เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2012 ทัพนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เดินทางไปร่วมแข่งขันรายการคัดโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น ด้วยความหวังชิงตั๋วไปเล่นในโอลิมปิก 2012 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ความฝันของทีมตบสาวไทยอยู่ห่างแค่เพียงเอื้อมเท่านั้น และสถานการณ์เพียงหนึ่งเดียวที่หยุดยั้งไม่ให้ทีมชาติไทยเข้าไปเล่นในโอลิมปิกก็ดันมาเกิดขึ้นจริง
ย้อนดูเส้นทางของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กับโอกาสอันใกล้เคียงโอลิมปิกที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ไปกับ Main Stand
จุดพีกของความหวัง
วอลเลย์บอล หนึ่งในไม่กี่ชนิดกีฬาที่เราสามารถเห็นผู้คนต่างเพศต่างวัยมาร่วมลุ้นร่วมเชียร์ไปพร้อมกันได้ โดยเฉพาะเมื่อทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยลงแข่งขัน ไม่ว่าจะรายการระดับภูมิภาคหรือระดับโลกก็ตาม
ทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากโปรเจ็กต์ที่มีชื่อว่า “National Team 2001” ของ โค้ชอ๊อต - เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ที่มีเป้าหมายสร้างผู้เล่นดาวรุ่งอายุไม่เกิน 17 ปี ผลักดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในเวลา 4 ปี พร้อมกับส่งลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติต่าง ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพสายเลือดนักตบชุดความหวังของประเทศ
เป็นชนิดกีฬาที่ “ถูกซ่อนไว้ ถูกมองเป็นกีฬาตุ๊ดแต๋ว ไม่มีมูลค่า” ตามคำกล่าวของ ประวิตร อนันต์ภักดี ผู้สื่อข่าวสายกีฬาวอลเลย์บอลของ SMMTV พร้อมกับเสริมว่า “สมาคมมีเงินติดบัญชี 700 บาท ถึงขนาดต้องให้นักกีฬาไปทำบัตรผู้ป่วยอนาถา เพื่อใช้สิทธิ์รักษาเวลาได้รับบาดเจ็บ เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะทำการรักษาได้” และจากตอนนั้นวอลเลย์บอลก็ค่อย ๆ ถูกบ่มเพาะและพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งในปี 2009 ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย สร้างประวัติศาสตร์เอาชนะ จีน ได้เป็นครั้งแรก พร้อมกับคว้าแชมป์รายการชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศเวียดนาม ความสนใจในชนิดกีฬานี้จึงพุ่งขึ้นจนกลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วประเทศ แฟน ๆ ต่างรอดูผ่านหน้าจอโทรทัศน์ รวมถึงเดินทางมาเชียร์ติดขอบสนาม
ตัวผู้เล่นในทีมที่ถูกพัฒนาขึ้นมา หรือผู้เล่น ‘7 เซียน’ อย่าง วรรณา บัวแก้ว, วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์, ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อำพร หญ้าผา, นุศรา ต้อมคำ, อรอุมา สิทธิรักษ์ และ มลิกา กันทอง สามารถรักษามาตรฐานของตนเองไว้ได้ พร้อมกับมีดีพอที่จะล้มทีมระดับต้น ๆ ของโลกได้อย่างต่อเนื่อง ทั้ง บราซิล, สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, จีน และ เซอร์เบีย
องค์ประกอบต่าง ๆ นี้ทำให้ความหวังของการผ่านไปเล่นโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอนมีความเป็นไปได้มากที่สุด เมื่อเทียบกับโอกาสครั้งก่อนหน้าที่ทีมชาติไทยยังห่างชั้นจากประเทศอื่น ๆ มากกว่านี้
และเส้นทางดังกล่าวก็นำมาสู่รายการคัดโอลิมปิกที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม 2012
ตั๋วใบสุดท้าย
ในรายการคัดโอลิมปิกครั้งนี้มี 8 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน ได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไทย, ไต้หวัน, เซอร์เบีย, รัสเซีย, คิวบา, และ เปรู เพื่อชิงตั๋วอีก 4 ใบที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยสามอันดับแรกจะได้เข้าไปเล่นโดยอัตโนมัติ และอีกหนึ่งโควตาจะถูกมอบให้ทีมเอเชียที่ดีที่สุด ซึ่งไม่ติดอยู่ใน Top 3 ของการแข่งขัน
แม้ประเดิมสนามด้วยการพ่ายรัสเซีย ไป 0-3 เซ็ต แต่ทีมชาติไทยก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะเซอร์เบียไปได้ 3-0 เซ็ตในวันถัดมา ซึ่งถือว่าเหนือความคาดหมาย เพราะเซอร์เบียค่อนข้างเป็นต่อในเชิงกายภาพและมีอันดับโลกเหนือกว่า เรียกได้ว่าเป็นการพลิกชนะทีมเต็งเข้ารอบด้วยฟอร์มการเล่นที่เฉียบขาดกว่าชัดเจน
จากนั้นนักตบสาวไทยก็พ่ายให้กับญี่ปุ่น 0-3 เซ็ต เอาชนะไต้หวัน 3-0 เซ็ต ชนะเปรู 3-0 เซ็ต ก่อนแพ้ให้กับเกาหลีใต้ 0-3 เซ็ต ต้องมาตัดสินในนัดสุดท้ายที่ทีมชาติไทยลงเล่นพบกับคิวบา ซึ่งแม้พวกเขาจะหมดลุ้นเข้ารอบไปแล้ว แต่ทีมชาติไทยก็ไม่เคยเอาชนะคิวบามาก่อน และคิวบาก็ยังคงเป็นทีมที่แกร่งกว่า
แม้ร่างกายของนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยจะกรอบจากการลงเล่นมา 6 นัด และยังเสียเปรียบในเชิงกายภาพ แต่ท้ายที่สุดแล้วนักตบสาวไทยสามารถสร้างประวัติศาสตร์พลิกเอาชนะคิวบาไปได้ 3-1 เซ็ต โดย อรอุมา สิทธิรักษ์ ทำแต้มได้มากสุดถึง 20 คะแนน และ นุสรา ต้อมคำ เซ็ตบอลได้ทั้งหมด 85 ครั้ง
สถานการณ์ในตอนนั้นทีมชาติไทยมีโอกาสตีตั๋วไปเล่นโอลิมปิกในถานะทีมเอเชียที่ดีที่สุดนอกจาก 3 อันดับแรกสูงมาก เพราะทั้งรัสเซียและเกาหลีใต้ผ่านเข้ารอบในฐานะอันดับ 1-2 และทีมชาติไทยรั้งอยู่อันดับ 4 ของตาราง มีอยู่ 12 คะแนน เซ็ตได้ 12 เสีย 10 ถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่ว่ายังมีอีกหนึ่งแมตช์ที่มีผลโดยตรงต่อการไปโอลิมปิก
นั่นคือการพบกันของ ญี่ปุ่น ในอันดับ 5 กับ เซอร์เบีย ในอันดับ 3 ที่แข่งเป็นคู่สุดท้ายของวันนั้น
ยืมจมูกคนอื่นหายใจ
สถานการณ์ของเกมนัดนี้มีผลโดยตรงต่อการเข้ารอบของทั้งเซอร์เบีย ญี่ปุ่น และทีมชาติไทย นั่นคือ…
ถ้าญี่ปุ่นชนะเซอร์เบีย ไม่ว่าด้วยผลเท่าไร (3-0, 3-1, 3-2 เซ็ต) ญี่ปุ่น (อันดับ 3) กับไทย (เอเชียดีที่สุด) จะเข้ารอบ
ถ้าเซอร์เบียชนะญี่ปุ่น 3-0 หรือ 3-1 เซ็ต เซอร์เบีย (อันดับ 3) กับไทย (เอเชียดีที่สุด) จะเข้ารอบ
ถ้าเซอร์เบียชนะญี่ปุ่น 3-2 เซ็ต เซอร์เบีย (อันดับ 3) กับญี่ปุ่น (เอเชียดีที่สุด) จะเข้ารอบ
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะก่อนแข่งญี่ปุ่นมีอยู่ 11 คะแนน เซ็ตได้ 13 เสีย 8 ซึ่งถ้าลงล็อกในกรณีที่พวกเข้าแพ้เซอร์เบีย 2-3 เซ็ต ในตอนสุดท้ายญี่ปุ่นจะจบที่ 4 ด้วยการมี 12 คะแนน เซ็ตได้ 15 เสีย 11 หรือมีผลต่างได้เสียที่ดีกว่าไทย
แต่ด้วยการลงเล่นในฐานะเจ้าบ้านกอปรกับการเป็นทีมอันดับ 3 ของโลกในตอนนั้น ทำให้หลายฝ่ายรวมถึงตัวนักกีฬาและทีมงานของไทยก็ค่อนข้างมั่นใจว่าญี่ปุ่นน่าจะชนะได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
ญี่ปุ่นขึ้นนำก่อนในเซ็ตแรก 25-18 ก่อนที่เซอร์เบียจะกลับมาได้ในเซ็ตสองด้วยคะแนน 21-25 และในเซ็ตที่สาม เจ้าบ้านสามารถปิดเซ็ตได้ที่ 25-19 การันตีการเข้าไปเล่นในโอลิมปิกได้เป็นที่เรียบร้อย
ในเซ็ตที่สี่ ญี่ปุ่นนำอยู่ 19-16 คะแนน แต่ไม่สามารถปิดเซ็ตไปได้ ก่อนโดยเซอร์เบียทำ 6 แต้มรวด จนเข้าป้ายเอาชนะไปได้ 21-25 ต้องไปตัดสินกันในเซ็ตสุดท้ายที่จบลงด้วยชัยชนะของเซอร์เบียไป 9-15 ทำให้ทั้งสองทีมกอดคอกันเข้ารอบไปโดยปริยาย
มีทฤษฎีต่าง ๆ ถูกเสนอเข้ามา ทั้งในเรื่องของการล็อกผลการแข่งขัน หรือความพยายามหลบหลีกกลุ่มยากของญี่ปุ่น แต่ในท้ายที่สุดการสืบสวนโดย FIVB ก็ได้ข้อสรุปว่าไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ถึงการล็อกผลแข่งขันได้
แน่นอนว่าสำหรับนักตบสาวไทยนี่คือค่ำคืนที่ไม่อาจลืมได้ลง เมื่อบรรยากาศการนั่งลุ้นของทุกคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ด้วยความที่พวกเขาเดินทางมาใกล้ถึงจุดหมายที่ใฝ่ฝันไว้แล้ว แต่ต้องสะดุดลงเพียงเพราะปัจจัยที่ไม่อาจควบคุมได้ จนฝันดังกล่าวต้องหลุดลอยออกไป
“เราต้องพัฒนาตัวเอง ไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ” หนึ่งในคำพูดปลอบใจของโค้ชอ๊อตที่กระตุ้นให้นักตบสาวไทยก้าวเดินต่อไปจากความผิดหวังในวันนั้น
แม้ในวันนี้ การเข้าร่วมแข่งขันในระดับโอลิมปิกของวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยจะยังไม่เกิดขึ้น แต่กระแสที่พวกเธอได้สร้างไว้ กับผลงานการจบอันดับ 4 รายการเวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2012 เหรียญเงินในรายการเอเชียนเกมส์ 2018 และอีกหลาย ๆ ทัวร์นาเมนต์ ที่สร้างศรัทธาและเสียงเชียร์ให้กับวอลเลย์บอลไทยมาอย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง:
http://www.fivb.org/viewHeadlines.asp?No=34884&Language=en
https://readthecloud.co/kiattipong-radchatagriengkai/
http://www.fivb.org/en/media/viewPressRelease.asp?No=34868&Language=en
