ย้อนกลับไปสมัยที่ อิสโก้ ค้าแข้งอยู่ในถิ่นซานดิเอโก้ เบร์นาเบว เขาถือเป็นมิดฟิลด์คนสำคัญของทีม พิสูจน์ได้จากตัวเลขลงเล่น 353 นัด ยิง 53 ประตูกับอีก 57 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ภายในระยะเวลา 9 ฤดูกาลกับ "ราชันชุดขาว"
แต่หลังจากโบกมือลา เรอัล มาดริด และย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม เซบียา กราฟชีวิตของ อิสโก้ กลับดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่กี่เดือนต่อมาเขาโดนต้นสังกัดยกเลิกสัญญาซ้ำยังต้องร้างสนามไม่มีทีมเล่นเป็นเวลาเกินครึ่งปี จนหลายคนมองว่าอนาคตอาชีพนักฟุตบอลของ อิสโก้ ได้จบลงเรียบร้อยแล้ว
ทำไม อิสโก้ ถึงโดน เซบียา ตัดหางปล่อยวัด แล้ว เรอัล เบติส มีวิธีการชุบชีวิตเขาอย่างไร สามารถหาคำตอบได้ที่ Main Stand
เด็กชายผู้ไปทุกที่พร้อมกับลูกบอล
อิสโก้ หรือ ฟรันซิสโก โรมัน อาลาร์กอน ซัวเรซ เป็นนักฟุตบอลที่เกิด ณ เมืองเบนัลมาเดนา มาลาก้า แคว้นอันดูลาเซีย ประเทศสเปน ทว่าตั้งแต่ลืมตาดูโลก อิสโก้ กลับมีสิ่งผิดปกติทางร่างกายที่ติดตัวเขามานั่นคือขาทั้งสองข้างที่โก่งผิดรูป ยังไม่รวมถึงน้ำหนักที่เกินกว่าเกณฑ์ในวัยเด็ก
อย่างไรก็ตามปัญหาข้างต้นไม่ได้เป็นอุปสรรคขวางทาง อิสโก้ จากเส้นทางลูกหนัง เพราะเขา อันโตนิโอ คาร์ลอส อาลาร์กอน ผู้เป็นพี่ชาย และเด็ก ๆ ในระแวกบ้านมักจะพากันออกมาเตะฟุตบอลเล่นเป็นประจำทุกวันจนชาวบ้านขนานนาม อิสโก้ ว่า "เด็กชายผู้ไปทุกที่พร้อมกับลูกบอล"
เส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของ อิสโก้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อพี่ชายของเขาจำเป็นต้องละทิ้งความฝันบนฝืนหญ้าเนื่องด้วยอาการบาดเจ็บเข้าเล่นงาน ซึ่งหนักถึงขนาดที่แพทย์ต้องเอ่ยปากบอกให้หยุดพักจากการเล่นกีฬา อิสโก้ จึงอาสาสานต่อความฝันของพี่ชายก่อนจะทำการลดน้ำหนักและสามารถผ่านการทดสอบเป็นเยาวชนของ พีดีเอ็ม เบนัลมาเดนา (PDM Benalmádena) พร้อมกับศึกษาวิชาการควบคู่ไปด้วย
อิสโก้ ที่ได้เรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอลอย่างถูกต้องเริ่มฉายแววโดดเด่นมากกว่าใคร ๆ ซึ่งในตอนแรกหลายคนมองว่าขาของ อิสโก้ ที่โค้งงออาจเป็นอุปสรรคเมื่ออยู่ในสนาม แต่กลายเป็นว่าลักษณะทางร่างกายที่แตกต่างนั้นกลับช่วยส่งเสริมทักษะฟุตบอลให้ดียิ่งขึ้นไปอีกทั้งในด้านการวิ่งและการเลี้ยงลูกฟุตบอล ส่งผลให้สโมสรที่ใหญ่กว่าอย่าง แอตเลติโก เบนามิเอล (Atlético Benamiel) กระชากตัวเขาไปร่วมทีม
ตลอดระยะเวลา 7 ปี ภายใต้ชายคาแอตเลติโก เบนามิเอล ความสามารถของ อิสโก้ ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นทีละนิดตามขั้นตอนที่สโมสรวางไว้ ก่อนที่ อิสโก้ ในวัย 14 ปีจะไปเข้าตา บาเลนเซีย ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ซึ่งที่เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับทีมสำรองทีม แต่ยังดีมีโอกาสได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ “ค้างคาว” เป็นจำนวน 13 เกม ยิงได้ 3 ประตูรวมทุกรายการในระหว่างปี 2009-2011
สร้างชื่อกับชุดขาว
ช่วงซัมเมอร์ก่อนเปิดฤดูกาล 2011-12 มาลาก้า สโมสรบ้านเกิดของ อิสโก้ ตัดสินใจใช้เงื่อนไขฉีกสัญญามูลค่า 6 ล้านยูโร ดึงตัวเขาเข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสคว้าตั๋วไปลุยเวทียุโรป
ขณะที่ อิสโก้ ก็ไม่ทำให้แฟนบอลมาลาก้า ต้องผิดหวังเพราะเขามีส่วนสำคัญในการช่วยให้สโมสรจบอันดับที่ 4 ของลา ลีกา สเปน พร้อมชิวโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบเพลย์ออฟ ในฤดูกาลถัดมาซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ มาลาก้า แถมยังพาทีมทะลุไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนจะพ่าย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมัน ด้วยสกอร์รวมสองนัด 2-3
ด้วยผลงานลงสนาม 82 นัด ซัดไป 17 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ทำให้ มานูเอล เปเยกรินี่ เจ้านายเก่าที่เพิ่งย้ายไปคุม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องการหนับตัว อิสโก้ ไปร่วมลุยพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่างไรก็ดีท้ายที่สุด อิสโก้ ได้เลือกปักหลักค้าแข้งต่อในประเทศกับ เรอัล มาดริด โดยมี คาร์โล อันเชล็อตติ เป็นผู้จัดการทีม โดยสนนราคาการย้ายทีมอยู่ที่ 30 ล้านยูโร สัญญายาว 5 ปี นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อิสโก้ ก็ทำการสถาปานาตนเองให้เป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในโลก
โดย เซเนดีน ซีดาน ตำนานของพลพรรค “โลส บลังโกส” และทีมชาติฝรั่งเศส เคยออกมากล่าวยกย่อง อิสโก้ เมื่อตอนที่ก้าวขึ้นมายึดตัวหลักของ เรอัล มาดริด ว่ามีสไลต์การเล่นที่คล้ายคลึงกับตัวเอง "ในทางเทคนิคแล้ว อิสโก้ เหมือนกับผมมาก แฟนบอลรักเขา นี่เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับเขาและเขาแสดงให้เห็นว่าการซื้อเขาเป็นความคิดที่ดีมาก"
ตลอดระยะเวลา 9 ฤดูกาล อิสโก้ พา “ราชันชุดขาว” กวาดถ้วยแชมป์นับไม่ถ้วน อาทิเช่น ลา ลีกา สเปน 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 5 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย, แชมป์สโมสรโลกอีก 4 สมัย ฯลฯ ยังไม่รวมถึงรางวัลส่วนตัว แต่ท้ายที่สุดงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เรอัล มาดริด ตัดสินใจไม่ต่อสัญญา อิสโก้ ก่อนจะปล่อยตัวเขาออกจากทีมแบบไร้ค่าตัว เหลือไว้เพียงความสำเร็จที่ อิสโก้ ทิ้งไว้เบื้องหลัง
เรื่องวุ่นวายที่เซบียา
หลังปิดฉาก 9 ปี 19 แชมป์กับ เรอัล มาดริด อิสโก้ ย้ายไปร่วมทีม เซบีย่า ภายใต้การคุมทีมของ ฆูเลน โลเปเตกี เจ้านายเก่าสมัยเรอัล มาดริด ด้วยสถานะแข้งฟรีเอเย่นต์ เซ็นกันเป็นระยะเวลา 2 ปี อีกทั้งยังลดค่าเหนื่อยลงอีกโขเพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณการทำทีมของสโมสร ทว่าพอวันเวลาเริ่มผ่านเลยไป อิสโก้ ก็ตระหนักได้ว่าเขากำลังเจอกับปัญหาเมื่อ โลเปเตกี ถูกปลดจากตำแหน่ง และได้กลิ่นความไม่ลงรอยระหว่างตนเองกับ มอนซี ผู้อำนวยการสโมสรเซบีย่า ณ ขณะนั้น
มีการเปิดเผยว่าในความเป็นจริงแล้ว มอนซี ไม่ได้ต้องการตัว อิสโก้ มาร่วมทีมตั้งแต่แรก แถมมีความเห็นที่ตรงกันข้ามกับ ฆูเลน โลเปเตกี ในดีลของ อิสโก้ และพอ โลเปเตกี ไม่อยู่แล้ว มอนซี จึงพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อที่จะขับไล่ อิสโก้ ออกจากสโมสรอย่างเร็วที่สุด ส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่างทั้งสอง โดย อิสโก้ ได้เล่าย้อนถึงเหตุการณ์โดน มอนซี เล่นงานที่ เซบีย่า ผ่าน Marca สื่อกีฬาชื่อดัง ว่า "พวกเขาเฉดหัว โลเปเตกี ให้พ้นทาง แล้วไปเอา ซามเปาลี เข้ามาทำหน้าที่แทน"
"ในขณะที่ตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมใกล้เข้ามา ผมเห็นเรื่องแปลกๆ มากมายภายในสโมสรเซบีย่า พวกเขาโทรหาตัวแทนผมเพื่อขอให้ย้ายทีมแต่ไม่ได้คุยกับผมก่อน พอผมรู้ ผมก็ไปคุยกับ มอนชี่ แบบตาต่อตาฟันต่อฟัน ผมบอกว่า 'เฮ้ ผมได้ยินเรื่องแบบนี้มา ผมไม่รู้ว่าคุณต้องการผมหรือไม่ ได้โปรดซื่อสัตย์กับผม แล้วเราจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง ผมได้หมดทุกแบบที่คุณต้องการ"
"ผมไม่รู้ว่าเซบีย่า ตกอยู่ในวิกฤตเศรษฐกิจแบบไหน แต่หลังจากการสนทนาครั้งนั้นทุกอย่างก็ผิดพลาด มอนชี่ บอกทุกคนว่าผมอยากจะออกจากสโมสรไป ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงเลย เขาเริ่มโทรศัพท์หาผมและเอเยนต์ของผมทุกวัน สร้างความรำคาญเพื่อให้เราเซ็นยกเลิกสัญญา ผมก็เลยไปพูดกับ มอนซี อีกครั้งว่า 'ฟังนะ มอนชี คุณไม่ซื่อสัตย์กับผมเลย ผมอยากอยู่ แต่คุณกลับบอกว่าผมอยากออกไป"
"คำต่อไปนี้จากปากผมอาจทำให้คุณประหลาดใจ ผมบอกเขาว่าเขาเป็นพวกขี้โกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอในโลกฟุตบอล และ มอนซี ก็ประชันหน้ากับผม เขาเดินเข้ามาคว้าที่คอของผม ก่อนที่เราทั้งคู่จะโดนคนแถวนั้นแยกมวยกันไป ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ไม่ต้องการอยู่ต่อไม่ว่ากรณีใดก็ตาม"
"แม้ว่าต้องเสียใจเพราะผมมีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลที่เคารพผมเสมอ แต่ผมกลับไม่รู้สึกสบายใจที่ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรโจมตีผมและไม่มีใครพูดหรือขอโทษผมเลย ไม่ใช่เพื่อความก้าวร้าว ไม่ใช่เพราะคำโกหกทั้งหมดที่เขาพ่นมันออกมา ดังนั้นผมก็เลยยกเลิกสัญญาและออกจาก เซบียา ผมรู้ว่ามอนชี่ และสโมสรอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่การล้ำเส้นความรุนแรงเป็นสิ่งที่ผมยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้จริง ๆ "
ฉากสุดท้ายของ อิสโก้ กับ เซบีย่า คือการโดนสั่งแยกให้ไปซ้อมเดี่ยว และต่อด้วยการยกเลิกสัญญา สิริรวมแล้ว อิสโก้ ได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 19 เกมทำได้ 1 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์รวมทุกรายการภายใต้สีเสื้อเซบีย่า ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ขณะที่ ฮอร์เก ซามเปาลี ผู้จัดการทีมตอนนั้นก็มีแค่ประโยคสั้น ๆ ที่กล่าวทิ้งทวนถึง อิสโก้ ว่า "อิสโก้ ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของสโมสรได้"
เจ้านายเก่าช่วยชุบชีวิต
อูนิโอน เบอร์ลิน เป็นเพียงทีมเดียวที่ให้ความสนใจ อิสโก้ ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเดือนมกราคมปี 2023 และมีความคืนหน้าถึงขนาดที่ว่ากองกลางชาวสเปนรายนี้ผ่านการตรวจร่างกายกับทีมจากบุนเดสลีกาเยอรมัน เรียบร้อย
แต่ในวันที่ 31 มกราคม 2023 ทุกอย่างกลับพังไม่เป็นท่า การเซ็นสัญญาระหว่าง อิสโก้ และ อูนิโอน เบอร์ลิน ไม่เกิดขึ้น ซึ่งทางฝั่งตัวนักเตะอ้างว่าสโมสรมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาทั้งในแง่ของกีฬาที่ทางสโมสรแจ้งกับอิสโก้ ว่าจะไม่ได้รับการลงทะเบียนเล่นเวทียุโรปอย่างยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยเป็นไปตามกฎของยูฟ่า ที่ระบุว่าผู้เล่นจะไม่สามารถลงเล่นให้กับสองสโมสรภายในการแข่งขันฤดูกาลเดียวเดียวกันได้ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และยูฟ่า ยูโรปา ลีก ยกเว้นยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ) รวมถึงด้านค่าตอบแทนที่ไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันแต่ทีแรก
"ผมกำลังมองหาโปรเจ็กต์ที่ผมสามารถมีความต่อเนื่อง ทีมที่ต้องการเล่นฟุตบอลด้วยความสนุกสนาน สไตล์การครองบอล ผมอยู่ในช่วงเวลาอาชีพ ซึ่งหลังจากที่ชนะทุกอย่างแล้ว ผมอยากจะสนุกกับตัวเอง ผมจะไม่มีวันให้ความสำคัญกับเงินเป็นอันดับแรก ถ้าไม่ใช่ผมก็คงไม่ไปเซบียา ผมได้รับข้อเสนอมหาศาลจากทั้งกาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย แต่ผมอยากจะเล่นฟุตบอลเพื่อแข่งขัน และมีความสุขไปกับมัน" อิสโก้ กล่าวถึงการพลาดเซ็นสัญญากับ อูนิโอน เบอร์ลิน
อิสโก้ ต้องมีสถานะเป็นแข้งไร้สังกัดไม่มีทีมเล่นราวครึ่งปี กระทั่งซัมเมอร์ก่อนเปิดฤดูกาล 2023-24 เรอัส เบติส ที่มี มานูเอล เปเยกรินี่ ผู้เป็นเจ้านายเก่ากุมบังเหียนอยู่ ก็จัดการดึงตัว อิสโก้ มาร่วมทัพด้วยสัญญา 1 ปี และดูเหมือน อิสโก้ จะตัดสินใจถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะปัจจุบันเขากลายเป็นตัวหลักของ เรอัส เบติส ซ้ำยังเหมารางวัล Man of the Match ในลา ลีกา สเปน ไปแล้วถึง 9 ครั้ง
โดย อิสโก้ ได้ยกเครดิตทั้งหมดให้ มานูเอล เปเยกรินี่ ที่ทำให้เขากลับมาเล่นฟุตบอลอย่างมีความสุขอีกครั้ง "มันดีมาก สุดท้ายผมก็คุยกับ มานูเอล เปเยกรินี่ ไม่รู้สิสักสองนาทีได้มั้ง เมื่อตัวเลือกมา เรอัล เบติส เกิดขึ้นทุกอย่างก็ง่ายมาก เราทั้งคู่มีความทรงจำดีๆ ร่วมกันตลอดสองปีที่มาลาก้า และผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับเขาอีกครั้ง เพื่อใช้ประโยชน์จากความไว้วางใจที่ทั้ง เปเยกรินี่ และสโมสรมอบให้ผม ผมหวังว่าเราจะมีฤดูกาลที่ดีมาก"
ผลงานของ อิสโก้ ในฤดูกาล 2023-24 เขาพา เรอัล เบติส เกาะอยู่ครึ่งบนของลา ลีกา สเปน มีลุ้นตั๋วไปลุยเวทียุโรปในฤดูกาลหน้า ส่วน อิสโก้ ได้รับการขยายสัญญาออกไปถึงปี 2027 ซึ่งหลังผ่านจุดที่แย่ที่สุดในชีวิตนักฟุตบอล อิสโก้ ได้เล่าย้อนถึงช่วงที่ตนเองว่างงานเป็นเวลาเกิน 6 เดือนว่าส่งผลกระทบทางด้านจิตใจมากพอสมควร ผ่าน DAZN ดังนี้
"ผมผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาบ้าง สุดท้ายผมก็ตัดสินใจหยุดสักพักเพราะมันจำเป็น ผมต้องรีไซเคิลจิตใจตัวเอง ผมได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวพร้อมกับการสนับสนุนด้านจิตใจ ในที่สุดผมก็รู้ตัวว่าสุขภาพจิตมีความสำคัญมาก และเราต้องสร้างความตระหนักรู้ให้มากขึ้น ตอนนี้ผมรู้สึกสบายดีสุด ๆ "
ทั้งนี้หากเขายังสามารถรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวาต่อไปเรื่อย ๆ ไม่แน่ว่าในศึกยูโร 2024 ณ ประเทศเยอรมนี เราอาจได้เห็น อิสโก้ มีชื่อติดทัพ "กระทิงดุ" ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ ก็เป็นได้
แหล่งอ้างอิง :
https://www.goal.com/en/news/betis-spain-international-isco-real-madrid/blt0385daaf09493bec
https://www.goal.com/en-us/lists/isco-reborn-ex-real-madrid-star-flying-real-betis-six-months-without-club/blt5fbcadfd2df7c006
https://www.forbes.com/sites/henryflynn/2023/11/08/unemployed-to-la-liga-passing-king-free-arrival-isco-starring-at-real-betis/?sh=703d779977b7
https://www.espn.com.au/football/story/_/id/38331947/isco-real-betis-redemption-real-madrid-sevilla
https://en.wikipedia.org/wiki/Isco
https://web.archive.org/web/20150213192344/http://www.sportsmole.co.uk/football/real-madrid/news/zidane-isco-is-a-lot-like-me_199954.html
https://www.espn.com/soccer/story/_/id/38029806/isco-former-sevilla-director-monchi-assaulted-me
https://en.realbetisbalompie.es/news/latest_news/isco-extends-his-contract-with-real-betis-29749