ในเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่49 ทีมชาติไทย เสมอกับ อิรัก 2-2 ต้องตัดสินกับที่ฎีกา ก่อนที่ ไทย จะแพ้ 4-5 สกอร์รวม 6-7 ซึ่งคนที่พลาดจุดโทษของ ไทยคือ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์
ในโลกโซเชียลหลังเกมแฟนบอลไทยบางคนต่างผิดหวัง จากความคาดหวังที่จะเห็น ทีมชาติไทย คว้าแชมป์คิงส์ คัพ ฟุตบอลถ้วยพระราชทาน อีกครั้งในรอบ 6 ปี แต่สุดท้ายก็ต้องผิดหวัง และเป้าโจมตีของแฟนบอลเอง ก็เบนไปหาคนที่ยิงจุดโทษพลาด
ประโยคเด็ดในการโจมตีแนวรุกจากสโมสร การท่าเรือ คนนี้คือ “ทำตามฝัน” ซึ่งมันตามหลอกหลอนตัวเขามาตลอด เมื่อมีโอกาสในนามทีมชาติ แต่ประโยคนี้ มาจากไหน? ลองไปหาคำตอบกัน
คิงส์คัพ ครั้งที่ 48 จุดเริ่มต้นของวลี “ทำตามฝัน”
ย้อนกันไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2022 ในฟุตบอล คิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 ณ จังหวัดเชียงใหม่ ในรอบชิงที่ 3 ทีมชาติไทย โคจรมาพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ยอดทีมจากทวีปแอฟริกา ในเกมนั้น ทีมชาติไทย เอาชนะไปได้ 2-1
ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ถูกส่งลงมานาที 64 และช็อตเปลี่ยนชีวิตเขาก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 90+2
ขณะที่ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก พยายามบุกหนักเพื่อทวงคืนประตูตีเสมอ (ตอนนั้นไทยนำ 2-1) จังหวะบอลยาวที่ ปฐมพล เก็บตกได้บริเวณกลางสนาม ก่อนตะลุยไปหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนไหลต่อให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ และ ฐิติพันธ์ ยิงแฉลบคืนกลับมาถึง ปฐมพล เก็บบอลได้ ทางซ้ายมือของเขามี ธีรศักดิ์ เผยพิมาย รออยู่ในตำแหน่งที่โล่งกว่า
แต่ ปฐมพล เลือกที่จะพยายามกลับตัวยิงเอง ก่อนที่บอลจะไปติดบล็อก ของนักเตะ ตรินิแดด ก่อนจะลอยเข้ามือผู้รักษาประตูอย่างง่ายดาย พลาดโอกาสในการหนีออกไปเป็น 3-1 เพื่อลดช่องว่างของคะแนน และความกดดันของทีมชาติไทย ในช่วงที่ถูกโหมบุกอย่างหนัก
เมื่อจบเกมการแข่งขันแม้ ทีมชาติไทย จะชนะ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ไปได้ 2-1 คว้าที่ 3 ศึกคิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 ได้สำเร็จ แต่ก็ไม่วายที่แฟนบอล ทีมชาติไทย จะสงสัยและตำหนิจังหวะตัดสินใจ ของปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ บ้างก็ถามว่า “ทำไมไม่ส่ง” บ้างก็ตำหนิว่า “ขี้เลี้ยง” “ติดแอ็คจะยิงเอง” หรือแม้แต่ “ไม่เคยชอบไอนี่อยู่แล้ว คิดว่าเก่งคนเดียวหรือไง”
ตอบโต้แฟนบอลผ่านโซเชียล
หลังจบเกมการแข่งขันได้ 2 วัน ในวันที่ 27 กันยายน 2022 ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ได้ออกมาโพสต์ผ่าน Instagram ส่วนตัวของตนเอง เอาไว้ว่า
“Life Story นี่คือนิทานชีวิตของผมครับ…ขอบคุณเรื่องราวที่ผมได้เจอ มันสอนอะไรผมมากมายเลย มันคือแรงผลักดันในชีวิตให้กับผม คำดูถูก คำวิพากษ์วิจารณ์เป็นเหมือนคุณครูที่คอยขัดเกลาจิตใจทำให้ผมแข็งแกร่ง และเติบโตมาจนทุกวันนี้”
“ผมไม่ต้องการคำยกย่องใด ๆ ครับ ผมเป็นแค่นักเตะคนนึงที่ไม่ว่าใครจะยังไง ตราบใดที่ผมยังใส่เสื้อที่มีธงชาติไทย ผมก็จะสู้เพื่อพวกคุณทุกคน”
“ขอโทษนะครับถ้าไม่ถูกใจใคร ผมไม่ได้มาทำตามใจ แต่ผมมาทำตามฝัน” ปฐมพล ปิดท้าย
และนี่คือประโยคที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เพราะมันอาจจะคล้ายๆกับการตอกหน้า แฟนบอลสายแซะ ที่สงสัยในตัวเขามาตลอด ซึ่งสุดท้าย มันกลายเป็น ดาบสองคม ที่กลับมาทิ่มแทงเขา ในวันที่ฟอร์มการเล่นของเขา ยังกลับสู่จุดพีคไม่ได้
ความมั่นใจหาย ทำอะไรก็ไม่เป็นดั่งใจไปซะทุกอย่าง
“มีคนชอบ ก็ต้องมีคนไม่ชอบ”
จากกระแสที่โจมตีเขามาโดยตลอดตั้งแต่จบเกมในวันนั้น มันทวีคูณขึ้นมากขึ้น หลังจากที่ออกมาโพสต์ข้อความนี้ ซึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันมีผลไม่น้อย กับฟอร์มการเล่นในช่วงหลังของเขา ที่ดูอะไรๆก็เหมือนจะไม่เป็นใจ ไปซะหมด
ไล่ตั้งแต่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ยาวมาจนถึง การท่าเรือ ไม่เว้นแม้แต่ กับทีมชาติไทย หลังจากนั้น จากจังหวะที่เขาเคยกระชากหนีมาแล้วทุกราย กลับกลายเป็นบางทีก็กระชากไม่ผ่านซะอย่างงั้น จากจังหวะจบสกอร์ที่เคยทำได้ดี แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นยิงไม่ตรงกรอบ หรือแป๊กไปดื้อๆซะอย่างงั้น
เมื่อฟอร์มการเล่นไม่ดี บวกกับเรื่องที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ มันทำให้เขาหนีจากคำวิจารณ์ของแฟนบอลไม่พ้น “เลี้ยงบอลไม่ผ่าน แต่เลี้ยงตามฝัน” บ้างล่ะ “ตัวคอนเท้นต์” ก็ไม่วาย ถูกนำไปเทียบกับตัวคอนเท้นต์แห่งเกาะอังกฤษ อย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ด้วยแผ่นเสียงในTikTok ที่นำไปตัดใส่ในคลิปของเขา กับคำว่า “แฮร์รี่ ปฐมพล” จนฮากันทั้งโซเชียล
แพะรับบาป หรือแค่โชคร้าย?
ผ่านมา 1 ปี ปฐมพล ได้กลับมา “ทำตามฝัน” อีกครั้ง ณ สถานที่เดิม สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 49
ปฐมพล เป็นหนึ่งในขุนพลที่ มาโน โพลกิง เรียกมาติดทีมในฐานะ “อะไหล่” แต่ได้ใช้งานทั้ง 2 เกม รวมถึงรอบชิงชนะเลิศกับ อิรัก ด้วย
อย่างที่รู้กันว่า 90 นาที เกมจบลงด้วยผล ไทย 2-2 อิรัก ต้องดวลลูกจุดโทษตัดสิน ซึ่ง ปฐมพล ถูกเลือกให้เป็นเพชฌฆาตสังหารคนที่ 4 ในขณะที่ 3 คนแรกยิงเข้ากันหมด นั่นหมายความว่าเขาจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นถ้วยแชมป์คิงส์คัพ สมัยที่ 16 แทบหลุดลอย
ปฐมพล สืบเท้าออกไปอย่างมั่นใจ ก่อนเลือกแปไปทางขวามือตัวเอง ช้อนใต้ลูกเพื่อให้บอลลอยขึ้นสูง แต่มันดันสูงไม่พอ ประกอบกับ ฟาฮัด ราฮีม ผู้รักษาประตูอิรัก ทะลึ่งเดาถูกทางอีก ก่อนใช้มือปัดออกไป
เสียงฮือดังทั่วสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ด้วยความเสียดาย เพราะนั่นหมายความว่า ไทย กำลังเพลี่ยงพล้ำ
การตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ มันเป็นเรื่องที่เหนือกว่าจินตนาการ ไม่มีอะไรแน่นอน ต่อให้คุณซ้อมมาดีมากแค่ไหน แต่ถ้าวันนั้นไม่ใช่วันของเรา ก็อาจจะพลาดได้ หรือส่วนนึงเพราะเรายิงไม่ดีรึปล่าว แถมมาเจอผู้รักษาประตูที่เดาทางเก่งๆ ถูกเกือบทุกลูก ผลมันเลยมาตกถึง ปฐมพล
เขาเองถูกดูแคลนมาตั้งแต่ประกาศรายชื่อ แค่เห็นชื่อของเขาติดมาในทีมชุดนี้ ช่องคอมเม้นก็เริ่มสั่นคลอน “ลูกรัก” ก็มา “ปฐมพล โพลกิ้ง” ก็มี ยังไม่รวมถึงฟอร์มการเล่นในสนามของเขา หลังจากการลงสนามในเกมแรก หลายๆ คนพร่ำบอกว่า ลงมาเพราะว่า เป็นเด็กมาดามแป้ง ถ้าวัดฟอร์มในสนาม เขาเองคงไม่มีสิทธิ์ได้ลงด้วยซ้ำ
จากการที่เขาซัดจุดโทษพลาดในครั้งนี้ ส่ง อิรัก เป็นแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 49 และเขากลายเป็นคนที่ถูกหลาย ๆ คน กร่นด่ามากที่สุด ส่วนนึงอาจจะมาจากความอคติในตัวเขา จากวลีที่เขาเอง เคยตอกกลับผู้คน จนวันนี้มันย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขา จนบางทีเราอาจจะลืมคิดไปว่า การดวลจุดโทษมันคือการเสี่ยงโชคอย่างนึงเท่านั้นเอง มันใช่ว่าคุณฝึกฝน 10 ครั้ง จะยิงเข้าทั้ง 10 ครั้งซะหน่อย
เป็นกำลังใจให้ ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ คุณคือตัวแทนของคนไทย แค่กล้าออกไปยิง คุณก็โครตเจ๋งแล้ว เงยหน้าสู้ต่อไป เราทุกคนซัพพอร์ตคุณ….
บทความโดย: วศวรรธน์ บุบผาสวัสดิ์
