Feature

อูนิโอน เบอร์ลิน : ทีมเล็กบินสูง ที่ปีกหักกลางทาง | Main Stand

“จากทีมรองในเมืองหลวง สู่เวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก” นี่คือเทพนิยายที่อูนิโอน เบอร์ลิน (Union Berlin) ได้จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ฟุตบอลเยอรมัน

 

อูนิโอน เบอร์ลิน คือทีมที่เปรียบเสมือนภาพตัวแทนของชั้นชนแรงงานรากหญ้าในเยอรมันที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เพราะเส้นทางกว่าจะเดินทางไปถึงวันที่ได้โบยบินในเวทียุโรปของพวกเขามีช่วงเวลาที่ทั้งดีและย่ำแย่ปะปนกันไป แต่พวกเขาก็ยังคงสู้ต่อและยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง

จากทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา กลับใช้เวลาเพียงไม่กี่ฤดูกาลในการสร้างเซอร์ไพรส์ ฤดูกาล 2022-23 อูนิโอน เบอร์ลิน ทำผลงานในลีกได้อย่างร้อนแรง จนสามารถก้าวขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงของบุนเดสลีกาได้ในช่วงต้นฤดูกาล และจบด้วยการคว้าโควตา UCL มาครองได้สำเร็จ

แต่ฤดูกาล 2023-24 เดินทางมาเกือบครึ่งทางแล้ว ดูเหมือนว่าสถานการณ์ของทีมจะไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะตอนนี้ในบุนเดสลีกา อูนิโอน เบอร์ลิน จมอยู่ท้ายตาราง ห่างจากโซนตกชั้นเพียงแต้มเดียวเท่านั้น และ UCL ครั้งแรกของสโมสรก็ยุติลงเพียงแค่ในรอบแบ่งกลุ่ม

เกิดอะไรขึ้นกับอูนิโอน เบอร์ลิน ทำไมหลังจากฤดูกาลที่เป็นเหมือนฝันของพวกเขา กลับต้องมาเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากขนาดนี้ ติดตามเรื่องราวของทีมนี้ และร่วมหาสาเหตุไปพร้อมกันที่ Main Stand

 

เส้นทางกว่าจะไปถึงแชมเปียนส์ ลีก

ฤดูกาล 2018-19 อูนิโอน เบอร์ลิน ภายใต้การคุมทีมของ อูร์ส ฟิสเชอร์ จบอันดับ 3 ของบุนเดสลีกา 2 ทำให้ได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบเพลย์ออฟเพื่อเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุด และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จด้วยการคว้าชัยเหนือ สตุ๊ตการ์ท ได้เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบนบุนเดสลีกาครั้งแรกในฤดูกาล 2019-20

ฤดูกาลแรกของ อูนิโอน เบอร์ลิน บนเวทีลีกสูงสุดเยอรมัน พวกเขาเล่นอย่างประคองตัวเพียงเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดบนลีกสูงสุดนี้ ด้วยการจบอันดับ 11 ของตาราง เก็บได้ 41 แต้ม เท่ากับเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แต่ผลต่างประตูได้เสียของ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ดีกว่า

ภายในระยะเวลาเพียง 1 ฤดูกาล อูนิโอน เบอร์ลิน ยกระดับตัวเองขึ้นมาจากทีมกลางตาราง สู่ทีมที่คว้าโควต้าบอลยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร เพราะในฤดูกาล 2020-21 พวกเขาจบอันดับที่ 7 ของตาราง ได้สิทธิ์ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2021-22 แต่ทำได้เพียงจบอันดับ 3 ของตารางในรอบแบ่งกลุ่ม ไม่ได้ไปต่อในรอบตัดเชือก

พวกเขายกระดับตัวเองได้อีกครั้งด้วยการจบอันดับ 5 ของบุนเดสลีกา 2021-22 ได้ขยับขึ้นไปเล่นในบอลถ้วยยุโรปถ้วยรองอย่างยูโรปา ลีก จากประสบการณ์จากครั้งที่แล้วส่งผลให้ในยูโรป้า ลีก 2022-23 อูนิโอน เบอร์ลิน ทำผลงานได้ดีขึ้นเพราะสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้ แต่ก็ต้องจบเส้นทางในฟุตบอลยุโรปอีกครั้งไว้ที่รอบนี้

แม้ผลงานในบอลยุโรปจะไม่ค่อยดีนัก แต่ผลงานในลีกของ อูนิโอน เบอร์ลิน ยังคงดีอยู่ เพราะเป้าหมายของพวกเขาในตอนนี้ไม่ใช่การวาดฝันเส้นทางที่สวยงามในฟุตบอลยุโรป แต่เป็นการโฟกัสอยู่ที่ฟุตบอลลีกมากกว่า ด้วยขนาดทีมและขุมกำลังที่ยังไม่มากพอ นั่นทำให้พวกเขาต้องเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก่อน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการอยู่รอดบนบุนเดสลีกา หากยังไม่ตกชั้นก็สามารถวางเป้าหมายให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ได้

ณ ช่วงเวลาหนึ่งทีมเล็ก ๆ จากเมืองหลวงทีมนี้เคยขึ้นไปเถลิงบัลลังก์จ่าฝูงเหนือทีมยักษ์ใหญ่อย่างเสือใต้ บาเยิร์น มิวนิค ตั้งแต่นัดที่ 6 จนไปถึงนัดที่ 13 ของฤดูกาล 2022-23

การขึ้นไปเชยชมในตำแหน่งจ่าฝูงว่ายากแล้ว แต่การจะรักษาตำแหน่งไว้ได้นั้นยากกว่า แต่ อูนิโอน เบอร์ลิน กลับยึดครองพื้นที่ตรงนั้นไว้ได้ร่วมหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะถูกทีมขาประจำลุ้นแชมป์อย่างเสือเหลือง และเสือใต้ แซงไปในที่สุด

แต่ผลงานเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับอูนิโอน เบอร์ลิน เพราะพวกเขาจบอันดับ 4 ของตาราง คว้าสิทธิ์เข้าไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรได้ และนี่คือที่จุดเริ่มต้นของเทพนิยายเรื่องนี้ จากหนึ่งฤดูกาลที่ขอเพียงอยู่รอดบนลีกสูงสุด สู่ 3 ฤดูกาลถัดมาที่ค่อย ๆ ยกระดับตัวเองและไต่เต้าจากคอนเฟอเรนซ์ ลีก ถึง แชมเปียนส์ ลีก

 

จากเส้นทางที่เหมือนฝันหวาน สู่ฝันร้าย

ฤดูกาล 2023-24  อูนิโอน เบอร์ลิน เปิดฉากด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยม จากการเก็บชัยชนะได้ใน 2 เกมแรกของบุนเดสลีกา ดูเหมือนพวกเขาน่าจะสานต่อฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงได้อีกครั้ง แต่หลังจากนั้นพวกเขากลับพ่ายแพ้ 9 นัดรวด และเป็นการแพ้ 4 จาก 5 นัดในบ้านของตัวเอง

เกิดอะไรขึ้นกับ อูนิโอน เบอร์ลิน 17 นัด ในบุนเดสลีกา 2022-23 ที่ สตาดิโอน อัน แดร์ อัลเทน เฟิร์สเตอร์ไอ รังเหย้าของพวกเขา ไม่มีทีมไหนบุกมาชิง 3 แต้มออกไปได้เลย โดยแบ่งเป็น ชนะ 11 เสมอ 6 ซึ่งเป็นทีมเดียวที่เก็บสถิติไร้พ่ายในบ้านได้ในฤดูกาลนั้น

ความพ่ายแพ้ต่อ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 4-0 ในนัดที่ 11 ของฤดูกาล ส่งให้ อูนิโอน เบอร์ลิน ลงมาจมบ๊วยของตารางครั้งแรกนับตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมาเมื่อฤดูกาล 2019-20 กลับกันเกมนัดนี้กลับส่งให้ทีมของ ชาบี อลอนโซ่ ขึ้นไปครองตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จ

ตอนนี้ในบุนเดสลีกาผ่านมาแล้ว 14 นัด (19 ธ.ค. 23) อูนิโอน เบอร์ลิน เก็บชัยชนะได้เพียง 3 จาก 14 นัด และเก็บได้เพียง 10 แต้มเท่านั้น ห่างจากโซนตกชั้น 1 แต้ม จากทีมที่มีเกมรับดีที่สุดในลีก ฤดูกาลที่แล้วเสียไปเพียง 38 ประตู เท่ากับทีมแชมป์อย่าง บาเยิร์น มิวนิค แต่ในฤดูกาลนี้พวกเขาเสียไปแล้วถึง 31 ประตู

ซ้ำร้ายในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ครั้งแรกของพวกเขา กลับต้องอยู่ร่วมกลุ่มกับแชมป์ยุโรป 14 สมัย ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้ายุโรปอย่าง เรอัล มาดริด แชมป์ลีกอิตาลี นาโปลี และตัวแทนจากโปรตุเกส สปอร์ติง บราก้า 

ดูจากรายชื่อทีมร่วมกลุ่มแล้วงานนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายของ อูนิโอน เบอร์ลิน แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ว่าพวกเขาแข็งแกร่งพอหรือยังที่จะสู้และอยู่รอดในถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรปนี้ และผลงานที่ประจักษ์ต่อแฟนบอลก็คือ พวกเขาทำได้ดีแล้วแต่ยังดีไม่พอ 

เกมแรกใน UCL ดูเหมือนว่า อูนิโอน เบอร์ลิน จะบุกไปแบ่งแต้มจาก เรอัล มาดริด ได้ เพราะจนจบจะเกมอยู่แล้ว สกอร์ยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 แต่แล้วในนาทีที่ 90+4 จู๊ด เบลลิงแฮม ก็ปรากฏตัวขึ้น และทำประตูให้ เรอัล มาดริด ออกนำไปได้ 1-0 ดับฝัน อูนิโอน เบอร์ลิน ไปต่อหน้าต่อตา

สถานการณ์ที่คล้ายกันเกิดขึ้นอีกครั้งในนัดที่ 2 ของ UCL อูนิโอน เบอร์ลิน เปิดบ้านเจอกับ บราก้า เจ้าบ้านทำประตูนำไปก่อนถึง 2-0 แต่กลับจบเกมด้วยผล 2-3 อูนิโอน เบอร์ลิน พ่ายแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย

ผลสุดท้ายเส้นทางบน UCL ครั้งแรกของ อูนิโอน เบอร์ลิน ก็จบลงที่รอบแบ่งกลุ่ม พวกเขาไม่สามารถเก็บชัยชนะได้เลย และเก็บได้เพียง 2 แต้ม จากการเสมอนาโปลี และบราก้า เท่านั้น แม้แต่รางวัลปลอบใจอย่างการลงไปเล่นเพลย์ออฟในยูโรปา ลีก ก็คว้ามาไม่ได้

 

ปลดโค้ชเซ่นผลงานห่วย

หากคุณจินตนาการไม่ออกว่าในโลกฟุตบอลนั้นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วแค่ไหน ให้ลองคิดแค่ว่าเรายังอยู่ในปีปฏิทินเดียวกันกับที่ อูนิโอน เบอร์ลิน จบอันดับ 4 ของบุนเดสลีกา ได้ไป UCL และ อูร์ส ฟิสเชอร์ ได้รับรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเยอรมัน

แต่สถานการณ์ปัจจุบันคือ อูนิโอน เบอร์ลิน ตกรอบยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก อยู่ท้ายตารางบุนเดสลีกา และ อูร์ส ฟิสเชอร์ ไม่ได้เป็นผู้จัดการทีมของ อูนิโอน เบอร์ลิน อีกต่อไป

ด้วยผลงานในฤดูกาลนี้ที่สุดบู่ แบบกู่ไม่กลับของ อูนิโอน เบอร์ลิน ส่งผลให้ทางสโมสรตัดสินใจแยกทางกับ อูร์ส ฟิสเชอร์ ผู้จัดการทีมที่ร่วมสร้างเส้นทางประวัติศาตร์ของสโมสร และพาพวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ  พร้อมแต่งตั้ง มาร์โก โกรเต้ นั่งแท่นชั่วคราว

ปรัชญาฟุตบอลที่ อูร์ส ฟิสเชอร์ ได้ปลูกฝังให้กับทีม คือ การทำงานอย่างหนัก โดยใช้ความแข็งแกร่งของร่างกาย และความขยันเข้าสู้ พวกเขาจะต้องวิ่งให้เยอะเพื่อปิดช่องทางการจ่ายของคู่แข่ง นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ในฤดูกาล 2022-23 อูนิโอน เบอร์ลิน เป็นทีมที่วิ่งเยอะที่สุดในลีก

ความขยันและมันสมองในฟุตบอลทำให้ อูนิโอน เบอร์ลิน ทำผลงานได้ดีแม้ในทีมจะไม่ได้มีนักเตะที่เป็นดาวดัง แต่ด้วยความพยายามและมุ่งมั่นของทุกคน ทำให้พวกเขาสามารถสร้างสมดุลระหว่างเกมรับและรุกได้

อีกทั้งยังมีกองหน้าที่มีความเร็วและเฉียบคมอย่าง เชรัลโด้ เบ็คเกอร์ และ จอร์แดน ซีบาตเชอ คอยเป็นกำลังหลักในการสังหารประตูคู่แข่ง ช่วยให้ อูนิโอน เบอร์ลิน บินสูงได้ในหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

แต่ในฤดูกาล 2023-24 นี้ อูนิโอน เบอร์ลิน กำลังประสบปัญหาเกมรุกอย่างหนัก เพราะ 14 นัดในลีก พวกเขาทำไปได้เพียง 15 ประตูเท่านั้น 

เควิน เบห์เรนส์ เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยการซัดแฮตทริกในเกมเปิดสนามกับ ไมนซ์ 05 แต่หลังจากนั้นมีเพียง โรบิน โกเซนส์ (4) เท่านั้นที่ยิงได้มากกว่า 1 ประตู ในขณะที่ โชรัลโด้ เบ็คเกอร์ ดาวซัลโวประจำทีมในฤดูกาลที่แล้ว (11) ยังทำประตูในลีกไม่ได้

ส่วนเกมรับก็วิกฤตไม่ต่างกัน แม้จะเซ็นสัญญากับปราการหลังจอมเก๋า เลโอนาร์โด้ โบนุชชี เข้ามาร่วมทีม ก็ไม่สามารถยกระดับเกมรับขึ้นมาได้ เพราะตอนนี้พวกเขาเสียประตูในลีกไปแล้ว 31 ประตู จากสถิติในตอนที่ อูนิโอน เบอร์ลิน เสียไป 25 ประตู แต่ค่า xG การเสียประตูนั้นอยู่ที่ 20.6 เท่านั้น สถิตินี้ของ Opta ชี้ให้เห็นว่า อูนิโอน เบอร์ลิน เสียประตูมากกว่าที่ควรจะเสีย 

จากทีมที่มีสมดุลในเกมรับและเกมรุก กลับกลายเป็นทีมต้องเผชิญปัญหาทั้งการทำประตูและการเสียประตู จากฟอร์มที่เคยยอดเยี่ยม กลับถดถอยลง จึงไม่น่าแปลกใจที่ อูนิโอน เบอร์ลิน จะแยกทางกับ อูร์ส ฟิสเชอร์

 

แนวทางการบริหารเปลี่ยนแปลง?

เป็นเรื่องปกติของทีมเล็กผลงานดีที่ย่อมต้องเจอกับภาวะสมองไหล นักเตะที่โชว์ผลงานได้ดีมักถูกทีมที่ใหญ่กว่าดึงตัวออกไป แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของ อูนิโอน เบอร์ลิน เพราะพวกเขาจะหานักเตะที่มีความสามารถ และค่าตัวถูกเข้ามาทดแทนการหายไปของนักเตะคนก่อนได้ 

แนวทางการทำงานหลัก ๆ ของ อูนิโอน เบอร์ลิน คือการดึงตัวนักเตะที่มีค่าตัวถูก ยังไม่มีชื่อเสียงมาปั้นเอง รวมถึงดึงนักเตะที่หมดสัญญากับต้นสังกัดเก่า และเซ็นเข้ามาแบบฟรี ๆ

วิธีการบริหารในรูปแบบนี้คงไม่ต่างอะไรจากทีมที่มีขนาดเล็กทีมอื่น แต่สิ่งที่ทำให้ อูนิโอน เบอร์ลิน โชว์ผลงานดีได้นั้นก็เพราะ พวกเขาเลือกได้ถูกตัว อาจจะต้องย้อนกลับไปชื่นชมทีมงานในการสรรหาผู้เล่น และผู้เล่นเหล่านั้นก็ต้องการเวทีในการพิสูจน์ตัวเอง จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นนักเตะหน้าใหม่ ๆ โชว์ผลงานได้ดี

ในซัมเมอร์ที่ผ่านมา อูนิโอน เบอร์ลิน เสริมทัพได้น่าสนใจ พวกเขาเซ็นสัญญากับกองหลังดีกรีแชมป์ยูโรอย่าง โบนุชชี เข้ามาร่วมทีมแบบฟรี ๆ หลังจากหมดสัญญากับ ยูเวนตุส รวมทั้งซื้อ โรบิน โกเซนส์ เข้ามาในราคา 13 ล้านยูโร เควิน โวลแลนด์ 4 ล้านยูโร และยืมตัว ดาวิด โฟฟานา จากเชลซี

ดูจากการเสริมทัพแล้วแฟน ๆ ต่างคาดหวังกันว่าทีมของพวกเขาจะยังรักษาระดับการเล่นอย่างยอดเยี่ยมไว้ได้ แต่ในความเป็นจริงกลับสวนทางกัน เมื่อผู้เล่นใหม่เข้ามาแล้วไม่สามารถยกระดับการเล่นได้ ก็เริ่มมีการตั้งคำถามเกิดขึ้น

โดยปกติแล้ว อูนิโอน เบอร์ลิน มักจะดึงนักเตะหน้าใหม่เข้ามาร่วมทีม แต่ในฤดูกาลนี้พวกเขากลับดึงนักเตะที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว แม้กระทั่งนักเตะที่ประสบความสำเร็จมามากมายแล้ว ดูเหมือนว่าการเสริมทัพในครั้งนี้จะแตกต่างออกไป โดยบอร์ดบริหารหวังว่านักเตะใหม่เหล่านี้จะเข้ามาช่วยทีมในตารางการแข่งขันสุดเข้มข้นที่ต้องลงเล่นทั้งบอลลีก บอลถ้วยในประเทศ และ UCL ได้ 

ในอีกแง่หนึ่งที่หลายสื่อตั้งเป็นประเด็น คือ การมีอิทธิพลมากเกินไปของ อูร์ส ในการจัดหาตัวผู้เล่น สถานการณ์แบบนี้มักเกิดขึ้นกับโค้ชที่คุมทีมหนึ่งมายาวนาน พวกเขามักได้รับความไว้วางใจจากบอร์ดบริหารในการเสริมทัพ และด้วยเหตุผลที่ อูนิโอน เบอร์ลิน ได้ลงเล่นใน UCL อาจจะทำให้ อูร์ส ต้องคิดเยอะขึ้นกว่าเดิม โดยต้องการเลือกนักเตะที่มีประสบการณ์อยู่แล้วเข้ามาร่วมทีม ซึ่งแตกต่างจากการเสริมทัพในก่อนหน้านี้ ที่จะเน้นนักเตะดาวรุ่งหน้าใหม่

การเซ็นสัญญาเหล่านั้นอาจทำให้เสียสมดุลในห้องแต่งตัวได้ ด้วยความเป็นซุปตาร์ ค่าเหนื่อยที่ต่างกัน หรือการขาดวินัยของนักเตะบางราย เหตุผลเหล่านี้เราก็ไม่สามารถมองข้ามไปได้ เพราะ อูนิโอน เบอร์ลิน ไม่เคยต้องมาเผชิญกับสถานการ์แบบนี้มาก่อน และครั้งนี้ก็ทำให้เห็นว่าพวกเขาไม่สามารถรับมือได้

ในช่วง 3 ฤดูกาลแรกของ อูนิโอน เบอร์ลิน บนบุนเดสลีกา พวกเขามีเป้าหมายชัดเจนคือการอยู่รอดบนลีกสูงสุดนี้ แม้จะมีโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลยุโรปก็ตาม แต่โฟกัสสำคัญยังคงอยู่ที่ลีก นั่นทำให้พวกเขาสามารถจบอันดับที่ดีขึ้นได้ทุกปี แต่ฤดูกาลนี้การได้ไปเล่นใน UCL และประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นในฟุตบอลยุโรปมา 2 ฤดูกาลติด ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการทำผลงานให้ได้ดีทั้งในลีกและยุโรป แต่ด้วยขนาดทีมและขุมกำลังในแนวลึกยังไม่ดีพอ จึงส่งผลเสียมากกว่าผลดี ผลลัพธ์จึงแย่ทั้งในลีกและบอลยุโรป

ถึงอย่างไรก็ตามตอนนี้ อูนิโอน เบอร์ลิน ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว พวกเขายังมีเวลาอีกกว่าครึ่งฤดูกาลในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการดึงศักยภาพของนักเตะใหม่ออกมาใช้ให้ได้ การกระตุ้นนักเตะเก่าให้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้อง หาแนวทางการเล่นที่เข้ากับขุมกำลังชุดนี้ และประคองตัวเองให้อยู่รอดบนบุนเดสลีกาให้ได้ 

เรื่องราวของ อูนิโอน เบอร์ลิน จะกลายเป็นกรณีศึกษาชั้นดีของทีมเล็กที่หัดบินสูง ทั้งในแง่ของการบริหารจัดการ การรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ความกดดัน และความเข้มข้นของฟุตบอลในระดับสูง

 

ทำความรู้จัก อูนิโอน เบอร์ลิน (Footballista Ep.540 : อูนิโอน เบอร์ลิน ทีมรากหญ้า ขวัญใจแรงงานเยอรมัน)

 

แหล่งอ้างอิง

https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/union-berlin-2022-23-season-so-far-jordan-siebatcheu-sheraldo-becker-22187
https://www.blockdit.com/posts/5eabc61f9b22710cacbc9555
https://www.fc-union-berlin.de/en/Club/constitution/
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/union-berlin-from-east-german-also-rans-to-bundesliga-leaders-21264
https://www.fc-union-berlin.de/en/union-live/latest-news/professional/A-Historic-Match-1432l/
https://theathletic.com/5134328/2023/12/13/union-berlin-champions-league-campaign/
https://www.independent.co.uk/sport/football/union-berlin-champions-league-bundesliga-b2413257.html
https://www.fearthewall.com/2023/11/8/23950315/looking-around-the-league-union-berlin-continue-to-struggle-bundesliga
https://www.getfootballnewsgermany.com/2023/three-things-we-learned-as-union-berlin-collapse-away-at-borussia-dortmund/
https://theanalyst.com/eu/2023/11/urs-fischer-union-berlin-bottom-bundesliga/
https://www.transfermarkt.com/1-fc-union-berlin/spielplan/verein/89

Author

กมลธิชา จันทร์เอียด

หนูรู้สึกง่วงตลอดเวลา ยกเว้นตอนดู "ลิเวอร์พูล" ทีมรักของหนูลงแข่ง

Photo

วัชพงษ์ ดวงแปง

Main Stand's Backroom staff

Graphic

อรรนพ สะตะ

graphic design ผู้ชื่นชอบกีฬาฮอกกี้, เกมส์, เดินเขา เป็นชีวิตจิตใจ