Feature

ผมจะเป็นคนเลว : โดมินิค มิสเตริโอ กับการออกจากร่มเงาพ่อด้วยบท "ลูกทรพี" | Main Stand

ในโลกมวยปล้ำ WWE มีนักมวยปล้ำหลายคนที่เลือกเดินตามรอยเท้าของพ่อผู้เป็นนักมวยปล้ำระดับตำนาน ประหนึ่งลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น โดมินิค ออสการ์ กูเตียร์เรซ หรือ โดมินิค มิสเตริโอ ก็คือหนึ่งในนั้น เขาคือลูกชายของนักมวยปล้ำขวัญใจคนทั่วโลกอย่าง เรย์ มิสเตริโอ และเข้าสู่วงการมวยปล้ำอาชีพตามคุณพ่อ

 


การเป็นลูกชายของตำนาน ทำให้โดมินิคถูกจับจ้องอย่างมากเมื่อเขาได้รับโอกาสจาก WWE โดยใช้สายเลือดของมิสเตริโอ และความสัมพันธ์พิเศษกับสมาคมในอดีตจนได้เป็นนักมวยปล้ำของ WWE อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าปล้ำไม่เอาไหน บุคลิกไม่เด่น ซื้อใจคนดูไม่ได้ จนถูกมองว่าอนาคตคงดับวูบหากเรย์รีไทร์ในสักวันหนึ่ง

แต่แล้วโดมินิคกลับสลัดเสียงครหาและเฉิดฉายอย่างเต็มตัว เมื่อเขาเทิร์นตัวเองเป็น "ลูกทรพี" ทำร้ายพ่อตัวเอง รับบทตัวร้ายที่ทำให้เขาเป็นที่รังเกียจของแฟนมวยปล้ำในชั่วข้ามคืน ปล้ำรายการไหนก็เจอคนดูโห่แบบกึกก้องไปทั่วสนาม ซึ่งนั่นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโดมินิคประสบความสำเร็จแล้วจากตัวตนใหม่ที่เขาสร้างขึ้นมา

Main Stand ขอพาทุกคนไปสำรวจเบื้องหลังการเทิร์นฮีลของโดมินิค จากหนุ่มน้อยหน้าใสใต้เงาพ่อ สู่ลูกทรพีที่คนดูเกลียดขี้หน้าทั้งบ้านทั้งเมือง

 

ช่วยพ่อทำมาหากินตั้งแต่ 8 ขวบ

ย้อนไปเมื่อปี 2005 เรย์ มิสเตริโอ ถือเป็นนักมวยปล้ำระดับซูเปอร์สตาร์ของ WWE เขาเป็นที่ชื่นชอบของแฟนมวยปล้ำด้วยลีลาผาดโผนกลางอากาศสุดเร้าใจ เขาขึ้นเวทีสู้กับนักมวยปล้ำร่างใหญ่มากมายแบบไม่เกรงกลัว มีท่าไม้ตาย 619 อันเป็นเอกลักษณ์ และสวมหน้ากากลวดลายต่าง ๆ ไม่ซ้ำกันออกมาปล้ำเสมอ ทำให้เขาเป็นไอดอลของเด็ก ๆ และหน้ากากของเรย์ก็เป็นสินค้าขายดีในร้านของ WWE มาอย่างยาวนาน

ช่วงนั้นครอบครัวของเรย์เดินทางมาเชียร์ติดขอบสนามอยู่บ่อยครั้ง ทั้ง แองจี้ ภรรยาคู่ชีวิต และลูกสองคน โดมินิค กับ อาไลยาห์ แฟนมวยปล้ำที่ติดตามดูช่วงนั้นจะคุ้นเคยกับครอบครัวนี้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะโดมินิค การได้เห็นคุณพ่อแสดงวิชาโลดโผนโจนทะยานบนเวทีมวยปล้ำอยู่บ่อย ๆ ทำให้เขาซึมซับความรักความชอบในกีฬามวยปล้ำเข้าไปเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งทีมงานของ WWE ปิ๊งไอเดีย ชวนโดมินิคเข้ามามีบทบาทในเนื้อเรื่องของคุณพ่อ

นั่นคือ "ศึกแย่งชิงลูก" ระหว่าง เรย์ กับ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ นักมวยปล้ำจอมตุกติกแห่งเอลพาโซ ที่กำลังมีบทขัดแย้งกัน โดยเรื่องราวคือ เอ็ดดี้ ออกมาประกาศว่า โดมินิค ไม่ใช่ลูกของ เรย์ แต่เป็นลูกนอกสมรสที่พลัดพรากกันมานาน ก่อนยกให้เรย์กับภรรยาที่มีปัญหาเรื่องการตั้งครรภ์ไปเลี้ยงดูแทน จนทำให้ โดมินิค วัย 8 ขวบ เกิดความสับสน และนำมาสู่ประโยคฮิตในตำนานของเอ็ดดี้ นั่นคือ I'm Your Papi! (ฉันนี่แหละพ่อของแก !)

เรย์ กับ เอ็ดดี้ สู้กันอยู่หลายครั้งเพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อของโดมินิค ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากคนดูส่วนใหญ่ว่าเนื้อเรื่องช่างน้ำเน่าเสียนี่กระไร กระทั่งเรื่องราวมาถึงจุดสิ้นสุดในศึก SummerSlam ปี 2005 เมื่อทั้งคู่ต้องสู้กันในแบบ Ladder Match ไต่บันไดชิงกระเป๋าเอกสารที่มีสัญญาสิทธิการเป็นผู้ปกครองเด็กอยู่ข้างใน หรือพูดแบบบ้าน ๆ คือ "ใครชนะจะได้เป็นพ่อที่แท้จริงของ โดมินิค"

แมตช์นี้นอกจากทั้งสองจะทุ่มเทสู้กันสนุกแล้ว โดมินิคในวัยตัวกระเปี๊ยกยังกระโดดขึ้นเวทีมาเขย่าบันไดขัดขวางไม่ให้เอ็ดดี้เอากระเป๋าเอกสารไปได้ กลายเป็นโมเมนต์ดราม่าช็อตที่คนดูชอบมาก สุดท้ายแล้วก็เป็นเรย์ที่เล่นงานเอ็ดดี้ แล้วไต่บันไดขึ้นไปปลดกระเป๋าลงมาได้ โดยมี วิคกี้ ภรรยาของเอ็ดดี้ มาช่วยขัดขวางสามี ตามประสาเมียหลวงที่ไม่อยากให้ผัวรักลูกของหญิงคนอื่น ปิดฉากเนื้อเรื่อง "ลูกใครหว่า ?" ไปแบบ แฮปปี้ เอนดิ้ง

การถูกบรรจุเข้ามาอยู่ในเนื้อเรื่องของพ่อและลุงในชีวิตจริง ทำให้โดมินิคได้สัมผัสกับโลกมวยปล้ำแบบใกล้ชิดกว่าเด็กคนอื่นและมันทำให้เขารู้สึกประทับใจ แม้ทีแรกจะไม่อยากมีบทออกจอทีวีสักเท่าไร "คุณลุงเอ็ดดี้เตรียมตัวอยู่หลังฉากแบบเข้มข้นมาก ผมจำได้ว่าเขาตะโกนใส่ผมแบบจริงจังแล้วก็เงื้อมมือทำท่าจะตบผม มันดูเป็นธรรมชาติมาก ขณะที่คุณพ่อก็ถามผมว่าสนใจเล่นบทนี้ไหม ไม่บังคับนะ ผมไม่แน่ใจเพราะอยากอยู่กับเพื่อนมากกว่า แต่เมื่อคุณพ่อบอกว่าเดี๋ยว WWE ให้เงินค่าขนมด้วย ผมก็โอเคเลย ผมเข้าใจเรื่องธุรกิจมวยปล้ำตั้งแต่ตอนนั้นแหละ"

 

แชมป์โลกแท็กทีมพ่อ-ลูก คู่แรกใน WWE

วันเวลาผันผ่าน โดมินิคกลายเป็นหนุ่มวัยรุ่น ลูกชายคนโตแห่งบ้านมิสเตริโอถึงเวลาต้องเลือกขีดเส้นทางของชีวิตตัวเอง แม้ใจจริงจะชอบเล่นฟุตบอล แต่ในที่สุดความที่คลุกคลีอยู่กับโลกมวยปล้ำตั้งแต่เด็ก และมีคุณพ่อผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดอย่าง เรย์ มิสเตริโอ เป็นแบบอย่าง โดมินิคจึงตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่โลกมวยปล้ำอาชีพและเริ่มฝึกซ้อมมวยปล้ำ โดยมีคุณพ่อและ เจย์ เลธัล นักมวยปล้ำมือเก๋าจากสมาคม ROH ช่วยสั่งสอนวิชาตั้งแต่ปี 2018

"ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะมีแพสชั่นกับมวยปล้ำ ประเภทเดินมาบอกผมว่าวันหนึ่งเขาจะต้องแจ้งเกิดในวงการมวยปล้ำให้ได้" เรย์ เล่าถึงวันที่ โดมินิค ตัดสินใจเป็นนักมวยปล้ำ แม้จะประหลาดใจนิดหน่อยแต่เมื่อดูสิ่งที่เขามาทำตั้งแต่เด็ก เช่น ทำหน้ากากมวยปล้ำ และชุดปล้ำของตัวเอง รวมถึงไปกระโดดโลดเต้น เด้งเชือก กระโดดจากเชือกเส้นบนสุดของเวทีสมัยที่ออกทัวร์ด้วยกัน ก็สนับสนุนเขาอย่างสุดตัวด้วยการสอนเทคนิคและวิชาการปล้ำให้

ด้วยความที่เป็นลูกของ เรย์ มิสเตริโอ บวกกับความสัมพันธ์อันดีกับ WWE ที่ทำงานของพ่อ เพราะเคยร่วมงานด้วยกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยก วินซ์ แม็คแมน เจ้าของสมาคม WWE และทีมงานจึงเปิดไฟเขียวให้โดมินิคเข้าสู่ WWE เต็มตัวในเดือนมีนาคม 2019 ในชื่อ "โดมินิค มิสเตริโอ" เขาเริ่มจากบทผู้ช่วยคุณพ่อเรย์ ก่อนถูกดันขึ้นเวทีแบบจริงจังสู้กับ เซธ โรลลินส์ ในศึก SummerSlam ปี 2020 สู้กันแบบสตรีทไฟต์ และถือเป็นเดบิวต์แมตช์แรกของเขา ก่อนจบลงที่การโดนเซธกระโดดย่ำหัว Stomp กดนับสามแพ้ไป

โดมินิคได้รับการผลักดันจาก WWE เรื่อยมา ทั้งปล้ำเดี่ยวและจับคู่แท็กทีมกับเรย์ในชื่อทีม The Mysterios กระทั่งศึกใหญ่ WrestleMania Backlash วันที่ 16 พฤษภาคม 2021 โดมินิค และ เรย์ ได้ขึ้นปล้ำชิงแชมป์โลกแท็กทีมฝั่ง Smackdown! กับ The Dirty Dawgs ทีมของ ดอล์ฟ ซิกเลอร์ และ โรเบิร์ต รูด เจ้าของแชมป์ ซึ่งในที่สุดพ่อลูกมิสเตริโอก็ผนึกกำลังกันเอาชนะไปได้ จบด้วยช็อตที่โดมินิคกระโดด Frog Splash ใส่ โรเบิร์ต รูด แล้วจับกดนับสามคว้าชัย

สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ เรย์ และ โดมินิค ได้รับการบันทึกว่าเป็นแชมป์โลกแท็กทีมคู่แรกของ WWE ที่เป็นพ่อลูกปล้ำด้วยกัน และนับเป็นแชมป์มวยปล้ำอาชีพเส้นแรกในชีวิตของโดมินิคอีกด้วย ซึ่งเขาก็ให้สัมภาษณ์อย่างภูมิใจว่า "เป็นเกียรติมากเลยที่ได้แชร์ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมนี้กับคุณพ่อ เราสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกันแล้วในคืนนี้"

สิ่งที่น่าสนใจคือนอกจากแชมป์โลกแท็กทีมกับพ่อที่เป็นเป้าหมายหนึ่งในใจแล้ว โดมินิคยังบอกว่าหากเป็นไปได้ก็อยากสู้กับคุณพ่อสักครั้งบนสังเวียนใหญ่แบบ WrestleMania และส่งคุณพ่อเข้าหอเกียรติยศ Hall of Fame อย่างยิ่งใหญ่ "ผมอยากมีแมตช์ PPV กับเขาที่ WrestleMania แบบสู้กันตัวต่อตัว และสิ่งที่อยากทำอีกเรื่องคือส่งเขาเข้าหอเกียรติยศในฐานะซูเปอร์สตาร์ของ WWE นั่นคงเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากเลย"

โดมินิคพูดถึงความฝันในวงการมวยปล้ำ WWE ซึ่งในที่สุดมันก็เกิดขึ้นจริงในอีก 2 ปีต่อมา เพียงแต่บริบทมันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิดเท่านั้น

 

ถือกำเนิดลูกทรพี

แม้ถูกผลักดันจนคว้าแชมป์โลกเส้นแรกกับคุณพ่อ แต่กระแสตอบรับของคนดูต่อโดมินิคถือว่าไม่ดีนัก เพราะเขาไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นให้จดจำนอกจากว่าเป็นลูกชายของ เรย์ มิสเตริโอ ฝีมือการปล้ำก็ธรรมดา คาแร็กเตอร์ก็จืดจาง ท่วงท่าต่าง ๆ ก็ยืมของพ่อและ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ คุณลุงผู้ล่วงลับมาใช้ทั้ง 619 หรือ Frog Splash และ Three Amigos Suplex สุดท้ายก็มาเสียแชมป์แท็กทีมให้กับ เจย์ กับ จิมมี่ แห่งทีม The Usos ไปในศึก Money in the Bank หลังจากครองมาได้แค่ 2 เดือน

หลังเสียแชมป์ หลายคนมองว่าอนาคตของโดมินิคคงถึงทางตันเพราะความนิยมที่ไม่ดีนัก แถมยังถูกจดจำแค่ว่าเป็นเด็กน้อยเดินตามหลังพ่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม โดมินิคกลับปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา ซึ่งมันได้เปลี่ยนบทบาทเขาไปเลยนับตั้งแต่วันนั้น นั่นคือ "ผมจะเป็นคนเลว" ก่อนนำมาเสนอกับทาง WWE และทุกคนก็เห็นด้วยตามนั้น

ปี 2022 โดมินิคค่อย ๆ เทิร์นตัวเองจากเด็กดีของพ่อเรย์ เติมความก้าวร้าวเข้าไปทีละนิดละหน่อย ประกอบกับโดนกลุ่มตัวร้าย Judgement Day ของ ฟินน์ เบเลอร์, เดเมียน พรีสต์ และ รีอา ริปลีย์ คอยปั่นหัวอยู่บ่อยครั้ง แถมยังขุ่นเคืองที่พ่อตัวเองปฏิเสธแท็กทีมกับเขาแล้วไปจับมือกับ เอดจ์ เพื่อทำลายกลุ่ม Judgement Day ที่ตัวเองสร้างขึ้นมา (ซึ่งโดนหักหลังเตะออกจากกลุ่มมาก่อนหน้า) ทำให้โดมินิคโกรธเคืองและเก็บความแค้นไว้ในใจ

แล้วในที่สุดจุดแตกหักก็มาเกิดขึ้นในศึกใหญ่ Clash at the Castle วันที่ 3 กันยายน 2022 ที่เวลส์ หลังจบแมตช์ที่ เรย์ กับ เอดจ์ เอาชนะทีม Judgement Day ได้สำเร็จ โดมินิคก็ฮีลแตก เตะผ่าหมากใส่เอดจ์แล้ว Clothesline ใส่พ่อตัวเองแบบเต็มแรง ประกาศตัวว่าขอเป็นคนเลวอย่างเป็นทางการ เล่นเอาคนดูช็อกกันทั้งสนาม พร้อมกับเสียงหัวเราะแบบสะใจของ ฟินน์ เบเลอร์, เดเมียน พรีสต์ และ รีอา ริปลีย์ ที่อยู่ข้างเวที

หลังจากเทิร์นฮีลเป็นคนเลวเรียบร้อย โดมินิคก็สวามิภักดิ์เข้าเป็นสมาชิกใหม่ของแก๊ง Judgement Day โดยมี รีอา ริปลีย์ รับบทเป็น "Mami" คุณแม่คอยเป่าหูเสี้ยมสอนในทางที่ผิด แม้ว่าเรย์จะพยายามเกลี้ยกล่อมลูกให้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ก็โดนด่าไล่ตะเพิดเสียทุกครั้ง แถมบางครั้งยังโดนลูกตบหน้า ทำร้าย และเตะด้วยท่า 619 อีกต่างหาก ทำเอาคนดูฝรั่งที่ก็ไม่ชื่นชอบพฤติกรรม "ลูกทำร้ายพ่อ" ส่งเสียงโห่กันอย่างหนักหน่วง

"แกทำตัวเองให้เป็นร่มเงาอันใหญ่มาตลอด แต่วันนี้ฉันพอแล้ว ฉันจะออกมาจากร่มเงาอันนั้น" โดมินิคในคาแร็กเตอร์ใหม่พูดโปรโมออกรายการ RAW หลังกลายร่างเป็นลูกทรพี "วันนี้ฉันภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้มีครอบครัวใหม่อย่าง Judgement Day และไม่ต้องอยู่กับพ่อห่วย ๆ อย่างแกอีกต่อไป"

การเปลี่ยนตัวเองเป็น "ลูกทรพี" ของโดมินิคถือว่าประสบความสำเร็จทีเดียว เมื่อเขาทำให้คนดูมวยปล้ำส่งเสียงต่อต้านกันแบบ 100% ในทุกสนามที่เขาและ Judgement Day ย่างกราย ตัวอย่างที่ชัดเจนคือเมื่อไรที่เขาถือไมโครโฟนพูดกับคนดูก็จะโดนแฟนมวยปล้ำในสนามโห่รบกวนอย่างหนัก รวมถึงขัดจังหวะไม่ให้เขาพูดเพราะไม่อยากฟังคำพูดของไอ้ลูกทรพีที่ทำตัวเลวขึ้นไปทุกวัน พร้อมรอยสักที่เพิ่มขึ้นตามแขนสองข้าง เติมออร่าความเป็นเด็กเลวและแบดบอยไปอีกขั้น

แน่นอนว่าโดมินิคสนุกมากกับการเปลี่ยนบุคลิกครั้งนี้ เขาเริ่มสรรหาไอเดียต่าง ๆ มาเสนอกับทีมเขียนบท WWE เพื่อตอกย้ำคาแร็กเตอร์ลูกทรพีให้เด่นชัดขึ้น เช่นบุกไปที่บ้านของ เรย์ มิสเตริโอ แล้วกระทืบพ่อต่อหน้าแม่ตัวเอง ยกพลบุกไปทำลายปาร์ตี้และข้าวของในบ้านจนโดนตำรวจจับไปขังคุก แล้วเมื่อออกจากเรือนจำมาได้ก็ภาคภูมิใจว่าตัวเองได้เป็นลูกผู้ชายเต็มตัว เพราะเคยใช้ชีวิตหลังลูกกรงมาแล้ว

"ตอนที่ผมฝึกกับ แลนซ์ สตอร์ม หรือ เจย์ เลธัล ผมเดาว่าทุกคนคงคิดว่าผมน่าจะรับบทธรรมะเหมือนพ่อ แต่ผมอยากเป็นตัวร้ายมาตลอด ผมอยากเล่นบทคนเลว ดังนั้นเวลาซ้อมผมเลยจินตนาการว่าตัวเองเป็นคนเลวอยู่เสมอ มันสนุกมาก ผมเติบโตมากับนักมวยปล้ำอย่าง เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่, ดีน มาเลนโก้ หรือ คริส เจอริโก้ ที่รับบทอธรรม ผมโตมากับนักมวยปล้ำสไตล์นั้น และนั่นคือสิ่งที่ผมอยากทำ" โดมินิค เล่าอย่างอารมณ์ดี

คาแร็กเตอร์ของโดมินิคแม้จะยืนพื้นด้วยบทลูกทรพี แต่ก็ผสมความเบียวแบบกวน ๆ เข้ามา ประหนึ่งอยากทำตัวเป็นผู้ใหญ่ คิดว่าตัวเองเจ๋ง จะทำอะไรก็ได้เพราะโตแล้ว เหมือนเด็กที่เมื่อวันหนึ่งเติบโตเป็นวัยรุ่นก็เริ่มไม่เชื่อฟังพ่อแม่ อยากเฮ้วกับเพื่อน เห็นเพื่อนทำอะไรไม่ดีก็อยากทำตามเพราะคิดว่ามันเท่ไปเสียหมด ซึ่งพบเห็นได้ทั่วไปไม่ว่าในสังคมหรือมีเชื้อชาติใด

 

ศึกสายเลือดในฝันที่ WrestleMania

ย้อนกลับไปสมัยที่รับบทธรรมะ โดมินิคบอกว่าเขาอยากสู้กับพ่อใน WrestleMania สักครั้งในชีวิต ซึ่งเมื่อคาแร็กเตอร์ลูกทรพีสร้างรีแอ็กชั่นกับคนดูได้อย่างดีเยี่ยม WWE จึงค่อย ๆ ปูเนื้อเรื่องความขัดแย้งพ่อลูกระหว่าง เรย์ กับ โดมินิค ให้เข้มข้นขึ้นทุกสัปดาห์ โดยเริ่มจากให้โดมินิคออกมาพูดยั่วยุท้าทาย ขอสู้กับพ่อตัวเองใน WrestleMania ครั้งที่ 39 แต่ก็ถูกปฏิเสธมาตลอดเพราะเรย์ไม่อยากชกหน้าลูก แม้จะโดนลูกตบหรือตวาดใส่ก็ยังใจแข็งเดินหนีไปทุกครั้ง

แต่เขาว่าความอดทนของมนุษย์นั้นมีขีดจำกัด ในศึก SmackDown! วันที่ 24 มีนาคม 2023 เรย์ ที่ปฏิเสธคำท้าของ โดมินิค และเดินหนีไปอีกครั้ง วิ่งกลับมาชกหน้าลูกตัวเองหลังเห็นโดมินิคตวาดใส่หน้า แองจี้ ภรรยาที่มานั่งดูข้างสนาม เรียกเสียงเฮจากคนดูแบบลั่นสนาม ก่อนรับคำท้าของลูกชายเปิดศึกสายเลือดกันบนเวทีศึกใหญ่ WrestleMania ตามที่ร้องขอนักหนา

"แกบังคับให้ฉันต้องทำแบบนี้ ทำให้ฉันต้องชกแก แกไม่ควรดูหมิ่นแม่ตัวเองแบบนั้น แล้วนั่นก็เมียฉัน" เรย์ ตะคอกใส่ลูกทรพีอย่างโดมินิคแบบเหลืออดในรายการ Smackdown! "แกอยากสู้ใน WrestleMania ใช่ไหม ? จัดไป ! แล้วเจอกันที่ WrestleMania ไอ้ลูกชาย"

WWE เพิ่มความเข้มข้นของเนื้อเรื่องพ่อลูกตีกันไปอีกขั้นด้วยการเชิญ เรย์ มิสเตริโอ เข้าสู่หอเกียรติยศ Hall of Fame หนึ่งวันก่อนจัด WrestleMania ซึ่งตัวของโดมินิคและเพื่อนร่วมแก๊ง Judgement Day อย่าง เดเมียน พรีสต์ และ "Mami" รีอา ริปลีย์ ก็มาร่วมงานด้วย ก่อนเดินออกจากงานไปตอนที่เรย์กำลังจะกล่าวสุนทรพจน์ เติมความบาดหมางของทั้งคู่ให้หนักขึ้นไปอีกขั้น

แล้วในที่สุด ศึก WrestleMania ครั้งที่ 39 คืนแรกของรายการที่โซไฟ สเตเดียม วันที่ 1 เมษายน 2023 พ่อลูกมิสเตริโอก็ได้ขึ้นเวทีห้ำหั่นกันเอง ซึ่งตัวแมตช์ถือว่าเอนเตอร์เทนคนดูได้ตามสไตล์ของ WWE มีจังหวะที่เรย์สั่งสอนลูกชายอยู่หลายครั้ง เช่น เอาเข็มขัดตีก้นลูก เฮี้ยวนักใช่ไหมต้องสั่งสอนให้เข็ด หรือช็อตที่โดมินิคสวมวิญญาณ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ จะเล่นตุกติกเอาโซ่มาตีพ่อ แต่เจอ แบด บันนี่ มาขัดขวางก่อน สุดท้ายก็โดนพ่อเตะ 619 และกระโดด Frog Splash กดนับสาม ปิดจ๊อบเอาชนะลูกตัวเองไปได้

แม้ความพ่ายแพ้ในวันนั้นอาจทำให้หลายคนมองว่าบทลูกทรพีของโดมินิคที่ปั้นมาเกือบครึ่งปีดูเปล่าประโยชน์ แต่เมื่อมองอีกมุม โดมินิคก็ถือว่าได้ทำตามเป้าหมายสำเร็จครบสองอย่าง นั่นคือได้เห็น เรย์ มิสเตริโอ พ่อตัวเองเข้าสู่หอเกียรติยศ Hall of Fame อย่างภาคภูมิใจ ถึงจะไม่ได้เป็นคนพูดเชิญพ่อขึ้นมาบนเวทีตามธรรมเนียมก็ตามเพราะต้องคีปคาแร็กเตอร์ลูกทรพีเอาไว้ ส่วนแมตช์ใน WrestleMania ถึงจะไม่ชนะแต่การปล้ำกับคุณพ่อ แต่ก็ได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง

 

ลูกทรพีที่พ่อภูมิใจ

หลังจบศึกสายเลือดกับพ่อใน WrestleMania 39 และแยกย้ายไปทำมาหากินกันคนละค่าย โดมินิคที่อยู่ RAW ยังคงรับบทเป็นฝ่ายอธรรมต่อไป เขาร่วมทีมกับ Judgement Day เล่นงานนักมวยปล้ำคนแล้วคนเล่าในกิมมิค "Dirty Dom" จอมตุกติก ช่วยเพื่อนร่วมทีมด้วยการเล่นขี้โกงกับนักมวยปล้ำฝ่ายตรงข้ามจนชนะมาได้หลายครั้ง อันเป็นสไตล์เดียวกับ เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ ตำนานนักมวยปล้ำจอมตุกติกที่เขานับถือ ก่อนประสบความสำเร็จซิวเข็มขัดแชมป์ NXT North America ของค่าย NXT ได้ 2 สมัย และเพิ่งคว้าแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลของ WWE ได้ในศึก WrestleMania 41

ถึงสไตล์การปล้ำของโดมินิคจะไม่แพรวพราวหรือเก่งกาจเมื่อเทียบกับนักมวยปล้ำคนอื่นที่ปล้ำได้ดีกว่า พลิ้วไหวกว่า แต่สิ่งที่เด่นชัดคือ เขาพยายามขัดเกลาคาแร็กเตอร์คนเลวของตัวเองให้เปล่งประกายขึ้นทุกสัปดาห์ มีคนดูพร้อมใจกันโห่ใส่เขาอย่างหนักหน่วงเสมอทุกครั้งที่ถือไมโครโฟนบนเวที แม้แต่เด็ก ๆ ยังเกลียดขี้หน้า ซึ่งก็เข้ากับสไตล์ของสมาคม WWE เป็นอย่างดีตรงที่นักมวยปล้ำในค่ายอาจจะไม่ต้องปล้ำเก่งมาก ขอแค่มีคาแร็กเตอร์โดดเด่นก็สามารถหากินได้ยาว ๆ

ส่วนฝั่งของ เรย์ มิสเตริโอ ก็กล่าวว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่เห็นลูกชายพบวิถีทางของตัวเองใน WWE จนสามารถเฉิดฉายได้โดยไม่ต้องมีเขาเป็นติวเตอร์อยู่ข้างกายแล้ว "มันน่าทึ่งจริง ๆ รู้สึกดีมากเลยที่เราไม่เห็นเขาต้องทนรับมือกับความกดดันที่ต้องอยู่ใต้เงาของผมหรือเดินตามรอยเท้าของผมอีกแล้ว เพราะตอนที่เราร่วมทีมกัน ภาพที่ทุกคนเห็นคือผมยืนอยู่เหนือกว่าเขามาก"

"ตอนที่ผมกับภรรยาได้นั่งดูลูกชายตัวเองทางทีวีที่บ้าน มันแบบ ว้าว! หลังจบแมตช์ผมยังพูดกับเธอเลยว่า คุณเชื่อไหมว่าเขาจะมาได้ไกลขนาดนี้ เธอยังตอบกลับมาว่าลูกเราทำได้น่าทึ่งมาก เรายังเล่นมุกกันว่าดีใจจังที่ได้สร้างเด็กที่ยอดเยี่ยมขึ้นมาบนโลกใบนี้" เรย์ พูดถึง โดมินิค ซึ่งเขายังบอกว่าหากวันไหนที่ลูกชายพบเจออุปสรรคในการทำงานก็พร้อมจะให้คำแนะนำเสมอ

หากพิจารณาดูสิ่งที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่เทิร์นเป็นอธรรมเมื่อเดือนกันยายน 2022 เท่ากับว่าบทบาทลูกทรพี, เด็กเบียว และ Dirty Dom ได้ทำให้ โดมินิค มิสเตริโอ ค้นพบทางเดินของตัวเอง เขาสร้างที่ทางใน WWE จากการรับบทคนเลวให้คนดูเกลียดชังได้แบบไม่เสียโมเมนตั้ม แถมการพูดโปรโมออกไมโครโฟนก็ไหลลื่นเป็นธรรมชาติมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ต้องอยู่ในเงาของพ่อผู้เป็นตำนานอีกต่อไป ซึ่งจะไปได้ไกลขนาดไหนเราคงต้องมาติดตามกัน

 

แหล่งอ้างอิง

https://nypost.com/2023/03/29/rey-mysterio-dominik-out-of-his-shadow-for-wwe-wrestlemania-39/?
https://www.sportskeeda.com/wwe/5-fathers-sons-won-championship-wwe
https://wrestlingheadlines.com/dominik-mysterio-reveals-he-was-paid-for-the-custody-matchup-at-summerslam-2005/
https://www.hindustantimes.com/sports/wwe-news/everyone-thought-i-was-dominik-mysterio-opens-up-on-his-character-in-wwe-101686971676074.html?f
https://talksport.com/sport/wrestling/882124/rey-mysterio-son-dominik-history-wwe-tag-team-champions/

Author

วัลลภ สวัสดี

ฟังไปเรื่อย ดูไปเรื่อย เขียนไปเรื่อย

Graphic

ภราดร ภราดร

อยากจะทำให้ดี ไม่ใช่แค่อยากจะทำให้เป็น