ลิลิยอง ตูราม ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแนวรับระดับตำนานของวงการฟุตบอลฝรั่งเศส จากความสำเร็จที่อดีตกองหลังรายนี้จารึกไว้กับทั้งระดับทีมชาติและสโมสร จนกลายเป็นว่าลิลิยอง ทำให้นามสกุล “ตูราม” ถูกจารึกในสารบบวงการฟุตบอลอยู่พักใหญ่
กระทั่งมีดาวดวงใหม่สกุลเดียวกันเข้ามาลุ้นสร้างความยิ่งใหญ่ในช่วงหลายปีต่อมา โดยดาวทั้งสองดวงนี้คือบุตรชายสองคนอย่าง “มาร์คัส” รวมถึง “เคเฟรน” และที่สำคัญ พวกเขาคือผู้เล่นแห่งอนาคตของวงการลูกหนังตราไก่
ลิลิยอง มีส่วนทำให้ลูกชายทั้งสองกลายเป็นนักเตะของทีมจากลีกระดับท็อปยุโรป รวมถึงก้าวไปติดทีมชาติฝรั่งเศสได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไร Main Stand ขอชวนแฟน ๆ มาหาคำตอบกับเรื่องนี้ไปพร้อม ๆ กัน
แด๊ดดี้ผู้ยิ่งใหญ่
ช่วงเวลาที่ลิลิยอง ตูราม สร้างอิมแพ็กต์ให้แก่วงการฟุตบอล เกิดขึ้นในระหว่างปี 1991 ในสมัยที่อยู่ค้าแข้งกับอาแอส โมนาโก ไปจนถึงบาร์เซโลน่า ในปี 2008
จุดที่ส่งให้ลิลิยอง ตูราม ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะระดับโลก เกิดขึ้นในช่วงปลายเส้นทางกับโมนาโก เขากลายเป็นนักเตะดีกรีทีมชาติฝรั่งเศสแล้วเช่นกัน นำมาสู่การเป็นนักเตะป้ายแดงของปาร์ม่า ยักษ์ใหญ่แห่งกัลโช่ เซเรีย อา โดยการย้ายมาเล่นให้ “จัลโล่บลู” ของตูราม เขามีส่วนช่วยสโมสรเป็นแชมป์โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียนา 1 สมัย และยูฟ่า คัพอีก 1 สมัย
ยิ่งไปกว่านั้น ตูราม ยังเป็นหนึ่งในขุนพลชุดยิ่งใหญ่ของทีมชาติฝรั่งเศส ชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ซึ่งเขาสวมบทพระเอกทำคนเดียวสองประตูในรอบรองชนะเลิศ นัดชนะทีมชาติโครเอเชีย 2-1 ต่อเนื่องด้วยความสำเร็จกับทัพ เลอ เบลอส์ ผ่านถ้วยฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือยูโร 2000
จากนั้นลิลิยอง ตูราม ขยับตัวเองสู่ทีมใหญ่แห่งยุโรปไปอีกขั้น เมื่อยูเวนตุส ตัดสินใจดึงมาเติมเกมรับในปี 2001 พร้อม ๆ กับจานลุยจิ บุฟฟ่อน เขาอยู่สร้างความสำเร็จผ่านโทรฟี่ “สคูเด็ดโต้” (แชมป์ลีก) อีกสองสมัย ก่อนย้ายมาเล่นให้อีกทีมยักษ์แห่งทวีปอย่าง บาร์เซโลน่า ภายหลังที่ทีมเบียงโคเนรี่ แห่งตูริน โดนคดีที่เปรียบดั่งเนื้อร้ายของวงการฟุตบอลอิตาลี นาม “กัลโช่โปลี” ทำให้ต้องตกชั้นไปเริ่มใหม่ที่เซเรีย บี โดนปรับเงิน และถูกริบแชมป์ลีกย้อนหลังถึง 2 ปี
ตลอดสองซีซั่นภายใต้ถิ่นคัมป์นู ตูรามถือเป็นพี่ใหญ่ของน้อง ๆ ทัพอาซูลกราน่า และอันที่จริงเรื่องสภาพจิตใจของเกมรับแดนน้ำหอมในวัย 36 ปี ณ ขณะนั้น ยัง “ไหว” กับการเล่นฟุตบอลอยู่ด้วยซ้ำ
ทว่าเขาถูกตรวจเจอปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ในช่วงตรวจร่างกายเตรียมย้ายไปปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อซัมเมอร์ 2008 ทำให้ต้องแขวนสตั๊ดไปก่อน ปิดฉากกองหลังระดับตำนานที่เล่นได้ทั้งตัวกลางและแบ็คขวา ไว้ที่สถิติลงเล่นเกมลีก 503 นัด รวมทุกสโมสรที่ลงเล่น และ 142 นัด ในนามทีมชาติฝรั่งเศส
กาลเวลาเปลี่ยนผ่านมาร่วมทศวรรษ สปอตไลต์ได้ส่องมายังคนสกุล “ตูราม” อีกครั้ง เพียงแต่คราวนี้ไม่ได้ส่องมายังบทบาทหลังเป็นนักเตะของลิลิยอง ตูราม เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป
เพราะคราวนี้มันเป็นช่วงเวลาของบุตรชายทั้งสอง อย่าง มาร์คัส ตูราม และเคเฟรน ตูราม บ้างแล้ว
จุดเริ่มต้นจากที่บ้าน
มาร์คัส ตูราม และเคเฟรน ตูราม คือสองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของลิลิยอง ตูราม ทั้งสองลืมตาดูโลกที่ประเทศอิตาลี ในช่วงคาบเกี่ยวกับที่ลิลิยอง ค้าแข้งบนเวทีกัลโช่ เซเรีย อา โดยมาร์คัส เกิดในปี 1997 ขณะที่เคเฟรน เกิดในปี 2001
แม้ว่าความตั้งใจแรกของลิลิยอง จะอยากให้บุตรชายทั้งสองเล่นกีฬาชนิดอื่น อย่างยูโดและฟันดาบ เหตุผลสำคัญก็เพราะไม่อยากเห็นลูกชายโดนเปรียบเทียบกับคุณพ่อในสมัยเป็นนักเตะ
แต่ถึงอย่างไร ความคิดของตูรามผู้พ่อก็ไม่อาจเปลี่ยนใจลูกชายได้ เพราะ “ฟุตบอล” ถูกปลูกฝังมาจากคุณพ่อลิลิยอง “แบบไม่รู้ตัว” มาตั้งแต่เด็ก ยกตัวอย่าง มาร์คัสถูกพ่อลิลิยองจูงมือลงสนามในสมัยค้าแข้งให้ปาร์ม่ากับยูเวนตุส ขณะที่เคเฟรนเคยเตะฟุตบอลตามประสาเด็ก ๆ กับเพื่อนร่วมทีมของพ่อลิลิยอง ทั้งเธียร์รี่ อองรี, ปาทริค วิเอร่า รวมถึงลิโอเนล เมสซี่ มาแล้ว เป็นต้น
“ผมรู้ว่าผมเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เกิดมาเลยครับ เพราะลูกฟุตบอลอยู่รอบ ๆ ตัวผม” มาร์คัส เผยผ่านเว็บไซต์บุนเดสลีก้า
เมื่อรู้แล้วว่าลูกชายทั้งสองจะเอาดีทางด้านนี้ ลิลิยอง ก็ไม่ได้แสดงอาการต่อต้านออกมาให้เห็น มิหนำซ้ำอดีตแนวรับดีกรีแชมป์โลกผู้นี้ยังเป็นคนสอนลูก ๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่ที่บ้านด้วยตัวเอง และยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคนพาลูกชายทั้งสองไปเข้าอคาเดมี่ฟุตบอลด้วยตัวเองทั้งหมด เริ่มตั้งแต่สถาบันฟุตบอลแห่งแรกของทั้งคู่ อย่าง Olympique de Neuilly
“เราเล่นกันจริงจังมากครับ ผมร้องไห้บ่อย ๆ เลย เพราะผมแพ้พี่! แต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดีนะ จริง ๆ พ่อก็ไม่ยอมปล่อยให้พวกเราชนะเท่าไร ถ้าเขาอยากชนะเขาก็จะต้องชนะให้ได้” เคเฟรน ตูราม ย้อนความกับ telegraph ถึงสมัยเล่นฟุตบอลใหม่ ๆ ร่วมกับพ่อลิลิยอง และพี่ชายมาร์คัส
อีกเหตุผลหนึ่งที่เป็นเครื่องการันตีว่าพ่อคนนี้พร้อมสนับสนุนลูกชายทั้งสองไปตลอดเส้นทางลูกหนัง นั่นเพราะสามลงเล่นคนละตำแหน่งกัน โดยลิลิยองเล่นกองหลัง มาร์คัสผู้พี่เล่นกองหน้า ขณะที่เคเฟรนผู้น้องเล่นเป็นกองกลาง
จากจุดเริ่มต้นตรงนี้ อาจมีส่วนทำให้การถูกนำมาเปรียบเทียบกันเกิดได้ยากมากขึ้น
และที่เหลือก็แค่ให้ทั้งสองไปต่อยอดกันเอาเอง
“พ่อผมเล่นกองหลัง ส่วนพี่ผมเป็นกองหน้า ผมก็เลยต้องไปเล่นตรงกลาง เล่นเป็นกองกลางครับ ดังนั้นแล้ว นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ผมและพี่เลือกลงเล่นในตำแหน่งนี้” เคเฟรน ว่าต่อ
ทั้งมาร์คัสและเคเฟรน อยู่ร่วมอคาเดมี่เดียวกันทั้งที่ Olympique de Neuilly และ Boulogne-Billancourt แต่ด้วยช่วงอายุของทั้งสองที่ห่างกันราว 5 ปี เวลาจากนั้น ก็ถึงช่วงที่ต้องขยับขยายสู่อีกระดับของเส้นทางนักเตะอาชีพ
มาร์คัสขยับตัวเองมาเป็นนักเตะอคาเดมี่สโมสรอาชีพก่อนน้องชาย เริ่มที่โซโชซ์ ก่อนโยกย้ายกลายเป็นนักเตะอาชีพร่วมกับทีมแห่งนี้ และยังมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศส โดยเฉพาะรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เขาเคยคว้าแชมป์ยุโรป 2016 โดยมีเพื่อนร่วมรุ่นอย่างคิลิยัน เอ็มบัปเป้ มาแล้ว
เรียกได้ว่ามาร์คัสเริ่มกลายมาเป็นศูนย์หน้าอนาคตไกลของวงการนับแต่นั้น กระทั่งได้โอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดของฝรั่งเศสครั้งแรกกับ แก็งก็อง ในวัย 20 ปีเศษ ก่อนจะขยับสู่บทบาทใหม่ ๆ ในเส้นทางที่คุณพ่อลิลิยองเองก็ยังไม่เคยสัมผัส เมื่อในฤดูกาล 2019/20 มาร์คัส ตัดสินใจโยกไปเล่นให้โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ในบุนเดสลีก้า พร้อมกับค่าเหนื่อยที่ว่ากันว่าสูงถึง 3.2 ล้านยูโร ต่อปี
ขณะที่เคเฟรน เดินตามรอยพ่อลิลิยองในระบบเส้นทางลูกหนัง เริ่มจากการขยับมาเป็นนักเตะเยาวชนของอาแอส โมนาโก พร้อมกับลบทุกข้อครหาเรื่องเส้นสาย เมื่อตูรามผู้น้องได้สัมผัสโอกาสกับทีมชุดใหญ่หนแรก ในปี 2018 เขาถูกส่งลงเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่อายุ 17 ปี และอยู่ห้ำหั่นในสนามเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วโมงด้วยกัน
จากนั้นเคเฟรนย้ายมาหาโอกาสใหม่ ๆ กับนีซ ซึ่งในเวลานั้นมีคนคุ้นเคยของคุณพ่อ อย่างปาทริค วิเอร่า เป็นกุนซือ โดยเคเฟรนใช้เวลาไม่นาน จากการเป็นอะไหล่สำรองในแผงกลาง สู่การก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมได้ ในช่วงวัยเดียวกันกับพี่ชายมาร์คัส
และในเวลาเดียวกันกับการเริ่มต้นฟุตบอลอาชีพทั้งที่โมนาโกและนีซ เคเฟรน มีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชนไปด้วย
จากจุดเริ่มต้นที่สวนในบ้าน สู่สนามแข่งขันในระดับอาชีพ โดยมีคุณพ่อลิลิยองคอยผลักดันและให้กำลังใจ จนถึงตอนนี้ทั้งมาร์คัส รวมทั้งเคเฟรน กลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงของวงการฟุตบอลยุโรปและฝรั่งเศสไปแล้ว
ไร้แรงกดดัน
ตลอดเส้นทางลูกหนังอาชีพของทั้งมาร์คัสและเคเฟรน ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามส่วนใหญ่ที่ทั้งสองมักจะเผชิญคือแรงกดดันซึ่งยากจะหลีกเลี่ยง จากการที่ตระกูลตูราม มีพ่อลิลิยองที่ทำมาได้ดีมาก่อนหน้า
แต่ถึงอย่างไร ทั้งสองยืนกรานอยู่เรื่อยมาว่าเรื่องพวกนี้ไม่เคยเข้ามารบกวนจิตใจของทั้งสองแม้แต่น้อย
“ไม่เลย พ่อก็คือพ่อครับ ผมเป็นลูกชายเขา แค่นั้นเลย” มาร์คัส ตอบคำถาม เมื่อถูกถามถึงข้อดี-ข้อเสีย ที่มีพ่อเป็นอดีตนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ ในปี 2020
“ผมไม่กดดันตัวเองกับเรื่องแบบนี้เลยครับ” ตูรามคนพี่ยืนยันอีกครั้ง หลังมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสไปฟุตบอลโลก 2022
“พ่อของเขาไม่ได้มาบดบังอะไรในตัวเขาเลย” ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ให้ความเห็น “เขาคุ้นเคยกับคำพูดนี้อยู่แล้วแหละ เพราะเมื่อคุณเป็น 'ลูกชายของ…' เรื่องพวกนี้ มันจะวนกลับมาเสมอ”
“วันนี้มันเกี่ยวกับอาชีพของเขาเท่านั้น เรื่องของพ่อเขาจบลงไปแล้ว ถ้ามาร์คัสอยู่ที่นี่กับเรา (ทีมชาติฝรั่งเศส) มันก็เป็นเพราะเขาสมควรได้รับโอกาส”
“พ่อก็คือพ่อครับ พ่อสอนผมให้อ่านหนังสือเป็น ช่วยสอนการบ้านผม เวลาที่ผมไม่ทำการบ้านพ่อก็บังคับให้ผมทำ สิ่งสำคัญที่สุดคือเรียนหนังสือเก่ง ๆ เป็นคนสุภาพ และเป็นคนดี” เคเฟรน เล่าย้อนไปตั้งแต่สมัยเด็ก
จากคำยืนยันที่หนักแน่นจนเปรียบได้ดั่งธงในใจของทั้งมาร์คัสและเคเฟรน หรือแม้แต่ตัวกุนซือทีมชาติฝรั่งเศส ที่พูดถึงตูรามคนพี่ กลายเป็นว่าแรงกดดันที่ใครหลายคนอาจกังวลว่าจะเกิดขึ้นกับทั้งสองได้ถูกลบเลือนไปหมด
ที่เหลือก็แค่ออกไปทำผลงานให้ดีในสนามเท่านั้น และดูเหมือนว่ากราฟฟุตบอลของทั้งมาร์คัสและเคเฟรน อยู่ในข่ายน่าจับตามองแบบไม่ได้น้อยหน้ากัน
ในรายของพี่มาร์คัส เขาคือศูนย์หน้าที่มีทั้งความเร็วและเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ฯลฯ เขาเป็นกำลังสำคัญของโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมรวมทุกรายการในฤดูกาล 2019/20 และ 2022/23 รวมถึงมีดีกรีเป็นถึงผู้เล่นรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศส
ซึ่งสถานการณ์หลังจบซีซั่น 2022/23 ดาวยิงวัยเบญจเพส กลายเป็นแข้งฟรีเอเย่นต์ หลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม สิงห์หนุ่ม เพื่อหาโอกาสลงเล่นร่วมกับทีมที่มีขนาดและเป้าหมายที่ใหญ่กว่า
ขณะที่เคเฟรน เป็นนักเตะกองกลางที่เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ตัวกลางและตัวตัดเกม แม้จะมีส่วนสูงถึง 192 เซนติเมตร ซึ่งมาพร้อมความแข็งแกร่ง สรีระในการเบียดปะทะ ทว่าเขาก็ยังมีจุดเด่นในเรื่องของเทคนิคการเล่นด้วย
ด้วยการที่ฝีเท้าของตูรามคนน้องโดดเด่นขึ้นมา โดยเฉพาะฤดูกาล 2022/23 ที่เด็กหนุ่มวัย 22 ปี ลงเล่นรวมทุกรายการให้นีซไปถึง 48 เกม ทั้งยังมีชื่อติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ ตามรอยพ่อและพี่เรียบร้อย
เคเฟรน กลายเป็นนักเตะ “เนื้อหอม” มากที่สุดคนหนึ่งของตลาดซื้อขายนักเตะรอบซัมเมอร์ 2023 นี้ เคเฟรนตกเป็นข่าวมากมายกับทั้งทีมอย่างลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, อินเตอร์ มิลาน และอดีตสโมสรของพ่อ อย่างยูเวนตุส เป็นต้น
กำลังใจจากพ่อคนนี้
นอกจากลิลิยอง ตูราม ในฐานะตำนานชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 จะเป็นคนฝึกฟุตบอลให้กับลูกชายทั้งมาร์คัสและเคเฟรนด้วยตัวเองตั้งแต่ที่บ้าน ไปจนถึงการพาลูกชายไปฝึกฟุตบอลในระบบอคาเดมี่แล้ว
เรื่องของ “กำลังใจ” และ “การสนับสนุน” เพื่อให้ทั้งสองไปให้ถึงฝั่งฝัน ก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อลิลิยองส่งพลังให้ลูกชายอยู่เสมอมา
ซึ่งความสุขมากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของลิลิยอง จะเป็นช่วงเวลาที่ลูกชายทั้งสองก้าวขึ้นมาติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่พร้อมกันในเดือนมีนาคม 2023
ดังปรากฏเป็นคลิปวิดีโอไปทั่วสื่อสังคมออนไลน์ที่ทำเอาแฟนฟุตบอลแดนน้ำหอมต้องอมยิ้มและตื้นตันไม่แพ้กัน เมื่อลิลิยอง เป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอสั้นด้วยตัวเอง ในระหว่างที่เขาส่งลูกชายทั้งสองนั่งรถที่ทางสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส (FFF) มารับไปยังศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ แกลร์กฟงแตง
“สำหรับคนเป็นพ่อคนเป็นแม่แล้ว ความสุขครั้งหนึ่งคือการได้เห็นลูก ๆ ทำในสิ่งที่อยากทำมาโดยตลอด” ลิลิยอง ให้ความเห็นบางส่วนกับ nytimes
“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณมาจากไหนหรือภูมิหลังของคุณเป็นอย่างไร แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณพร้อมที่จะทำอะไรมากกว่า ทุกอย่างมันอยู่ในตัวคุณ ไม่เกี่ยวกับครอบครัวของคุณ”
จากความภูมิใจของครอบครัวที่มีคุณพ่ออดีตยอดนักเตะเป็นคนช่วยสั่งสอนและส่งกำลังใจ
มาวันนี้มาร์คัสและเคเฟรน ตูราม กลายเป็นแข้งแห่งอนาคตของฟุตบอลฝรั่งเศสไปแล้ว
แหล่งอ้างอิง
https://www.telegraph.co.uk/football/2023/03/21/khephren-thuram-child-played-lionel-messi-thierry-henry-lilian/
https://www.goal.com/en/news/family-ties-marcus-thuram-stepping-out-of-fathers-shadow-ahead-of-france-debut/feshmyubmg021nrlnx6me4cls
https://www.nytimes.com/2020/07/28/sports/soccer/erling-haaland-gio-reyna-thuram.html
https://www.beinsports.com/en/uefa-nations-league/news/deschamps-thuram-called-up-to-france-squad-1/1580806
https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/you-see-lilian-thuram-i-just-see-my-dad-marcus-thuram-interview-gladbach-9823
https://apnews.com/article/world-cup-soccer-sports-international-qatar-0a3bfa09543549a613e4792e388c2101