อาจกล่าวได้ว่า ฤดูกาล 2023-24 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเองต่อเนื่องมาจากฤดูกาล 2022-23 ที่ซึ่งพวกเขาจบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 คว้าสิทธิ์ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากทั้งการที่ทัพสาลิกาดงเสริมขุมกำลังมาเติมเต็มได้อย่างกลมกล่อม กอปรกับนักเตะชุดเดิมจะค่อย ๆ ซึมซับรูปแบบและวิธีการของเอ็ดดี้ ฮาว ได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในฟันเฟืองที่ถูกยกระดับขึ้นมา ก็คือแอนโธนี่ กอร์ดอน
ไม่ว่าจะผลงาน 6 ประตู จากการลงเล่นรวมทุกรายการ 22 เกม ทำประตูใส่บิ๊กทีมทั้งอาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเชลซี เช่นเดียวกับการถูกเสนอชื่อลุ้นรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก พฤศจิกายน 2023 นี่คือตัวอย่างผลงานเด่นที่ดาวรุ่งรายนี้ฝากฝังไว้กับเดอะ แม็กพายส์
และการที่เขาทำผลงานเฉิดฉายขึ้นมา ไม่น่าเชื่อว่าทั้งหมดนี้ถูกหล่อหลอมมาจากวิธีคิดและทัศนคติส่วนตัวของแข้งจากเมืองลิเวอร์พูลเป็นหลัก
จากเยาวชนที่เคยถูกอคาเดมี่ฟุตบอลปฏิเสธเข้ารับเพราะเรื่องของรูปร่าง สู่นักเตะวัย 22 ปี ที่ถูกตั้งคำถามปลายเปิดว่าถึงเวลาหรือยังกับการเป็นตัวจริงให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่
Main Stand อยากชวนผู้อ่านมาทำความรู้จักแอนโธนี่ กอร์ดอน กันให้มากขึ้นผ่านบทความนี้
จุดเริ่มต้นจากเด็กรูปร่างผอมบาง
แอนโธนี่ กอร์ดอน เกิดและเติบโตขึ้นมาจากเมืองลิเวอร์พูลขนานแท้ เขารู้จักกับกีฬาฟุตบอลตั้งแต่อายุได้สามขวบ โดยเริ่มจากการเล่นฟุตบอลในสวนหลังบ้านร่วมกับคุณพ่อ คีธ กอร์ดอน
นานวันเข้า ทั้งพ่อคีธ และนาดีน กอร์ดอน ผู้เป็นแม่ ก็เริ่มตระหนักรู้แล้วว่าลูกชายคนนี้ชื่นชอบในศาสตร์ลูกหนัง ทั้งสองได้ให้อิสระและเปิดกว้างในเรื่องนี้ พร้อมกับคอยเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีให้กับลูกชายอยู่เสมอ รวมไปถึงช่วงเวลาไม่สู้ดีของแอนโธนี่ หลังถูกอคาเดมี่ลิเวอร์พูล รวมถึงเอฟเวอร์ตัน ปล่อยตัว เพราะมองว่าเจ้าตัวมีร่างกายที่ผอมบางเกินไป
แม้การถูกปล่อยตัวในครั้งนั้น จะทำให้กอร์ดอนที่ยังใช้คำนำหน้าชื่อเป็นเด็กชาย รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด ถึงขั้นคิดเลิกเป็นนักเตะอาชีพ
ทว่าเขาก็ได้ทั้งแม่นาดีนและพ่อคีธ ที่ช่วยซัพพอร์ต เช่นเดียวกับแรงใจจากไอดอลลูกหนังคนโปรดอย่างเลห์ตัน เบนส์ ดีกรีแบ็คซ้ายทีมชาติอังกฤษและเอฟเวอร์ตัน ที่ซึ่งตัวเขาเคยถ่ายภาพคู่ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
เมื่อกำลังใจจากทั้งพ่อแม่บังเกิดเกล้า รวมถึงการได้พบปะไอดอลลูกหนังแบบใกล้ชิด เปรียบเสมือนเครื่องเตือนใจชั้นดี ที่สุดแล้วสิ่งนี้ก็กลายเป็นแรงผลักดันให้เด็กชายแอนโธนี่เลือกเดินตามเป้าหมายเดิมของตัวเอง นั่นคือการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
กอร์ดอนเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้งกับการฝึกฟุตบอลในสวนหลังบ้าน ไม่นานก็เริ่มกลับสู่สารระบบการเล่นฟุตบอลในท้องถิ่นจนได้ กับทีมโรงเรียนวิชตัน จูเนียร์ส (Whiston Juniors) ได้ลงเล่นในซันเดย์ลีก หรือลีกระดับล่างสุดของประเทศอังกฤษ
อาจเพราะแอนโธนี่ กอร์ดอน มีพรสวรรค์ด้านฟุตบอลโดดเด่นกว่าเยาวชนคนใด เพราะเขามักจะได้ลงเล่นและแข่งขันร่วมกับทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุเยอะกว่าเขา 2-3 ปี
แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่ทำให้แมวมองของเอฟเวอร์ตัน ซึ่งมีโอกาสได้ยลฝีเท้าของเขา จนเริ่มลบภาพจำเดิมจากเด็กชายที่ผอมแห้ง และเมื่อกอร์ดอนอายุได้ 11 ปี เขาก็กลับเข้ามาเป็นเด็กปั้นในอคาเดมี่ทอฟฟี่สีน้ำเงินอีกครั้ง
“ผมเคยเห็นแอนโธนี่มาสองสามครั้งแล้ว แต่คราวนี้เขายอดเยี่ยมมาก เขาแข็งแรงมาก ฝีเท้าดี มีเทคนิคที่ดี เขาโดดเด่นมาก แม้เขาจะดูบอบบางมากในตอนที่ยังเป็นเด็ก แต่เรื่องฝีเท้ามันฝึกกันได้ เขาต้องการโอกาสอีกครั้ง” เอียน ดุค แมวมองเอฟเวอร์ตัน ที่เป็นผู้ค้นพบเจ้าหนูกอร์ดอน บอกกับ The Athletic
“ตอนนั้นมันยากที่จะรับมือครับ (ถูกลิเวอร์พูลและเอฟเวอร์ตันปล่อยตัวในรอบแรก) แต่ผมคิดว่ามันช่วยสร้างคาแร็กเตอร์นะ ตอนนั้นผมผิดหวังจริง ๆ แหละ แต่เรื่องนี้มันช่วยผมได้มากเลย เรื่องนี้ช่วยได้ตั้งแต่เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็ก ที่อยู่ในทีมเยาวชนเอฟเวอร์ตัน และยังคงช่วยผมมาจนถึงทุกวันนี้” แอนโธนี่ กอร์ดอน เปิดใจผ่าน SPORTbible
“ผมอาจจะอารมณ์เสียไปบ้าง เพราะมันทำลายความมั่นใจของผม แต่ครอบครัวของผม ซึ่งสำคัญกับผมมาก ๆ ในระหว่างที่ผมเติบโตขึ้นมา ทำให้ผมเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็งขึ้นไปอีก ผมคิดต่อไปว่าขอแค่ตัวเองก้มหน้าก้มตาเล่นฟุตบอลต่อไป แสดงความสามารถของตัวเองออกมา จนเอฟเวอร์ตันก็เข้ามาอีกครั้ง
“การเจอเรื่องอะไรแบบนี้ มันยากสำหรับคนอายุน้อย เพราะคุณไม่รู้วิธีจัดการกับมันแบบจริง ๆ จัง ๆ แต่ใครจะรู้เลยว่าเรื่องที่มันขัดแย้งกับคุณเมื่อตอนที่คุณยังเป็นเด็กนี่ละ มันเลยสร้างคาแร็กเตอร์ของคุณออกมา และแสดงให้เห็นตอนที่คุณเป็นผู้ใหญ่”
พรแสวงมาพร้อมพรสวรรค์
หลังจากที่แอนโธนี่ กอร์ดอน ย้ายเข้าร่วมอคาเดมี่เอฟเวอร์ตันรุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี โดยอยู่สังกัดสถาบันการศึกษาที่เป็นพันธมิตรกับสโมสรได้ราว ๆ 5 ปีเศษ ไม่น่าเชื่อว่าช่วงต่อจากนั้น เขาถูกส่งลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ ในศึกยูโรป้า ลีก นัดดวลอปอลลอน ลิมาสซอล ทีมจากประเทศไซปรัส (ลงเป็นตัวสำรองนาทีที่ 88)
นั่นหมายความว่า กอร์ดอนในวัยแค่ 16 กะรัต ได้สัมผัสเวทีลูกหนังอาชีพแล้ว นี่คือนิมิตรหมายอันดีว่าเขาคือแข้งแห่งอนาคตของทอฟฟี่สีน้ำเงิน
ก่อนที่เจ้าตัวจะใช้เวลาอีกราว 3 ปี เบิกชีวิตฟุตบอลของตัวเองในทีมชุดใหญ่แบบเต็มตัวในซีซั่น 2019-20 เมื่อเอฟเวอร์ตันยุคกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ ให้โอกาสเจ้าหนูรายนี้ลงสนามในฐานะตัวสำรอง เกมเสมอเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ตามด้วยช่วงไม่กี่เดือนต่อมาเขาก็เซ็นสัญญาใหม่กับทีมเป็นเวลา 5 ปี
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังคว้าอีกหนึ่งโอกาสดั่งฝันที่ได้รับการเติมเต็ม เมื่อช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่น 2019-20 กอร์ดอนได้ลงเล่นเคียงข้างเลห์ตัน เบนส์ ไอดอลฟุตบอลในวัยเด็ก ถึงขั้นที่ว่าเขานำภาพในวัยเด็กประกบกับวันที่สวมเสื้อสีน้ำเงินด้วยกันโพสต์บนทวิตเตอร์ส่วนตัว “ความแตกต่าง 7 ปีที่สร้างขึ้นมาได้ จากไอดอลกลายเป็นเพื่อนร่วมทีม”
อนึ่ง แอนโธนี่ กอร์ดอน เปรียบดั่งนักเตะในคาถาของเอฟเวอร์ตันชนิดที่เป็นเยาวชนระดับแถวหน้าคนหนึ่งของทีมมาช้านาน นอกจากจะมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษไล่มาตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปีแล้ว เขายังเป็นหัวใจสำคัญให้ทีมเยาวชนสโมสรทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ไปจนถึงทีมสำรอง
ภายใต้สีเสื้อทีมเยาวชนเอฟเวอร์ตัน เขาฝากสถิติเด่นทั้งผลงาน 16 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์ ตลอดการลงเล่น 32 เกม หนึ่งในนั้นมีเกมที่เขาทำคนเดียวถึง 4 ตุง พาทีมกระซวกทีมเยาวชนเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 7-1 ขณะที่ผลงานในนามทีมสำรองสโมสรก็มีตัวเลขที่น่าประทับใจเช่นกัน เมื่อสถิติลงบู๊ 28 เกม เขาทำได้ถึง 8 ประตู กับอีก 5 แอสซิสต์
นอกจากเรื่องของ พรสวรรค์ ที่มีติดตัวเด็กจากเมืองลิเวอร์พูลคนนี้อยู่แล้ว ทัศนคติ และการฝึกฝนเพื่อให้ได้มาซึ่ง พรแสวง เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่กอร์ดอนนำมาปรับใช้ร่วมกัน ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาตัวเอง
โดยชุดความคิดหลักที่แวะเวียนเข้ามาเตือนใจแอนโธนี่ กอร์ดอน อยู่เสมอ ก็คือการฟังเสียงตัวเอง การปรับจุดด้อยของตัวเอง และพัฒนามันไปให้ดียิ่งขึ้น
จากที่มักจะโดนข้อครหาว่าเป็นคนตัวเล็ก รูปร่างบอบบาง กอร์ดอนอาศัยช่วงเวลาที่โควิด-19 ระบาดหนักจนโลกลูกหนังต้องหยุดแข่งขันหลายเดือนไปกับการออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ทำให้เขากลายเป็นคนที่กำยำขึ้น และกลายเป็นนักเตะที่นอกจากจะมีความเร็ว เล่นได้ทั้งเท้าซ้ายและขวา มีความคล่องตัวสูง เลี้ยงบอลไปกับเท้าได้ดีเป็นทุนเดิม เขายังมีพละกำลังและพลังงานเพิ่มขึ้นมาเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญของตัวเอง
“มันเกี่ยวข้องกับการรู้จักควบคุมความคิดของตัวเองให้พอดี ผมแค่ต้องมีสมาธิอยู่กับตัวเองและอย่าไปคิดถึงทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีที่คนอื่นพูดถึงตัวผมมากเกินไป” กอร์ดอน ย้ำจุดยืนที่มีในตัว
“ถ้าคุณคิดเพียงแค่อยากจะเดินไปตามเส้นทางที่มันถูกต้อง มันก็แค่เป็นเส้นตรงเดียวที่คุณต้องการไป แต่หากคุณเริ่มคาดหวังอะไรหลาย ๆ อย่างจากตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณก็แค่สร้างมันขึ้นมาเพิ่ม นั่นคือความคิดที่มาจากตัวคุณเอง มันอยู่ในใจของคุณ ไม่มีใครทำแบบนั้นได้นอกจากตัวคุณเอง ดังนั้น ความคาดหวังต่าง ๆ มันอยู่ในหัวของคุณเองเสมอ”
เพราะการยึดมั่นแนวทางของตัวเองซึ่งไม่เคยถูกลดทอนลงไป ที่สุดแล้วกราฟชีวิตฟุตบอลของเขาก็พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
จากเอฟเวอร์ตัน เติบโตต่อที่นิวคาสเซิ่ล
ถึงแม้เอฟเวอร์ตันจะเผชิญข่าวภาวะการเงินสโมสรไม่สู้ดีในช่วงเกือบครึ่งทศวรรษนี้ แต่การที่ทีมมีแอนโธนี่ กอร์ดอน เป็นนักเตะทีมชุดใหญ่ นั่นคือความรู้สึกดั่งการมีแสงสว่าง ท่ามกลางความมืดมิดที่ใกล้จะก่อตัว
หลังจากที่กลับมาจากที่ถูกปล่อยให้เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ ยืมตัวในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2020-21 สถานะของเจ้าหนูกอร์ดอนในตอนนั้นคือกำลังสำคัญของทอฟฟี่สีน้ำเงินชุดใหญ่ไปแล้ว ซึ่งตัวเขาเองก็มีส่วนไม่น้อยกับการพาทีมรอดพ้นจากการตกชั้นในฤดูกาล 2021-22 ที่เอฟเวอร์ตันใช้บริการผู้จัดการทีมถึงสามคน (ราฟาเอล เบนิเตซ, ดันแคน เฟอร์กูสัน และแฟรงค์ แลมพาร์ด)
กอร์ดอน มีส่วนช่วยทีมจบอันดับที่ 16 ของตารางชนิดมีแต้มห่างจากโซนตกชั้น 4 แต้ม โดยหนึ่งในผลงานชิ้นโบว์แดงของเขาก็คือประตูชัยในเกมเปิดกูดิสัน พาร์ค เชือดแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 โดยรวมแล้วเขาทำสถิติลงเล่นในปีนั้น 40 นัด ทำ 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์
กับเด็กหนุ่มวัย 20 ต้น ๆ ที่เอาชนะอุปสรรคดังข้อมูลที่เคยปรากฏในเดือนมกราคม 2022 ว่ากว่าร้อยละ 97 ของแข้งเยาวชนสังกัดทีมพรีเมียร์ลีก ไม่มีโอกาสลงเล่นลีกสูงสุดแม้แต่นาทีเดียว แถมยังก้าวมาเป็นตัวหลักเสียด้วย ทำให้แอนโธนี่ กอร์ดอน เริ่มตกเป็นข่าวน้อยใหญ่ว่ามีทีมที่พร้อมจะทุ่มงบล่าตัวไปเติมเกมบุก
และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม ที่สุดแล้วเป็นนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในยุคที่มีกลุ่มทุนเงินหนาจากซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าของทีม ประกาศทุ่มเงิน 40 ล้านปอนด์ บวกแอดออนอีก 5 ล้านปอนด์ ย้ายไปเล่นที่เซนต์ เจมส์ พาร์ค ในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2022-23
กอร์ดอนกำลังจะก้าวออกจากสถานที่ที่เปรียบดั่งบ้านหลังที่สองที่เขามีชื่อสังกัดมาตั้งแต่อายุ 11 ขวบ แถมการออกจากบ้านหลังนี้ยังเป็นการออกมาแบบไม่ได้ราบรื่นดั่งใจคิด ส่วนหนึ่งเพราะเขาเองก็โดนเหล่าเอเวอร์โตเนียนโจมตีเรื่องทิ้งทีมในช่วงเวลาที่โดนปัญหาหลากหลายถาโถม เช่นเดียวกับข่าวที่ว่าเขาไม่ขอซ้อมกับทีมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนย้ายสังกัด
อย่างไรเสีย เขาก็มีจุดยืนที่หนักแน่นในตัวเอง แน่นอนว่าเขารู้สึกใจหายที่ต้องจากถิ่นกูดิสัน พาร์คไปเช่นกัน
แต่ที่มากกว่านั้น กอร์ดอนก็เป็นคนคนหนึ่งที่ “คิดได้และเจ็บเป็น” เขารู้สึกว่าเอฟเวอร์ตันก็ไม่ได้กล่าว ขอบคุณ ตัวเขาที่ตั้งใจช่วยทีมรอดพ้นจากการตกชั้นในซีซั่นก่อนแม้แต่คำเดียว แถมแถลงการณ์ปล่อยตัวยังปรากฏเป็นแถลงสั้น ๆ แค่ 64 คำเท่านั้น
อยู่กับปัจจุบัน อนาคตเดี๋ยวมาเอง
“เราได้นักเตะที่มีความมุ่งมั่นและทะเยอทะยานเปี่ยมล้นเข้ามา เขามีสมดุลที่ดีระหว่างความมั่นใจ และก็รู้ตัวว่าเขายังต้องพัฒนาตัวเองอีกหลายอย่าง ผมไม่สงสัยในเรื่องบุคลิกอุปนิสัยเขาเลย” เอ็ดดี้ ฮาว เปิดใจหลังนิวคาสเซิ่ลคว้าแอนโธนี่ กอร์ดอน มาสวมเสื้อเบอร์ 10 ในเซนต์ เจมส์ พาร์ค
เมื่อถึงคราวโยกมาเป็นสมาชิกใหม่สาลิกาดง แน่นอนว่าการนับหนึ่งภายใต้สภาพแวดล้อมใหม่ ๆ คือโจทย์ที่เข้ามาท้าทายแอนโธนี่ กอร์ดอน
อย่างไรก็ดี อาจเพราะปีกทีมชาติอังกฤษชุดเยาวชนผู้นี้มีจุดยืนที่หนักแน่นในตัวเอง เขาต้องการโอกาสและนาทีในสนาม ยิ่งย้ายทีมใหม่ด้วยค่าตัวที่อยู่ในระดับสูงไม่แพ้แข้งคนใดในพรีเมียร์ลีก ก็ยิ่งต้องการพิสูจน์ให้เห็นในทุก ๆ การแข่งขัน
นำมาซึ่งเหตุการณ์ที่มีอารมณ์มาเกี่ยวข้องอยู่บ้าง อย่างเกมที่นิวคาสเซิ่ลบุกชนะเบรนต์ฟอร์ด 2-1 เมื่อเอ็ดดี้ ฮาว เปลี่ยนตัวกอร์ดอนที่ถูกเปลี่ยนตัวลงในช่วงพักครึ่งไปแล้วออกในนาทีที่ 90+5 ทำเอาแนวรุกเบอร์ 10 รายนี้ออกอาการไม่พอใจอย่างแรง
แต่ในที่สุดเรื่องนี้ก็เคลียร์ใจกันจบ กอร์ดอนยอมรับถึงรู้สึกผิดหวังที่เอาอารมณ์มาตัดสินเหตุการณ์เหนือคำว่าเหตุผล ส่วนฮาวก็เข้าใจความรู้สึกของลูกทีม และมองว่าไม่ได้เลวร้ายอะไร มากไปกว่านั้น เขายังเชื่อมั่นในลูกทีมป้ายแดงคนนี้ ว่าจะนำอะไรดี ๆ มาสู่ทีมได้อีกมาก ในอนาคต
แล้วก็เป็นไปตามนั้น โดยเฉพาะกับซีซั่นถัดมา (2023-24) ภายหลังจากที่กอร์ดอนผงาดแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี 2023 ร่วมกับทีมชาติอังกฤษ เขาสานฟอร์มเก่งต่อเนื่องช่วยสาลิกาดงได้
แถมยังได้ใจแฟน ๆ ในระหว่างพรีซีซั่นไม่มากก็น้อย เพราะเขาแสดงถึงความมุ่งมั่นที่ว่าขอพักร่างกายแค่ 4 วันหลังจบทัวร์นาเมนต์ยูโร และกลับมาซ้อมร่วมกับทีมทันที ด้วยเหตุผลที่ว่า เขาอยากจะเรียนรู้รูปแบบและวิธีการเล่นของทีม เพื่อนำสิ่งที่ดีที่สุดมาสู่สโมสร
แอนโธนี่ กอร์ดอน ซึมซับแท็คติกส์การเล่นของนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทั้งการเล่นเพรสซิ่งที่หนักหน่วงได้แบบไม่มีข้อครหาเขาเล่นได้ทั้งเกมบุก เช่นเดียวกับการถอยลงไปช่วยเกมรับ แน่นอนว่ามันสั่งสมมาจากการที่เขาฝึกฝนเรื่องพละกำลังมาโดยตลอด นั่นแสดงให้เห็นว่า เขาครบเครื่องแบบเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับ
นอกจากนี้ เขายังกลายเป็นปีกซ้ายแกนหลักของทีมไปแล้ว แถมยังมีทีเด็ดเรื่องการทำประตูจากการเล่นจังหวะตัดเข้าใน ประกอบกับการมีส่วนร่วมในการช่วยเพื่อนทำประตู ซึ่งก็โดดเด่นไม่แพ้กัน
ยกตัวอย่างสถิติรวมหลังลงเล่นเป็นนัดที่ 22 หรือหลังเกมนิวคาสเซิ่ล บุกแพ้เอฟเวอร์ตัน 0-3 ในเรื่องของเกมรุก เขาสร้างโอกาสสำคัญ (Big Chances) ให้ทีม 7 ครั้ง, ยิงไปแล้ว 6 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ มีอัตราผ่านบอลสำเร็จ (Pass success rate) ร้อยละ 81 เป็นต้น ขณะที่เกมรับ กอร์ดอนมีสถิติ สกัดบอลจากการผ่านบอลของฝ่ายตรงข้าม (Interception) ไป 4 ครั้ง, มีสถิติการเข้าปะทะสำเร็จ (Tackles won) ที่ 25 ครั้ง ฯลฯ
เมื่อผลงานของกอร์ดอนเริ่มทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์สายตา มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะถูกใครหลายคนชื่นชมว่าเขาพาตัวเองจนกลายเป็นแข้งเบอร์ต้น ๆ ของพรีเมียร์ลีกได้แล้ว
ไปจนถึงการถูกตั้งคำถามว่ามันถึงเวลาหรือยัง ที่เขาจะก้าวขึ้นไปเป็นปีกซ้ายตัวหลักของทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ กับภารกิจฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024
แต่ถึงกระนั้น ต่อให้ใครจะวิจารณ์ผลงาน หรือยกย่องเขามากเพียงใด ที่สุดแล้วแอนโธนี่ กอร์ดอน ก็เลือกจะยึดมั่นในแนวทางของตัวเองเช่นเคย นั่นคือการมองมายังตัวเองเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเรื่องของการทำปัจจุบันให้ดีที่สุด และเมื่อทำได้แล้ว เดี๋ยวอนาคตที่ดีก็จะเข้ามาเอง
“ผมคิดว่าทักษะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตก็คือการอยู่กับปัจจุบัน เพราะถ้าคุณมองไปยังอนาคต หรือมองย้อนกลับไปยังอดีตมากเกินไป มันจะทำให้คุณเกิดความวิตกกังวลได้"
"คุณต้องอยู่กับปัจจุบัน และคิดถึงสิ่งที่คุณอยากจะทำ ณ ตอนนี้ มันดีต่อตัวคุณเอง และพยายามรักษาจิตใจตัวเองให้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ ก่อนจะดีกว่า”
แหล่งอ้างอิง
https://www.nufc.co.uk/teams/first-team/anthony-gordon/?seasonid=2023
https://www.skysports.com/football/news/11095/13022908/anthony-gordon-newcastles-in-form-winger-returns-to-goodison-park-every-bit-a-45m-player
https://www.theguardian.com/football/2023/oct/03/anthony-gordon-newcastle-signed-40m-winger-goals
https://theanalyst.com/eu/2023/11/how-anthony-gordon-became-newcastle-key-player/
https://talksport.com/football/1091864/everton-anthony-gordon-transfer-released-liverpool-tottenham-premier-league/
https://www.facebook.com/NUFCTH/posts/pfbid0281CZUgLDcsmPTRZcAZ91nuWtbsXb3auT329fagDML28Z7wAW1xf5GCfsJMm6gqDdl
https://www.sportbible.com/football/anthony-gordon-liverpool-everton-release-20221109
https://www.dailymail.co.uk/sport/football/article-11972589/Anthony-Gordon-apologised-reaction-taken-Brentford-Eddie-Howe-reveals.html
https://theathletic.com/3070663/2022/01/14/the-making-of-anthony-gordon-from-bony-and-fragile-to-evertons-shining-light-in-difficult-times/