอย่างเดียว เขาจะต้องนั่งดู ไวท์ จับคู่กับ กาเบรียล จนเบื่อเลยล่ะ ผมมั่นใจว่าเขาจะได้ลงเล่นไม่ถึงครึ่งจากจำนวนนัดทั้งหมดที่เขาได้เล่นกับ มาร์กเซย ดังนั้น.. เราจะได้เห็นกันในวันที่เขากลับมาเล่นให้เรา ว่า 1 ปีที่ผ่านมาเขาได้อะไรกลับมาบ้าง"

อาร์เตต้า ตอบแบบนี้ตั้งแต่ซีซั่น 2021-22 เริ่มไม่นาน และตอนจบก็เป็นแบบนั้นจริง ซาลิบา คือตัวหลักของ มาร์กเซย นอกจากกลับมาพร้อมคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีสถิติที่ตอบโจทย์กับวิธีการเล่นของ อาร์เซน่อล ในยุคปัจจุบันเป๊ะได้

เป็นนักเตะที่ผ่านบอลมากที่สุดในลีกเอิง 2834 ครั้ง , เอาชนะคู่แข่งในการครองบอล 260 ครั้ง (มากที่สุดใน ลีกเอิง) , พาบอลไปข้างหน้า 558 ครั้ง (มากที่สุดในลีกเอิง) , เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 31 ครั้ง (เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่สถิตินี้ดีที่สุดในลีกเอิง) แทนที่จะเอานักเตะอายุน้อย ๆ มานั่งสำรองให้เสียความมั่นใจเปล่า ๆ อาร์เตต้า ฝาก ซาลิบา กับทีมระดับแถวหน้าของฝรั่งเศส ทีมที่ครองบอลบุกใส่คู่แข่งมากกว่าเล่นเกมรับ เรียกได้ว่าเป็นการจำลองสถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ย่อม ๆ เพื่อให้ ซาลิบา พร้อมกลับมาก็คงไม่ผิดนัก ...

ซึ่งสุดท้ายเราคงไม่ต้องอธิบายกันเยอะอีกเเล้ว เพราะเมื่อกลับมา อาร์เตต้า ได้สินค้าที่พร้อมใช้งาน เรียกได้ว่า ซาลิบา พร้อมแกะกล่องใช้ทันที ไม่ต้องเริ่มจากการเอามานั่งเป็นตัวสำรองเพื่อปรับตัวอีกแล้ว ... จากนั้นคู่ขา ซาลิบา และ กาเบรียล ก็เริ่มขึ้น

 

คู่เซ็นเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดของ อาร์เซน่อล

อาร์เตต้า พูดถึงการจับ ซาลิบา คู่กับ กาเบรียล ในทันทีที่เริ่มซีซั่น 2022-23 และดันเอา เบน ไวท์ ไปเล่นแบ็คขวาแทน ด้วยเหตุผลง่ายว่า "พวกเขาคลิกกันพอดีเป๊ะ"

อาร์เซน่อล เป็นทีมที่เล่นในแดนคู่แข่งมากเป็นพิเศษ และอย่างที่บอก พวกเขาจะต้องขยับกองหลังขึ้นไปปิดพื้นที่กันเกมรุกคู่แข่งเกือบครึ่งสนาม ดังนั้นกองหลัง 2 คน จึงต้องสัมพันธ์กันดีมาก ๆ คนนึงชน คนนึงเก็บ มีการสลับกันเข้าออกแบบเนียนกริบ ไม่มีการวิ่งไปชนกันเอง หรือผิดพลาดแบบบอลมัธยม

ตัวของ อาร์เตต้า อธิบายเพิ่มว่า ซาลิบา และ กาเบรียล เป็นกองหลังที่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ดีมาก ๆ ว่าง่าย ๆ คือทั้งคู่มีคุณสมบัติของทั้ง "ตัวชน และ ตัวซ้อน" ในคนเดียว ดังนั้น พวกเขาจึงจับคู่กันได้อย่างแข็งแกร่ง

"ซาลิบา กับ กาเบรียล คลิกกันในแทบจะทันทีที่ได้ยืนคู่กัน เมื่อคุณพูดถึงคู่หูเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ตำแหน่งนี้เป็นกุญแจสำคัญของทั้งทีม ถ้าพวกเขาเข้าได้ ทั้งทีมก็จะมีความนิ่งพอที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต่อยอดมาจากเกมรับ"

"ทั้งคู่มีเคมีที่เข้ากัน ชนิดมองหน้าก็รู้ใจ พวกเขาพูดภาษาฝรั่งเศสได้ทั้งคู่ มันทำให้การสื่อสารของพวกเขาไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อร่วมกับวิธีการเล่นของแต่ละคนแล้วมันยิ่งเสริมส่งกันเป็นอย่างดี พวกเขาได้เล่นด้วยกันมากขึ้นเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งได้เห็นพัฒนาการของทั้งคู่มากขึ้นเท่านั้น" อาร์เตต้า กล่าว

สิ่งที่กุนซือชาวสเปนกล่าวไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด กาเบรียล และ ซาลิบา แสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าโดยเฉพาะเรื่องการสลับกันชนสลับกันซ้อน เพราะคุณสมบัติที่เป็นคนมีร่างกายแข็งแรง และสปีดต้นที่แรงมาก ๆ ทำให้พวกเขาทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง กล่าวคือคนไหนขึ้นชนก่อนคู่แข่งก็กระเด็นทั้งนั้น และคนไหนที่ต้องเก็บงานก็รวดเร็วพอที่จะไปเอาบอลมาเล่นก่อนคู่แข่ง

ยกตัวอย่างเช่นเกมที่ อาร์เซน่อล บุกไปเสมอ แมนฯ ซิตี้ 0-0 ที่ผ่านมา ที่นาน ๆ ครั้งเราจะได้เห็นภาพของ เออร์ลิง ฮาลันด์ นักเตะที่ใครต่อใครบอกว่าเป็นตัวบั๊ก กระเด็นกระดอนตลอดทั้งเกม หาจังหวะจับบอลในเขตโทษของ อาร์เซน่อล แทบไม่ได้เลย

ในฤดูกาล 2023/24 นี้ ซาลิบา และ กาเบรียล ขยับความโหดขึ้นไปอีกขั้น ในวันที่พวกเขามี ดีแคลน ไรซ์ ขึ้นมาเป็นกองกลางที่คอยปัดกวาดก่อนที่คู่แข่งจะมาถึงตัวพวกเขา ถ้า ซาลิบา กาเบรียล และ ไรซ์ ลงพร้อมกัน มันเป็นเหมือนสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า แนวรุกคู่แข่งจะถูกดูดหายไปทันที ยิ่งถ้าในวันที่ อาร์เซน่อล ตั้งใจเล่นเกมรับเป็นพิเศษ สิ่งนี้ก็จะยิ่งเห็นชัดขึ้นมาทันที

เรื่องนี้แม้กระทั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ยังเป็นคนบอกเองว่า "จะเอาชนะเกมรับแบบต่ำ (Low Block) ของอาร์เซน่อลได้อย่างไรน่ะเหรอ? คงต้องฆ่าใครสักคน" ผ่านการดวลกันในนัดล่าสุดเลยทีเดียว

เครดิตตรงนี้ต้องยอมรับว่า อาร์เตต้า และทีมงาน อาร์เซน่อล ต้องได้รับไปเต็ม ๆ พวกเขารอเวลาจนผู้เล่นแต่ละคนสุกงอมดีจริง ๆ จึงเอามาใช้งาน ทั้งตัวของ กาเบรียล ที่เอามาปรับกับ พรีเมียร์ลีก 2 ปีเต็ม ๆ เพื่อรอการกลับมาของ ซาลิบา ที่ไปโตที่ลีกเอิง 2 ปี จนกระทั่งได้คู่เซ็นเตอร์ที่ดีที่สุดในรอบไม่รู้กี่ปีของ อาร์เซน่อล

นอกจากนี้ก็ต้องชมการทำงานร่วมกันทั้งในและนอกสนามของ ซาลิบา และ กาเบรียล ที่ทั้งคู่ทำงานร่วมกันจนเกิดความสนิทสนมและมีการสื่อสารกันตลอด พวกเขาอายุไม่ห่างกันมากนัก และตอนนี้แต่ละ ก็กำลังทำงานของตัวเองอย่ามีความสุข ดังนั้นเราจึงได้เห็น ดูโอ้ ที่ยิงเล่นยิ่งพัฒนาขึ้น โดยที่ทั้งคู่ยังมีอายุการใช้งานอีกหลายปี เรียกว่า อาร์เซน่อล ได้สร้างฐานของพวกเขาสำเร็จแล้ว ต่อจากนี้พวกเขาจะใช้มันเป็นสปริงบอร์ดเพื่อไปถึงแชมป์พรีเมียร์ลีกได้หรือไม่ ... อีกไม่นานคงได้รู้กัน

 

แหล่งอ้างอิง

https://theathletic.com/5159144/2023/12/24/arsenal-rice-saliba-gabriel-liverpool/
https://www.justarsenal.com/is-arsenals-saliba-and-gabriel-the-perfect-defensive-partnership/354479
https://www.theguardian.com/football/2020/sep/01/arsenal-sign-defender-gabriel-magalhaes-from-lyon-in-27m-deal
https://paininthearsenal.com/2022/06/06/arteta-handled-saliba-situation-perfectly/
https://paininthearsenal.com/posts/do-arsenal-have-the-best-cb-partnership-world-01hrfk1ec1gm

Author

ชยันธร ใจมูล

นักเขียนลูกสอง จองเรื่องฟุตบอลและมวยโลก รู้จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง แต่เขียนแล้วอินทุกเรื่อง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อภิสิทธิ์ โชติพิบูลย์ทรัพย์

Art Director ผู้รับเหมางานภาพกราฟิกหน้าปกบทความทุกชิ้น