เนื่องด้วย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จบฤดูกาล 2022-23 ด้วยอันดับที่ 4 บนตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ส่งให้พวกเขาคว้าสิทธิ์ลงเตะ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นหนแรกในรอบ 20 ปี สโมสรจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเตรียมการสู่ศึกซีซั่นใหม่ให้ดีที่สุด
โดยหนึ่งในภารกิจแรก ๆ สำหรับการเตรียมพร้อมรับขวบปี 2023-24 คือการคว้าอาวุธเด็ดเติมเต็มในแผงกลาง ด้วยนักตะอย่าง ซานโดร โตนาลี เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่สาวกสาลิกาดงพาเหรดกันสมหวังแบบไม่น้อยหน้าทีมใด
Main Stand ขอชวนเหล่า ทูน อาร์มี่ รวมถึงแฟนฟุตบอลทีมอื่น ๆ มาติดตามเรื่องราวของโตนาลี ทำไมสโมสรจึงตัดสินใจเสริมมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีมาร่วมก๊วน และทำไมการเข้ามาของเขาถึงเป็นดีลที่สมเหตุสมผล
นิวปีร์โล่ ที่คล้ายแค่ทรงผม
ซานโดร โตนาลี เติบโตขึ้นมาในครอบครัวที่มีคุณพ่อ จานโดเมนิโก้ เป็น มิลานอุลตร้า (Milan ultras) ขนานแท้ จึงไม่แปลกที่เจ้าหนูซานโดรจะซึมซับความเป็นสาวกตัวยงของปีศาจแดงดำตั้งแต่เล็ก โดยมี เจนนาโร กัตตูโซ่ เป็นไอดอล
เมื่อรู้ว่าตัวเองสนใจในศาสตร์ฟุตบอลมากเป็นพิเศษ เขาเริ่มต้นเล่นฟุตบอลจากทีมฟุตบอลเล็ก ๆ ที่โบสถ์ท้องถิ่นแถวบ้าน โดยในเวลาเดียวกันเขามีโอกาสได้ไปทดสอบฝีเท้าเพื่อเข้าร่วมอคาเดมีรอสโซเนรี่หลายต่อหลายครั้ง
กระนั้นเหมือนโอกาสและความฝันในการสวมเสื้อทีมที่เชียร์ลงบู๊ถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนดไปก่อน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เด็กชายซานโดรไปทดสอบ แต่มันไม่เคยเป็นดั่งใจหวัง
อย่างไรก็ดี จุดเริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลของเขาไม่ได้ล้มเหลวไปเสียทีเดียว เมื่อ เบรสชา อีกหนึ่งทีมเก่าแก่ของฟุตบอลแดนรองเท้าบูท ให้ความสนใจและเลือก ซานโดร โตนาลี มาร่วมอคาเดมี
เรื่องน่าทึ่งของเจ้าหนู ซานโดร โตนาลี คือการเข้าร่วมทีมเยาวชนเบรสชาในวัย 12 ปี จากนั้นอีก 5 ปี เขาก็กลายเป็นนักเตะอาชีพของทีม จากนั้นก็เริ่มเป็นแข้งแกนสำคัญควบคู่ไปกับการติดทีมชาติอิตาลีรุ่นเยาวชน
มากกว่านั้นเขาเก่งเลยเถิดไปถึงขั้นซิวรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของเซเรีย บี พร้อม ๆ กับช่วยทีมเป็นแชมป์ลีกรองในวัยไม่ถึง 20 กะรัต มันพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือ "อนาคต" ของฟุตบอลอิตาลี
เวลานั้นสปอตไลต์เริ่มส่องมาที่โตนาลีมากขึ้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นกับการสัมผัสลีกสูงสุดอิตาลีหนแรกในชีวิต ซานโดรทำผลงาน "สวนทาง" กับต้นสังกัดที่เผชิญฟอร์มไม่สู้ดีในการคัมแบ็กเซเรีย อา ในรอบ 8 ปี ซึ่งท้ายสุดเบรสชามีอันต้องตกชั้นไป
สำหรับ ซานโดร โตนาลี ยิ่งเล่นก็ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพ จนสื่อในประเทศยกย่องให้เป็น "นิว อันเดรีย ปีร์โล่" จากทรงผมที่ดูดั่งถอดแบบกันมาอย่างแยกไม่ออก รวมถึงการที่เขาเป็นมิดฟิลด์สไตล์โฮลดิ้ง หรือคำนิยามที่อธิบายถึงกองกลางที่มีความสามารถรอบด้านเหมือนกับที่ปีร์โล่เคยประจำการสมัยเป็นนักเตะ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองยืนยันว่าความเหมือนปรากฏเพียงรูปลักษณ์เท่านั้น สิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือสไตล์การเล่น โดยจุดต่างอีกข้อหนึ่งระหว่างโตนาลีกับปิร์โล่คือเรื่องการปะทะ การใช้ร่างกาย และพละกำลัง
"เขาเก่งมากนะ แต่ในสนามเขาต่างไปจากผม เขามีทุกอย่างในการก้าวสู่ความเป็นแชมเปี้ยน เขาเป็นมิดฟิลด์ 2 สไตล์ในแผงกองกลาง" อันเดรีย ปีร์โล่ เคยให้สัมภาษณ์ในปี 2020
"เขาครบเครื่องกว่าทั้งในด้านเกมรับและเกมรุก เขามีส่วนผสมระหว่างผมกับผู้เล่นคนอื่น ๆ เขาไม่ใช่ทายาทของผมหรอก เพราะเขาเล่นได้อย่างแตกต่าง"
"การถูกเปรียบเทียบกับปีร์โลเริ่มต้นขึ้นเพราะทรงผม พวกเขา (คนที่เปรียบเทียบ) ไม่ได้กวนใจอะไรผมหรอก แต่มันไม่เหมาะ ในสนามเราต่างกันครับ ปีร์โลมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจะก้าวไปถึงระดับเขาได้" ซานโดร โตนาลี กล่าวสมัยอยู่เบรสชา
ดังที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะ ซานโดร โตนาลี เป็นแฟนตัวยงของ เจนนาโร กัตตูโซ่ จึงไม่แปลกที่แนวทางการเล่นของเจ้าหนูจากแคว้นโลดีรายนี้จะมีแนวทางของอดีตนักเตะฉายา "ไอ้รถถัง" ปะปนอยู่ในตัว
นั่นหมายความว่า นอกจาก ซานโดร โตนาลี จะเป็นกองกลางที่มีความครบเครื่อง มีความสมดุลทั้งเกมรับและเกมรุก สามารถต่อบอล วางบอล และมีเทคนิคการเล่นที่ดีดั่งปีร์โล่แล้ว เขายังมีความดุดัน เป็นมิดฟิลด์สายบู๊ เหมือนดั่งกัตตูโซ่ด้วย
ต่อมาเขาก็ยิ่งยกระดับและเฉิดฉายในโลกลูกหนังด้วยความสามารถในการเล่นที่ครบเครื่องในแดนกลาง และได้ย้ายมาอยู่กับทีมรักอย่าง เอซี มิลาน สมใจ
เติมฝันในวัยเด็กที่มิลาน
หลังเบรสชาตกชั้นกลับไปยังเซเรีย บี ฤดูกาลถัดมา (2020-21) ตระกูลโตนาลีต้องยิ้มรื่นไปตาม ๆ กัน เมื่อ เอซี มิลาน ซึ่งเห็นฟอร์มของซานโดรมาแล้วติดต่อขอยืมตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญาหนึ่งปี พ่วงอ็อปชั่นซื้อขาดด้วยราคา 15 ล้านยูโร บวกโบนัสในอนาคตอีก 10 ล้านยูโร
จากนักเตะสัญญายืมตัวในฤดูกาลแรก ขวบปีถัดมา ซานโดร โตนาลี กลายเป็นนักเตะสัญญาถาวรของปีศาจแดงดำเต็มภาคภูมิด้วยสัญญายาวถึง 5 ปี ว่ากันว่าความวิเศษในหนนี้คือเขาตัดสินใจหั่นค่าเหนื่อยของตัวเองลงให้เข้ากับช่วงเวลาที่มิลานก็ไม่ได้เป็นทีมที่มีเงินถุงเงินถัง เพื่อที่จะได้ลงเล่นต่อหน้าแฟน ๆ ใน ซาน ซิโร่
และก็เป็นช่วงเวลาที่ ซานโดร โตนาลี ยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่งในเส้นทางฟุตบอล โดยเฉพาะในฤดูกาลที่สองในยูนิฟอร์ม เอซี มิลาน เมื่อเขาเป็นหัวใจสำคัญในแผงกลางชุดพาสโมสรคว้าสคูเด็ตโต้เป็นหนแรกในรอบ 11 ปี พร้อมสถิติสุดเฉียบ ยิง 5 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ตลอดการลงเล่นเกมลีก 36 นัด ขณะที่ซีซั่นถัดมา (2022-23) โตนาลียังคงแสดงให้เห็นถึงความเด็ดขาดยามช่วยทีมเล่นเกมบุก ผลงานเกมลีก 34 นัด เขาทำไปถึง 7 แอสซิสต์
ด้านการเล่นเกมรับก็ทำได้น่าประทับใจ แม้จะไม่ใช่มิดฟิลด์ตัวรับแต่ก็เป็นกองกลางที่เล่นรับได้ดี ดั่งที่เห็นสถิติได้จากเว็บไซต์ whoscored ที่ระบุว่าโตนาลีมีสถิติเข้าปะทะสำเร็จในกัลโช เซเรีย อา คิดเป็นร้อยละ 79 และโดนคู่แข่งเลี้ยงบอลผ่านไปแค่ 17 ครั้งเท่านั้น
ฟอร์มของ ซานโดร โตนาลี มีแต่จะขึ้นและเฉิดฉายถึงขั้นสุด แถมในเวลานั้นเขายังมีดีกรีเป็นทั้งรองกัปตันทีมรอสโซเนรี่ ติดทีมชาติอิตาลีชุดใหญ่ชนิดเป็นขาประจำ แถมยังพามิลานเข้ารอบลึก ๆ ของแชมเปี้ยนส์ลีก
เห็นทีเรื่องน่าเสียดายเรื่องเดียวที่เกิดขึ้นกับเขาในเวลานั้นคือ เอซี มิลาน ชวดการป้องกันแชมป์ลีก
จาก ซาน ซิโร่ สู่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค
หลังจบฤดูกาล 2022-23 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่สามของ ซานโดร โตนาลี ร่วมกับต้นสังกัดที่เขาชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก แฟนบอลหลายคนคิดเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าดาวเตะดีกรีทัพอัซซูรี่ผู้นี้จะยังคงเป็นขุมกำลังทีมเช่นเดิมพร้อมลุ้นล่าความสำเร็จในซีซั่นถัดมา
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับไม่เป็นไปตามนั้น เมื่อจู่ ๆ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2023 ปรากฏข่าวว่า นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ประกาศคว้าโตนาลีมาร่วมทีม
กลายเป็นคำถามว่าทำไมโตนาลีถึงเลือกย้ายออกจากสโมสรที่เขารัก ทั้ง ๆ ที่เคยมีข่าวว่าเขาไม่คิดจะย้ายไปไหน ถึงขั้นพร้อมแขวนสตั๊ดกับทีมด้วยซ้ำ
จอร์จ คัลกิน (George Caulkin) และนักเขียนสายฟุตบอลเชิงลึกคนอื่น ๆ ของ The Athletic เคยอธิบายดีลย้ายตัวครั้งนี้ผ่านบทความ "Inside Sandro Tonali's Newcastle deal: 'These boys are coming to be part of history'" กล่าวโดยสรุปว่าทีมที่จริงจังกับโตนาลีมากที่สุดคือ นิวคาสเซิล แม้จะมี เชลซี ที่เคยคุยกับ เอซี มิลาน มาก่อนก็ตาม
ข้อเขียนในบทความนี้ระบุว่ายอดทีมแห่งนิวคาสเซิลอะพอนไทน์ถึงขั้นวิเคราะห์แบบละเอียดยิบว่าทำไมต้องเป็นโตนาลี เขามีสไตล์เหมาะกับการสร้างทีมลุยในปีต่อ ๆ ไปแค่ไหน นักเตะมีคาแร็กเตอร์แบบไหน ฯลฯ
เมื่อได้บทสรุปร่วมกันแล้ว การเจรจาอย่าง "รอบคอบ" ก็ได้ดำเนินขึ้นท่ามกลางข่าวลือมากมายว่าที่จริงนิวคาสเซิลสนใจผู้เล่นตำแหน่งกองกลางรายอื่น ๆ อาทิ ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม), เฟลิกซ์ เอ็นเมช่า (โวล์ฟบวร์ก), นิโคโล่ บาเรลล่า (อินเตอร์ มิลาน) หรือแม้แต่ มอยเซส ไคเซโด้ (ไบรท์ตัน)
นิวคาสเซิลหันเหความสนใจของสื่อที่เล่นข่าวทีมกับแข้งรายอื่น ๆ และมาจริงจังกับกับดาวเตะอนาคตไกลแห่งวงการฟุตบอลอิตาลี จนตัดสินใจยื่นข้อเสนอแรกไปเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ทางฝั่งของมิลานเองก็ไม่ได้มีแรงกดดันอะไร แถมนักเตะยังสนใจหาความท้าทายใหม่ ๆ เสียด้วย
"นิวคาสเซิลเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและอยู่ภายใต้เรดาร์ของตัวเอง" ส่วนหนึ่งของเนื้อหาในบทความระบุ
"ไม่มีแรงกดดันจากฝั่งมิลาน พวกเขา (นิวคาสเซิล) รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเนื่องจากความสัมพันธ์ตลอดชีวิตของโตนาลีกับสโมสร นอกจากนี้ Gazzetta เคยรายงานไว้ว่า โตนาลีก็กระตือรือร้นที่จะย้ายไปพรีเมียร์ลีก และตอบรับความท้าทายที่ต้องการพานิวคาสเซิลเป็นแชมป์"
ที่สุดแล้วข้อตกลงมาเกิดขึ้นและจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง มิลานได้เงินก้อนใหญ่จากการขายให้อีกหนึ่งทีมเงินหนาจากพรีเมียร์ลีก ขณะที่นิวคาสเซิลเองก็ได้นักเตะเป้าหมายหลักในการสร้างทีมเพื่ออนาคต
ทางฝั่งนักเตะเองก็ได้ความท้าทายใหม่ ๆ ได้ค่าตอบแทนที่ลงตัว และหากจะมองเรื่องการช่วยเหลือมิลานทีมรัก โดยเฉพาะเรื่องเงินมหาศาลด้วยแล้วก็คงไม่ผิดเท่าไร
ว่ากันว่าดีลนี้จบลงที่การมอบสัญญาระยะยาว 5 ปีให้โตนาลี กอปรกับค่าตัวที่สื่อรายงานว่าสูงแตะหลัก 70 ล้านยูโร แต่หากรวมเงื่อนไขอื่น ๆ ก็อาจจะขยายไปถึง 80 ล้านยูโร ซึ่งส่งให้ซานโดรกลายเป็นนักเตะอิตาเลียนค่าตัวแพงที่สุดตลอดกาลในเวลานี้
สาลิกาดงอัปเกรด
นิวคาสเซิล ภายใต้การคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว และการเข้ามาของกลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบีย ส่งให้สโมสรขับเคลื่อนสู่เป้าหมายระยะใกล้ได้น่าประทับใจ โดยเฉพาะการจบฤดูกาล 2022/-23 ด้วยอันดับท็อปโฟร์ คว้าตั๋วลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาได้
หนึ่งในภารกิจแรก ๆ ที่ทีมต้องเร่งดำเนินการคือการอัปเกรดทีมให้แข็งแกร่งขึ้น สิ่งนี้จะเห็นผลได้จากการเสริมตัวผู้เล่น ซึ่งตำแหน่ง "กองกลาง" เป็นตำแหน่งที่ เอ็ดดี้ ฮาว ต้องการมากที่สุดในตลาดรอบซัมเมอร์ 2023
ตลาดซื้อขายนักเตะรอบที่ผ่าน ๆ มา เดอะ แม็กพายส์ ปิดดีลดึงดาวดังมาแล้วหลายคน
และหากเจาะไปยังผู้เล่นแผงกลาง สโมสรดึงดาวเตะชั้นเลิศอย่าง บรูโน่ กิลมาไรส์ มาร่วมทีมตั้งแต่มกราคม 2022 นี่ถือเป็นการยกระดับทีมอย่างแท้จริง เพราะตัวบรูโน่เองเพิ่งอายุ 20 ต้น ๆ แถมมีดีกรีทีมชาติบราซิลมาแล้วไม่น้อย
อาจกล่าวได้ว่าชื่อชั้นของดาวเตะแซมบ้าทำเอาแฟน ๆ ทูน อาร์มี่ รู้สึกมั่นใจเรื่องสถานะของทีม และมันแตกต่างจากสมัยของ ไมค์ แอชลีย์ ไปแล้วเรียบร้อย
และด้วยเป้าประสงค์หนึ่งที่ทีมตั้งใจทำให้ บรูโน่ กิลมาไรส์ เป็นหัวใจของแผงกลางไปอีกหลายปี เหตุผลสำคัญในลำดับต่อมาคือการหาผู้เล่นที่มีทั้งฝีเท้าและดีกรีระดับใกล้เคียงกันมาผนึกกำลังให้เข้าขา
ที่ผ่านมานิวคาสเซิลมักใช้แผนการเล่น 4-3-3 ในแผงมิดฟิลด์ หากไม่เจ็บไม่แบน ฮาวจะวางบรูโน่เป็นตัวหลัก มีเพื่อนร่วมตำแหน่งสลับสับเปลี่ยนระหว่าง ฌอน ลองสตาฟฟ์, โจ วิลล็อก และ โชเอลินตอน
ไม่ใช่ว่าทั้งสามเล่นไม่ดี สถิติในฤดูกาลที่ผ่านมาก็ถือว่าทำได้โดดเด่น ในรายของลองสตาฟฟ์มีสถิติเข้าปะทะสำเร็จคิดเป็นร้อยละ 56 (นับเฉพาะพรีเมียร์ลีก) ส่วนวิลล็อกแม้จะไม่ได้เด่นในเกมรับแต่ก็ช่วยให้ทีมได้ประตูถึง 9 ลูก (3 ประตูกับอีก 6 แอสซิสต์) ขณะที่โชเอลินตอนก็ขยับบทบาทจากหน้าเป้ามาเป็นกลางตัวทำเกมจนแฟน ๆ ชื่นชม
ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากสโมสรตั้งใจยกระดับขึ้นก็ต้องหาตัวที่มี "ชื่อชั้น" ดีกว่านี้ กระทั่งหวยมาออกที่ ซานโดร โตนาลี ในซัมเมอร์ 2023
"เขามีพรสวรรค์อันน่าทึ่ง มีความแข็งแกร่งทั้งทางร่างกายจิตใจ รวมไปถึงมีเทคนิคที่เหมาะสมกับเรา ในวัย 23 ปี ซานโดร ผ่านประสบการณ์ในฐานะผู้เล่นคนสำคัญในลีกระดับท็อปของยุโรป ลงเล่นในแชมเปี้ยนส์ลีก รวมถึงลงเล่นให้กับทีมชาติของเขาแล้ว" เอ็ดดี้ ฮาว กล่าวถึงแข้งป้ายแดง
"แต่เขายังมีโอกาสที่จะเค้นศักยภาพออกมาได้อีกนะ ผมอยากให้เขาพัฒนาขึ้นร่วมกับเรา ผมดีใจที่ได้เขามาร่วมทีมของเราในซีซั่นอันน่าตื่นเต้นที่กำลังจะมาถึงนี้"
การมาของโตนาลีจะช่วยให้ บรูโน่ กิลมาไรส์ เล่นได้แบบมีอิสระดั่งสไตล์ตัวเองมากขึ้น คือไม่จำเป็นต้องคอยห่วงหน้าพะวงหลัง
เช่นเดียวกัน บรูโน่ก็จะทำให้โตนาลีได้เล่นในสไตล์ของตัวเอง ได้พัฒนาฝีเท้าในสไตล์ที่คุ้นเคยไปสู่อีกระดับ คอยปักหลักในแดนกลาง เข้าบอลแน่น ๆ เข้าปะทะอย่างเฉียบเหมือนสมัยที่ลงเล่นให้มิลานได้แบบเต็มอัตรา แล้วค่อยหาโอกาสเล่นเกมรุกตามความเหมาะสม เรียกได้ว่าเป็นการซัปพอร์ตซึ่งกันและกัน
"ก่อนอื่นเลย ผมอยากขอบคุณ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพราะสโมสรได้มอบโอกาสครั้งสำคัญในอาชีพให้กับผม ผมต้องการตอบแทนความเชื่อมั่นด้วยการทุ่มเทในสนามอย่างที่ผมเคยทำมาตลอด"
"ผมตื่นเต้นที่จะได้ลงเล่นที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค และตั้งตารอที่จะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอลแล้วครับ"
จากบทสัมภาษณ์กับโอกาสใหม่ ๆ ของตัวเองทำให้เราเห็นแล้วว่า ซานโดร โตนาลี พร้อมแล้วกับการช่วยให้นกสาลิกาแห่งภาคอีสานของอังกฤษบินสูงยิ่งกว่าเดิม
แหล่งอ้างอิง
https://theathletic.com/4631676/2023/06/23/tonali-newcastle-transfer/
https://theathletic.com/4627438/2023/06/21/sandro-tonali-milan-newcastle-transfer-profile/
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/06/28/newcastle-transfer-rumours-sandro-tonali-nicolo-barella/
https://www.bbc.com/sport/football/66006906
https://www.whoscored.com/Players/343501/History/Sandro-Tonali
https://talksport.com/football/1474924/sandro-tonali-newcastle-transfer-ac-milan-andrea-pirlo
https://www.nufc.co.uk/news/latest-news/newcastle-united-sign-sandro-tonali/
https://www.nufc.co.uk/news/features/the-story-so-far-sandro-tonali/